ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic the prince of tennis] ...ความรักของเจ้าชาย...

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 ฝึกฝนด้วยตนเอง

    • อัปเดตล่าสุด 27 ม.ค. 54


     
     
    เช้าวันใหม่ที่สดใส ลมธรรมชาติพัดมาเบาๆหอบเอากลีบดอกไม้ร่วงโรยลงมาบนคอร์ดเทนนิส เป็นภาพที่สวยงามน่าชมยิ่งนัก พร้อมกับบรรดาเหล่าสมาชิกชมรมที่กำลังซ้อมตอนเช้าอย่างขยันขันแข็ง





     
     
    “ ทำอย่างไงดี ลูกเทนนิสหายไปลูกหนึง ”    เสียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างตื่นตะหนก

    “ ถ้าพวกรุ่นพี่รู้เข้าเป็นเรื่องแน่ ทำไงดีๆ ”    กับอีกเสียงหนึ่งที่ดูตกใจไม่แพ้กัน

    “ ทำอย่างไงดีโฮริโอะคุง ”

    “ ในฐานะที่ชั้นประสบการณ์เทนนิสสองปี ชั้นแนะนำให้โยนความผิดให้คนอื่นเราจะได้ไม่ซวย ”

    “ ทำอย่างงั้นมันไม่ดีนะครับ ”

    “ งั้นเราก็ควรจะเงียบไว้ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นสะ แค่ลูกเดียวไม่เป็นอะไรหรอก ”

    “ แต่ว่า…. ”

    “ อะไรแค่ลูกเดียวหรอพวกปีหนึ่ง ”    เสียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งทักขึ้นเมื่อเดินมาข้างหลังน้องๆปีหนึ่ง

    “ รุ่นพี่โมโมะจัง ”

    “ ว่าไงคุยเรื่องอะไรกันอยู่หรอ ”

    “ มะ มะ ไม่มีอะไรครับ ”    โฮริโอะรีบตอบก่อนจะรีบส่งสัญญาณให้เพื่อนเออออตามตัวเอง

    “ ถ้าไม่มีอะไรก็ดีแล้ว งั้นปีหนึ่งรีบยกตกร้าลูกเทนนิสออกไปแล้วไปซ้อมได้แล้ว ”

    “ ครับ/ครับ/ครับ ”    ทั้งสามคนตอบรับแล้วรีบวิ่งออกจากห้องไป






     
     
     
     
    “ เช้านี้เท็ตสึกะไม่เข้าชมรมหรอ ”    ฟูจิพูดขึ้นพร้อมมองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าทุกคนมาครบแล้ว ขาดก็แต่กัปตันทีมคนสำคัญที่ยังมาไม่ถึง

    “ อืม คือมีปัญหาที่ห้องนิดหน่อยน่ะ เลยต้องไปจัดการ ”    โออิชิหันมาตอบทันทีเนื่องจากตัวเค้าเองเรียนอยู่ห้องเดียวกับเท็ตซึกะ

    “ แย่หน่อยนะ เป็นทั้งกัปตันทั้งหัวหน้าห้องแบบนี้ ”

    “ นั้นสินะ ”








     
     
     
    เข้าชั่วโมงเรียนคาบแรก




     
     ณ ปี 3 ห้อง 6





     
    “ เอริ ยูกะ ”

    “ มาค่ะ ”

    “ ฟูจิ ชูสึเกะ ”

    “ มาครับ ”

    “ คิคุมารุ เอจิ ”

    “ มาคร้าบบ ”

    “ นามิ อากิระ ”

    “ มาครับ ”

    “ มิซากิ มิยู ”

    “ มาค่ะ ”

    “ นานาจิ คาลิน ”

    …………. ”    เงียบไม่มีเสียตอบรับใดๆ

    “ นานาจิ คาลิน ไม่มาหรอ ”    อาจารย์ถามขึ้นอีกครั้ง

    ………. ”    ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ทำให้เพื่อนพากันหันไปมองตรงที่นั่งที่ว่างอยู่ ซึ่งเจ้าของที่ยังไม่มา

    “ งั้น นานจิ คาลิน ขาดนะ ”

    “ มาค่ะ ”    เสียงหวานดังขัดขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงเปิดประตูดัง

    “ ขอโทษค่ะที่มาสาย คือเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ ”

    “ งั้นหรอ ว่าแต่ขาเธอไปโดนอะไรมา ”    อาจารย์พยักหน้ารับก่อนจะหันไปสนใจขาของเด็กสาวที่มีผ้ายืดพันอยู่ตรงข้อเท้ากับหัวเข่า

    “ หกล้มนิดหน่อยค่ะ ”    คาลินตอบเสียงเอื่อย

    “ ระวังๆหน่อยแล้วกัน ไปนั่งที่ได้แล้ว ”

    “ ค่ะ ”    เด็กสาวโค้งหัวอย่างเคารพก่อนจะเดินกระเผกๆไปที่โต๊ะของตัวเองที่อยู่ท้ายสุดของห้อง

    “ อรุณสวัสดิ์ นานะจัง ”    เสียงหนึ่งทักขึ้นเบาๆเรียกให้คนโดนทักต้องหันไปมอง

    “ อรุณสวัสดิ์ ฟูจิคุง ”







     
     
     
    “ นานะจังขาไปโดนอะไรมาหรอ ”    เด็กสาวนามว่ามิซึกิที่นั่งอยู่ข้างๆกันทักขึ้น

    “ หกล้มนิดหน่อยน่ะ ไม่เป็นไรมากหรอก ”

    “ ไม่นิดหน่อยแล้วมั้งทั้งขาขนาดนี้ ”

    “ แหะๆ ”    





     
                ( จะให้บอกได้อย่างไงล่ะว่าที่เป็นแบบนี้เพราะซ้อมเทนนิสมา )    เพราะหลังจากที่เด็กสาวคุยกับฟูจิในวันนั้นเธอก็เริ่มฝึกเล่นเทนนิสมาตลอด โดยการไปแอบดูการฝึกมาจากชมรมเทนนิสหญิง แล้วกลับมาฝึกเองที่สวนสาธณะแถวบ้านตรงที่ไม่ค่อยมีคนผ่านคนเดียวทุกวัน แต่เพราะไม่ชำนาญรวมกับไม่มีผู้แนะนำที่ดี ทำให้เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยทำให้เข่าและข้อเท้าของเธอช้ำและปวดเป็นวงกว้าง เธอจึงต้องพันผ้ายืดมา เพื่อปกปิดความน่าอายนั้น เนื่องจากเข่าและข้อเท้าบวมช้ำ ทำให้เธอเคลื่อนไหวไม่สะดวก จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงมาสายด้วย







     
     
    กรี๊งๆๆๆ




     
    เสียงกริ่งดัง บอกถึงเวลาเลิกเรียน






     
     
    “ นานะจัง วันนี้เราจะไปคาราโอเกะกัน นานะจังไปด้วยกันไหม ”    มิซากิเอ่ยปากชวนเพื่อนสาว ที่ตอนนี้กำลังเก็บของอย่างขะมักเขม้น

    “ ไม่ล่ะจ๊ะ พอดีชั้นต้องไปที่ๆหนึงต่อน่ะ ”

    “ อย่างงั้นหรอ งั้นไว้วันหลังแล้วกันเนอะ ”

    “ วันหลังก็คงไม่ว่างเหมือนกัน ขอโทษนะจ๊ะ ชั้นไปก่อนล่ะ ”    แล้วคาลินก็รีบวิ่งออกไปจากห้องเพื่อไปยังที่เดิมเพื่อฝึกซ้อมเทนนิสของเธอ






     
     
     
    โป๊ก !!!




     
     
    “ โอ๊ย อะไรน่ะ ”    เด็กสาวยกมือขึ้นกุมหัวตัวเองตรงที่มีอะไรหล่นมาใส่พอดี

    “ ลูกเทนนิสนี่นา ทำไมมาอยู่แถวนี้ได้ล่ะ ”






     
     
    “ ขอโทษครับ ไม่ทราบเห็นลูกเทนนิสตกลงมาแถวๆนี้รึเปล่าครับ ”    เด็กหนุ่มตัวสูงคนหนึงวิ่งมาแล้วถามอย่างสุภาพ

    “ เอ่อ ไม่เห็นนะคะ ”

    “ งั้นหรอครับ ขอบคุณครับ ”    เด็กหนุ่มตอบรับอย่างสุภาพแล้ววิ่งผ่านไป


    ( ขอโทษนะคะที่ต้องโกหก แค่ลูกเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง )






     
     
     
    “ รุ่นพี่คาวามูระหาเจอไหมครับ ”    โมโมชิโระที่วิ่งมาจากอีกด้านหนึงถามขึ้น

    “ ไม่นะ เมื่อกี้เจอผู้หญิงคนหนึ่งแถวนั้น พอถามเค้าก็ไม่เห็น ”

    “ งั้นหรอครับ เจ้าเด็กใหม่เอจิเซ็นมันตีลูกสะโด่ง หายไปไหนก็ไม่รู้ ”

    “ งั้นเราลองไปหาตรงอื่นดูนะ ”

    “ ครับ ”




     
     
     
                การซ้อมของเด็กสาวยังคงดำเนินต่อไปเลื่อยๆอย่างไม่มีใครรู้ โดยหลังจากซ้อมทุกครั้งเธอมักจะได้แผลกลับมาเสมอ แต่เมื่อใครต่อใครถามถึงแผลที่ได้มา เธอก็บอกแค่ว่า หกล้มมา มันเป็นเหตุผลที่ไม่สมกับสภาพที่เห็น ทั้งข้อเท้า ข้อศอก หัวเข่า และ ข้อมือ ที่ถูกพันด้วยผ้ายืด ทั้งสองข้าง ทั้งนิ้วมือที่มีพลาสเตอร์แปะอยู่เกือบครบทุกนิ้ว มันจึงเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเลยสำหรับคนที่คอยมองเธอและเป็นห่วงอยู่เสมอ



     
     
     
    “ นานะจัง หัวเข่าไปโดนอะไรมาน่ะ ทำไมถึงพันผ้าพันแผลมา ”   มิซากิจังถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

    “ คือหกล้มเมื่อเช้าน่ะจ๊ะ ”

    “ หกล้มอีกแล้วหรอ ทำไมหกล้มทุกวันเลยล่ะ ”

    “ ก็มันล้มนี่หน่าทำไงได้ ”     คาลินตอบพร้อมยิ้มเหย






     
     
     
    “ อาจารย์ครับ ผมขออนุญาตพานานะจังไปห้องพยาบาล ”    ฟูจิลุกขึ้นพร้อมพูดของอนุญาตอาจารย์ท่ามกลางความงงงวยของเพื่อนๆและเจ้าของชื่อที่ถูกดึงเข้าไปเอี่ยว

    “ ได้สิ รีบไปรีบมาล่ะ ”

    “ ไปสิ ไม่สบายไม่ใช่หรอ ”    ฟูจิพูดต่อแล้วเดินไปดึงมือคาลินให้ลุกขึ้นและเดินตามตัวเองมา

    “ เอ่อ ฟูจิคุง ”    คาลินเดินตามมาโดยดี แต่ก็คงยังงงไม่หาย

    “ ไม่ต้องรีบก็ได้ เจ็บขาสินะ ”   ฟูจิพูดต่อขณะที่ยังจับมือเด็กสาวและเดินนำหน้าต่อไปยังห้องพยาบาล

    “ อืม ”




     
     
     
     
    “ ขออนุญาตครับ อ้าวอาจารย์ประจำห้องพยาบาลไม่อยู่หรอ ”

    “ นานะจังมานั่งตรงนี้นะ ”    ไม่ว่าป่าวยังจุงคาลินมาที่เก้าอี้พร้อมทั้งกดให้คาลินนั่งลง

    “ ฟูจิคุง ทำไมต้อง ”

    “ ผมขอดูแผลหน่อย ”    พูดจบก็นั่งคุกเข่าลงพร้อมค่อยๆแกะผ้าพันแผลที่หัวเข่าเด็กสาวออก

    “ มันเจ็บนะ ”

    “ ไปโดนอะไรมาหรอครับ ”

    “ หกล้มน่ะ ตรงนั้นหกล้มจริงๆนะ ”

    “ แล้วตรงอื่นล่ะ ”    ฟูจิว่าต่อขณะที่กำลังทำแผลให้คาลิน ก่อนจะละจากแผลแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับดวงตาสีฟ้าสวยเพื่อมองหาความจริงในดวงตาคู่นั้น

    “ คือว่า ซ้อมเทนนิสน่ะ ”    คาลินตอบพร้อมก้มหน้าลงอย่างเขินๆ

    “ ใครสอนให้หรอครับ ”

    “ ซ้อมเองค่ะ ”    คาลินตอบทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่

    “ เฮ้อ….. ”    ฟูจิถอนหายใจเบาๆก่อนจะหยิบผ้าพันแผลผืนใหม่มาพันให้คาลิน

    “ ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะว่าอยากจะเล่นเทนนิส ผมจะได้สอนให้ ”

    “ ฟูจิคุงเล่นเทนนิสเป็นด้วยหรอ ”

    “ เห็นผมแบบนี้ผมก็อยู่ชมรมเทนนิสชายนะครับ ”



     
     
     
    …………………………………………………


    จบไปอีกแล้ว 


    แอบบดีใจที่มีคนสนใจมาอ่าน


    อีกสองันจะมาลงต่อเช่นเดิมค่ะ


    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นค่ะ




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×