ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปิ๊งรักร้าย นายเย็นชา(Oh! My Boy.)

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 ผมไม่แต่ง!

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 52


             เฮ้ๆๆๆ  ว่าไงทุกคนที่เข้ามาอ่านถึงตอนนี้
     
             ยังไงอ่านแล้วก็เม้น+โหวตกันมั่งน๊าา ไม่ขอมากไปช่ายป่าวล่ะหุหุ

             ขอบคุงทุกคนที่มาอ่านน๊าาา

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------


           ไทม์==>> talk

     
            ผมนั่งอยู่ที่โซฟาในบ้าน  วันนี้เป็นวันศุกร์ ผมต้องอยู่กับครอบครัวตั้งแต่ทุ่มนึงเป็นต้นไป  ถือว่าเป็นกฎของบ้านครับ  ผมนั่งดูบทที่เจ๊ส้มแกเขียน  

            หน้าแรกก็ไม่มีอะไรครับ เป็นหน้าที่ที่คนในชมรมต้องรับผิดชอบ  ผมอ่านลงมาเรื่อยๆ  ผมก็ต้องช็อกอีกครั้งเมื่อ  พี่มินท์แกให้เจ๊ส้มดูแลทั้งหมด  อ๊าก..  งานเข้าอย่างแรงเลยครับ  ซวยยิ่งกว่าซวยซะอีกทีนี้ T T  ผมดูมาเรื่อยๆ จนถึงบท  เนื้อเรื่องไม่เท่าไหร่ครับ  แต่บทพูดนี่สิ  แกมีให้ทุกสถานการณ์เลย  เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน  คือเจ๊แกเป็นคนรอบคอบเสมอครับ

             "ไทม์  แม่มีเรื่องสำคัญจะบอก"แม่ผมพูดขัดขึ้นมา  ผมเงยหน้าจากบทละคร  มองหน้าแม่ ซึ่งดูท่านจะจริงจังมาก

             "ครับ"ผมตอบ  วางบทละครลงบนโต๊ะ  ตอนนี้บรรยากาศมันดูยังไงพิกล

             "คือว่า..ยังไงล่ะ  ลูกรู้จักหนู อึนโซ  ลูกสาวนักธุรกิจชื่อดังของเกาหลีใช่มั้ย"แม่ถาม  ผมมองหน้าแม่อย่างสงสัย  อยู่ดีๆก็มาถามแบบนี้  มีอะไรรึเปล่านะ

             "อ๋อ ครับ  ลูกสาวของคุณลุง บ๊กอิล (ชื่อแปลกอ่ะ- -) ใช่มั้ยครับ"ผมถาม  ก็พอจำได้อ่ะนะครับ  แม่เคยแนะนำให้รู้จักกันครั้งนึง  แหม ก็เป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของพ่อนี่ครับ

             "นั่นแหละจ้ะ  คือ  ว่าที่เจ้าสาวของลูก"แม่พูด  อ๋อ  ว่าที่เจ้าสาว  แค่นี้เอง  ถามเหมือนเรื่องใหญ่ O_O  ว่าที่เจ้าสาว  ห๊า!  ว่าที่เจ้าสาว  โอ้ไม่นะ  อย่าเป็นแบบนั้นเลย  นี่ผมหูฝาดไปใช่มั้ยเนี่ย

             "อะไรนะฮะ  แม่จะให้ผมแต่งงานกับอึนโซหรอฮะ"ผมถาม  อ้าวๆแม่  อยู่ดีมาทำแบบนี้ได้ไงครับเนี่ย  นี่มันสมัยไหนแล้ว  ยังมาคลุมถุงชนอยู่ได้

             "ถูกแล้วลูกไทม์  คือ  ถ้าลูกไม่พร้อมก็หมั้นกันไว้ก่อนก็ได้นะลูก"พ่อพูด  โถ่พ่อ  พ่อก็เห็นด้วยกับแม่หรอเนี่ย  กะจะหาแนวร่วมสักหน่อย  เศร้าเลยครับทีนี้ T T

             "คือ  ไม่ใช่ว่าผมไม่พร้อมครับ"ผมพูด  สูดหายใจเข้าลึกๆ  ผมไม่เคยขัดแม่สักเรื่อง  แต่เรื่องนี้  เป็นเรื่องเดียวที่ให้ไม่ได้ครับแม่

             "แสดงว่า ลูกจะแต่งเลยใช่มั้ย"แม่ถาม  ใบหน้ามีความหวังมากขึ้น  ไปกันใหญ่แล้วครับ  ฟังผมให้จบก่อนสิ

             "ไม่ใช่ครับแม่  คือว่า ไม่ใช่ว่าไม่พร้อมครับ  แต่ผมไม่แต่ง"ผมพูดอย่างกล้าหาญ  แต่ภายใจจิตใจ  สั่นไหวมากครับ  ผมไม่เคยขัดใจแม่มาก่อน  ครั้งนี้ผมเลยรู้สึกผิดครับ  แต่ทำไงได้ล่ะ  ผมไม่อยากแต่งนี่

             "ไทม์  ฟังพ่อนะลูก  นี่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านเราเลยนะ  เราทำธุรกิจ  เราต้องพึ่งเขา"พ่อพูด  ฟังดูมีเหตุผลครับ  อืมๆ ใช่สินะ  เราต้องพึ่งเขา  เย้ย! พ่อเอาซะผมเคลิ้มเลยะเนี่ย  ไม่ๆครับพ่อ  ยังไงผมก็ไม่แต่ง

             "พ่อครับ  แม่ครับ  ผมไม่เคยดื้อกับพ่อ กับแม่เลยนะครับ  แต่เรื่องนี้ผมขอได้มั้ย  ผมไม่อยากแต่งจริงๆนะครับ"ผมพยายามให้ท่านเห็นใจครับ  เผื่อจะใจดีละเว้นโทษผม  หุหุ

             "ไหนบอกมาซิว่าทำไมแกไม่อยากแต่ง"นั่นไงครับ  เสียงท่านแม่บังเกิดเกล้าของผมดังขึ้น  แย้ก!  แม่คร้าบ  ใจเย็นๆน๊า  ฟังลูกก่อน

             "คือ.. ผะ  ผม  เอ่อ  คือ"ผมตะกุกตะกัก  ไม่รู้จะตอบยังไงดี  บอกแค่ว่าไม่อยากแต่งไม่ได้แน่  เฮ้ออ  คิดไม่ออกโว้ยยย

             "ตอบมาสิ"แม่ผมเสียงดังกว่าเดิม  ผมสะดุ้งครับ  เห็นมั้ยแม่ที่แสนใจดีของผม  พอโดนขัดใจเข้าหน่อยก็แบบนี้  งี้แหละ  ผมถึงไม่เคยขัดใจท่านเลย - -

             "คือผม..เอ่อ"ผมพยายามคิดหาทางรอด  แต่ก็มืดแปดด้านครับ  ให้ผมไปนั่งสอบชีวโอลิมปิคยังหาคำตอบง่ายกว่านี้ซะอีก

             "ไทม์มีแฟนหรอลูก"พ่อผมถาม  ผมเงยหน้ามองพ่อ  อะฮ้า  พ่อท่านช่างชี้ทางแท้ๆ  เปรียบดังผมเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์  ผมรีบไปตามทางที่พ่อปูไว้ทันที

             "คระ  ครับพ่อ  ผมมีแฟนแล้วครับ"ผมพูด  พ่อคร้าบ  แม่คร้าบ  ผมขอโทษ  ผมไม่ได้ตั้งใจโกหกนะ  เจตนาเต็มๆ- -"  สถานการณ์บังคับนะครับพ่อ

             "โอย  ฉันจะเป็นลม  เอางี้  ถ้าแกมีแฟน  ได้ แกจะไม่ต้องแต่งงาน  แต่แฟนแก ฉันต้องรับได้  ถ้าฉันรับไม่ได้  แกต้องแต่งกับหนูอึนโซ  เข้าใจมั้ย"  แม่ผมพูด  ผมก้มหน้ารับบัญชา  แม่เดินสะบัดหน้าขึ้นห้องไป  พ่อนั่งถอนหายใจ ข้างๆผม

             "ไทม์โกหกพ่อใช่มั้ย"พ่อผมถาม  ผมเงยหน้ามองพ่ออีกครั้ง  อ๊าก   แผนแตกหรอเนี่ย  ตายห่าแล้ว T^T

             "พ่อ.."ผมพูดอะไรไม่ออกครับ  ผมมองพ่อ  พ่อมองผม  ก่อนจะยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่น

             "พ่อรู้  เพราะครูที่ปรึกษาบอกพ่อว่าไทม์ไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงคนไหน"พ่อพูด  หน้าผมชาครับ  ผมไม่เคยโกหกพ่อ  แต่คราวนี้ผมทำ  และผมโดนจับได้  ถึงรอยยิ้มพ่อจะอบอุ่น  แต่ผมก็ยังรู้สึกผิด

             "ผมขอโทษครับพ่อ  แต่ผมไม่อยากแต่งงาน ผมเลย.."ผมพูด  ก้มหน้ารับความผิด  ผมคิดว่าวันนี้ผมแมนไม่แพ้ไอ้โต้งมันเลยครับ (หลงตัวเองซะงั้น)

             "พ่อเข้าใจลูก  พ่อเองก็ไม่อยากบังคับไทม์  แต่เพราะแม่เค้าเร่งเร้า  พ่อเลยให้แม่พูดๆซะให้จบไป  ยังไงก็ สู้ๆนะลูก  หาแฟนมาให้แม่เค้าดูให้ได้ล่ะ"พ่อพูด  ยังคงยิ้มอย่างอบอุ่นเหมือนเดิม ก่อนจะลุกตามแม่ไปข้างบน

              ผมลุกบ้าง  เดินขึ้นไปบนห้องนอน  มองเตียงนอนสีแดงสด  สีโปรดของผม  ผมล็อกประตู  ทิ้งตัวลงนอน  กำบทละครแน่น  ผมรู้สึกรักพ่อมากๆเลยครับ  พ่อมักจะเข้าใจผมเสมอ    ผมนอนคิดไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่ง

             "เฮ้ย  งานเข้าแล้ว"ผมร้อง  เพราะผมคิดได้ว่า  ผมบอกแม่ว่าผมมีแฟน  แต่ผมไม่มีนี่ครับ  เอาไงดีล่ะทีนี้  จะไปหาใครที่ไหนมาให้แม่  ซวยแล้วไอ้ไทม์เอ๊ย

             ผมนอนพลิกไปพลิกมา  ยังคิดไม่ออกเลยครับ  ว่าจะเอาใครมาเป็นแฟนดี  หน้าตาอย่างผมก็ธรรมดา  แค่ผมหน้าเหมือนยุนโฮ  วงดงบังฯแค่นั้นเอง(นั่นน่ะเรอะ ธรรมดา  แถวบ้านฉันเรียก หล่อขั้นเทพเลยนะนั่น)  แล้วผมจะเลือกใครดี  จนกระทั่งผมหลับไป


             ..ฉันโทรมาเพื่อจะบอกว่ารัก  ถึงเวลาที่ต้องบอกสักที..
             เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นขณะที่ผมกำลังหลับอย่างสบายอารมอยู่  ใครกันนะ  โทรมาได้ คนจะหลับจะนอน

              "ฮัลโหล"ผมกรอกเสียงลงไป  เสียงผมมันฟังดูงัวเงีย ยังไงก็ไม่รู้ครับ (ก็เพิ่งตื่นนี่หว่า- -)

              "เฮ้ยไทม์ ทำไรอยู่วะ"เสัยงไอ้ป้องดังลอดสายมา

              "นอน"ผมตอบสั้นๆ  ตาปิดลงอีกรอบ

              "โหยไอ้ขี้เซา  แกตื่นเลยนะเว้ย  เจ๊ส้มรอแกอยู่คนเดียวด้วย  ไอ้พระเอก"ไอ้ป้องพูด  กดวางสายไปทันที  ทั้งที่ผมยังไม่ได้ถามมันเลย  ว่ามันพูดเรื่องอะไร

              ผมค่อยๆลุกขึ้น  ดูนาฬิกา  โห  นี่มัน 9โมงกว่าแล้วครับ แล้วจะโทรมาเรียกผมทำไมเนี่ย  ได้ยินมันพูดอะไร เจ๊ส้มๆนี่แหละ

              ...เจ๊ส้ม  หรือว่า...

              "เฮ้ย!"ผมร้อง  เมื่อคิดได้ว่า  เจ๊ส้มแกนัดซ้อมละครครับ  แกนัด 9 โมง  นี่มันก็ 9โมงกว่าแล้ว  ผมวิ่งเข้าห้องน้ำ  อาบน้ำอย่างเร็วครับ  ก่อนจะคว้ากุญแจรถซีอาร์วีสีดำของผม แล้วซิ่งไปที่โรงเรียนทันที


              ที่โรงละคร  นักแสดงทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากับครบครับ  ทุกคนนั่งรอกันอยู่บนเวที  ส่วนทีมงานก็พร้อม   สรุปว่าเหลือผมคนเดียว  ผมลงจากรถ  แล้วเสียงปรบมือก็ดังขึ้น

              "โฮ้  ไอ้เพื่อนยาก  นึกว่าตกท่อแถวไหนซะอีก"ไอ้โต้งตะโกนมาจากบนเวที  ทุกคนลุกขึ้น  แล้วหยิบบทของตัวเองขึ้นมา

              "ทำไมไม่มาตอนเลิกซ้อมไปเลยล่ะ"ยัยก้านหลิวกระซิบถามผม  เมื่อผมเดินขึ้นเวทีไป

              "นั่นสิเนาะ  อืมๆใช่ๆ"ผมทำท่าคิด  ยัยก้านหลิวมองผมเหมือนหมั่นไส้  ก่อนจะตีแขนผมทีนึง (นี่ผมผิดหรอ - -)

              "เอาล่ะนักแสดงเข้าฉากได้แล้ว"เสียงเจ๊ส้มเรียก  นักแสดงทุกคนขึ้นบนเวที  แล้วเริ่มแสดงบทของตัวเอง

              ผ่านไปค่อนวันครับ  การแสดงยังไม่ไปถึงไหน  เพราะบทเจ๊ส้มแกฮามาก  ทุกคนเลยมักจะหลุดขำเสมอ  ฮายังไงนั้น  ผมไม่ขอบอกนะครับ  เอาไว้วันแสดงค่อยอ่านทีเดียวเลยแล้วกัน หุหุ


     
              ก้านหลิว Talk ==>>

              "โอ๊ยเจ๊ส้ม  ไม่ไหวๆ  บทมันฮาไปอ่ะเจ๊  งี้เมื่อไหร่จะได้อ่ะ  พูดไม่ถึง 3 คำก็หลุดฮาแล้ว"ยัยไอฝนท้วงขณะที่นักแสดงพักเหนื่อย  ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยค่ะ   แน่นอนอยู่แล้ว  บทเจ๊แกน่ะ  ฮาบรรลัย  ใครใช้ให้แกคิดออกมาแบบนี้เนี่ย

              "แล้วจะให้เอาไงล่ะ  พี่เขียนบทใหม่ให้เอามั้ยล่ะ"เจ๊ส้มพูด  ท่าทางผิดหวังน้อยๆที่บทของเจ๊แกไม่ได้เอามาเล่น

              "ไม่นะส้ม  บทนี้ล่ะดีแล้ว  คิดดูนะ  ถ้าคนในโรงเรียนรู้ว่าแกเขียนบทนะ  เรตติ้งกระฉูดแน่"พี่มินท์พูด  พี่ปอพยักหน้าเห็นด้วย

              "แต่น้องมันเล่นไม่ได้นี่"เจ๊ส้มว่า  สีหน้าเจ๊แกเริ่มดูดี หุหุ  แหมก็เชียร์กันซะขนาดนั้น

              "เอางี้  เดี๋ยวพี่หาทีมพากย์ให้  น้องแสดงใบ้ไปเลย  โอเคป่าว  เดี๋ยวส้ม  แกกำกับน้องแสดง  ส่วนทีมพากย์ฉันหาเอง"พี่ปอพูด  แหมๆ  พี่ชาย มันต่างกันมั้ยล่ะเนี่ย

              "โอเค  ตกลงตามนี้  เอาล่ะ  ไปซ้อมต่อไป"พี่มินท์สรุป  โห  ไม่ถามความเห็นกันก่อนเลยเรอะนี่

              ผ่านไปสักพัก  เจ๊ส้มก็บอกให้หยุด  ทั้งที่เกือบดีแล้วแม้ๆ  กลั้นหัวเราะแทบตายค่ะขอบอก  ^ ^

              "หยุดๆ  น้องกานต์พี่ว่าแกเล่นบทนี่ไม่เหมาะอ่ะ"เจ๊ส้มพูด  หันไปหานายกานต์ที่เล่นเป็นลูกเลี้ยง  ก็จริงแหละเจ็  หน้ามันออกจะเหมือนพี่คยูฮยอนซะขนาดนั้น   ให้มันมาแต่งหญิง  โฮ้ยตาย

              "แล้วผมอ่ะพี่  ผมก็ไม่เหมาะนะ"นายป้องพูดบ้าง อย่างมีความหวัง  โธ่นายป้อง  ฉันจะสงสารนายดีมั้ย  แต่ว่าถ้านายแต่งหญิงน่าจะสวยนะ  นายหน้าหวาน

              "ไม่ๆ  น้องป้องอ่ะเหมาะแล้ว  แกแต่งหญิงแล้วสวยอยู่  น้องกานต์ไปเล่นเป็น..  เอ่อ.."เจ๊ส้มใช้ความคิด  หันไปเห็นไอ้ทหารสองตัวที่ยืนอยู่พอดี  เจ๊แกยิ้ม  เหมือนคิดอะไรได้สักอย่าง

              "กังฟู  แกไปเล่นเป็นลูกเลี้ยงแทนไอ้กานต์ ไปเร็ว"เจ๊ส้มหันไปหานายกังฟูค่ะ  ทุกคนในที่นั่นหัวเราะยกใหญ่  นายกังฟูทำหน้าเอ๋อ  ก่อนจะโวยขึ้นมา

              "ได้ไงอ่ะพี่  หน้าตาหล่อเหลาอย่างผมเนี่ยนะเหมาะ  โหย  ตาฝาดล่ะมั้งเจ๊"นายกังฟูโวย  เจ๊ส้มหันปมองด้วยสายตาพิฆาตก่อนจะโวยบ้าง

              "เออ  ถ้าแกไม่เหมาะก็ไม่มีใครเหมาะอ่ะ  ไอ้ป้องว่าหน้ามันสวย ยังไม่สู้แกเลย"เจ๊ส้มพูด  ก็จริงแหละค่ะ  ไอ้พวกนี้เกิดมาหน้าสวยได้ใจจริงๆ  หุหุ  ฉันดูนายผิดจริงๆนายป้อง  นึกว่าหล่อ  ที่แท้สวยซะงั้น  เฮ้อ

              "ถ้าผมเหมาะงั้นไอ้ยูโก็เหมาะด้วยดิ  เพราะมันเป็นแฝดผม"นายกังฟูท้วง  เริ่มหันไปกินน้องตัวเองแล้ว

              "ไม่ๆ  ไอ้ยูโดหน้ามันหล่อกว่าแก  นิดๆ  แต่แกสวยกว่าเพราะงั้น  ห้ามโวย  ตกลงตามนี้  โอเค ใช่มั้ย  อ่ะ  ไม่ตอบแสดงว่าโอเค  งั้นเริ่มแสดงได้"เจ๊ส้มพูดรัว  กลัวโดนขัดอ่ะดิเจ๊  โหยๆ  แล้วนายกังฟูก็ทำหน้เอ๋ออีกรอบ  เพราะเจ๊แกด่วนสรุป

              สรุปว่าลูกเลี้ยงก็มี  ยัยออม  นายป้อง  แล้วก็นายกังฟู  หุหุ  เอาล่ะสิ  แล้วนายกานต์ก็ไปเป็นทหาร 

              ซ้อมได้ไม่นาน  นายกังฟูกับนายกานต์ที่เปลี่ยนบทกันนั้น  เล่นได้ไม่ดี  เพราะยังไม่ได้อ่านบท เจ๊แกเลยสั่งหยุด  แล้วให้กลับไปอ่านอยู่บ้านค่ะ แล้ววันจันทร์ค่อยมาซ้อม  เพราะตามทำเนียมต้องหยุดวันอาทิตย์

              "งั้นวันจันทร์เจอกัน  ให้พร้อมนะ 2 คนนี้"เจ๊ส้มพูด   เสียงเข็ดขาด  แต่หน้าตาเป็นมิตร เจ๊ทำได้ไง - -

              ฉันเดินออกจากโรงละคร  ฉันต้องเดินกลับบ้านคนเดียวอีกแล้วหรอเนี่ย T T  ฉันต้องเดินคนเดียวอย่างนี้อีกนานมั้ยนะ 

              "นี่  วันนี้ฉันไปส่งมั้ย"เสียงสวรรค์ดังขึ้นมาจากข้างหลัง โห  เทวดาท่านไหนโปรดประทานมาเนี่ย 

              ฉันหันหลังไปยิ้มให้  แต่ คนที่ถามคือ  นายไทม์ ฉันช็อกค่ะ  อึ้งกิมกี่ไป3 วิ  ก่อนจะหันไๆปข้างหลังว่ามีคนอยู่ข้างหลังฉันรึเปล่า

              ไม่มี!  นี่นายถามฉันหรอ  กรี๊ดดดดดดด ! ไม่อยากจะเชื่อ  จะดีใจหรือเสียใจดีเนี่ย  เผื่อนายทิ้งฉันกลางทางอีกทำไง

              "ขอบใจ  ฉันไม่อยากถูกทิ้งกลางทางอีกรอบ"ฉันตอบ  ทำหน้างอนๆใส่  หุหุ  ก็แหม  ต้องเล่นตัวหน่อย  เดี๋ยวเขาจะหาว่าใจง่าย 

              "โกรธที่วันนั้นฉันทิ้งเธอกลางทางรึไง"นายไทม์ถาม  ทำหน้าทะเล้นใส่   ก็แน่ล่ะ  ใครไม่โกรธก็ให้มันรู้ไป ..

              "บ้า  ใครงอน  ไม่มี๊  คิดไปเองแล้วนาย"ฉันพูด  เสียงสูงทะลุชั้นโอโซน  (เกินไป)

              "เอาเป็นว่าวันนี้ฉันส่งถึงบ้านเลยดีมั้ย"นายไทม์พูด  ฉันทำท่าคิด  อันที่จริงตอบตกลงตั้งแต่ถามครั้งแรกแล้วค่ะ  หุหุ  เล่นตัวเฉยๆ 55++

              "ก็ได้  แต่ถ้านายทิ้งฉันกลางอีกล่ะก็  วันจันทร์ นายตายแน่"นายพูดขู่  ก็แน่ล่ะค่ะ  ใครมันจะอยากโดนทิ้งกลางทางมั่งล่ะคะ  มันต้องขู่ไว้ก่อน

              "โห  นี่เธอรู้มั้ยฉันกลัวเธอมากเลยนะ  ยัยแก้มซาลาเปา"นายไทม์ว่า  เอานิ้วจิ้มหน้าผากช้าน~~  หานายว่าไงนะ  นายว่าฉัน แก้มซาลาเปาหรอ  หน็อยย  มันจะมากไปแล้วนะ

              "อึ๋ย  นายว่าอะไรนะ  ไอ้หน้าหื่น  ไอ้หน้าตาย  ไอ้เย็นชา"ฉันว่ารัวเป็นชุด  55++ เล่นกะใครไม่เล่นมาเล่นกะไอ้ก้านหลิว  เป็นไงง  เงียบเลย  หุหุ

              "ถ้าเธอพูดคำว่าเย็นชาอีกรอบ  ฉันจะทิ้งเธอไว้ตรงเนี้ย"นายไทม์พูด เสียงเรียบ สีหน้าเปลี่ยนไปจากเมื่อกี๊ทันที  ฉันพูดผิดหรอ  ฉันพูดความจริงนะเนี่ย - -

              "ก็ได้ๆ ไม่พูดแล้วค่ะ  ไปกันได้ยัง"ฉันทำเสียงเหมือนเด็กโดนขัดใจ  ก็มันน่าหนิ  อยู่ดีๆก็ทำเย็นชาใส่

              นายไทม์ไม่ตอบ  แต่เดินนำไปที่รถ ซีอาร์วี สีดำที่จอดอยู่หลังโรงละคร  ฉันเปิดประตู นั่งลง  และรัดเข็มขัดเรียบร้อย  นายไทม์ก็สตาร์ทรถออกไป  และขับไปอย่างรวดเร็ว

              ที่บอกว่ารวดเร็วนี่คือเร็วมาก  เร็วจนหน้าตกใจ  ฉันเหลือบไปมอง  หา  นายเหยียบ 160 เลยเรอะ  ไอ้บ้า  แกคิดว่านี่สนามแข่ง ฟอมูล่า 1 รึไง ห๊า!

              "นี่นาย  จะรีบไปเฝ้าท่านยมรึไงหา"ฉันถาม  ตอนแรกว่าจะไม่พูด แต่นั่งนานๆ แทนที่จะชิน  หวาดเสียวกว่าเดิมอีก  แม่จ๋า  ช่วยลูกด้วย T_T

              "ไม่ต้องกลัว  วันนี้ท่านยมติดธุระ  มารับไม่ได้หรอก"นายไทม์พูด  ทำหน้าเหมือนไม่มีอะไร  อ๋อ  ฉันเพิ่งรู้ว่านายเข้าทรงถามท่านยมได้ด้วยว่าวันนี้ว่างมั้ย  จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว

              "ชิ"ฉันทำหน้าบึ้งใส่  ก่อนจะหันไปอีกทาง

              ได้ผล  นายไทม์ ชะลอความเร็วลง  ก่อนจะ  ขับช้ายังกะเต่าคลาน  โห  ถ้านายขับขนาดนี้ ฉันคลานไปยังเร็วกว่านะเนี่ย - -"

              "นี่นาย จะประชดฉันรึไงเนี่ย"ฉันหันไปแว้ดใส่  ชักเหลืออด นายนี่มันเคยพอดีสักอย่างมั้ยเนี่ย  บทจะเย็นก็เย็นจนติดลบ  บทจะกวนก็กวนจะน่าถีบ  บทจะขับช้า ก็ยังกะเต่าคลาน

              "ก็เธอบอกให้ฉันขับช้าๆ"นายไทม์หันมาพูดกับฉัน  ทำหน้าใสซื่อใส่อีก  โหย  ถ้าไม่ติดว่านายขับนะ ฉันถีบนายออกนอกรถไปแล้วว

              "งั้นก็เชิญตามสบาย"ฉันพูด  ก่อนจะเชิดใส่  แล้วทำหน้าเหมือนโกรธ 

              55++ ได้ผลอีกรอบค่ะ  นายไทม์เพิ่มความเร็วจนเป็นปกติที่คนสติดีๆเขาขับกัน  แต่ฉันก็ยังทำหน้างอนต่อไป  หุหุ  มันจะได้ขับอย่างนี้ไปจนถึงบ้าน

              โครกกก !!!

              เสียงท้องเจ้ากรรมของฉันร้องเสียงดัง  นายไทม์หันมามอง ก่อนจะอมยิ้มน้อยๆ

               "หิวข้าวหรอ"นายไทม์ถาม  ฉันหน้าแดงเพราะความอับอาย  ทำไมต้องมาร้องตอนนี้  ไอ้ท้องบ้า

               "เปล่านี่"ฉันปฏิเสธ หน้าด้านๆ  ทั้งที่หลักฐานมันทนโท่

               "อ๋อ  งั้นเมื่อก็คงจะเป็นเสียงแตรแหละมั้งเนาะ"นายไทม์พูด หัวเราะคิกคักกับมุขตัวเอง  มันขำมั้ยล่ะนั่น - -"

               เอี๊ยด!!!!!!!!!

               นายไทม์เบรกอย่างแรงค่ะ  หัวฉันคมำไปฟาดกับกระจกรถ  ไอ้บ้านี่  แกตั้งใจจะฆ่าฉันทางอ้อมเรอะ!

               "นี่นายเบรกทำไมเนี่ย"ฉันถาม  เอามือลูบหัวป้อยๆ  เจ็บค่ะ  โนเลยด้วย โธ่  โดนเต็มแรงเลยค่ะ T_T

               "เดี๋ยวมา"นายไทม์พูด  ออกจากรถไป  ปล่อยฉันนั่งลูบหัวคนเดียวอยู่ในรถ  ชักหวั่นว่ามันจะให้ขับซีอาร์วีกลับบ้านเองซะแล้วสิ  หึหึ  ฉันไม่คืนรถนะจะบอกให้ 55++

               ผ่านไป 10 นาที นายไทม์กลับมาพร้อมขอกิน เพียบค่ะ  เฮ้ย! แกจะซื้อมาถมบ้านแกเรอะ  รึซื้อไปขาย  เยอะจริงๆ  ฉันได้แต่มองค่ะ  หิวก็หิว T-T  นายตั้งใจจะแกล้งฉันใช่มั้ยเนี่ย

               "นี่ นาย"ฉันเรียกนายไทม์ค่ะ  เพราะกลิ่นสโมคกี้มันหอมมากมันชวนให้เอนไซม์ทำงานอีกครั้งค่ะ

               "หือ"นายไทม์ทำเสียงเหมือนจะถามว่า มีอะไร _ _

               "เปล่า"ฉันตัดสินใจไม่พูดดีกว่าค่ะ  ศักดิ์ศรีย่อมมาก่อนเสมอ  แต่ไส้จะขาดแล้วโว้ยยยย

               "หิวรึไง"นายไทม์ถาม  เอ๊ะ  พูดเหมือนรู้ทัน

               "อื้อ"ฉันยอมรับ  เริ่มทนไม่ไหวค่ะ  ข้าวเที่ยงฉันก็ไม่ได้กิน เพราะฝีมือการทำอาหารของพี่ปอ  ขอบอกว่า  ฉันทอดไข่ไหม้  ยังอร่อยกว่าค่ะ T T

               "ฮ่าๆ  หิวก็กินสิ  ฉันซื้อมาให้กินนะ  ไม่ได้ซื้อมาให้ดม"นายไทม์พูด  หัวเราะยกใหญ่  ฉันมองหน้านายไทม์  หมั่นไส้จนอยากเตะให้กระเด็นออกนอกรถไปเลยค่ะ  แล้วก็ไม่บอก อ่ะโถ่  แต่เวลานายหัวเราะน่ารักทึ่ซู๊ดดด  >o<

               "เออ  ขอบใจ"ฉันพูด  อย่างหมั่นไส้  ก่อนจะหยิบซาลาเปามากิน 

               ไม่ถึง 10 นาทีค่ะ  ของที่นายไทม์ซื้อมา ก็ลงไปอยู่ในท้องฉันเรียบร้อยค่ะ  นายไทม์หันมามองอย่างทึ่ง  ฮ่าๆ  แค่นี้มันยังน้อยไปสำหรับช้านน O_o  หุหุ  แต่เหมือนความเคยชินจะเข้าครอบงำค่ะ   เมื่อหนังท้องตึง  หนังตาก็หย่อน  มันก็เลย.....

               "นี่...เธอ  ก้านหลิว  นี่  ยัยก้านหลิว"เสียงนายไทม์ตะโกนใส่หูช้านเสียงดังค่ะ  ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา  ปัดโถ่  คนกำลังฝันว่าได้จับมือกับพี่คยูฮยอน  จะปลุกทำไมเล่า

               "มีอะไร"ฉันงัวเงียถาม  กำลังจะนอนต่อ

               "ถึงบ้านแล้วว  ไม่กลับรึไง  หรือจะไปอยู่บ้านฉัน"นายไทม์ถาม  ฉันสะดุ้งทันที  เหอะให้ฉันไปอยู่บ้านนายหรอ  55++   รอไปอีกร้อยชาติย่ะ  ไม่มีวันซะหรอก

               "หา  ถึงแล้วหรอ"ฉันพูด  รีบเปิดประตูรถแล้วลงไป ทันที  "ขอบใจนะ "ฉันพูด  ยิ้มให้หน่อยๆ  เห็นว่ามาส่งหรอกน่า

               แล้วรถนายไทม์ก็ขับออกไป  ฉันเห็นค่ะ  ตาฉันไม่ได้ฝาด  ฉันเห็น นายไทม์ยิ้มให้ฉันด้วย  อะฮ้า  วันนี้หิมะตกแน่เลย  เป็นไปไม่ได้
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×