ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : จดหมายที่ไม่มีชื่อกับน้ำตาที่ไม่คาดคิด
ก็อก ก็อก ก็อก เสียงเคาะประตูทำให้เจ้าชายนฤบดินทร์ที่อ่านเอกสารราชการทั้งหลายในห้องทรพระอักษรมาตั้งแต่เช้าอนุญาตให้เข้ามาได้
"นี่คือรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ปริมาณน้ำบริเวณเขื่อนในตอนนี้ และข้อมูลจากปีก่อนหน้าย้อนหลังไป 5 ปีขอรับ"
"ขอบใจนายมากนะรวิธ หวังว่าเราจะเตรียมการรับมือได้ทันก่อนที่ปริมาณน้ำจำนวนมากจากทางเหนือจะลงมาถึงเมืองหลวงในปีนี้นะ"
องค์ชายนรินตรัสขอบใจเสร็จก็ก้มหน้าลงอ่านเอกสารต่อ แต่อ่านได้ซักพักก็รู้สึกตัวว่าองค์รักษ์หนุ่มยังยืนอยู่และทำหน้าตาเหมือนไม่แน่ใจในอะไรบางอย่าง
"นายมีอะไรจะรายงานชั้นเพิ่มเติมรึเปล่า ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ"
"จากที่กระหม่อมได้ตามสืบเรื่องเกี่ยวกับคุณรติมา ล่าสุดเมื่อเช้านี้มีจดหมายมาถึงเธอครับ แต่ไม่มีชื่อคนส่ง กระผมจึงเก็บไว้ก่อน และแกะเอาตัวข้อความด้านในออกมาโดยที่คุณรติมาไม่มีทางรู้ กระหม่อมยังไม่แน่ใจว่าส่งมาจากที่ไหน ตอนแรกเลยคิดว่าจะสืบหาที่มาของจดหมายก่อน แต่คิดว่าให้พระองค์อ่านเลยน่าจะเหมาะสมว่า ส่วนตัวจดหมายตัวจริงหระหม่อมส่งให้มหาดเล็กด้านหน้านำไปให้คุณรติมาแล้วขอรับ"
คำอธิบายที่ฟังดูก็ไม่ได้เข้าใจอะไรเพิ่มเติม ทำให้องค์ชายหนุ่มหยิบเอกสารนั้นขึ้นมาอ่าน แต่เมื่อได้อ่านแล้วก็ต้องอ่านซ้ำอีกครั้ง เพราะถึงแม้ว่าจะไม่มีชื่อผู้ส่ง และคนเขียนก็ระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะไม่อ้างอิงถึงผู้ใด แต่ถ้อยคำที่เขียนออกมานั้นสื่อถึงอารมณ์ได้มากมายนัก
ปลอดภัยดี ขอบคุณมาก
ขอโทษด้วยเพราะรู้ว่าเธอจะลำบาก
หวังว่าในอนาคตเราคงจะได้พบกันอีก
หลังจากที่อ่านจดหมายที่อ่านหลายรอบจนจำได้ขึ้นใจ องค์ชายนรินก็ตัดสินใจจะไปดูว่าหญิงสาวคนที่เป็นเจ้าของจดหมายนี้จะแสดงอาการอะไรออกมาบ้างหลังจากได้รับจดหมายที่สื่ออารมณ์ยิ่งนัก เผื่อจะมีพิรุธบางอย่างที่ทำให้รู้ความลับของหญิงสาว หรืออาจจะตามถึงคนที่ส่งจดหมายนี้มาให้เธอได้ องค์ชายนรินคิดระหว่างเดินไปทางตึกด้านตะวันออก เพราะมหาดเล็กหน้าตำหนักแจ้งว่าหญิงสาวกลับมาแล้ว และเดินไปทางด้านหลังของพระตำหนักแต่ภาพตรงหน้าที่เห็นทำให้ชายหนุ่มที่กะว่าจะมาเค้นถามรติมาได้แต่หยุดอยู่กับที่
รติมาที่ได้รับจดหมายจากข้าราชบริพารในตำหนักรีบเดินออกมาด้านหลังตึกและแกะจดหมายออกมาอ่าน แต่เมื่ออ่านแล้วหญิงสาวกับนั่งนิ่งอยู่กับที่ ไม่นานนักน้ำตาที่ไม่เคยมีใครได้เห็นตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไหลออกมาโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้สึกตัว ไหล่ที่เหยียดตรงพร้อมรับกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามางุ้มลง เหมือนปัญหาที่แบกไว้นั้นมากจนจะรับไม่ไหวแล้ว
รติมานั่งนิ่งเหมือนปล่อยความคิดของตัวเองอย่างเลื่อนลอยโดยที่น้ำตายังไหลลงมาเป็นสาย ผ่านไประยะหนึ่งเหมือนหญิงสาวที่มีบรรยากาศรอบตัวที่แสนเศร้าจะรู้สึกตัว และรีบเช็ดน้ำตาก่อนปรับสีหน้าให้เป็นปกติ พร้อมกับตั้งใจว่าจะเข้าห้องเพื่อนำจดหมายที่ให้ใครเห็นไม่ได้นี้ไปเก็บ แต่เมื่อหันหลังมากลับเจอเจ้าของตำหนักที่รติมาพยายามหลบเลี่ยงมาตลอดยืนมองอยู่
ความเงียบที่น่าอึดอัดเกิดจากคนสองคนที่ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี ฝ่ายหนึ่งก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับหญิงสาวที่ตนเห็นว่าสามารถเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆอย่างมีสติ ออกจะดูเป็นคนเข้มแข็งด้วยซ้ำไป แต่กลับร้องไห้ออกมาเพราะประโยคในจดหมายไม่กี่คำ
อีกฝ่ายก็กระดากอายที่มีคนมาเห็นตอนที่ตนนั้นร้องไห้ ทั้งๆที่ไม่เคยแสดงให้ใครเห็นแท้ๆ และยังเป็นคนที่เธอจะต้องแสดงความเข้มแข็งต่อหน้าให้มากที่สุด
ในที่สุดรติมาเป็นคนที่ทนไม่ไหวกับความเงียบที่เกิดขึ้น รีบเดินไปอีกทาง ลืมแม้แต่จะถวายความเคารพตามธรรมเนียม
องค์ชายนรินยืนครุ่นคิดมองตามหลังร่างบางที่เดินไปอีกทาง จนรติมาเดินหายเข้าไปในตึกแล้วก็ยังไม่ขยับตัว เหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง และหลังจากนั้นสายตาที่ครุ่นคิดก็เปลี่ยนเป็นสายตาของคนที่ตัดสินใจอะไรบ้างอย่างได้แล้ว และเมื่อเดินกลับมาที่ห้องทรงงานได้เรียกตัวองค์รักษ์คนสนิทเข้าไปหา
คนภายนอกไม่รู้ว่าด้านในห้องคุยอะไรกันบ้าง รู้เพียงแต่ว่าหลังจากที่องค์รักษ์หนุ่มได้เข้าไปในห้องทรงงานขององค์ชายพักใหญ่ และหลังจากนั้นคุณรวิธก็ควบม้าออกจากวังไปโดยที่ไม่ได้กลับมาในอีกหลายวัน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น