ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รติมาที่รัก

    ลำดับตอนที่ #14 : ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 61


              หลายวันที่ผ่านมาสถานการณ์น้ำเหมือนจะยิ่งแย่ขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้นอีก ทำให้พื้นที่การเกษตรของหมู่บ้านทางด้านเหนือเสียหายอย่างหนัก องค์ชายนรินเร่งแก้ไขปัญหาให้รวดเร็วและพยายามให้ความช่วยเหลือไปถึงชาวบ้านให้เร็วที่สุด แต่บางพื้นที่กำลังเผชิญวิกฤตอยู่ทำให้ช่วงนี้องค์ชายนรินแทบไม่ได้นอน แถมในบางวันต้องออกไปตระเวนหน้างานจริง เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านให้มากที่สุด แต่จดหมายร้องทุกข์กลับไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ทำให้ขนาดรติมาที่พยายามช่วยเรื่องเอกสารต่างๆยังท้อใจไปด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าองค์ชายนรินทรงทำได้ยังไง วันๆนึงแทบจะไม่ได้นอนด้วยซ้ำ
              รติมามองภาพที่องค์ชายนรินยังคงทำงานอยู่ถึงแม้ว่านี่จะเป็นกลางคืนที่เวลาเลยไปเช้าวันใหม่แล้ว ที่รติมาตื่นขึ้นมาเพราะเหมือนได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในห้องข้างๆ ถึงคนที่ใช้ห้องจะพยายามเสียงให้เบาที่สุดแล้ว แต่เพราะที่ผ่านมาหลายวัน รติมาเห็นภาพแบบนี้ทุกวันเลยทำให้ตื่นขึ้นมาเกือบทุกคืนเพื่อดูว่าคนทำงานหนักต้องการอะไรเพิ่มเติมรึเปล่า ถึงแม้จะไม่กล้าออกไปถามก็เถอะ แต่วันนี้หลังจากที่มองคนทำงานหน้าเคร่งเครียดอยู่ซักพักภาพที่เห็นคือเหมือนร่างกายเจ้าของตำหนักทนไม่ไหวกับการทำงานหนักติดๆกันทุกวันจนต้องเอนหลังพิงไปกับเก้าอี้และผล็อยหลับไป  ซึ่งภาพที่เห็นทำให้รติมาไม่ต้องคิดอะไรให้มาก เดินออกไปจากห้องพักตนเองพร้อมผ้าห่มผืนบาง
              ติมาพยายามทำเสียงให้เบาที่สุด เพื่อไม่ให้คนที่หลับสนิทอยู่รู้สึกตัว กว่าจะค่อยๆห่มผ้าให้คนตรงหน้าได้สำเร็จถึงกับถอนใจออกมา เพราะอยากที่จะให้ชายหนุ่มได้พักผ่อนบ้างไม่อย่างนั้นร่างกายจะไม่ไหวเอง โดยหลังจากที่ห่มผ้าให้เรียบร้อยก็หันหลังเตรียมตัวเข้าห้องไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น 
              คนที่นอนหลับแต่ตื่นตอนที่มีคนมาห่มผ้าให้ด้วยความอยากแกล้งคนที่เข้ามาเงียบๆ เลยดึงข้อมือรติมาเพื่อให้หันมาคุยกันก่อน แต่ด้วยความที่รติมาไม่ทันได้ตั้งตัว และเดินแบบไม่เต็มเท้าเพราะเท้าก็ยังไม่หายดี แถมยังพยายามเดินให้เกิดเสียงเบาที่สุด เมื่อโดนดึงข้อมือจากด้านหลังทำให้ทรงตัวไม่อยู่ ทำให้ล้มไปบนตักของคนขี้แกล้ง
    ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งสองคนชะงักไป รติมาหันกลับมาเหมือนจะต่อว่า แต่เมื่อได้สบตากับดวงตาที่ปกติดุจัด แต่ตอนนี้มีประกายบางอย่างที่ไม่อยากสบตานานนัก รวมทั้งกลิ่นกายสะอาดเหมือนกลิ่นแดดที่ไม่เคยได้กลิ่นจากใครมาก่อน ทำให้ความคิดว่าจัดการกับสถานการณ์แบบนี้หายไปอย่างสมบูรณ์แบบ
              ทางด้านองค์ชายนรินก็ไม่ได้คิดที่จะล่วงเกินหญิงสาวที่แอบเข้ามาเงียบๆ แต่พอได้สบตาของคนที่เหมือนสติหลุดไปแล้ว ได้แต่หัวเราะอยู่ในใจ คนที่กล้าขนาดนอนเตียงเดียวกันมาแล้ว แต่พอเจอความใกล้ชิดแค่นี้ถึงกับสติหลุดไปเลยแฮะ ประกายตาที่ลึกล้ำมากยิ่งขึ้นพร้อมกับดวงตาที่เหมือนจะยิ้มได้ทำให้รติมารู้สึกตัวว่าท่านั่งแบบนี้มันไม่เหมาะสม เลยรีบบอกเจ้าของตักที่ยอมอุทิศให้นั่งอย่างละล่ำละลักว่า
              "ปล่อยหม่อมชั้นนะเพคะ" รติมาพยายามจะลุกขึ้น แต่ติดมือแกร่งที่จับยึดข้อมือไว้ ทำให้จะลุกก็ลุกลำบาก
              "ทำไมล่ะ จริงๆแล้วเราไปไกลกันกว่านี้มากแล้วนะรติมา" น้ำเสียงยั่วแหย่ทำให้รติมาเถียงไม่ออก ก็จะบอกได้ยังไงกันเล่าว่าที่เกิดขึ้นตอนนั้นน่ะไม่มีอะไรทั้งสิ้น คนตัวเล็กกว่าที่ไม่เอ่ยคำใดตอบโต้ผิดวิสัยคนกล้า ทำให้องค์นรินยิ่งรู้สึกอยากแกล้ง
              "แถมตอนนั้นเธอยังเริ่มก่อนด้วยนะ" คำพูดที่ตามมาทำให้รติมาถึงกับหน้าแดงกับคำพูดที่สื่อถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้ต้องรีบเถียงกลับไป
              "ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย หม่อมชั้นไม่ได้เริ่มนะ" รติมาเถียงออกมาเสียงดัง โอ๊ยย อยากจะบ้าา ใครเค้าจะไปเริ่มก่อนกันล่ะ รติมาได้แต่คิดอย่างขัดเคือง
              "ถ้าอย่างนั้นชั้นก็เป็นคนเริ่มสินะ" องค์ชายนรินพูดพลางทำหน้าครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น วันที่รติมาไม่อยากจะให้องค์ชายหนุ่มคิดถึงเลยจริงๆ 
              หน้าตาที่เหมือนอยากจะเถียงแต่ไม่รู้ว่าจะเถียงยังไงของหญิงสาวร่างบาง และทำหน้าเหมือนกำลังคิดหาทางออกอย่างเร็วจี๋ ทำให้องค์ชายนรินระเบิดหัวเราะออกมาอย่างไม่สามารถทำหน้าจริงจังแกล้งหญิงสาวตรงหน้าได้อีกต่อไป 
              รติมาที่รู้ตัวว่าถูกแกล้งไม่รู้จะจัดการคนตรงหน้ายังไงดี ทางเดียวที่คิดได้คือทุบคนตรงหน้าอย่างขัดเคืองที่ทำให้ได้อาย
              "โอ๊ย เดี๋ยวๆๆ ใจเย็นก่อน แกล้งเล่นแค่นี้ถึงกับต้องมาทำร้ายกันแบบนี้เลยหรอ รู้ว่าเขิน อย่าทุบผมแก้เขินสิ" องค์ชายนรินปัดป้องพอไม่ให้ทุบโดยตรงๆเท่านั้น
              รติมาไม่ยอมหยุดตามที่คนตรงหน้าพยายามจับมือไว้อีกครั้ง ได้แต่ทุบคนตรงหน้าให้หายโมโห
              "ผมรู้แล้วว่าเธอเขิน อย่าทุบผมเลยนะ ผมไม่แกล้งแล้ว" องค์ชายหนุ่มกระซิบข้างหู พระพักตร์ฝ่ายตรงข้ามที่ยืนเข้ามาใกล้ทำให้รติมาเพิ่งรู้สึกตัวว่าจากที่จับแค่ข้อมือตอนแรก กลายเป็นเกือบจะกอดเธอไว้ทั้งตัว เลยรีบผลักเจ้าของตักที่ให้นั่ง พร้อมกับรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
              "อย่ารีบลุกสิ แผลก็ยังไม่หายดีเลย" องค์ชายนรินประคองรติมาลุกขึ้นอย่างนุ่มนวล พร้อมกับพูดเตือนกลัวหญิงสาวตรงหน้าจะได้แผลอีก
              เพราะใครกันล่ะ รติมามองคนพูดพูดตาขุ่น แต่ไม่รู้จะเถียงยังไงแล้ว เพราะความคิดอ่านเมื่อเจอแววตาที่มองมาอย่างเอื้อเอ็นดูแบบนี้ทำให้เถียงต่อไม่ถูกจริงๆ ได้แต่รีบถวายความเคารพแล้วรีบเดินกลับเข้าไปในห้อง พร้อมกับล็อกประตูอย่างแน่หนา
              องค์ชายนรินมองตามหญิงสาวหญิงสาวที่รีบเดินกลับเข้าไปในห้องด้วยความรู้สึกแบบเดิมที่กลับมาอีกครั้ง ทำไมถึงได้รู้สึกว่าผู้หญิงที่พยายามแสดงว่าไม่รู้สึกอะไร แต่หน้าแดงก่ำพร้อมกับเดินแบบแทบจะวิ่งกลับห้องไปถึงได้น่ารักขึ้นเรื่อยๆกันนะ
    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ตอนนี้ช้าหน่อยขอโทษด้วยค่า อัพทีเดียว 2 ตอนรวดเลย 
    ช่วงนี้ไรท์เตอร์ยุ่งมากๆเลยค่า เจอกันอีกทีสัปดาห์หน้านะคะ ^^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×