ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : LESSON2: Tactic
Location:Winchester high school
Date:June 20, 2012
Time:7:41
          “ตายห+อ่า แล้วกู!!!”  อลันตะโกนขึ้นมาพร้อมกับรีบแต่งตัวอย่างเร่งรีบ
          “สายแน่โดนเทศแน่” อลันพูดอย่างกังวลใจ โรงเรียนของเขาเข้มมากเรื่องการมาสาย โดยเฉพาะวันนี้ซึ่งเป็นวันอังคารด้วยแล้ว (ขอย้ำว่าวันที่20เดือนมิถุนายนปี2012เป็นวันอังคารจริงๆ ไม่เชื่อก็เปิดปฏิธินในคอมได้เลย) ยิ่งเข้าไปใหญ่ เพราะวันนี้เป็นเวรของอาจารย์สุดโหด เขารีบวิ่งไปโรงเรียนโดยความเร็วที่ทำได้
          “โอยในที่สุด แทบสิ้น” เขาพูดพลางปาดเหงื่อ แล้วเดินผ่านประตูโรงเรียนเข้าไป ภายในโรงเรียนเงียบๆชอบกล แต่ก็นะตอนนี้มันขึ้นเรียนกันหมดแล้วนิ เขาพูดกับตนเองแล้วก็เดินไปยังห้องเรียนA3
          ตลอดทางที่เดินไปห้องเรียนเขารู้สึกว่า เมื่อเขาเดินไปตามทางมีคนโผล่หัวออกมาจากห้องต่างๆเพื่อดูเขา ซึ่งตลอดเวลาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย
          “อะไรกันนิกูสายขนาดนี้เลยเหรอ” เขาพึมเพาเบาๆ ในที่สุดเขาก็เดินมาถึงห้องของเขา เมื่อเขาเดินเข้าห้องไปเสียงจึงดังระงมขึ้น
          “เฮ้ย! อลันนายทำได้ไงอ่ะ....”
          “ฉันไม่อยากเชื่อนายติดได้ไงนะ...”
          “เอาล่ะพอๆทุกคน มิสเตอร์ไคลน์มากับฉัน” อาจารย์ประจำชั้นของเขานั่นเองที่มาหยุดความโกลาหลไว้ได้
          “มีอะไรครับ” อลันถามเกรงๆ
          “เป็นอะไรที่น่าภูมิใจละกัน” เธอตอบกลับมาพร้อมยิ้มให้เขาน้อยๆ เขาเดินตามอาจารย์ประจำชั้นไปยังโรงยิม
          ที่นั่นเขาพบนักเรียนหญิงคนหนึ่งและนักเรียนสองคน พร้อมกับอาจารย์สองท่าน หนึ่งคืออาจารย์ใหญ่ อีกคนเป็นรองอาจารย์ใหญ่ และก็ยังมีชายชุดดำอีกสามคน
          “เอาละมาครบแล้วๆ” อาจารย์ใหญ่พูดอย่างตื่นเต้น
          “เอาละมาคุยกันเลย” ชายชุดดำคนหนึ่งพูด
          อลันค่อยๆเดินไปเข้ากลุ่มเพื่อน เขาสังเกตเห็นคนหนึ่งหน้าคุ้นๆ เขาคือ...
          “ริค!!”
          “ไง ฉันกะจะบอกนายเหมือนกันแต่นายมาสายนะ”
          “แล้วนี่มันเรื่องอะไรเหรอ”อลันถามงงๆ
          “นายติดโครงการเมทิโอร่า”
          “ว่าไงนะ”
          “ช่าย อาจารย์เพิ่งมาบอกเมื่อเช้า ฉันตกใจแทบแย่ ไม่รู้ฉันติดได้ไง”ริคตอบ อลันพยักหน้าเห็นด้วย
          “เอาล่ะครับขอบคุณท่านอาจารย์มากนะครับที่ให้ความร่วมมือ เราจะดูแลอย่างดี”หนึ่งในชายชุดดำพูด
          “ครับไม่เป็นไรครับ”อาจารย์ใหญ่พูดพลางจับมือกับชายชุดดำ แล้วพยักหน้าให้เด็กทั้งสี่คน
          “เอาละตามฉันมา” ชายชุดดำสั่ง
          ทุกคนตามชายชุดดำไป เขาพาเดินออกไปจากโรงยิมแล้วเดินลงบันไดขึ้นรถตู้ยี่ห้อGMCสีดำคันหนึ่ง
          “แล้วนายไปค้นเรื่องเมทีโอร่ามายัง” ริคถามอลัน
          “ค้นมาแล้วไม่เจอเลย ไม่มีเวปไซต์ที่เกี่ยวกับหน่วยนี้เลย ฉันเข้าเวปรัฐบาลก็มีนิดๆหน่อยๆ บอกว่า”เพื่อทำให้ช่วยในการยกระดับประเทศให้พัฒนายิ่ง”ขึ้น แล้วก็ไม่มีอีกเลย” อลันตอบ
          “เป็นไปได้ยังไงหน่วยงานใหญ่อย่างงี้เนี่ยนะไม่มีเวปไซต์” ริคแทบไม่เชื่อหูตนเอง
          “ฉันก็ไม่รู้ แต่ท่าทางจะเป็นหน่วยที่ลับมาก”
          “แล้วเกี่ยวอะไรกับเด็กนักเรียน น่าจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการไม่ใช่เหรอที่จะต้องจัดการเรื่องนี้นะ” ริคพูด
          “ไม่ว่าจะเป็นอะไรเดี๋ยวเราก็ได้รู้กัน” อลันตอบเบาๆ
          รถพาพวกเขาทั้งสี่คนออกไปยังแถบชานเมือง ซึ่งมีตึกตึกหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ และดูเหมือนจะมีสนามบินอยู่ข้างๆตึก รถขับเลี้ยวเข้าไปในลานบิน ซึ่งมีทั้งเครื่องบินF22หลายลำ และเครื่องบินเก่าๆที่ปลดออกไปแล้วอย่าง
F-18 หรือ F-15 (ต้องเข้าใจนิดนึงว่าสมัยนั้นเครื่องบินเหล่านั้นอาจโดนปลดประจำการไปแล้ว) ซึ่งจอดอยู่ในโกดังเต็มไปหมด รถพาพวกเขาไปยังโกดังแห่งหนึ่งซึ่งที่นั่นมีนักเรียนหลายคนยืนอยู่ นับรวมๆแล้วได้ประมาณ ห้าสิบกว่าคน
          “ลงรถได้แล้ว”คนขับรถพูดขึ้น อลันเปิดประตูลงไปพร้อมกับสามคนที่เหลือ แล้วทั้งหมดก็เดินไปรวมกลุ่มนักเรียนจากต่างโรงเรียน
          “สวัสดี ขอต้อนรับนักเรียนทุกคนเข้าสู่เมทิโอร่า” ชายชุดดำที่ยืนอยู่น้านักเรียนทั้งหลายพูดขึ้น
          “ที่นี่จะเป็นสนามทดสอบของนักเรียนทุกคน ซึ่งการทดสอบนั้นจะมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากนี้ ซึ่งการทดสอบนั้นเราจะจับกันเป็นแปดกลุ่ม กลุ่มละแปดคน ซึ่งหมายถึงหนึ่งกลุ่มมีสองโรงเรียนๆละ4คน เอาละเราจะประกาศละนะ”
          เขาพูดจบก็ดึงแผ่นคลิปบอร์ดขึ้นมา พร้อมกับจับคู่โรงเรียน
          โรงเรียนโน้นคู่กับโรงเรียนจนมาถึง.......
          “โรงเรียนซายเลนซ์คอลเลจคู่กับโรงเรียนวินเชสเตอร์ไฮสคูล เป็นกลุ่มสุดท้าย” เขาพูดจบก็เอาแผ่นคลิปบอร์ดลง
          \"วันนี้ฉันจะบอกถึงจุดประสงค์ของพวกเธอทั้งหลาย ว่ามาทำอะไรกันที่นี่”เขาพูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆดูเหี้ยมๆก่อนจะหยิบรีโมทขึ้นมาแล้วกดปุ่ม ทันใดนั้นมีจอทีวีขนาดยักษ์ปรากฏขึ้น ภาพที่ปรากฏบนจอทีวีนั้นเป็นรูปแผนที่ของป่าและตรงกลางแผนที่เป็นรูปคล้ายๆกล่องสี่เหลี่ยมนั่นคือสิงก่อสร้างนั่นเอง
          “จุดหมายของพวกเธอคือตรงนี้” เขาใช้ที่ฉายเลเซอร์ จี้ไปที่จุดตรงกลางของแผนที่
          “ซึ่งฉันจะส่งพวกเธอห่างจากจุดนี้ราวๆ 12ไมล์ ซึ่งหนทางนั้นเต็มไปด้วยสิ่งอันตรายมากมาย นอกจากนั้นถ้าใครหมั่นไส้โรงเรียนไหนก็ฆ่ากันได้เลย ไม่มีกฎมากมาย ช่าย..... ที่ฉันพูดถึงคือภารกิจเซอร์ไวเวอร์นั่นเอง”เขาพูดจบแล้วมองไปรอบๆห้อง ซึ่งนักเรียนพูดคุยกันอย่างเคร่งเครียด
          “สิ่งที่พวกเธอต้องไปเอาคือแผ่นข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งได้ทำไว้ ซึ่งเหตุที่เขาเอามาให้เราไม่ได้นั้นเพราะสัตว์ทดลองในนั้นหลุดออกมาทำลายทุกอย่างซึ่งทีมไหนเอามาให้ฉันก่อนจะมีเงินรางวัลให้แก่ทีมที่ชนะคนละสองล้านเหรียญ ขอย้ำว่าคนละ” เสียงที่พึมพำเพราะความกลัวเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นในทันที
          “ฉันจะเอามาให้ได้คนแรกเลย!!!”เด็กคนหนึ่งพูดเสียงดังซะจนได้ยินจนทั่ว
          “ช่ายงั้นพวกเธอทุกคนไปรวมกลุ่มเพื่อปรึกษากันได้แล้ว แล้วพรุ่งนี้มาเจอกันที่นี่ ห้องพักนั้นเราได้จัดแบ่งไว้แล้วไปตามห้องของทุกคน ไปได้!!” ชายชุดดำสั่งเสียงเด็ดขาดแล้วเดินออกไป
          กลุ่มของอลันเดินออกไปยังห้องพักของตนเองซึ่งไม่น่าจะเรียกห้องพักเพราะว่ามันเป็นกลุ่มเต็นท์ต่างหากมีทั้งหมดสี่เต็นท์ บนเต็นท์มีป้ายบอก ”กลุ่มที่แปด” ติดอยู่
          “เอาล่ะทุกคนมารวมกันตรงนี้” อลันส่งเสียงเรียกทุกคนมารวมกัน ซึ่งตอนนี้โรงเรียนซายเลนซ์มารวมกับโรงเรียนของเขาแล้ว
          “เอ่อ...คือ...เราน่าจะแนะนำตัวกันหน่อยนะ ฉัน อลัน ไคลน์ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน”
          “ฉันริค เอสรอโด้” ริคพูดพร้อมกับยิ้มให้ทุกคน
          “ฉัน คอลิน รอบบิ้น” นักเรียนร่างใหญ่ ผมสีดำเกรียนที่มากับพวกเขาพูดขึ้น
          “ฉัน เรเซล ฟรีแมน” เด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาลที่มากับพวกเขาตอบพลางโบกมือให้
          “แล้วพวกนายล่ะ”อลันถามพวกนักเรียนซายเลนซ์
          “เฮ้ยๆ พวกนายได้ไงในเมื่อเราเป็นพวกเดียวกันแล้ว” เด็กผู้ชายผมสีดำที่ดูท่าทางเป็นมิตรพูดขึ้น
          “หวัดดี ฉันชื่อ บิล ไมสัน ยินดีที่ได้รู้จักนาย” เขายื่นมือมาจับมือกับอลันแล้วเขย่าแรงๆ
          “เช่นกันบิล” อลันยิ้มตอบ
          “หวัดดีชั้นชื่อ แฮร์รี่ มินเล” เด็กชายผมสีทองพูดขึ้น
          “ซอโร ไอออน” ชายร่างใหญ่ผิวหมึกตอบเบาๆ
          “มิวาโกะ ฟาเรร่า ค่ะ” เด็กผู้หญิงผมสีดำหน้าตาสะสวยพูดขึ้น เธอยิ้มให้อลันนิดๆ
          “เอาล่ะ เมื่อรู้จักกันทุกคนแล้ว เรามาพูดเรื่องแผนการที่จะพาเรารอดชีวิตไปดีกว่า ฉันขออาสาเป็นหัวหน้าทีม มีใครปฏิเสธไหม” ทุกคนส่ายหน้า
          “เอาล่ะงั้นขอเวลาแป๊ปนึง ไปพักก่อนได้” อลันพูดพร้อมกับ ลากริคไปที่เต็นท์ของตัวเอง
          “ฉันมีอะไรจะปรึกษานายหน่อย” อลันบอกริค
          “นายจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะจัดทีมเราให้เป็นหน่วยนาวีซีล” อลันพูดพร้อมกับเม้มปากแน่น
          “ฉันก็ว่างั้นเหมือนกัน แต่คนพวกนี้ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับพวกนี้เท่าไหร่นะ”
          “ฉันถึงได้ปรึกษานายไง”
          “ในเมื่อโอกาสมาก็ลุยเลยสิ” ริคตอบ ทำตาวาว
          “เริ่มแรกขอทบทวนก่อนนะ นาวีซีลมีแปดตำแหน่งพอดีเลย มีหน่วยเบิกทาง หน่วยสื่อสาร หัวหน้า แพทย์ พลปืนหนักสองคน รองหัวหน้า แล้วก็พลระวังหลังใช่ไหม”อลันพูด
          ริคกับอลันทบทวนสิ่งต่างๆที่ไปศึกษามาเกี่ยวกับนาวีซีล เมื่อทั้งคู่ได้ข้อมูลครบแล้วก็ออกมาเรียกทุกคนให้ไปประชุมกัน
          “เอาล่ะทุกคน ฉันจะแบ่งออกเป็นแปดตำแหน่งนะ ตำแหน่งแรกคนเบิกทาง คนๆนี้จะอยู่หน้ากลุ่มคอยดูว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้ามั่ง ใครอาสาจะรับหน้าที่นี้” อลันพูดพลางมองไปรอบๆ และแฮร์รี่ก็ยกมือขึ้นช้าๆ
          “ดี ขอบใจมาก ตำแหน่งต่อไปคือคนสื่อสาร ซึ่งจะมีหน้าที่คอยบอกตำแหน่งและฉันขอควบหน้าที่พลแม่นปืนลงไปด้วย ใครจะ...”ไม่ทันพูดจบ บิลก็ยกมือขึ้น
          “ฉันชอบอยู่แล้วไอเรื่องแม่นปืนเนี่ย” บิลพูดพลางยิ้มให้
          “เอาล่ะ ขอบใจมาก ต่อไปคือตำแหน่งหัวหน้า คือฉันเอง ซึ่งจะเดินเป็นคนที่สาม และต่อไปคือตำแหน่งพยาบาล ใครจะทำหน้าที่นี้”
          “ฉันเอง” สาวที่เป็นลูกครึ่งพูดขึ้น
          “ต่อไปคือพลปืนหนักสองคน คนแรกฉันให้คอลิน และคนที่สองคือซอโร” พูดจบทั้งสองคนก็พยักหน้าให้
          “ต่อไปรองหัวหน้าฉันให้....เอ่อ....เรเซลละกัน”
          “แล้วรองหัวหน้าต้องทำอะไรบ้างเหรอ” เรเซลตั้งคำถามขึ้น
          “ก็สั่งการลูกน้องแทนฉันถ้าฉันเป็นอะไรไป”อลันตอบ
          “เอาล่ะคนสุดท้าย พลระวังหลัง ฉันขอยกให้เพื่อนของฉัน ริคนายรับหน้าที่นี้ไปละกัน”
          “ด้วยความยินดีอลัน” ริคพูดพร้อมกับยิ้มให้
          แล้วอลันกับริคก็ช่วยกันสอนเรื่องต่างๆ เช่นอาวุธอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการตกอยู่ในสถานการณ์ต่างๆ เพราะพวกเขายังต้องสู้กับคนอีกด้วย ทั้งหมดเรียนได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาเชื่อฟังอลันดี เพราะเห็นว่าอลันน่าจะไว้ใจได้ที่สุดในกลุ่มแล้ว
          “เอาล่ะแยกย้ายกันไปนอนได้ ราตรีสวัสดิ์ทุกคน” อลันพูดพร้อมกับแยกย้ายไปตามเต็นท์ของแต่ละคู่
          คืนนั้นทั้งคู่หลับไม่สนิทนัก เพราะเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ อลันเป็นคนแรกที่ทนไม่ไหวจึงขอออกไปเดินเล่น ขณะที่เดินไปรอบๆนั้นก็สังเกตเห็นคนๆหนึ่งกำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่ คนคนนั้นคือ เรเซลนั่นเอง
          “เธอกำลังทำอะไรอยู่เหรอ” อลันถาม เรเซลหันมามองอลันสะดุ้งนิดหน่อย
          “ฉันกำลังเขียน...จดหมายลาตาย” เรเซลตอบเรียบๆ
          “อะไรกัน เธอไม่ไว้ใจฉันเหรอ เธอกลัวฉันพาพวกเราไม่รอดกลับไปเหรอ” อลันถาม พลางฉุดมือของเรเซลที่กำลังเขียนต่อ เธอหันกลับมามองเขา
          “ฉันไว้ใจเธอ แต่ว่า...ฉันกลัวนี่ ฉันไม่ได้กลัวสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่ฉันกลัวพวกเราจะแตกคอกัน ฉันกลัวพวกเราฆ่ากันเอง....” นั่นสินะ อลันคิด สิ่งที่ทุกคนกลัวคือการที่มิตรกลายเป็นศัตรู เรเซลสบสายตาอลันอยู่นานจนในที่สุด
          “เธอสัญญากับฉันได้ไหม ว่า ถ้าฉันตายเธอจะเอาจดหมายนี่ไปให้ญาติของฉัน” เธอพูดพร้อมกับร้องไห้นิดๆ
          “ไม่ เธอจะต้องเป็นคนเอาไปให้พวกเขาด้วยมือเธอเอง ฉันสัญญา ว่าทุกคนต้องไม่เป็นไร” เขาพูดพร้อมกับกอดเรเซลที่กำลังสะอื้นไห้...
******************************************************************************************
อาจไม่ดีเท่าที่ควร ช่วยเม้นท์เยอะๆนะครับ ถ้าเม้นท์เกิน10คนเดี๋ยวลงตอนต่อไปเลย บทต่อไปรพะเอกจะออกเดินทางแล้วน้า
เม้นท์กันเยอะๆนะ
Date:June 20, 2012
Time:7:41
          “ตายห+อ่า แล้วกู!!!”  อลันตะโกนขึ้นมาพร้อมกับรีบแต่งตัวอย่างเร่งรีบ
          “สายแน่โดนเทศแน่” อลันพูดอย่างกังวลใจ โรงเรียนของเขาเข้มมากเรื่องการมาสาย โดยเฉพาะวันนี้ซึ่งเป็นวันอังคารด้วยแล้ว (ขอย้ำว่าวันที่20เดือนมิถุนายนปี2012เป็นวันอังคารจริงๆ ไม่เชื่อก็เปิดปฏิธินในคอมได้เลย) ยิ่งเข้าไปใหญ่ เพราะวันนี้เป็นเวรของอาจารย์สุดโหด เขารีบวิ่งไปโรงเรียนโดยความเร็วที่ทำได้
          “โอยในที่สุด แทบสิ้น” เขาพูดพลางปาดเหงื่อ แล้วเดินผ่านประตูโรงเรียนเข้าไป ภายในโรงเรียนเงียบๆชอบกล แต่ก็นะตอนนี้มันขึ้นเรียนกันหมดแล้วนิ เขาพูดกับตนเองแล้วก็เดินไปยังห้องเรียนA3
          ตลอดทางที่เดินไปห้องเรียนเขารู้สึกว่า เมื่อเขาเดินไปตามทางมีคนโผล่หัวออกมาจากห้องต่างๆเพื่อดูเขา ซึ่งตลอดเวลาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย
          “อะไรกันนิกูสายขนาดนี้เลยเหรอ” เขาพึมเพาเบาๆ ในที่สุดเขาก็เดินมาถึงห้องของเขา เมื่อเขาเดินเข้าห้องไปเสียงจึงดังระงมขึ้น
          “เฮ้ย! อลันนายทำได้ไงอ่ะ....”
          “ฉันไม่อยากเชื่อนายติดได้ไงนะ...”
          “เอาล่ะพอๆทุกคน มิสเตอร์ไคลน์มากับฉัน” อาจารย์ประจำชั้นของเขานั่นเองที่มาหยุดความโกลาหลไว้ได้
          “มีอะไรครับ” อลันถามเกรงๆ
          “เป็นอะไรที่น่าภูมิใจละกัน” เธอตอบกลับมาพร้อมยิ้มให้เขาน้อยๆ เขาเดินตามอาจารย์ประจำชั้นไปยังโรงยิม
          ที่นั่นเขาพบนักเรียนหญิงคนหนึ่งและนักเรียนสองคน พร้อมกับอาจารย์สองท่าน หนึ่งคืออาจารย์ใหญ่ อีกคนเป็นรองอาจารย์ใหญ่ และก็ยังมีชายชุดดำอีกสามคน
          “เอาละมาครบแล้วๆ” อาจารย์ใหญ่พูดอย่างตื่นเต้น
          “เอาละมาคุยกันเลย” ชายชุดดำคนหนึ่งพูด
          อลันค่อยๆเดินไปเข้ากลุ่มเพื่อน เขาสังเกตเห็นคนหนึ่งหน้าคุ้นๆ เขาคือ...
          “ริค!!”
          “ไง ฉันกะจะบอกนายเหมือนกันแต่นายมาสายนะ”
          “แล้วนี่มันเรื่องอะไรเหรอ”อลันถามงงๆ
          “นายติดโครงการเมทิโอร่า”
          “ว่าไงนะ”
          “ช่าย อาจารย์เพิ่งมาบอกเมื่อเช้า ฉันตกใจแทบแย่ ไม่รู้ฉันติดได้ไง”ริคตอบ อลันพยักหน้าเห็นด้วย
          “เอาล่ะครับขอบคุณท่านอาจารย์มากนะครับที่ให้ความร่วมมือ เราจะดูแลอย่างดี”หนึ่งในชายชุดดำพูด
          “ครับไม่เป็นไรครับ”อาจารย์ใหญ่พูดพลางจับมือกับชายชุดดำ แล้วพยักหน้าให้เด็กทั้งสี่คน
          “เอาละตามฉันมา” ชายชุดดำสั่ง
          ทุกคนตามชายชุดดำไป เขาพาเดินออกไปจากโรงยิมแล้วเดินลงบันไดขึ้นรถตู้ยี่ห้อGMCสีดำคันหนึ่ง
          “แล้วนายไปค้นเรื่องเมทีโอร่ามายัง” ริคถามอลัน
          “ค้นมาแล้วไม่เจอเลย ไม่มีเวปไซต์ที่เกี่ยวกับหน่วยนี้เลย ฉันเข้าเวปรัฐบาลก็มีนิดๆหน่อยๆ บอกว่า”เพื่อทำให้ช่วยในการยกระดับประเทศให้พัฒนายิ่ง”ขึ้น แล้วก็ไม่มีอีกเลย” อลันตอบ
          “เป็นไปได้ยังไงหน่วยงานใหญ่อย่างงี้เนี่ยนะไม่มีเวปไซต์” ริคแทบไม่เชื่อหูตนเอง
          “ฉันก็ไม่รู้ แต่ท่าทางจะเป็นหน่วยที่ลับมาก”
          “แล้วเกี่ยวอะไรกับเด็กนักเรียน น่าจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการไม่ใช่เหรอที่จะต้องจัดการเรื่องนี้นะ” ริคพูด
          “ไม่ว่าจะเป็นอะไรเดี๋ยวเราก็ได้รู้กัน” อลันตอบเบาๆ
          รถพาพวกเขาทั้งสี่คนออกไปยังแถบชานเมือง ซึ่งมีตึกตึกหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ และดูเหมือนจะมีสนามบินอยู่ข้างๆตึก รถขับเลี้ยวเข้าไปในลานบิน ซึ่งมีทั้งเครื่องบินF22หลายลำ และเครื่องบินเก่าๆที่ปลดออกไปแล้วอย่าง
F-18 หรือ F-15 (ต้องเข้าใจนิดนึงว่าสมัยนั้นเครื่องบินเหล่านั้นอาจโดนปลดประจำการไปแล้ว) ซึ่งจอดอยู่ในโกดังเต็มไปหมด รถพาพวกเขาไปยังโกดังแห่งหนึ่งซึ่งที่นั่นมีนักเรียนหลายคนยืนอยู่ นับรวมๆแล้วได้ประมาณ ห้าสิบกว่าคน
          “ลงรถได้แล้ว”คนขับรถพูดขึ้น อลันเปิดประตูลงไปพร้อมกับสามคนที่เหลือ แล้วทั้งหมดก็เดินไปรวมกลุ่มนักเรียนจากต่างโรงเรียน
          “สวัสดี ขอต้อนรับนักเรียนทุกคนเข้าสู่เมทิโอร่า” ชายชุดดำที่ยืนอยู่น้านักเรียนทั้งหลายพูดขึ้น
          “ที่นี่จะเป็นสนามทดสอบของนักเรียนทุกคน ซึ่งการทดสอบนั้นจะมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากนี้ ซึ่งการทดสอบนั้นเราจะจับกันเป็นแปดกลุ่ม กลุ่มละแปดคน ซึ่งหมายถึงหนึ่งกลุ่มมีสองโรงเรียนๆละ4คน เอาละเราจะประกาศละนะ”
          เขาพูดจบก็ดึงแผ่นคลิปบอร์ดขึ้นมา พร้อมกับจับคู่โรงเรียน
          โรงเรียนโน้นคู่กับโรงเรียนจนมาถึง.......
          “โรงเรียนซายเลนซ์คอลเลจคู่กับโรงเรียนวินเชสเตอร์ไฮสคูล เป็นกลุ่มสุดท้าย” เขาพูดจบก็เอาแผ่นคลิปบอร์ดลง
          \"วันนี้ฉันจะบอกถึงจุดประสงค์ของพวกเธอทั้งหลาย ว่ามาทำอะไรกันที่นี่”เขาพูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆดูเหี้ยมๆก่อนจะหยิบรีโมทขึ้นมาแล้วกดปุ่ม ทันใดนั้นมีจอทีวีขนาดยักษ์ปรากฏขึ้น ภาพที่ปรากฏบนจอทีวีนั้นเป็นรูปแผนที่ของป่าและตรงกลางแผนที่เป็นรูปคล้ายๆกล่องสี่เหลี่ยมนั่นคือสิงก่อสร้างนั่นเอง
          “จุดหมายของพวกเธอคือตรงนี้” เขาใช้ที่ฉายเลเซอร์ จี้ไปที่จุดตรงกลางของแผนที่
          “ซึ่งฉันจะส่งพวกเธอห่างจากจุดนี้ราวๆ 12ไมล์ ซึ่งหนทางนั้นเต็มไปด้วยสิ่งอันตรายมากมาย นอกจากนั้นถ้าใครหมั่นไส้โรงเรียนไหนก็ฆ่ากันได้เลย ไม่มีกฎมากมาย ช่าย..... ที่ฉันพูดถึงคือภารกิจเซอร์ไวเวอร์นั่นเอง”เขาพูดจบแล้วมองไปรอบๆห้อง ซึ่งนักเรียนพูดคุยกันอย่างเคร่งเครียด
          “สิ่งที่พวกเธอต้องไปเอาคือแผ่นข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งได้ทำไว้ ซึ่งเหตุที่เขาเอามาให้เราไม่ได้นั้นเพราะสัตว์ทดลองในนั้นหลุดออกมาทำลายทุกอย่างซึ่งทีมไหนเอามาให้ฉันก่อนจะมีเงินรางวัลให้แก่ทีมที่ชนะคนละสองล้านเหรียญ ขอย้ำว่าคนละ” เสียงที่พึมพำเพราะความกลัวเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นในทันที
          “ฉันจะเอามาให้ได้คนแรกเลย!!!”เด็กคนหนึ่งพูดเสียงดังซะจนได้ยินจนทั่ว
          “ช่ายงั้นพวกเธอทุกคนไปรวมกลุ่มเพื่อปรึกษากันได้แล้ว แล้วพรุ่งนี้มาเจอกันที่นี่ ห้องพักนั้นเราได้จัดแบ่งไว้แล้วไปตามห้องของทุกคน ไปได้!!” ชายชุดดำสั่งเสียงเด็ดขาดแล้วเดินออกไป
          กลุ่มของอลันเดินออกไปยังห้องพักของตนเองซึ่งไม่น่าจะเรียกห้องพักเพราะว่ามันเป็นกลุ่มเต็นท์ต่างหากมีทั้งหมดสี่เต็นท์ บนเต็นท์มีป้ายบอก ”กลุ่มที่แปด” ติดอยู่
          “เอาล่ะทุกคนมารวมกันตรงนี้” อลันส่งเสียงเรียกทุกคนมารวมกัน ซึ่งตอนนี้โรงเรียนซายเลนซ์มารวมกับโรงเรียนของเขาแล้ว
          “เอ่อ...คือ...เราน่าจะแนะนำตัวกันหน่อยนะ ฉัน อลัน ไคลน์ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน”
          “ฉันริค เอสรอโด้” ริคพูดพร้อมกับยิ้มให้ทุกคน
          “ฉัน คอลิน รอบบิ้น” นักเรียนร่างใหญ่ ผมสีดำเกรียนที่มากับพวกเขาพูดขึ้น
          “ฉัน เรเซล ฟรีแมน” เด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาลที่มากับพวกเขาตอบพลางโบกมือให้
          “แล้วพวกนายล่ะ”อลันถามพวกนักเรียนซายเลนซ์
          “เฮ้ยๆ พวกนายได้ไงในเมื่อเราเป็นพวกเดียวกันแล้ว” เด็กผู้ชายผมสีดำที่ดูท่าทางเป็นมิตรพูดขึ้น
          “หวัดดี ฉันชื่อ บิล ไมสัน ยินดีที่ได้รู้จักนาย” เขายื่นมือมาจับมือกับอลันแล้วเขย่าแรงๆ
          “เช่นกันบิล” อลันยิ้มตอบ
          “หวัดดีชั้นชื่อ แฮร์รี่ มินเล” เด็กชายผมสีทองพูดขึ้น
          “ซอโร ไอออน” ชายร่างใหญ่ผิวหมึกตอบเบาๆ
          “มิวาโกะ ฟาเรร่า ค่ะ” เด็กผู้หญิงผมสีดำหน้าตาสะสวยพูดขึ้น เธอยิ้มให้อลันนิดๆ
          “เอาล่ะ เมื่อรู้จักกันทุกคนแล้ว เรามาพูดเรื่องแผนการที่จะพาเรารอดชีวิตไปดีกว่า ฉันขออาสาเป็นหัวหน้าทีม มีใครปฏิเสธไหม” ทุกคนส่ายหน้า
          “เอาล่ะงั้นขอเวลาแป๊ปนึง ไปพักก่อนได้” อลันพูดพร้อมกับ ลากริคไปที่เต็นท์ของตัวเอง
          “ฉันมีอะไรจะปรึกษานายหน่อย” อลันบอกริค
          “นายจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะจัดทีมเราให้เป็นหน่วยนาวีซีล” อลันพูดพร้อมกับเม้มปากแน่น
          “ฉันก็ว่างั้นเหมือนกัน แต่คนพวกนี้ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับพวกนี้เท่าไหร่นะ”
          “ฉันถึงได้ปรึกษานายไง”
          “ในเมื่อโอกาสมาก็ลุยเลยสิ” ริคตอบ ทำตาวาว
          “เริ่มแรกขอทบทวนก่อนนะ นาวีซีลมีแปดตำแหน่งพอดีเลย มีหน่วยเบิกทาง หน่วยสื่อสาร หัวหน้า แพทย์ พลปืนหนักสองคน รองหัวหน้า แล้วก็พลระวังหลังใช่ไหม”อลันพูด
          ริคกับอลันทบทวนสิ่งต่างๆที่ไปศึกษามาเกี่ยวกับนาวีซีล เมื่อทั้งคู่ได้ข้อมูลครบแล้วก็ออกมาเรียกทุกคนให้ไปประชุมกัน
          “เอาล่ะทุกคน ฉันจะแบ่งออกเป็นแปดตำแหน่งนะ ตำแหน่งแรกคนเบิกทาง คนๆนี้จะอยู่หน้ากลุ่มคอยดูว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้ามั่ง ใครอาสาจะรับหน้าที่นี้” อลันพูดพลางมองไปรอบๆ และแฮร์รี่ก็ยกมือขึ้นช้าๆ
          “ดี ขอบใจมาก ตำแหน่งต่อไปคือคนสื่อสาร ซึ่งจะมีหน้าที่คอยบอกตำแหน่งและฉันขอควบหน้าที่พลแม่นปืนลงไปด้วย ใครจะ...”ไม่ทันพูดจบ บิลก็ยกมือขึ้น
          “ฉันชอบอยู่แล้วไอเรื่องแม่นปืนเนี่ย” บิลพูดพลางยิ้มให้
          “เอาล่ะ ขอบใจมาก ต่อไปคือตำแหน่งหัวหน้า คือฉันเอง ซึ่งจะเดินเป็นคนที่สาม และต่อไปคือตำแหน่งพยาบาล ใครจะทำหน้าที่นี้”
          “ฉันเอง” สาวที่เป็นลูกครึ่งพูดขึ้น
          “ต่อไปคือพลปืนหนักสองคน คนแรกฉันให้คอลิน และคนที่สองคือซอโร” พูดจบทั้งสองคนก็พยักหน้าให้
          “ต่อไปรองหัวหน้าฉันให้....เอ่อ....เรเซลละกัน”
          “แล้วรองหัวหน้าต้องทำอะไรบ้างเหรอ” เรเซลตั้งคำถามขึ้น
          “ก็สั่งการลูกน้องแทนฉันถ้าฉันเป็นอะไรไป”อลันตอบ
          “เอาล่ะคนสุดท้าย พลระวังหลัง ฉันขอยกให้เพื่อนของฉัน ริคนายรับหน้าที่นี้ไปละกัน”
          “ด้วยความยินดีอลัน” ริคพูดพร้อมกับยิ้มให้
          แล้วอลันกับริคก็ช่วยกันสอนเรื่องต่างๆ เช่นอาวุธอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการตกอยู่ในสถานการณ์ต่างๆ เพราะพวกเขายังต้องสู้กับคนอีกด้วย ทั้งหมดเรียนได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาเชื่อฟังอลันดี เพราะเห็นว่าอลันน่าจะไว้ใจได้ที่สุดในกลุ่มแล้ว
          “เอาล่ะแยกย้ายกันไปนอนได้ ราตรีสวัสดิ์ทุกคน” อลันพูดพร้อมกับแยกย้ายไปตามเต็นท์ของแต่ละคู่
          คืนนั้นทั้งคู่หลับไม่สนิทนัก เพราะเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ อลันเป็นคนแรกที่ทนไม่ไหวจึงขอออกไปเดินเล่น ขณะที่เดินไปรอบๆนั้นก็สังเกตเห็นคนๆหนึ่งกำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่ คนคนนั้นคือ เรเซลนั่นเอง
          “เธอกำลังทำอะไรอยู่เหรอ” อลันถาม เรเซลหันมามองอลันสะดุ้งนิดหน่อย
          “ฉันกำลังเขียน...จดหมายลาตาย” เรเซลตอบเรียบๆ
          “อะไรกัน เธอไม่ไว้ใจฉันเหรอ เธอกลัวฉันพาพวกเราไม่รอดกลับไปเหรอ” อลันถาม พลางฉุดมือของเรเซลที่กำลังเขียนต่อ เธอหันกลับมามองเขา
          “ฉันไว้ใจเธอ แต่ว่า...ฉันกลัวนี่ ฉันไม่ได้กลัวสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่ฉันกลัวพวกเราจะแตกคอกัน ฉันกลัวพวกเราฆ่ากันเอง....” นั่นสินะ อลันคิด สิ่งที่ทุกคนกลัวคือการที่มิตรกลายเป็นศัตรู เรเซลสบสายตาอลันอยู่นานจนในที่สุด
          “เธอสัญญากับฉันได้ไหม ว่า ถ้าฉันตายเธอจะเอาจดหมายนี่ไปให้ญาติของฉัน” เธอพูดพร้อมกับร้องไห้นิดๆ
          “ไม่ เธอจะต้องเป็นคนเอาไปให้พวกเขาด้วยมือเธอเอง ฉันสัญญา ว่าทุกคนต้องไม่เป็นไร” เขาพูดพร้อมกับกอดเรเซลที่กำลังสะอื้นไห้...
******************************************************************************************
อาจไม่ดีเท่าที่ควร ช่วยเม้นท์เยอะๆนะครับ ถ้าเม้นท์เกิน10คนเดี๋ยวลงตอนต่อไปเลย บทต่อไปรพะเอกจะออกเดินทางแล้วน้า
เม้นท์กันเยอะๆนะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น