ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : เด็กเกเรที่ขี้บ่น
งานหนัก เหมาะที่จะเป็นคำจำกัดความของชีวิตตอนนี้ของรติมามากที่สุด ตั้งแต่ที่องค์ชายนรินบอกว่าจะให้มาช่วยงาน ก็นึกว่าเป็นงานเอกสารทั่วๆไป แต่ที่ไหนได้ นี่เหมือนกับโยนงานทั้งหมดที่เข้ามาให้ช่วยดู งานเอกสารกองใหญ่ที่แค่เห็นก็เริ่มท้อแล้ว รติมาคิดในใจพลางบ่นขมุบขมิบกับตัวเองเบาๆ
องค์ชายนรินหันมาเห็นหญิงสาวนั่งทำงานไปแล้วบ่นกับตัวเองไปเรื่อยๆ ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ แล้วหญิงสาวตรงหน้าพอได้ยินเสียงหัวเราะก็มองขึ้นมาตาขุ่น
"องค์ชายหัวเราะอะไรเพคะ นี่หม่อมชั้นยังเป็นคนป่วยอยู่นะคะ ทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่ได้หยุดพักเลย ทำไมงานมันมากมายอย่างนี้นะ"
ขณะที่พูดรติมาก็จัดเรียงเอกสารไปด้วย ทำให้องค์ชายนรินพยายามที่จะหยุดหัวเราะไว้แล้วตอบกลับไปว่า
"ก็ชั้นบอกแล้วว่าให้มาช่วยงาน งานของชั้นมันก็เยอะเท่านี้แหละ ทำไม เธอคิดว่าองค์ชายอย่างชั้นจะไม่ทำงาน แล้วแค่ไปปรากฏตัวตามงานสังคมรึยังไง"
"แต่หม่อมชั้นก็ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้นี่นา"
องค์ชายนรินได้แต่มองคนตรงหน้าที่บ่นไปเรื่อย ปกติก็ดูเป็นคนเงียบๆ บ่นขนาดนี้สงสัยจะเริ่มเหนื่อยแล้ว ถ้าอย่างนั้น
"ชั้นบอกรวิธให้ไปเอาขนมมาจากตึกใหญ่แล้ว รู้สึกว่าวันนี้นมจะลงครัวเองเลย เดี๋ยวก็คงมาแล้วล่ะ แล้วเราค่อยพักก็แล้วกันนะ"
คำว่าขนมฝีมือคุณนมเหมือนยาวิเศษเรียกรอยยิ้มให้กับคนตรงหน้า เพราะจากที่บ่นหงุงหงิงๆ กลายเป็นรอยยิ้มที่ส่งมาให้แทน
"ขนมฝีมือคุณนมนี่อร่อยจริงๆนะคะ หม่อมชั้นไม่เคยได้กินขนมอร่อยเท่านี้มาก่อนเลย นี่ก็ได้มาหลายสูตรแล้ว แต่เคยลองทำก็ยังไม่อรอ่ยเท่าที่คุณนมทำซักที นี่ก็กำลังคิดว่าจะไปอ้อนขอมากินเติมพลังหน่อย ถ้ามีขนมของคุณนมแล้วล่ะก็ต่อให้งานเยอะขนาดไหนก็ไม่หวั่น"
รติมาพูดด้วยความกระตืนรือร้น แต่พอมองไปที่องค์ชายนริน คำพูดประโยคท้ายๆก็ค่อยๆเบาลง ก็ไม่เคยเห็นสายตาที่มองมาแบบยิ้มๆเลยซักครั้ง ปกติเจอทีไรก็ทำหน้าดุตลอด พอเจอสายตาแบบนี้เข้า ทำให้รู้สึกแปลกๆ
ท่าทางทำตัวไม่ถูกของรติมา ทำให้ชายหนุ่มมองคนตรงหน้าแบบไม่ละสายตาเพิ่มขึ้นไปอีก แต่ก่อนที่องค์ชายนรินจะพูดอะไรออกมา คุณนมก็ยกถามขนมเข้ามาในห้องพอดี
"มาแล้วคะ ขนมเพิ่งเสร็จออกจากเตาร้อนๆเลยนะคะ องค์ชายนริน กับคุณหนูรติมามาทานกันก่อนนะคะ แล้วค่อยทำงานต่อ"
เสียงของคุณนมทำให้รติมารีบลุก แล้วจะเดินไปหาเพราะอยากเดินหนีจากสายตาของชายหนุ่มที่มองตามมา แต่ด้วยความรีบผสมกับลืมไปว่าตัวเองเจ็บแผลอยู่ทำให้ไม่ได้ระวัง รีบลุกจากเก้าอี้แล้วลงน้ำหนักเท้าที่เจ็บ ความเจ็บที่เกิดขึ้นทำให้เผลออุทานออกมา และยั้งตัวไว้ไม่อยู่ล้มลงไปกับพื้นอีกรอบ
ในความตกใจ คนที่ไวที่สุดคือองค์ชายนริน ที่เข้าไปช่วยรติมาเป็นคนแรก
"เธอนี่ แค่ลุกจากเก้าอี้แค่นี้ยังไม่ระวัง ไหน เป็นยังไงบ้าง ลุกไหวมั้ย"
คนที่ตอนแรกเหมือนจะยิ้มอารมณ์ดี ตอนนี้กลับมาดุอีกรอบ ทำให้รติมาที่ตอนนี้อยู่ในอาการตกใจตอบไม่ถูก
แล้วเหมือนกับว่าหญิงสาวที่นั่งอยู่ที่พื้นตอบไม่ทันใจคนใจร้อน ทำให้องค์ชายนรินเลยตัดสินใจอุ้มรติมาขึ้นมาจากพื้น เพราะเห็นหน้าตาของหญิงสาวที่เหมือนจะซีดลงเพราะเจ็บแผล จากทั้งแผลเก่าและแผลที่ล้มลงไปเพิ่ม
ส่วนรติมาที่ถูกอุ้มไปแล้วได้แต่มองหน้าคนอุ้มอย่างไม่เชื่อสายตา และก่อนที่รติมาจะโวยวายให้วางตนเองลง องค์ชายนรินก็ชิงพูดมาก่อน
"นมครับ ผมวานนมช่วยตามหมอให้ผมที ลงน้ำหนักขนาดนี้แผลน่าจะเปิด อีกอย่างที่ล้มไปก็ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง แล้วเดี๋ยวผมพารติมาไปพักที่ห้องเอง"
คุณนมได้แต่มององค์ชายนรินเดินอุ้มรติมาเข้าไปพักในห้องด้วยยังตกใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าตนเองตกใจที่รติมาได้แผลเพิ่ม หรือตกใจที่เห็นภาพองค์ชายนรินอุ้มผู้หญิงกันแน่..
ทางด้านองค์ชายนรินอุ้มรติมาเข้ามาให้ห้องพัก วางหญิงสาวลงบนเตียงแบบไม่ให้กระเทือนแผล ก่อนที่จะเริ่ม...บ่น
"เธอนี่นะ ขนาดอยู่แค่ในห้องแล้ว ยังหาเรื่องเจ็บตัวให้ตัวเองอยู่ได้ แล้วนี่แผลจะเปิดมากขนาดไหนก็ไม่รู้ อย่างนี้ก็หายช้ากันพอดี แล้วเข่าที่กระแทกพื้นน่ะ เจ็บมั้ย เป็นยังไงบ้าง นี่ ทำไม่เธอไม่พูดอะไรบ้างเลยล่ะ"
รติมาที่นั่งมองคนตรงหน้าบ่น จากที่เจ็บแผลผสมกับอาการตกใจ อดไม่ได้จริงๆที่จะส่งยิ้มที่ดูสดใสและจริงใจให้ชายหนุ่มที่ยืนบ่นอยู่ตรงหน้า
องค์ชายหนุ่มที่กำลังพูดพอเห็นรอยยิ้มของร่างบางตรงหน้าที่ส่งมาให้อีกครั้ง ทำให้เพิ่งรู้สึกตัว จึงรีบพยายามทำหน้าให้เป็นปกติที่สุด แต่หญิงสาวตรงหน้าก็ยังไม่หยุดยิ้มให้ ทำให้เป็นครั้งแรกที่องค์ชายนรินเป็นฝ่ายหลบสายตาก่อน
"ขอบพระทัยเพคะ ที่เป็นห่วงหม่อมชั้น เจ็บแผลบ้าง แต่ไม่น่าจะเป็นอะไรมากเพคะ"
"ผมไม่ได้เป็นห่วง แล้วไม่ต้องมายิ้มเลย ถ้าแผลเปิดขึ้นมาจริงๆ ต้องทำแผลใหม่อีกรอบนะ" องค์ชายนรินพยายามเอาเรื่องแผลที่หญิงสาวกลัวมาขู่ให้รติมากลัวบ้าง
เหมือนเด็กเกเร เถียงสู้ไม่ได้ก็จะแกล้ง แต่ความห่วงใยที่ส่งมาให้เป็นของจริง ทำให้รติมาไม่ได้เอ่ยเถียงอะไรออกไปเหมือนเวลาปกติ ได้แต่นั่งมองหน้าคนที่ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้โต๊ะทำงานพลางกลับมาทำหน้าดุอีกรอบระหว่างรอคุณหมอมาตรวจแผลอีกครั้ง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น