ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic the prince of tennis] ...ความรักของเจ้าชาย...

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 คู่แข่ง

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.พ. 54


     
     
                หลังจากที่ฟูจิมาเป็นโค๊ตสอนเทนนิสให้คาลิน ทุกๆเย็นหลังจากที่ฟูจิซ้อมเทนนิสในชมรมเสร็จก็จะมาเจอกับคาลินที่สวนสาธารณะ เพื่อเป็นครูฝึกสอนเทนนิสให้ จนถึงเวลาหกโมงเย็น ฟูจิก็จะเดินไปส่งคาลินที่บ้านก่อนที่ตัวเองจะกลับบ้านทุกวัน วันนี้ก็ยังเหมือนกับทุกทีที่ทั้งสองคนจะนัดเจอกัน ที่เดิมเวลาเดิมเสมอ





     
     
     
     
     
    “ นานะจัง รอนานไหมครับ ”    ฟูจิที่พึ่งมาถึงที่นัดถามขึ้น

    “ ไม่หรอกค่ะ ”    คาลินยิ้มรับ

    “ วันหลังไปรอผมที่ชมรมก็ได้นะ จะได้มาด้วยกัน ไม่ต้องรอนาน ”

    “ อย่างงี้แหละดีแล้ว ที่ชมรมเหมือนจะเป็นจุดสนใจเกินไป ”    คาลินตอบพร้อมก้มหน้าลงด้วยใบหน้าที่เขินอาย






     
     
     
                เนื่องจากฟูจิเคยให้เธอไปที่ชมรมเพื่อไปรอเค้า ซึ่งเธอเป็นที่สนใจของคนในชมรมมาก ใครต่อใครต่างเข้ามาถามเรื่องเธอกับฟูจิมากมาย ว่าไปถึงไหนกันแล้ว ทำไมถึงได้มาคบกัน ถึงแม้ฟูจิจะบอกไปแล้วว่ายังไม่ได้คบกัน แค่มาเป็นครูฝึกสอนเทนนิสให้เฉยๆ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ เอาแต่ถามเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเค้า ทำให้คาลินเขินจนไม่อยากไปเจอคนในชมรมเทนนิสชายอีกเลย






     
     
     
     
    “ งั้นวันนี้ลองโต้ลูกกับผนังดูนะครับ ” 





      
     
     
     
                การเล่นของคาลินพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ฟูจิเริ่มฝึกให้ ตอนนี้เธอสามารถเสิร์ฟ ลูกได้อย่างแม่นยำ และเล่นเทนนิสในสนามได้อย่างคล่องตัว มีปัญหาก็แต่การเล่นหน้าเน็ตและการตีลูกแบบแบ็คแฮนด์ที่เธอไม่ถนัดเท่าไหร่






     
     
     
     
     
    “ เวลาตีต้องย่อเข่าอีกนิดนะครับ แล้วก็จับแร็กเก็ตให้แน่นกว่านี้ ”

    “ อืม ”    คาลินพยักหน้ารับ พร้อมตีลูกโต้กลับไป ลูกที่ถูกโต้กับไปเต็มแรงเด้งกับผนังดีดเข้าที่แร็กเก็ต ทำให้คนต้านแรงไม่ไหวต้องปล่อยแร็กเก็ตให้หลุดมือไป

    “ โอ๊ย ขอโทษนะฟูจิคุง แร็กเก็ตนั้น ”    คาลินที่ตกใจกับแรงกระแทกจนต้องปล่อยแร็กเก็ตออกจากมือ ทำท่าจะวิ่งเข้าไปดูแร็กเก็ตว่าเสียหายตรงไหนไหม แต่ถูกมือหนึ่งของเด็กหนุ่มดึงไว้

    “ อย่ามัวแต่สนใจแร็กเก็ตสิ มือเธอเป็นอะไรรึเปล่า ”    ฟูจิพูดด้วยสีหน้าเคร็งเครียดพร้อมกับพริกดูมือของคาลินว่าเป็นอย่างไงบ้าง

    “ เอ่อไม่เป็นไรหรอก ”    คาลินตอบพร้อมกับใบหน้าที่แดงฉ่า

    “ ดีแล้วล่ะ ”    ฟูจิกลับมายิ้มอีกครั้งเมื่อแน่ใจว่ามือของคนตรงหน้าไม่เป็นอะไร
     
    “ แต่แร็กเก็ตของฟูจิคุง ”

    “ ไม่เป็นไรหรอก ”    ฟูจิว่าต่อพร้อมเดินไปหยิบแร็กเก็ตขึ้นมา 

    “ งั้นมาลองกันใหม่นะ ”

    “ จ๊ะ ”





     
     
     
     
     
     
    “ เหนื่อยรึเปล่า ”    ฟูจิพูดขึ้นพร้อมยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กให้คาลิน

    “ ขอบใจจ๊ะ ”    คาลินรับมาพร้อมรอยยิ้ม

    “ วันนี้ไว้แค่นี้แล้วกันนะครับ ”

    “ อืม แต่ขอโทษนะ เพราะชั้นเลยทำให้แร็กเก็ตฟูจิคุงเป็นรอยหมดเลย ”

    “ ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าข้อมือนานะจังเป็นอะไรน่ะสิจะแย่ ”

    “ เอ่อ ฟูจิคุง วันนี้ไปต้องไปส่งชั้นหรอกนะ ”

    “ ทำไมล่ะครับ ”

    “ ชั้นมีธุระต้องไปทำน่ะ ขอตัวก่อนนะ ”    เมื่อพูดจบคาลินก็รีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งจากไปทันที ไม่เปิดโอกาสให้ฟูจิได้พูดต่อเลย


    (รีบไปไหนของเค้านะ)





     
     
     
     
     
     
    ร้านขายอุปกรณ์กีฬา





     
     
     
     
     
    “ แร็กเก็ตๆๆๆ อยู่ตรงไหนน้า อ่าเจอแล้ว ”   





     
     
     
     เด็กสาวผมสีฟ้ากวาดตาไปรอบๆร้านขายอุปกรณ์กีฬาเพื่อหาแร็กเก็ต สูดท้ายก็เจอสิ่งที่ต้องการหาพร้อมเดินตรงเข้าไปยังเป้าหมายที่ต้องการ





     
     
     
    “ นั้นมัน Aerogel 4D พึ่งออกใหม่นี่หน่า สวยจังเลยเนอะ ”    เด็กผู้หญิงสามคนวิ่งตัดหน้าคาลินไปเพื่อไปหยุดยืนหน้าแร็กเก็ตรุ่นใหม่ เป้าหมายเดียวกับคาลิน

    “ คุณลุงคะ Aerogel 4D มีอันเดียวหรอคะ ”    เด็กผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้น

    “ อ๋อ
    Aerogel 4D รุ่นใหม่ใช่ไหม พึ่งมาส่งถึงเมื่อเช้าเลยนะตอนนี้ในญี่ปุ่นมีเข้ามาไม่ถึง 10 อัน ที่ร้านนี้ก็มีอันเดียวนี่ล่ะ ”    ลุงเจ้าของร้านตอบอย่างยิ้มแย้ม

    “ กัปตันคะ สวยมากเลยนะคะ มีแต่อันเดียวแถมเป็นสีชมพูแบบผู้หญิงด้วย เหมาะกับกัปตันมากเลยค่ะ ”    เด็กสาวอีกคนพูดกับเด็กสาวที่มัดผมทรงหางม้า
     
     
     
                ใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นทำให้คาลินรู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงมัดผมหางม้าคนนั้นคือกัปตันหญิงชมรมเทนนิสหญิงที่เธอเคยไปสมัคร แต่กลับถูกดูถูกกลับมา




     
     
     
    “ ขอโทษนะคะ ไม้เทนนิสอันนั้นชั้นก็มองอยู่เหมือนกัน ”    คาลินพูดขึ้นพร้อมเดินไปประชันหน้ากับกัปตันสาว

    “ เธอ หน้าคุ้นๆแหะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน ”    เด็กสาวผมสั้นที่ยืนอยู่ข้างๆกัปตันสาวทักขึ้น

    “ นึกออกแล้ว เธอที่เล่นเทนนิสไม่เป็นแล้วมาสมัครชมรมชั้นนี่หน่า ”    กัปตันสาวพูดขึ้นแล้วสะเหยะยิ้ม

    “ ขอโทษนะคะ ตอนนี้ชั้นเล่นเทนนิสเป็นแล้ว และต้องการซื้อแร็กเก็ตอันนั้น ”

    “ ขอโทษนะ ชั้นหยิบก่อน มันก็ต้องเป็นของชั้น ”

    “ แต่ว่าคุณ ”

    “ แม้เดี๋ยวนี้เถียงเก่งจังนะ รู้สึกว่าตอนมาสมัครชมรมชั้นยังไม่เป็นถึงขนาดนี้นิ รึว่ากำลังคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญอยู่ ”

    “ คุณหมายความว่าไง ”    คาลินพูดพร้อมทำหน้าสงสัย

    “ กัปตันคะ ผู้หญิงคนนี้ล่ะค่ะที่กำลังมีข่าวกับท่านฟูจิของเรา ”    เด็กสาวผมรอนที่ยื่นข้างๆกัปตันสาวพูดขึ้นอีก

    “ คิดว่าสนิทสนมกับท่านฟูจิที่พวกเราชื่นชอบแล้วเราจะเห็นเธอเป็นคนสำคัญนะ ”

    “ หมายความว่าอย่างไง ”

    “ เราไม่มีทางยอมให้ท่านฟูจิเป็นของเธอง่ายๆหรอก คอยดูเราจะได้เห็นดีกัน ”    กัปตันสาวพูดตัดบทพร้อมเดินถือแร็กเก็ตอันใหม่ไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์แล้วเดินออกจากร้านไป


    (ที่เค้าพูดหมายความว่าไงกันนะ เรากับฟูจิคุงไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย)






     
     
     
     
    เช้าวันใหม่






     
     
    ที่ชมรมเทนนิสชาย





     
     
     
    “ ท่านฟูจิอยู่ไหมคะ ”

    “ เธอที่เป็นกัปตันชมรมเทนนิสหญิงนิ ” 

    “ ค่ะ ว่าแต่ท่านฟูจิอยู่ที่ไหนหรอคะ ”

    “ ฟูจิหรอ ล้างหน้าอยู่ตรงนู้นน่ะ ”
        ไม่ว่าเปล่าพร้อมชี้นิ้วไปทางอ่างล้างหน้าข้างคอร์ดเทนนิส

    “ ขอบคุณค่ะ ”    







     
     
     
     
    “ คุยกับใครอยู่หรออินูอิ ”    เอจิที่พึ่งเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าถามขึ้น

    “ กัปตันชมรมเทนนิสหญิงน่ะ เค้ามาหาฟูจิ ไม่รู้มีเรื่องอะไร ”

    “ อย่างงั้นหรอ ”    






     
     
     
     
    “ ซ้อมพิเศษหรอ ทำไมหาขอให้ผมช่วยล่ะ ”

    “ ก็ท่านฟูจิเป็นคนเก่งต้องช่วยให้ชมรมเทนนิสเราพัฒนาขึ้นมากแน่ๆ ”

    “ แต่ว่าหลังเลิกชมรมผมไม่ว่าง ”

    “ นะคะแค่วันเดียวเอง นะคะถือว่าสงสารเราเถอะ ”

    “ เอ่อ….. แค่วันเดียวใช่ไหมครับ ”

    “ ค่ะ วันเดียวเอง ”




    (วันเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง)




    “ งั้นได้ครับ ไว้ผมเลิกชมรมแล้วจะไปหาที่ชมรมเทนนิสหญิงนะครับ ”

    “ ขอบคุณมากค่ะ ”    กัปตันสาวตอบรับพร้อมรอยยิ้มก่อนจะวิ่งจากไป

    “ คุยอะไรกันน่ะฟูจิ ”    เอจิที่เห็นว่าคู่สนทนาของเพื่อนวิ่งไปแล้วจึงเข้ามาถาม

    “ กัปตันชมรมเทนนิสหญิงจะให้ชั้นไปฝึกพิเศษให้น่ะ ”

    “ แต่นายต้องไปซ้อมให้นานะจังไม่ใช่หรอ ”

    “ แค่วันเดียวน่ะ ไม่เป็นไรหรอก ”

    “ นายเนี่ยใจดีกับทุกคนเลยนะ ระวังล่ะเพราะไอ้ความใจดีของนาย มันจะทำให้อะไรยากขึ้น ”

    “ อะไรที่ว่าคืออะไรหรอ ”

    “ เดี๋ยวนายก็รู้ ”    เอจิพูดจบก็ทำท่าเดินหนี

    “ เอจิ ฝากไปบอกนานะจังด้วยนะว่าวันนี้ชั้นไม่ว่าง ไม่ต้องรอ ”

    “ อืมแล้วชั้นจะบอกให้ ”    และเอจิก็เดินจากไป






     
     
     
     
    ตกเย็น






     
     
     
                ด้วยอะไรหลายๆอย่าง เกิดเรื่องขึ้นหลายๆเรื่อง ทำให้เอจิลืมสนิทในเรื่องที่ฟูจิฝากมา ดังนั้นใครคนนั้นจึงมารอฟูจิอยู่ที่เดิมเป็นเวลานานถึง 3 ชั่วโมง 





     
     
    “ ทำไมวันนี้ฟูจิคุงมาช้าจังนะ นี่ก็ 3 ชั่งโมงแล้วนะ ”    เด็กสาวยังคงรออยู่ที่เดิมไม่ลุกไปไหนเพราะกลัวว่าคนที่นัดไว้มาถึงแล้วจะไม่เจอเธอ
     
     
     
     
     
    อีก 1 ชั่งโมงผ่านไป






     
     
    “ เกิดอะไรที่ขึ้นชมรมรึเปล่านะ ไปดูหน่อยดีกว่า ”    ว่าแล้วเด็กสาวก็ลุกจากเก้าอี้ไม้ที่นั่งอยู่เป็นเวลานานถึง 4 ชั่วโมง ด้วยความเป็นห่วงใครบางคนที่ยังไม่มาตามนัด
     
     
     
    ชมรมเทนนิสชาย






     
     
                คอร์ดสนามที่เงียบเชียบ บอกถึงว่าทุกๆคนในชมรมกลับกันไปหมดแล้ว 






     
     
    “ ไม่มีคนอยู่แล้วนี่นา ”


     
     
                เด็กสาวเดินอย่างผิดหวังออกจากบริเวณชมรมเทนนิสชายไปเลื่อยๆ ลมยามเย็นพัดมาเอื่อยๆใบไม้สีเหลืองถูกพัดให้ล่วงหล่นลงมาจากต้น เป็นภาพที่สวยงานหน้าชม แต่ส่วนลึกในหัวใจของเด็กสาวกับรู้สึกว่า ‘เหงา’ อย่างบอกไม่ถูก 








     
     
    ป๊อก ป๊อก






     
     
                เสียงบางอย่างรอยมาตามสายลม ทำให้คนที่เดินอย่างไร้จุดหมายหันมาสนใจเสียงปริศนาในทันที เท้าเรียวเก้าเข้าไปยังบริเวณชมรมเทนนิสหญิง ตรงไปยังต้นกำเนิดเสียง นั้นคือคอร์ดเทนนิสที่อยู่ด้านในสุด ก่อนที่เท้าเรียวจะสะดุดกึกกับอะไรบางอย่าง บางอย่างที่เฉยชัดอยู่เบื้องหน้า ภาพของเด็กหนุ่มกับเด็กสาวที่กำลังเล่นเทนนิสด้วยกันอย่างสนุกสนาน รอยยิ้มมีความสุขของเด็กสาวผมหางม้าที่ฉายอยู่บนริมฝีปาก และใบหน้ามีความสุขของเด็กหนุ่มที่ทำให้ดวงใจของเธอสั่นไหว ความรู้สึกมากมายไหลวนอยู่ในสมองขณะที่มองภาพเบื้องหน้า อิจฉา เศร้า เหงา ทุกอย่างที่เธอรู้สึกได้ ณ ขณะนั้น กลั่นออกมาเป็นคำๆเดียวว่า ‘เจ็บ’ เจ็บที่หัวใจ


     
     
    ………………………………………………..



    ขอโทษที่นานไปหน่อยค่ะ

    ช่วงนี้ต้องส่งงานประกวดอาจจะอัพช้าไปมากหน่อย

    ต่องขอโทษด้วยนะคะ

    จะพยายามมาต่อให้เร็วที่สุดค่ะ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×