คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : chapter 6 : เพื่อน // คนรัก
- ขอโทษคะที่มาอัพช้าพอดี เกิดเป็นโรคไข้หวัดใหญ่อญุ่โรงพยาบาลเลยพิมพ์ไม่ได้ พอกลับจากโรงพยาบาล คอมฯก็เสียและปัจจัยอีกหลายปราการ แต่ ตอนนี้มาอัพให้แล้วนะคะ -
Chapter 6 : เพื่อน // คนรัก
"อะ !.... แล้วพวกคาเรลล่าละ โถ~......นี่เราเผลอทิ้งพวกคาเรลล่าไว้ที่โรงเรียนหรอเนี่ย.....ยัยเฟมีลเอ้ย" เฟมีลร้องขึ้นเมื่อเธอพึ่งจะนึกขึ้นมาได้
และว่าตัวเองอีกว่า "นี่เราเป็นเจ้าบ้านภาษาอะไรเนี่ย ลืมเพื่อนได้ลงคอ" และกำลังจะเดินออกไปข้างนอกเพื่อไปเช่าบอลล์คาร์ จะได้ไปรับพวกคาเรลล่าที่โรงเรียน
.....แต่ก่อนที่เฟมีลจะเดินออกจากคฤหาสน์ไปเช่าบอลล์คาร์ ที่กะจะไปรับพวกคาเรลล่ากลับมาที่คฤหาสน์ก็ต้อง ชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวข้ามประตูคฤหาสน์ออกไปนั้น
"ไม่ต้องไปรับอีกรอบถึงที่โรงเรียนหรอก เฟมีล เรากลับมารอเธอที่คฤหาสน์ก่อนแล้วละจ๊ะ" คาเรลพูดเมื่อเดินเข้ามา ตามด้วยคนอื่นๆที่เดินตามเข้ามาทางด้านหลัง
"อ้าว!....คาเรล แล้วนี้พวกเธอกลับมากันได้ยังไงกันละเนี่ย" เฟมีลถาม พวกคาเรลล่าด้วยความสงสัยงงงวยอย่างมาก ด้วยการมีแอ็คชั่นเสริม เอียงคอเล็กน้อยน่ารักๆ
"ยัย เฟมีลเอ้ย! เธอนี่เอ๋อจริงๆ นี่เธอลืมรึเปล่าว่า คุณป้าเฟย์เอาเงินมาให้พวกเราพกติดตัวคนหนึ่งนะวันละ 1000 นีโล เชียวนะ
ถึงจะเกรงใจเพราะเห็นว่ามันเยอะไปก็ตามเถอะ......อ้อ! แถมป้าเฟย์เขายังอธิบายเกี่ยวกับการใช้เรียบร้อยแล้วละ" นาตาชาบอกกับเฟมีล
"เออ...เนอะลืมไป ขอโทษด้วยนะ" เฟมีลกล่าวขอโทษ
"ไม่เป็นไรหรอกน่า....แค่นี้เองน่า" คาเรลบอกอย่างเป็นกันเอง
"นั้นสิคนเราก็ลืมกันได้ ไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยผิดพลาดนะ" ก่อนจะตกท้ายด้วยยอนาสตาเซีย
/ บางท่านอาจสงสัยว่าทำไม พวกผู้ชายถึงมีบทน้อยจังอะ ??? \
/ ก็ขอตอบว่า พวกผู้ชายยกหน้าที่ในการเปิดปากให้ฝ่ายหญิง \
/ และก็ต้องถามอีกว่า แล้วพวกผู้ชายต้องทำอะไรละ ??? \
/ ก็ขอตอบ(อีกครั้ง)ว่า พวกผู้ชายมีหน้าที่ใช้กำลังกับสมองวางแผนที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลของเจ้าชายแห่งอาณาจักรอานาธีเซียซะส่วนใหญ่อะนะ \
ทุกคนเลยพากันเดินมาที่ห้องสมุดเพื่อที่จะมาเม้าส์กระจายจนเป็นดาวกระจายสดใสมาประดับไว้ในห้องสมุด ที่สมควรเงียบสงบมากกว่าที่จะมีเสียงพูดคุยกันอย่างงี้
พวกผู้หญิงก็คุยสัพเพเหระ ส่วนพวกผ้ชายก็คุยเรื่อง การแสดงที่คิดและออกแบบเสร็จแล้วจะต้องเพิ่มอะไรอีกหรือเปล่าและต่างๆนาๆ.......
จนประทั่งพวกผู้ชายที่รวมหัวคิดกันเอาเลยเองว่า เวลานั้นได้ล่วงเลยมานานแสนนานมากแล้ว ก็เลยจัดการ ส่งเรย์ไปเป็นตัวแทนเจรจากับฝ่ายหญิง เนื่องจากการคุยกันทางสายตาที่บอกให้เขาเป็นคนที่ต้องกล่าว
เหตุผล108 หรือ ข้ออ้าง108 นั้นก็คือ เรย์ได้คะแนนวิชา เจรจา ตั้ง A+ และได้ที่หนึ่งของสายชั้นเรียน หรือ อันดับหนึ่งของทุกหอสำหรับปีเดียวกัน
ซึ่งสามารถเรียกความสนใจจากใครหลายๆคนในนั้นที่นั่งเม้าส์กันไม่ลืมหูลืมตากันในห้องสมุดได้ไม่ยากเย็นซักเท่าไรนัก
เนื่องจากคนพูดน้อยที่กลัวดอกพิกุลล่วงจากปาก เกิดอยากเปิดปากพูดขึ้นมาปากพูดขึ้นมากระทันหัน
เหล่าหญิงสาวแรกรุ่นผู้(ไม่)ด้อยประสบการณ์ จึงพร้อมใจกันให้ความสนใจกันอย่างออกนอกหน้า ด้วยคำเดียวกันว่าเห็นด้วย
"เอ่อ นี่ก็เย็นแล้วนี่เนอะ ถ้าอย่างงั้นก็ไปที่ห้องอาหารกันเถอะนะ" เฟมีล
บอกก่อนที่เจ้าตัวจะเดินจ้ำอ้าวไปที่ห้องอาหารในทันที
เรื่องกินขอให้บอกเฟมีลคนนี้ไม่พลาดแน่นอนอยู่แล้ว ก่อนจะตามด้วยชาวอานาธีเซียทุกคนที่มาเป็นคู่ๆกัน อย่างมีระเบียบและวินัยอย่างสูงส่ง
**********
ณ ห้องอาหาร ของ คฤหาสน์ ไดเอนแพนไทร์
เมื่อทุกคนเข้ามาในห้อง ตามช่วงโต๊ะอาหารมีอาหารหลากหลายถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ทำให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น โซไฮมากยิ่งขึ้น และในสายตาทุกคน อาหารนั้นชั่งน่ารับประทานเสียนี่ แต่ก็น่ารับประทานทุกวันอยู่แล้ว
ทุกคนรีบมานั่งที่และทานอาหารพร้อมกันอย่างรวดเร็วดังสายฟ้าแร๊บ ก่อนจะไปห้องสมุดและเรื่ม 'ทำสงครามรับฝีปาก' อย่างหนักหนาสากันเลยทีเดียว
จนกระทั่ง..........
"นี่.....จะนอนได้แล้วละมั้ง นี่ก็ปาเข้าไป 21.30 น. แล้วนะ" เฟมีลบอกกับเพื่อนๆที่อยู่ในห้องทั้งหมด
"นั้นสิ...งั้นสาวๆเราไปกันก่อนเลยละกันเนอะ" นาตาชาบอก พร้อมกวักมือเรียกอีกสี่สาวที่เหลือให้ไหลตามน้ำมาด้วยกัน
"ใช่ ไปกันเถอะ ง่วงแล้วด้วย" คาเรลบอกพร้อม .แอคชั่น. เป็นการเสริม นั้นคือการยกมือปิดปากหาวและทำตาปรือๆ เหมือนคนอยากนอนเต็มที่
"เอาละงั้นก็ขึ้นไปข้างบนกันเถอะนะ" เฟมีลบอก
พวกคุณเธอก็เดินขึ้นไปบนห้องเพื่องีบหลับทันที แต่ไม่ลืมทำธุระส่วนตัว ก่อนที่พวกผู้ชายจะเดินรั้งท้ายขึ้นตามไป
พวกสาวๆ หรือ ห้าสาว ได้แก่ - เฟมีล คาเรล สเตฟานี นาตาชา อนาสตาเซีย
พวกผู้ชาย ได้แก่ - เรย์ (เรยานอส) มาเคซัส โซราเวส คารอส
**********
- เช้าวันรุ่งขึ้น -
เช้าวันนี้ดูจะมืดอยู่อละมีเมฆที่มีสีครึ้มๆเหมือนฝนจะตกแต่ก็รู้กันดี อากาศที่โซนมีแต่ท้องฟ้ากระจ่างใส
จึงไม่ค่อยให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมต่างๆมากเท่าไรนัก แต่ก็ยังเหลือพื้นที่ที่มีแสงสว่างส่องผ่านมาได้
ซักพักประตูระเบียงของห้องห้องหนึ่งที่อยู่ฝั่งของชาวอานาธีเซีก็ถูกเปิดออกกว้าง
ก่อนที่ร่างบางของใครคนหนึ่ง ที่สวมใส่ชุดกระโปรงสีม่วงอ่อน ยาวคลุมเข่า มีโบเล็กๆตรงกลางอก และ ลิบบิ้นยาวม้วยยาวลากรอบไหล่
และด้วยอากาศในตอนเช้าที่เย็นๆ เธอจึงสวมผ้าคลุมสีม่วงอ่อนเหมือนกับชุดกระโปรงที่เธอได้ใส่
และรวบผมขึ้นเป็นทรงหางม้า พร้อมผูกด้วยโบสีม่วงที่เข้ากันกับชุดที่เธอสวมใส่เช่นกัน
เธอคนนั้นมีนามว่า ' คาเรลล่า ธาทีเอเนีย ' เธอเดินออกมาชมดวงตะวันที่พึ่งขึ้นมาจากริมขอบฟ้า
ในขณะที่เธอกำลังอินกับบรรยากาศยามเช้า....ก็จะต้องมีเหล่าตัว 'กขค' มาขัดขวางเกือบทุกๆครั้ง
"แหม.......ใส่เสื้อไม่ให้กับสถานที่ซะเลยนะ" โซราเวสพูดน่าตบมาก
"ใช่ นี่เวลาเลือกเสื้อผ้าเอาให้มันเข้ากับบรรยากาศหน่อยสิ ใช้อะไรคิดเนี่ยรู้ไหม..." มาเคซัสพูดยังไม่จบ
ทิ้งไว้ซักพักก่อนจะพูดพร้อมกับโซราเวสว่า "ว่ามันขัดหูขัดตาเข้าใจ้!"
น้ำเสียงที่บอกได้อย่างดีว่า 'ต้องการที่จะมากวน' ส่วนคาเรลที่ยืนนิ่งเป็นหุ่น ก็หันกลับมา พร้อมยิ้มหวาน เคลือบยาพิษสูตรต้นตำหรับแท้ๆ // ในความคิดของสามสาว
[ทุกคนตื่นกันหมดแล้วตั้งแต่ตอนที่โซราเวสพูดนั้นแหละทุกคน ยกเว้นเรย์ ก็พร้อมใจกันออกมา ทั้งช่วยและเสริมแอนด์ฟังเพื่อความสำราญใจ]
"งั้นหรอจ๊ะ.......นี่ถามหน่อยที่พูดนี่เป็นห่วงหรือไม่พอใจหรือไงจ๊ะ อ้อ! รู้แล้วพวกนายคงเป็นพวก 'อสมท' นี่เองสินะสินะ ถึงได้มัวแต่ เ + สื + อ + ก เรื่องชาวบ้านอยู่น่าน......" คาเรลถาม ......แต่ก็เจ็บซี้ด! อยู่
* อสมท = องค์กรเสือกไม่เลือกที่
"คารอส! นี่! นายสั่งสอนน้องสาวสุดที่รักของนายยังไงกันเนี่ย น้องนายถึงได้เป็นแบบนี้ ??? ผู้หญิงเนี่ยมันต้องน่ารัก พูดจาอ่อนหวาน มารยาทงาม นี่อะไร้..... พูดจาจิกกัด ถึก แล้วผู้หญิงที่ไหนกันเล่นอะไรผาดโผน" โซราเวสบอกคารอส
"ก็ เพราะ พวกนายไม่ใช่เหรอไงกันเล่า ที่ทำให้คาเรลต้องพูดอย่างนั้น" คารอสตะโกนไป ทั้งที่อยากด่าว่า เ+ฮี้+ย เลยด้วยซ้ำไป
แต่....ถ้าไม่โดน ท่านหญิงที่สามแห่งเลดีเอเนอ ปรามละก็คงปีนกำแพงไปจัดการพวกปากเสีย ซะแล้ว....ฮึ ฮึ ฮึ
/ ข้อความจาก สเตฟานี กล่าวว่า ' บางท่านอาจสงสัยว่า ทั้งที่อยู่คนละห้องทำไมปรามได้ คำตอบนั้นคือ ถึงอยู่คนละห้องแต่การปรามทางสายตาได้ผลเสมอคะ'/
แต่ได้คำตอบรับจากไอ้ปราญช์งี่เง่าว่า "ไม่ใช่ว่า ไอ้สิ่งที่กำลังทำอยู่เนี่ยน้า มันเป็นของดั่งเดิมหรอไง"
"เอ..อย่างนี้มันก็น่าสงสารเรย์เหลือเกิน ที่ต้องมาทนกับยัยผู้หญิงแต่ตัว แต่ใจไม่หญิงซักนิด" โซราเวสก็ต่อบทได้หน้าตายมากๆ
เอ้า! เมื่อชื่อของคนที่กระทบถูกผ่านทางปากของสององครักษ์มาตามที่ได้ยินชื่อในทันทีทันใด
แต่......ที่อกมาก็ไม่มีทีท่าว่าจะว่าอะไร เพียงแค่ออกมาบอกว่า "นี่....เตรียมตัวลงไปกินข้าวได้แล้ว" ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องของตัวไป
คำถามที่ผุดขึ้นมาในใจทุกคนอย่างพร้อมเพรียงกันว่า "มาเพื่อพูดแค่นี้แล้วจะมาทำไม ???" ก่อนจะทำตามคำสั่งขององค์รัซทายาท ด้วยการไปเตรียมตัวเพื่อที่จะไปรับประทานอาหารกัน
**********
เมื่อทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องอาหารและรับประทานอาหารอย่างสำราญใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วันนี้พวกเขาก็ต้องไปโรงเรียนอีกเช่นกัน เพื่อซ้อมการแสดงและเตรียมอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
เมื่อพวกเขาซ้อมเสร็จก็เย็นแล้วทุกคนมาถึง 'คฤหาสน์ไดเอนแพนไทร์' เป็นที่เรียบร้อย
ทุกคนตรงดิ่งไปห้องอาหารด้วยความเร็วเหนือแสง และนั่งประจำที่กันอย่างพร้อมเพรียง
ก่อนจะรับประทานอาหารด้วยความหิวโหย แต่....ไม่ลืมมารยาทในการรับประทานอาหารแน่นอน
และด้วยความเหนื่อยที่สั่งสมมาทำให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนกันตั้งแต่ หัวค่ำ
**********
- กลางดึกของวันนั้น -
ดั่งเช่นทุกวัน ตอนกลางดึกของทุกคืน มอรีลก็เดินออกมาดูแลและลดน้ำต้นไม้ให้กับ ต้นแสงจันทร์ ของเธอ
ในขณะที่ตัวเขาลอยมาอยู่ข้างหลังของมอรีลอย่างเงียบๆ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆและกระซิบที่ข้างหู
"ต้นแสงจันทร์ ไม่ได้เห็นหน้ากันานเลย" ตาสายลม ตามคำเรียกของมอรีล เปรยขึ้นมาเบาๆ
แต่มอรีลก็ทำเหมือนกับว่า เขาไม่ได้อยู่ตรงนั้น เซอรัสเริ่มหมั่นไส้ ก่อนจะได้ไอเดียดีๆ
เซอรัสใช้สายลมพัดให้ตัวเองลอยขึ้นไปอยู่ใกล้ๆรั่วบ้าน ก่อนจะใช้สายลมหอบมอรีลให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขา ก่อนจะเล่นด้วยการทำท่าจะปล่อยมอรีลลงจากที่สูง
ทำเอามอรีลที่ ที่กลัวความสูงเป็นทุน ทำตามสัญชาตญาณ โอบแขนเข้าคล้องคอชายหนุ่มตรงหน้า
และตะโกนไปว่า "ตาสายลมขี้แกล้งพอแล้ว ปลอยซักที" ถึงเซอรัสจะทำตามแต่ก็แค่อย่างเดียว
แต่มอรีลก็ยังอยู่ในอ้อมแขนของเขา ก่อนจะเชยคางเพื่อจะได้มองหน้าแดงๆได้ชัดๆ
แต่เจ้าตัวเขาไม่ให้ความร่วมมือเลย แถมยังหันหน้าหนีเขาอีก ทำให้เขาต้องาม "เป็นอะไรนะ ต้นแสงจัทร์ โกรธหรอ"
เงียบ......ไม่มีสัญณาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก ตู๊ดตู๊ด!!
"ต้นแสงจันทร์ ถ้าไม่บอกจะทำอย่างอื่นให้เธอบอกให้ได้นะ" เซอรัสบอก แต่มอรีลก็นิ่ง เพราะคิดว่าเขาไม่มีทางทำแน่ !
แต่.....เซอรัสก็ทำจริง และเริ่มกลั่นแกล้งด้วยการ ไล่จมูกโด่งลงกับแก้มนวลทั้งสองข้างของมอรีล
ทำให้มอรีลหน้าแดง "ตาบ้าพอได้แล้ว หยุดนะ บอกก็ได้" เมื่อมอรีลบอกเช่นนั้น เพราะกลัวว่า ตาสายลมจะได้ใจมากเกินไป
เซอรัสที่กำลังสนุกกับการกลั่นแกล้งให้ต้นแสงจันทร์ของเขาหน้าแดงได้ ก็หยุดการกระทำทุกอย่าง และรอฟังคำตอบจากปากเจ้าตัวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา
"ก็ฉันไม่ได้โกรธ....แค่หมั่นไส้ใครบางคนที่ไปโปรยเสน่ห์เขาไปทั่ว" มอรีลเอ่ยขึ้น ก่อนจะหันหน้าหนี
**********
- ก่อนหน้านั้นสัปดาห์เศษๆ -
- ตอนที่แยกย้ายกันไปเตรียมหาอุปกรณ์การแสดง -
"นั้น นายเซอรัส นี่ ใช่ไหม???" คำถามที่อยากรู้มากของจาร์
เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ช่วย สาวสวย ถือถุงใส่ของส่วนหนึ่งให้และพูดคุยกันอย่างสนิทสนม
"คงงั้น" มอรีลตอบห้วนๆ
"หึงอะดี้...." จาร์แซะเข้าให้
"เปล่านิ" มอรีลเลือกที่จะตอบแบบขอไปที
มอรีลที่กำลังถูกเพื่อนลุม ก็เลยเดินเข้าไปในร้านๆหนึ่ง เพื่อดูว่าของที่ต้องการมีในร้านนั้นหรือไม่
"เพล้ง!!!!" "โอ๊ย!!!"
เสียงแก้วที่แตกกระจายดังออกมาจากร้านที่มอรีลเดินเข้าไปเมื่อกี้ ก่อนจะตามด้วยเสียงร้องของมอรีลที่ดังออกมาด้วยความเจ็บปวด
เสียงนั้นทำให้ไมค์และจาร์ที่กำลังจะเดินเข้าไปในร้านต้องวิ่งเข้ากะว่าจะไปช่วยมอรีล
แต่พอพวกเขาเข้าไปก็พบว่า......................
05 March 2012
Helena.
เกิดอะไรขึ้นในร้านโปรดติดตามตอนต่อไปที่ว่า
" ขอโทษ [ถึง ต้นแสงจันทร์ของฉัน] "
PS. ขอบคุณที่ติดตามคะ
ความคิดเห็น