ลำดับตอนที่ #21
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : เข้าตามตรอกออกตามประตู
กลุ่มผู้ไม่หวังดีถูกจัดการและพาไปที่ไหนรติมาก็สุดที่จะรู้ เพราะชายหนุ่มข้างตัวรวมทั้งรวิธ องค์รักษ์หนุ่มอารมณ์ดีข้างกายไม่ได้บอกอะไรกับรติมาเลย หลังจากที่ถอดผ้าคลุมออก ชายหนุ่มที่รติมาหนีมาก็เพียงแต่บอกกับรติมาว่า 'เรามีเรื่องต้องคุยกัน' และพาเธอไปนั่งพักตรงโขดหินบริเวณลำธารใกล้ๆ ส่วนตนเองยืนฟังคำรายงานจากลูกน้องที่ติดตามมารายงานอยู่เรื่อยๆ
"ถ้าคุณรติมาอยากมาเที่ยวนี่บอกพวกผมก่อนก็ได้นา คราวหลังจะได้ไม่ต้องควบม้ากันข้ามวันข้ามคืนเพื่อตามให้ทันตามคำสั่งคนใจร้อนคนนั้นน่ะ" รวิธที่เดินมาส่งกระติกน้ำให้ ได้แต่แอบกระซิบกับรติมาเบาๆ พลางพยักเพยิดไปทางคนที่ยืนกอดอกหลวมๆฟังรายงานอยู่อีกด้าน
รติมาฟังคำพูดนั้นได้แต่รู้สึกแปลกใจ
"ทำไมถึงต้องตามมาด้วยล่ะคะ" ดวงหน้าที่แสดงความไม่เข้าใจจริงๆ ทำให้รวิธได้แต่เกาคออย่างลำบากใจ 'คนตรงหน้าคงยังไม่รู้ล่ะมั้ง ว่าเจ้านายของเค้าร้อนใจขนาดไหนตอนที่เห็นว่ามีกลุ่มคนไม่หวังดีตามหญิงสาวตรงหน้ามาน่ะ'
"เอ อันนี้ก็คงต้องไปถามคนตรงนู้นเองนะครับ" รวิธตอบพลางยิ้มแปลกๆ ให้ก่อนที่จะไปสมทบกับผู้เป็นนาย
รติมานั่งมองแผ่นหลังของคนที่เข้ามาที่ช่วยอย่างไม่รู้จะทำตัวยังไงดี เพราะยังจำถึงเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายที่คุยกันได้ แต่นี่กลับตามเธอมาเอง คนที่เดี๋ยวก็หน้าดุ เดี๋ยวก็ยิ้มง่าย ทำให้บางทีก็คาดเดาไม่ถูกว่าองค์ชายนรินอยู่ในอารมณ์แบบไหนกันแน่
เหมือนคนที่รติมาคิดถึงอยู่รู้ตัวว่ามีคนจ้องเลยหันหลังกลับมา และไม่รู้ว่าตัวเธอนั้นแสดงสีหน้าออกไปแบบไหน ทำให้องค์ชายนรินเพียงหันไปสั่งงานคนสนิทอีกสองสามคำ และเดินมาหารติมาทันที
องค์ชายนรินเดินมาหยุดตรงหน้าหญิงสาวแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงยื่นมืออกมาเหมือนจะช่วยพยุง รติมามองมือนั้นเลยไปถึงพระพักตร์ของคนตรงหน้า แต่ก็ยังไม่ยอมวางมือลงไป เพียงแต่จ้องหน้าฝ่ายตรงข้ามนิ่งๆ แต่องค์ชายนรินก็ไม่ได้เอามือกลับไป และยังคงยื่นมือมาอย่างรอคอย
รติมามองสบตาคนตรหน้าอย่างจะวัดใจกัน แต่คนตรงหน้าก็ยังยื่นมือมารออย่างอดทน ทำให้ในที่สุดรติมาเลยยอมวางมือตนเองลงไปในฝ่ามือนั้น
องค์ชายนรินกระชับมือหญิงสาวมั่น พร้อมกับดึงรติมาให้ลุกขึ้น และส่งยิ้มสว่างไสวที่รติมาไม่เคยเห็นมาก่อนให้
"งั้นแปลว่าเราดีกันแล้วนะ" องค์ชายนรินพูดพร้อมรอยยิ้ม
รติมามองค้อนคนโมเมตรงหน้าตาคว่ำ แต่ทำให้องค์ชายหนุ่มที่ยิ้มนิดๆตอนแรกหลุดหัวเราะออกมา
"หม่อมชั้นยังไม่ได้พูด"
"เธอไม่ได้พูด แต่ชั้นเป็นคนเชื่อในการกระทำ และการกระทำของเธอก็บอกอย่างชัดเชนแล้วว่าเธอไม่โกรธชั้นแล้ว"
รติมาได้แต่มองคนตรงหน้าอย่างอ่อนใจ และถึงแม้อยากจะประทุษร้ายคนตรงหน้าขนาดไหน แต่โดยปกติแล้วเธอไม่ใช่คนผูกใจเจ็บใคร แถมคนตรงหน้าก็เหมือนจะยอมอ่อนลงให้ รติมาเลยได้แต่ยิ้มนิดๆแล้วไม่ต่อความ
"องค์ชายมาทำอะไรแถวนี้หรือเพคะ" รติมาถามเหมือนเรื่องทั่วๆไป ตอนที่ทั้งสองเดินเคียงกันไปตามลำธารแถวนั้น แต่ตามองตรงไปที่คนที่เดินมาเคียงกัน ไม่ให้พิรุธอะไรของชายหนุ่มข้างตัวเล็ดลอดจากสายตาได้
"อ๋อ มาหาว่าที่พ่อตากับแม่ยายน่ะ" องค์ชายนรินได้ยินคำถามแล้วก็ตอบกลับมาเหมือนเรื่องทั่วๆไปเช่นกัน
รติมาถึงกับสะดุดก้อนหินข้างหน้า และหันหน้าไปมองคนข้างกายด้วยไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
"พ่อตากับแม่ยายนี่หมายความว่า... " รติมาไม่กล้าที่จะพูดคำต่อไปจริงๆ
"ก็เราหมั้นกันแล้ว แต่เรายังไม่เคยได้มาฝากเนื้อฝากตัวกับพ่อแม่ของเธอเลย อย่างนี้เดี๋ยวผู้ใหญ่จะว่าเอาได้ เลยต้องทำตัวเข้าตามตรอกออกตามประตูซะหน่อย ไม่งั้นอาจจะโดนพ่อเธอไล่ยิงเอาได้" องค์ชายนรินพูดด้วยน้ำเสียงสบายอกสบายใจ ไม่ได้ดูกลัวตามที่รับสั่งเลย
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบรรยากาศภายนอกวังที่ไม่ต้องระวังภาพลักษณ์หรือคำพูดใดรึเปล่า ทำให้ชายหนุ่มที่ดูเข้มงวดกลายเป็นชายหนุ่มอารมณ์ดีพูดเย้าแหย่เธอได้
"ทรงรู้สึกประชวรตรงไหนรึเปล่าคะ" รติมามองคนข้างๆอย่างเป็นห่วงนิดๆ
"นี่เธอ ทำไมล่ะ ที่จะมาหาพ่อแม่เธอเนี่ยแปลกตรงไหนกัน" พระอารมณ์ดีๆหลังจากที่ได้คุยกันเหมือนปกติเริ่มกรุ่นขึ้นมาอีกรอบ
"ก็เราหมั้นกันด้วยสถานการณ์แบบนั้น แล้วจะให้หม่อมชั้นเข้าใจไปแบบไหนกันได้ล่ะคะ" รติมาเห็นว่าถ้าพูดเบี่ยงประเด็นกันไปเรื่อยๆคงไม่เข้าใจกันซะที ก็สู้ถามไปตรงๆจะดีกว่า
องค์ชายนรินยิ้มให้หญิงสาวที่ทำหน้ายุ่งอยู่ตรงหน้า ก็เข้าใจหรอกว่าพระองค์เปลี่ยนท่าทีรวดเร็วแบบนี้รติมาคงแปลกใจ แต่พอยิ่งได้รู้จักนิสัยของรติมาแล้ว ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกอะไรที่อยากจะเอาตัวเข้าไปพัวพันกับหญิงสาวที่เหมือนว่าจะเป็นตัวดูดปัญหาตรงหน้า และทำความรู้จักกันให้มากขึ้น
องค์ชายนรินได้แต่ยิ้มนิดๆ แต่ไม่พูดอะไร รติมาก็เห็นว่าจะไม่ได้คำตอบแน่เลยเตรียมจะเดินกลับไปทางที่พวกทหารขององค์ชายนรินรออยู่ ทำให้ไม่เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนที่เดิมตามมาข้างหลัง แต่คำพูดที่ลอยตามลมมาน่ะ ได้ยินชัดเจน คำพูดที่ทำให้ต้องรีบเดินให้เร็วขึ้นเพื่อกลับไปทางเดิม โดยไม่หันกลับมามองคนที่เดินตามมาข้างหลังเลย
"ถ้าจะจีบผู้หญิงคนไหน ก็ต้องเข้าทางพ่อแม่ก่อนอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง แต่ในเมื่อเราเป็นคู่หมั้นกันแล้วก็ได้แต่หวังว่าสาวเจ้าจะใจอ่อนเร็วๆนะ"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น