คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : ฝากเนื้อฝากตัว
“แนะนำตัวมา” คำพูดจากชายวัยกลางคนประมุขของบ้านที่ไม่ได้พูดกดดันแต่อย่างใด เป็นเพียงแค่คำพูดเรียบเรื่อยเหมือนพูดคุยกับคนรู้จัก แต่สายตาที่ส่งมาให้ก็ทำให้องค์ชายนรินอดที่จะเกร็งบ้างไม่ได้ ก็ไม่ได้กลัวว่าจะมีปัญหากันหรอก กลัวแค่จะไม่ยอมยกลูกสาวให้เท่านั้นแหละ แต่ในเมื่อจะจีบลูกสาวเค้าก็คงต้องพยายามหน่อยละนะ
“ผมชื่อว่านริน
เป็นทหารองค์รักษ์สังกัดองค์ชายนฤบดี ทำงานมาเกือบสิบปีแล้วครับผม และที่มาวันนี้เพราะอยากจะมาฝากเนื้อฝากตัวให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักครับ”
คำอธิบายที่เหมือนจะเปิดเผยแต่ก็กระชับสั้น ทำให้รติมาสบตาคนพูดด้วยความแปลกใจ
ส่วนรวิธยิ้มมากขึ้น แต่คนเป็นพ่อที่ดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่มีหนุ่มมาติดพันลูกสาวตนซักถามต่อ
“มีภรรยารึยัง ลูกเต้าเหล่าใคร”
“ภรรยาน่ะตอนนี้ยังไม่มีครับ แต่ในอนาคตน่ะมีแน่ๆ” คำตอบพร้อมมองตรงไปยังหญิงสาวที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆพ่อของตน ทำให้คนเป็นประมุขของบ้างตาเริ่มขุ่น เพราะเป็นคำพูดที่เหมือนจะไปกระตุกหนวดเสือ จากที่มองนิ่งตรงมากลายเป็นว่าในตาเหมือนเริ่มมีกองไฟเล็กๆลุกโชนอยู่
“แน่ใจแล้วหรอว่าอยากจะเข้ามาฝากเนื้อฝากตัวจริงๆ”
“แน่นอนครับ”
ไม่เพียงแต่คำพูดเท่านั้น แต่ลักษณะท่าทางที่แสดงถึงความมั่นใจในตนเอง
ไม่ได้ทำให้นายพาวิธพูดอะไรต่อ เพียงมองชายหนุ่มที่อาจหาญตรงหน้านิ่ง ซักพักจึงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
แต่รอยยิ้มแบบนี้กลับทำให้สัญญาณเตือนในหัวขององค์ชายหนุ่มดังขึ้น
“ถ้านายพูดอย่างนั้นชั้นก็จะไม่ขัด ส่วนเรื่องที่พักถ้ายังไม่มีที่พักก็พักกันที่นี่ล่ะ ด้านหลังมีเรือนเล็กให้พักสำหรับแขกอยู่ เพื่อนนายอีกคนจะพักด้วยก็ได้ แล้วพรุ่งนี้เช้ามาเจอชั้นที่นี่ก่อนรุ่งสาง”
คำพูดที่ยอมรับง่ายๆ อาจจะทำให้คนในห้องทุกคนแปลกใจ มีเพียงนางวารีที่มองไปทางสามีของตนอย่างรู้ทันว่าจะทำอะไร แต่เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าชายหนุ่มที่มาติดพันลูกสาวตนตรงหน้าจะทนได้รึเปล่าเท่านั้น
ระหว่างเก็บของเข้าห้องพักที่มีเพียงแค่เตียงสนามสองเตียงภายในห้องรับรองที่ทำจากไม้ขนาดไม่ใหญ่มากนัก และแทบจะไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใดๆให้ คนเป็นลูกน้องก็อดไม่ได้ที่จะพูดให้เจ้านายของตนเข้าใจสถานการณ์บ้าง
ไม่ใช่นอนอ่านเอกสารงานสบายอารมณ์อยู่แบบนี้
“ผมว่าแบบนี้โดนแกล้งแน่ๆนา ท่านก็ไม่น่าจะไม่แหย่พ่อคุณรติมาแบบนั้น”
องค์ชายนรินยิ้มกับเอกสารตรงหน้า
แล้วตอบองค์รักษ์หนุ่มที่กำลังจัดสัมภาระว่า
“ท่าทางอยากจะข่มขวัญขนาดนั้น
ถ้ามัวแต่หงอก็จะยิ่งโดนแกล้งหนักน่ะสิ แบบนี้ล่ะให้เค้ารู้ไปเลยว่าเราจะสู้ไม่ถอยเหมือนกัน"
“เค้าอาจจะชอบว่าที่ลูกเขยแบบว่านอนสอนง่ายก็ได้ ทำไมไม่ลองแบบนั้นก่อนล่ะ เปิดตัวขนาดนี้ ไม่โดนเขม่นก็แปลก”
“ก็เรามีเวลาไม่เยอะนี่
ยิ่งชัดเจนเท่าไหร่ยิ่งดี”
องค์รักษ์หนุ่มได้แต่ถอนหายใจพลางบ่นกับตัวเองเบาๆ
แต่ให้เจ้านายตนเองได้ยินว่า
“เฮอะ คนงานยุ่ง แทนที่จะได้ลูกสาวเค้ามา
จะโดนไล่ยิงซะมากกว่าล่ะมั้ง เรื่องนี้ผมไม่ช่วยนะ ไม่ใช่งานในราชการ
เรื่องของใครคนนั้นก็จัดการเอาเองละกัน” พูดจบคนเป็นลูกน้องก็คว้าเสื้อผ้าไปอาบน้ำอย่างไม่สนใจเจ้านายตนอีก
คนที่เป็นเจ้านายได้แต่หัวเราะลูกน้องที่บ่นกระปอดกระแปด แต่ที่ตนพูดออกไปหมายความตามนั้นทุกคำ เพราะเรื่องส่วนตัวก็ต้องจัดการ แถมความเดือนร้อนของประชาชนก็รอไม่ได้ ดีที่ตอนนี้สามารถปล่อยให้ทหารในสังกัดลาดตระเวนหาข่าวว่าเป็นตามจริงที่ได้รับรายงานไปรึเปล่า เพราะสังเกตเห็นข้อสงสัยในเอกสารขอเบิกงบประมาณหลายส่วน แต่ยังไงก็คงต้องเข้าไปจัดการในเร็ววัน ก็หวังว่าทั้งพ่อตาและลูกสาวที่นอนบนบ้านจะยอมใจอ่อนง่ายๆหน่อยละนะ
องค์ชายนรินคิดพลางหลับไปด้วยรอยยิ้ม
ความคิดเห็น