ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิค เซวีน่า+อานาธีเซีย

    ลำดับตอนที่ #6 : chapter 6 : เพื่อน // คนรัก

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 56


    Large Rainbow Pointer

    - ขอโทษคะที่มาอัพช้าพอดี เกิดเป็นโรคไข้หวัดใหญ่อญุ่โรงพยาบาลเลยพิมพ์ไม่ได้  พอกลับจากโรงพยาบาล คอมฯก็เสียและปัจจัยอีกหลายปราการ  แต่ ตอนนี้มาอัพให้แล้วนะคะ -     

     

    Chapter  6 : เพื่อน // คนรัก

     

     

    "อะ !.... แล้วพวกคาเรลล่าละ  โถ~......นี่เราเผลอทิ้งพวกคาเรลล่าไว้ที่โรงเรียนหรอเนี่ย.....ยัยเฟมีลเอ้ย" เฟมีลร้องขึ้นเมื่อเธอพึ่งจะนึกขึ้นมาได้

     

    และว่าตัวเองอีกว่า "นี่เราเป็นเจ้าบ้านภาษาอะไรเนี่ย ลืมเพื่อนได้ลงคอ"  และกำลังจะเดินออกไปข้างนอกเพื่อไปเช่าบอลล์คาร์  จะได้ไปรับพวกคาเรลล่าที่โรงเรียน 

     

    .....แต่ก่อนที่เฟมีลจะเดินออกจากคฤหาสน์ไปเช่าบอลล์คาร์   ที่กะจะไปรับพวกคาเรลล่ากลับมาที่คฤหาสน์ก็ต้อง ชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวข้ามประตูคฤหาสน์ออกไปนั้น

     

    "ไม่ต้องไปรับอีกรอบถึงที่โรงเรียนหรอก เฟมีล  เรากลับมารอเธอที่คฤหาสน์ก่อนแล้วละจ๊ะ" คาเรลพูดเมื่อเดินเข้ามา   ตามด้วยคนอื่นๆที่เดินตามเข้ามาทางด้านหลัง

     

              "อ้าว!....คาเรล  แล้วนี้พวกเธอกลับมากันได้ยังไงกันละเนี่ย" เฟมีลถาม พวกคาเรลล่าด้วยความสงสัยงงงวยอย่างมาก  ด้วยการมีแอ็คชั่นเสริม เอียงคอเล็กน้อยน่ารักๆ

     

    "ยัย เฟมีลเอ้ย!  เธอนี่เอ๋อจริงๆ   นี่เธอลืมรึเปล่าว่า คุณป้าเฟย์เอาเงินมาให้พวกเราพกติดตัวคนหนึ่งนะวันละ  1000 นีโล เชียวนะ

     

    ถึงจะเกรงใจเพราะเห็นว่ามันเยอะไปก็ตามเถอะ......อ้อ! แถมป้าเฟย์เขายังอธิบายเกี่ยวกับการใช้เรียบร้อยแล้วละ"  นาตาชาบอกกับเฟมีล

     

    "เออ...เนอะลืมไป ขอโทษด้วยนะ"  เฟมีลกล่าวขอโทษ

     

    "ไม่เป็นไรหรอกน่า....แค่นี้เองน่า" คาเรลบอกอย่างเป็นกันเอง

     

    "นั้นสิคนเราก็ลืมกันได้ ไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยผิดพลาดนะ"  ก่อนจะตกท้ายด้วยยอนาสตาเซีย

     

     

    / บางท่านอาจสงสัยว่าทำไม พวกผู้ชายถึงมีบทน้อยจังอะ ??? \

     

                 / ก็ขอตอบว่า  พวกผู้ชายยกหน้าที่ในการเปิดปากให้ฝ่ายหญิง \

     

                 / และก็ต้องถามอีกว่า แล้วพวกผู้ชายต้องทำอะไรละ ??? \

     

     

    / ก็ขอตอบ(อีกครั้ง)ว่า  พวกผู้ชายมีหน้าที่ใช้กำลังกับสมองวางแผนที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลของเจ้าชายแห่งอาณาจักรอานาธีเซียซะส่วนใหญ่อะนะ  \

     

     

                    ทุกคนเลยพากันเดินมาที่ห้องสมุดเพื่อที่จะมาเม้าส์กระจายจนเป็นดาวกระจายสดใสมาประดับไว้ในห้องสมุด ที่สมควรเงียบสงบมากกว่าที่จะมีเสียงพูดคุยกันอย่างงี้

     

     พวกผู้หญิงก็คุยสัพเพเหระ ส่วนพวกผ้ชายก็คุยเรื่อง การแสดงที่คิดและออกแบบเสร็จแล้วจะต้องเพิ่มอะไรอีกหรือเปล่าและต่างๆนาๆ.......

     

    จนประทั่งพวกผู้ชายที่รวมหัวคิดกันเอาเลยเองว่า เวลานั้นได้ล่วงเลยมานานแสนนานมากแล้ว  ก็เลยจัดการ ส่งเรย์ไปเป็นตัวแทนเจรจากับฝ่ายหญิง  เนื่องจากการคุยกันทางสายตาที่บอกให้เขาเป็นคนที่ต้องกล่าว

     

    เหตุผล108 หรือ ข้ออ้าง108  นั้นก็คือ เรย์ได้คะแนนวิชา เจรจา ตั้ง A+ และได้ที่หนึ่งของสายชั้นเรียน หรือ อันดับหนึ่งของทุกหอสำหรับปีเดียวกัน

      "นี่....ตอนนี้ก็เย็นแล้วนะเราน่าจะไปทานอาหารกันได้แล้วรึยัง" คำถามจากชายหนุ่มที่พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ เพราะถูกบังคับให้มาพูดอย่างนี้ 

     

    ซึ่งสามารถเรียกความสนใจจากใครหลายๆคนในนั้นที่นั่งเม้าส์กันไม่ลืมหูลืมตากันในห้องสมุดได้ไม่ยากเย็นซักเท่าไรนัก

     

    เนื่องจากคนพูดน้อยที่กลัวดอกพิกุลล่วงจากปาก เกิดอยากเปิดปากพูดขึ้นมาปากพูดขึ้นมากระทันหัน

     

    เหล่าหญิงสาวแรกรุ่นผู้(ไม่)ด้อยประสบการณ์   จึงพร้อมใจกันให้ความสนใจกันอย่างออกนอกหน้า ด้วยคำเดียวกันว่าเห็นด้วย 

     

    "เอ่อ นี่ก็เย็นแล้วนี่เนอะ  ถ้าอย่างงั้นก็ไปที่ห้องอาหารกันเถอะนะ" เฟมีล

    บอกก่อนที่เจ้าตัวจะเดินจ้ำอ้าวไปที่ห้องอาหารในทันที 

     

    เรื่องกินขอให้บอกเฟมีลคนนี้ไม่พลาดแน่นอนอยู่แล้ว  ก่อนจะตามด้วยชาวอานาธีเซียทุกคนที่มาเป็นคู่ๆกัน  อย่างมีระเบียบและวินัยอย่างสูงส่ง

     

     

     

    **********
     

    ณ  ห้องอาหาร  ของ   คฤหาสน์  ไดเอนแพนไทร์

     

     

    เมื่อทุกคนเข้ามาในห้อง ตามช่วงโต๊ะอาหารมีอาหารหลากหลายถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ทำให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น โซไฮมากยิ่งขึ้น และในสายตาทุกคน อาหารนั้นชั่งน่ารับประทานเสียนี่ แต่ก็น่ารับประทานทุกวันอยู่แล้ว

     

    ทุกคนรีบมานั่งที่และทานอาหารพร้อมกันอย่างรวดเร็วดังสายฟ้าแร๊บ ก่อนจะไปห้องสมุดและเรื่ม  'ทำสงครามรับฝีปาก' อย่างหนักหนาสากันเลยทีเดียว

     

     

     

    จนกระทั่ง..........

    "นี่.....จะนอนได้แล้วละมั้ง นี่ก็ปาเข้าไป 21.30 น. แล้วนะ" เฟมีลบอกกับเพื่อนๆที่อยู่ในห้องทั้งหมด

     

    "นั้นสิ...งั้นสาวๆเราไปกันก่อนเลยละกันเนอะ" นาตาชาบอก พร้อมกวักมือเรียกอีกสี่สาวที่เหลือให้ไหลตามน้ำมาด้วยกัน

     

    "ใช่ ไปกันเถอะ ง่วงแล้วด้วย" คาเรลบอกพร้อม  .แอคชั่น. เป็นการเสริม นั้นคือการยกมือปิดปากหาวและทำตาปรือๆ เหมือนคนอยากนอนเต็มที่

     

    "เอาละงั้นก็ขึ้นไปข้างบนกันเถอะนะ" เฟมีลบอก

    พวกคุณเธอก็เดินขึ้นไปบนห้องเพื่องีบหลับทันที  แต่ไม่ลืมทำธุระส่วนตัว ก่อนที่พวกผู้ชายจะเดินรั้งท้ายขึ้นตามไป

     

     

     

    พวกสาวๆ หรือ ห้าสาว ได้แก่ - เฟมีล  คาเรล  สเตฟานี  นาตาชา  อนาสตาเซีย

    พวกผู้ชาย ได้แก่ - เรย์ (เรยานอส)  มาเคซัส  โซราเวส  คารอส

     

     

     

    **********

     

     

     

    -   เช้าวันรุ่งขึ้น  -

     

    เช้าวันนี้ดูจะมืดอยู่อละมีเมฆที่มีสีครึ้มๆเหมือนฝนจะตกแต่ก็รู้กันดี อากาศที่โซนมีแต่ท้องฟ้ากระจ่างใส 

     

    จึงไม่ค่อยให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมต่างๆมากเท่าไรนัก  แต่ก็ยังเหลือพื้นที่ที่มีแสงสว่างส่องผ่านมาได้ 

     

    ซักพักประตูระเบียงของห้องห้องหนึ่งที่อยู่ฝั่งของชาวอานาธีเซีก็ถูกเปิดออกกว้าง

     

    ก่อนที่ร่างบางของใครคนหนึ่ง  ที่สวมใส่ชุดกระโปรงสีม่วงอ่อน ยาวคลุมเข่า มีโบเล็กๆตรงกลางอก และ ลิบบิ้นยาวม้วยยาวลากรอบไหล่  

     

    และด้วยอากาศในตอนเช้าที่เย็นๆ เธอจึงสวมผ้าคลุมสีม่วงอ่อนเหมือนกับชุดกระโปรงที่เธอได้ใส่

     

    และรวบผมขึ้นเป็นทรงหางม้า พร้อมผูกด้วยโบสีม่วงที่เข้ากันกับชุดที่เธอสวมใส่เช่นกัน

     

    เธอคนนั้นมีนามว่า ' คาเรลล่า  ธาทีเอเนีย ' เธอเดินออกมาชมดวงตะวันที่พึ่งขึ้นมาจากริมขอบฟ้า

     

     

    ในขณะที่เธอกำลังอินกับบรรยากาศยามเช้า....ก็จะต้องมีเหล่าตัว 'กขค' มาขัดขวางเกือบทุกๆครั้ง

     

     

    "แหม.......ใส่เสื้อไม่ให้กับสถานที่ซะเลยนะ" โซราเวสพูดน่าตบมาก

     

     "ใช่  นี่เวลาเลือกเสื้อผ้าเอาให้มันเข้ากับบรรยากาศหน่อยสิ  ใช้อะไรคิดเนี่ยรู้ไหม..."  มาเคซัสพูดยังไม่จบ

     

     ทิ้งไว้ซักพักก่อนจะพูดพร้อมกับโซราเวสว่า "ว่ามันขัดหูขัดตาเข้าใจ้!" 

     

     

    น้ำเสียงที่บอกได้อย่างดีว่า  'ต้องการที่จะมากวน' ส่วนคาเรลที่ยืนนิ่งเป็นหุ่น  ก็หันกลับมา พร้อมยิ้มหวาน เคลือบยาพิษสูตรต้นตำหรับแท้ๆ // ในความคิดของสามสาว

     

     

     

     [ทุกคนตื่นกันหมดแล้วตั้งแต่ตอนที่โซราเวสพูดนั้นแหละทุกคน ยกเว้นเรย์ ก็พร้อมใจกันออกมา ทั้งช่วยและเสริมแอนด์ฟังเพื่อความสำราญใจ]

     

     

     

    "งั้นหรอจ๊ะ.......นี่ถามหน่อยที่พูดนี่เป็นห่วงหรือไม่พอใจหรือไงจ๊ะ  อ้อรู้แล้วพวกนายคงเป็นพวก 'อสมท' นี่เองสินะสินะ  ถึงได้มัวแต่ เ + สื + อ + ก  เรื่องชาวบ้านอยู่น่าน......"  คาเรลถาม ......แต่ก็เจ็บซี้ด!  อยู่

     

     

    * อสมท = องค์กรเสือกไม่เลือกที่

     

     

     

    "คารอส!  นี่!  นายสั่งสอนน้องสาวสุดที่รักของนายยังไงกันเนี่ย  น้องนายถึงได้เป็นแบบนี้ ???   ผู้หญิงเนี่ยมันต้องน่ารัก พูดจาอ่อนหวาน  มารยาทงาม นี่อะไร้..... พูดจาจิกกัด  ถึก แล้วผู้หญิงที่ไหนกันเล่นอะไรผาดโผน"  โซราเวสบอกคารอส

     

    "ก็  เพราะ พวกนายไม่ใช่เหรอไงกันเล่า  ที่ทำให้คาเรลต้องพูดอย่างนั้น"  คารอสตะโกนไป ทั้งที่อยากด่าว่า  เ+ฮี้+ย  เลยด้วยซ้ำไป

     

    แต่....ถ้าไม่โดน ท่านหญิงที่สามแห่งเลดีเอเนอ ปรามละก็คงปีนกำแพงไปจัดการพวกปากเสีย ซะแล้ว....ฮึ ฮึ ฮึ

     

     

    / ข้อความจาก  สเตฟานี กล่าวว่า  ' บางท่านอาจสงสัยว่า ทั้งที่อยู่คนละห้องทำไมปรามได้   คำตอบนั้นคือ  ถึงอยู่คนละห้องแต่การปรามทางสายตาได้ผลเสมอคะ'/

     

     

     

    แต่ได้คำตอบรับจากไอ้ปราญช์งี่เง่าว่า "ไม่ใช่ว่า ไอ้สิ่งที่กำลังทำอยู่เนี่ยน้า มันเป็นของดั่งเดิมหรอไง"  

     

    "เอ..อย่างนี้มันก็น่าสงสารเรย์เหลือเกิน  ที่ต้องมาทนกับยัยผู้หญิงแต่ตัว  แต่ใจไม่หญิงซักนิด"  โซราเวสก็ต่อบทได้หน้าตายมากๆ

     

     

     

    เอ้าเมื่อชื่อของคนที่กระทบถูกผ่านทางปากของสององครักษ์มาตามที่ได้ยินชื่อในทันทีทันใด

     

    แต่......ที่อกมาก็ไม่มีทีท่าว่าจะว่าอะไร  เพียงแค่ออกมาบอกว่า  "นี่....เตรียมตัวลงไปกินข้าวได้แล้ว"  ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องของตัวไป

     

    คำถามที่ผุดขึ้นมาในใจทุกคนอย่างพร้อมเพรียงกันว่า  "มาเพื่อพูดแค่นี้แล้วจะมาทำไม ???"  ก่อนจะทำตามคำสั่งขององค์รัซทายาท  ด้วยการไปเตรียมตัวเพื่อที่จะไปรับประทานอาหารกัน

     

     

     

    **********

     

     

     

     

    เมื่อทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องอาหารและรับประทานอาหารอย่างสำราญใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

    วันนี้พวกเขาก็ต้องไปโรงเรียนอีกเช่นกัน  เพื่อซ้อมการแสดงและเตรียมอุปกรณ์ให้เรียบร้อย

     

    เมื่อพวกเขาซ้อมเสร็จก็เย็นแล้วทุกคนมาถึง  'คฤหาสน์ไดเอนแพนไทร์เป็นที่เรียบร้อย

     

    ทุกคนตรงดิ่งไปห้องอาหารด้วยความเร็วเหนือแสง  และนั่งประจำที่กันอย่างพร้อมเพรียง

     

    ก่อนจะรับประทานอาหารด้วยความหิวโหย แต่....ไม่ลืมมารยาทในการรับประทานอาหารแน่นอน

     

    และด้วยความเหนื่อยที่สั่งสมมาทำให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนกันตั้งแต่ หัวค่ำ

     

     

     

    **********

     

     

     

    - กลางดึกของวันนั้น -

     

    ดั่งเช่นทุกวัน ตอนกลางดึกของทุกคืน มอรีลก็เดินออกมาดูแลและลดน้ำต้นไม้ให้กับ  ต้นแสงจันทร์  ของเธอ 

     

    ในขณะที่ตัวเขาลอยมาอยู่ข้างหลังของมอรีลอย่างเงียบๆ  ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆและกระซิบที่ข้างหู

     

    "ต้นแสงจันทร์  ไม่ได้เห็นหน้ากันานเลย"  ตาสายลม ตามคำเรียกของมอรีล เปรยขึ้นมาเบาๆ 

     

    แต่มอรีลก็ทำเหมือนกับว่า  เขาไม่ได้อยู่ตรงนั้น  เซอรัสเริ่มหมั่นไส้  ก่อนจะได้ไอเดียดีๆ 

     

    เซอรัสใช้สายลมพัดให้ตัวเองลอยขึ้นไปอยู่ใกล้ๆรั่วบ้าน  ก่อนจะใช้สายลมหอบมอรีลให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขา ก่อนจะเล่นด้วยการทำท่าจะปล่อยมอรีลลงจากที่สูง

     

     ทำเอามอรีลที่ ที่กลัวความสูงเป็นทุน  ทำตามสัญชาตญาณ โอบแขนเข้าคล้องคอชายหนุ่มตรงหน้า

     

    และตะโกนไปว่า  "ตาสายลมขี้แกล้งพอแล้ว  ปลอยซักที" ถึงเซอรัสจะทำตามแต่ก็แค่อย่างเดียว

     

    แต่มอรีลก็ยังอยู่ในอ้อมแขนของเขา  ก่อนจะเชยคางเพื่อจะได้มองหน้าแดงๆได้ชัดๆ

     

    แต่เจ้าตัวเขาไม่ให้ความร่วมมือเลย  แถมยังหันหน้าหนีเขาอีก ทำให้เขาต้องาม "เป็นอะไรนะ ต้นแสงจัทร์  โกรธหรอ"

     

    เงียบ......ไม่มีสัญณาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก  ตู๊ดตู๊ด!!

     

    "ต้นแสงจันทร์   ถ้าไม่บอกจะทำอย่างอื่นให้เธอบอกให้ได้นะ" เซอรัสบอก  แต่มอรีลก็นิ่ง เพราะคิดว่าเขาไม่มีทางทำแน่ !

     

    แต่.....เซอรัสก็ทำจริง   และเริ่มกลั่นแกล้งด้วยการ ไล่จมูกโด่งลงกับแก้มนวลทั้งสองข้างของมอรีล 

     

    ทำให้มอรีลหน้าแดง "ตาบ้าพอได้แล้ว หยุดนะ บอกก็ได้" เมื่อมอรีลบอกเช่นนั้น เพราะกลัวว่า ตาสายลมจะได้ใจมากเกินไป

     

    เซอรัสที่กำลังสนุกกับการกลั่นแกล้งให้ต้นแสงจันทร์ของเขาหน้าแดงได้  ก็หยุดการกระทำทุกอย่าง และรอฟังคำตอบจากปากเจ้าตัวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา

     

    "ก็ฉันไม่ได้โกรธ....แค่หมั่นไส้ใครบางคนที่ไปโปรยเสน่ห์เขาไปทั่ว" มอรีลเอ่ยขึ้น  ก่อนจะหันหน้าหนี

     

     

     

     

    **********

     

     

     -  ก่อนหน้านั้นสัปดาห์เศษๆ  -

     

    -   ตอนที่แยกย้ายกันไปเตรียมหาอุปกรณ์การแสดง  -

     

     

     

    "นั้น นายเซอรัส นี่ ใช่ไหม???"  คำถามที่อยากรู้มากของจาร์ 

                  

    เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ช่วย  สาวสวย  ถือถุงใส่ของส่วนหนึ่งให้และพูดคุยกันอย่างสนิทสนม

     

    "คงงั้น" มอรีลตอบห้วนๆ

     

    "หึงอะดี้...."  จาร์แซะเข้าให้ 

     

    "เปล่านิ" มอรีลเลือกที่จะตอบแบบขอไปที

     

    มอรีลที่กำลังถูกเพื่อนลุม   ก็เลยเดินเข้าไปในร้านๆหนึ่ง เพื่อดูว่าของที่ต้องการมีในร้านนั้นหรือไม่ 

     

    "เพล้ง!!!!"  "โอ๊ย!!!"

    เสียงแก้วที่แตกกระจายดังออกมาจากร้านที่มอรีลเดินเข้าไปเมื่อกี้  ก่อนจะตามด้วยเสียงร้องของมอรีลที่ดังออกมาด้วยความเจ็บปวด

     

    เสียงนั้นทำให้ไมค์และจาร์ที่กำลังจะเดินเข้าไปในร้านต้องวิ่งเข้ากะว่าจะไปช่วยมอรีล

     

    แต่พอพวกเขาเข้าไปก็พบว่า......................

     





    05  March  2012

    Helena.

     

     

     

    เกิดอะไรขึ้นในร้านโปรดติดตามตอนต่อไปที่ว่า

    " ขอโทษ [ถึง  ต้นแสงจันทร์ของฉัน] "

     

    PS. ขอบคุณที่ติดตามคะ

     

     

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×