ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : คนชอบกินคุกกี้ที่ขี้แกล้ง
ขณะที่รติมากำลังเดินกลับพร้อมโถคุกกี้ที่ทำกันวันนี้ สิ่งที่อยู่ในความคิดขณะเดินกลับนั้นคือความรู้สึกแปลกๆกับเหตุการณ์รอบๆตัว เหมือน 2-3 วันมานี้องค์ราชินีดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ แถมทุกบ่ายที่ต้องไปเรียนเกี่ยวกับลักษณะของกุลสตรีกับคุณนมที่ปกติแล้วมีกันแค่ 2 คนนั้น หลังๆมานี่องค์ราชินีมาร่วมฝึกสอนด้วยแทบทุกวัน แถมบางทียังมีการพูดแปลกๆด้วย อย่างวันนี้ตอนที่เรียนฝึกหัดทำคุกกี้กันอยู่ องค์ราชินีก็ตรัสว่า
"รติมา ชั้นคิดว่าคุกกี้ที่เธอทำรอบนี้อร่อยดีนะ แล้วคุกกี้แบบนี้แหละที่นรินเค้าชอบกินตอนที่ต้องนั่งอ่านเอกสารในห้องทำงานน่ะ"
"องค์ชายน่ะหรือคะชอบกินคุกกี้" รติมาคิดภาพองค์ชายหน้าดุนั่งทำงานพร้อมกินคุกกี้ไปด้วยไม่ออกจริงๆ
"ใช่น่ะสิ ตอนนี้ชั้นคิดว่าฝีมือเธอพัฒนาขึ้นนะ ชั้นเลยอยากจะให้เธอเอาคุกกี้ใส่ขวดโหลไปตั้งไว้ในห้องทำงานของนรินให้หน่อย เมื่อก่อนบางทีก็ให้พิศลักษณ์เค้าช่วยทำให้ แต่เดี๋ยวนี้งานล้นมือกันหมดเลยไม่ค่อยได้ทำกัน ยังไงก็ฝากด้วยนะ" พูดเสร็จองค์ราชินีก็ยิ้มให้ ก่อนที่จะหันไปสั่งงานคุณนมคนสนิทพระองค์ต่อ ทำให้หญิงสาวได้แต่เอาคุกกี้ที่เสร็จเรียบร้อยแล้วมาเรียงใส่ในขวดโหลไปเงียบๆ พลางหนักใจว่าจะหาทางเข้าไปในห้องทำงานขององค์ชายนรินยังไงดีนะ องค์ชายสั่งไว้ว่าไม่ให้ไปห้องทางตึกฝั่งตะวันตกด้วยสิ รติมานิ่วหน้าอย่างคิดไม่ตก แต่แล้วก็เหมือนจะคิดได้ว่าที่จริงฝากมหาดเล็กเข้าไปในห้องทำงานได้นี่ พอคิดหาวิธีได้รติมาก็เริ่มยิ้มออก ก่อนที่ขออนุญาตกลับตำหนักพร้อมโถคุกกี้เจ้าปัญหา
"พอดีว่าองค์ราชินีให้ชั้ันนำคุกกี้มาให้องค์ชายน่ะ ฝากไปไว้ในห้องทำงานหน่อยได้มั้ยจ๊ะ" รติมาพูดพร้อมรอยยิ้มที่มั่นใจว่ามหาดเล็กจะทำตามที่ขอร้องแน่นอน โดยไม่รู้ว่าด้านหลังหญิงสาวนั้นชายหนุ่มที่รติมาพูดถึงที่เพิ่งกลับจากการประชุมข้างนอกมาหยุดยืนฟังเพราะเห็นหญิงสาวทำตัวลับๆ ล่อๆ ตั้งแต่เดินเข้าพระตำหนักมา
"เป็นอะไรไปล่ะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น หรือว่านายเข้าไปในห้องทำงานขององค์ชายรินไม่ได้หรอ" หญิงสาวที่ยังไม่รู้ตัวว่ามีคนมายืนฟังข้างหลัง ทั้งๆที่มหาดเล็กเฝ้าประตูพยายามจะส่งสัญญาณบางอย่างให้ แต่เมื่อมหาดเล็กเล็กหนุ่มมองคนเบื้องหลังที่กอดอกยืนฟังอยู่ก็รีบตอบทันที
"เอ่อ กระผมคิดว่าคงต้องเอาไปให้ในห้องทำงานเองนะครับ เอ่อ แล้วก็ตอนนี้องค์ชายไม่อยู่หรอกครับ คิดว่าเข้าไปตอนนี้น่าจะได้" มหาดเล็กรีบรายงานด้วยท่าทีประหลาดๆ แต่รติมาก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร
"อ้าว อย่างนั้นหรอ นายแน่ในะว่าชั้นเข้าไปในนั้นได้น่ะ" รติมาถามด้วยความไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก
"ได้ครับ ได้แน่นอนครับ" มหาดเล็กรีบตอบตามที่เจ้าของตำหนักที่ยืนมองด้านหลังส่งสัญญาณให้
"ถ้าอย่างนั้น ชั้นจะเปิดประตูไว้นะ จะได้เห็นว่าชั้นไม่ได้ทำอะไรในห้องนั้นนอกจากเอาคุกกี้ไปวางเพียงอย่างเดียว" เมื่อรติมามั่นใจว่าแบบนี้ไม่น่าจะเป็นไร เพราะเข้าไปวางแปบเดียวเอง คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง จึงเดินเข้าไปในห้องทำงานขององค์ชายนริน
แต่รติมาคงไม่รู้ว่าชายหนุ่มที่ยืนฟังอยู่เมื่อกี้เดินตามหลังเธอพร้อมทั้งตบบ่ามหาดเล็กเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานพร้อมทั้งประตูที่ปิดลง...
รติมาที่มองหาที่วางขวดโหลก็ไม่ได้สนใจเสียงประตูที่ปิดลงด้านหลัง จนกระทั่งวางโหลคุกกี้ไว้โต๊ะข้างๆโต๊ะทำงาน ก่อนจะหันกลับมาแล้วเจอคนที่มหาดเล็กหน้าห้องบอกว่าจะยังไม่กลับยืนกอดอกพิงประตูมองเธออยู่
"คุณ! เอ่อ องค์ชาย ไหนมีคนบอกว่าองค์ชายไม่อยู่ไงเพคะ"
"ถ้าชั้นไม่อยู่จะเห็นว่ามีคนฝ่าฝืนข้อห้ามที่เราเคยตกลงกันไว้เข้ามาในห้องทำงานของชั้นหรือไง" คำพูดที่ดูอย่างไรก็เป็นการกล่าวโทษทำให้รติมารีบแย้งกลับ
"ดิชั้นไม่ได้อยากจะเข้ามาในนี้ซักหน่อย องค์ราชินีทรงฝากคุกกี้มาให้คุณ นี่ไง ชั้นเพิ่งวางไปเมื่อกี้เอง แล้วตอนที่ชั้นเดินเข้ามาชั้นบอกมหาดเล็กหน้าห้องไว้แล้ว แล้วก็เปิดประตูไว้แล้วด้วย" หญิงสาวก็ไม่ยอมต่อความผิดที่ไม่ได้ทำ เถียงกลับอย่างไม่ยอมเช่นกัน
เสด็จแม่สินะ แต่แผนแค่นี้มันยังเด็กๆไป แค่นี้ไม่ทำให้เค้าสนใจผู้หญิงคนนี้ได้หรอก เป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เค้าแกล้งหญิงสาวตรงหน้าได้ง่ายขึ้น คอยดูนะจะทำให้ไม่กล้าเข้ามาเหยียบตำหนักฝั่งนี้อีกเลย องค์ชายนรินคิดในใจอย่างเจ้าเลห์ แต่ภายนอกยังแสดงท่าทีว่าไม่พอใจต่อไป
"แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นข้อแก้ตัวว่าเธอเข้ามาในห้องชั้นจริง รติมา" คำพูดที่มาพร้อมกับท่าทางที่คุกคามขณะที่เดินเข้ามาใกล้หญิงสาวมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รติมาอดไม่ได้ที่จะถอยไปด้านหลังมากขึ้นกว่าเดิม
"ละ แล้วคุณจะให้ชั้นทำยังไงกันเล่า ถ้าชั้นขอโทษคุณจะปล่อยชั้นไปได้รึยัง" รติมาถามขณะที่มองไปรอบตัวหาทางหนีทีไล่ เพราะองค์ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใกล้นั้น ดูไม่น่าไว้วางใจจริงๆ
"ที่จริงเราก็เป็นคู่หมั้นกันแล้ว ชั้นก็ไม่ควรที่จะห้ามเธอเข้ามาในห้องของชั้นนี่ เธอคิดอย่างนั้นมั้ย"
คำถามที่น่าแปลกใจทำให้รติมาหยุดเดิน พร้อมทั้งมองคนตรงหน้าอย่างสงสัยในคำพูดนั้น แต่ความรู้สึกบางอย่างบอกหญิงสาวว่าอย่าเห็นด้วยกับคำพูดนี้เป็นดีที่สุด
"หม่อมชั้นคิดว่า... ทรงห้ามแหละดีแล้วเพคะ และหม่อมชั้นขออภัยที่เข้ามาก่อนที่ได้รับอนุญาต หม่อมชั้นขอตัวก่อนนะเพคะ" รติมาตอบกลับด้วยความร้อนรนหลังจากที่ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาหารติมาเรื่อยๆ ทำให้รติมาคิดว่าอยู่ในห้องนี้ต่อไปไม่ดีแน่ๆ แต่ก่อนที่หญิงสาวจะวิ่งออกจากห้องไปได้ ก็ถูกชายหนุ่มเจ้าของห้องดึงข้อมือไว้ก่อน พร้อมกับส่งยิ้มที่ไม่น่าไว้วางใจมาให้
"จะรีบไปไหนล่ะ ในที่สุดเราก็ได้อยู่กันตามลำพังซักทีนะ" คำพูดต่อมายิ่งทำให้รติมาร้อนรนมากยิ่งขึ้น เหตุการณ์แบบนี้ไม่ดี ไม่ดีเลยจริงๆ ที่เข้ามาในห้องกันสองต่อสองแบบนี้
"มะ หม่อมชั้น เอ่อ นึกขึ้นได้ว่าองค์ราชินีให้กลับไปช่วยงานต่อเพคะ คะ คงต้องไปแล้วเพคะ"
ชื่อองค์ราชินีที่ถูกยกมาอ้างทำให้องค์ชายนรินเหมือนจะหยุดชะงักไปเล็กน้อย ทำให้รติมารีบพูดต่อว่า "ตอนนี้หม่อมชั้นหายมานานแล้ว คิดว่าเดี๋ยวองค์ราชินีคงส่งคนมาตาม ถ้ายังไงหม่อมชั้นขอตัวก่อนนะเพคะ" รติมาไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาตรีบดึงมือของตัวเองที่ถูกจับกุมไว้แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากห้องไปทันที
ในห้องเหลือเพียงองค์ชายที่เมื่อกี้ยังแสดงท่าทางที่ดูคุกคาม แต่เมื่อเห็นว่ารติมารีบวิ่งออกไปจากห้องแล้ว ก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่
"เห็นเก่งกล้าไปซะทุกอย่าง เจอแค่นี้ถึงกับต้องวิ่งหนีไปเลยเชียวหรอ" แต่ก็น่ารักดี
ความคิดสุดท้ายที่ออกมาแบบไม่รู้ตัว ทำให้องค์ชายนรินต้องรีบสลัดออกไปให้พ้นจากความคิด ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหน เถียงตลอด แถมที่วิ่งออกไปถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นก็ต้องเป็นแบบนี้แหละน่า
ความคิดที่เจ้าตัวพยายามจะบอกว่าไม่เห็นมีอะไรน่ารัก แต่ไม่สามารถที่จะหยุดยิ้มได้เลยจริงๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น