คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 9
“พี่ฮีชอลเคยเที่ยวทะเลบ่อยแค่ไหน”ดงแฮถามทำลายความเงียบบนรถ
“ไม่เคย”ฮีชอลตอบ ความตื่นเต้นที่จะได้เที่ยวก่อขึ้นเต็มอก แต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกเศร้า.. เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ.. ตอนนี้เขากำลังมีความสุข อีกแค่ไม่กี่อาทิตย์ เขาต้องจากที่นี่ไป...
“มัวเหม่ออะไรอยู่ ฮีชอล..ดูนู่นสิ... เห็นมั้ย น้ำทะเลใสดีจริงๆ” เสียงซีวอนดังมาจากที่นั่งคนขับ ทำเอาฮีชอลสะดุ้งเฮือก ก่อนจะมองออกไปนอกกระจกรถ
“ว้าวว สวยจัง”ฮีชอลพูดเบาๆ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
...นั่นสิ.. ความสุข...
...งั้นก่อนไป ขอเก็บความสุขเอาไว้จำหน่อยเถอะ...
“ถึงแล้วว.. โอ๊ย นั่งรถจนก้นชาหมดเลย”ดงแฮกระโดดออกจากรถอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ถึงที่หมาย ก่อนจะยกกระเป๋าออกมาวางไว้ให้พนักงานยกไปอีกที
“อยากเล่นน้ำก็ไปเล่นเลยนะ แต่อย่าเล่นนาน เดี๋ยวไปสบายเอา..”ซีวอนบอก ขณะยกกระเป๋าช่วยพนักงาน
“ไม่ล่ะฮะ.. แดดแรงขนาดนี้ ไม่ต้องเล่นน้ำก็ไม่สบายได้แล้วพี่”ดงแฮบอก ยกมือป้องแดดเพราะแสบตา
“งั้นก็ไปเช็คอินกัน” ซีวอนบอก เดินเข้าไปในโรงแรมหรู
‘ดงแฮ เช็คอินคืออะไรหรอ’ ในความคิดของฮีชอลอยากจะถามดงแฮแบบนี้ แต่อีกใจกลับแย้งขึ้นมา
...นายจะถามเอาอะไรฮีชอล...
...อีกไม่นานนายก็จะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว...
“พี่ซีวอน.. ช่วงนี้พี่ฮีชอลเป็นโรคซึมเศร้ารึเปล่า” ดงแฮกระซิบถาม ซีวอนที่กำลังจ่ายเงินให้กับพนักงาน
“บ้าน่า ดงแฮ.. คิดได้ไง”ซีวอนพูด พร้อมกับเอากำปั้นทุบหัวดงแฮเบาๆ
“จริงๆนะ.. ช่วงนี้ พี่ฮีชอลดูซึมๆยังไงไม่รู้ วันก่อน ผมแอบเห็นพี่ฮีชอลร้องไห้ด้วย” ดงแฮพูด ทำเอาซีวอนคิ้วขมวด ก่อนจะส่ายหน้า
“คิดมากน่า” ซีวอนพูด ดงแฮยักไหล่ “ป่ะ.. ไปดูห้องกันดีกว่า.. ฮีชอล ไปกันเถอะ”
“ครับ” ร่างบางตอบกลับ ก่อนจะวิ่งตามไป
“พี่จองห้องเดียวหรอ” ดงแฮถาม เมื่อยืนอยู่หน้าห้อง
“ใช่ พี่จองห้องใหญ่ไว้..”ซีวอนบอก พร้อมกับเปิดประตูเข้าไปในห้อง “ เป็นห้องที่วิว สวยที่สุดเลยนะ”
“ดงแฮ ดูนี่สิ... มองจากตรงนี้เห็นทะเลชัดเลย สวยมาก”ฮีชอลร้องเรียกดงแฮจากระเบียง ดงแฮส่ายหน้าไล่ความคิดทั้งหมดออกจากหัวก่อนจะวิ่งไปหาฮีชอล
“เดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปเล่นน้ำกัน วันนี้ผมว่าเราพักผ่อนดีกว่า เดินทางเหนื่อยๆ”ดงแฮบอก ลากฮีชอลไปที่เตียง(O_o) ก่อนจะกระโดดลงไปนอนที่เตียงนุ่มๆของโรงแรม แล้วห่มผ้าคลุมโปง
“แล้วนายจะลากฉันมาทำไมเนี่ย” ฮีชอลพึมพำเบาๆ ยิ้มอย่างเอ็นดูให้คนที่นอนหลับเป็นตายอยู่บนเตียง
“ไม่พักสักหน่อยหรอ” ซีวอนถามเมื่อฮีชอลเดินมานั่งข้างๆ
“ไม่ล่ะครับ ผมยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่... ว่าแต่คุฯเถอะ สู้งานจริงๆ ขนาดลาหยุดมาเที่ยวยังหอบงานมาทำอีก” ฮีชอลพูดติดตลก แต่น้ำเสียงเจือไปด้วยความน้อยใจนิดๆ
“เวลาว่างๆ ดีกว่านั่งอยู่เฉยๆ ไม่ใช่หรอ” ซีวอนพูดแข่งกับเสียงรัวคีย์บอร์ดที่ดังเหมือนข้าวตอกแตก
“ก็นะ...”ร่างบางถอนหายใจ ก่อนจะทำหน้ามุ่ย
“หึหึ... งอนอะไรอีกฮึ.. เด็กดื้อ”ซีวอนหันมา เอามือเชยคางร่างบางขึ้น ดวงตาทั้งสองประสานกัน ทำเอาร่างบางหน้าแดงเป็นลูกตำลึง
“ปะ.. เปล่าครับ..ผะ..ผมแค่..น้อยใจ”ฮีชอลพูดติดๆขัดๆ เพราะความเขินอาย ก่อนจะเบือนหน้าหนีจากดวงตาอันมีเสน่ห์ของคนตรงหน้า
“น้อยใจฉัน... ไหนบอกมาซิ.. จะให้ฉันทำยังไง นายถึงจะเลิกน้อยใจฉันซะที”ร่างสูงพูด เบียดเข้าไปใกล้ร่างบางมากขึ้น
“แค่คุณเลิกทิ้งผมให้อยู่คนเดียว.. เพราะตอนนี้เวลาของผม..เหลือ ไม่มากแล้ว” ร่างบางพูด เอียงหัวซบลงบนไหล่ของร่างสูง
“พูดอะไรแบบนั้น... อย่าพูดแบบนี้อีกนะ ฉันใจไม่ดี รู้มั้ย”ร่างสูงบอก ขณะลูบหัวร่างบางเบาๆ ในขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงความเย็นจากไหล่ ที่เกิดจากน้ำตาของคนที่ซบอยู่
“อีทึกหายตัวไป... ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเยซองหรือไม่ก็คิบอมที่พาตัวอีทึกกลับ” คังอินพูด เสียงกลัดกลุ้ม
“ไม่ใช่หรอก.. เพราะคิบอมคอยจับตาดูฮีชอลที่โลกมนุษย์” เสียงทุ้มของชายหนุ่มอีกคนเอ่ยขึ้น
“แล้วทางนั้นเป็นไงบ้าง”คยูฮยอนเอ่ย มองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาเหมือนจะรู้คำตอบ
“พลาด... เจ้าคิบอมมันจับได้...”ชายหนุ่มตอบ ยกกาแฟขึ้นมาจิบอย่างเครียดๆ
“พี่คังอินพลาด.. พี่เจย์ก็พลาด.. งั้นเหลือแต่ผม... งานใหญ่นะเนี่ย”คยูฮยอนพูดติดตลก แต่กลับโดนคังอินเอากำปั้นทุบหัวอย่างแรง
“มันไม่ใช่เรื่องตลกนะ.. ตอนนี้เจ้าคิบอมมันรู้แล้ว ว่าเจ้าชาย
“ถ้าคิบอมพาฮีชอลกลับมาที่นี่เมื่อไหร่.. เจ้านั่นก็ต้องกลับมาด้วย”เจย์พูด
“งั้นก็แสดงว่า.. ถ้าเจ้านั่นกลับมา.. กุญแจสำคัญคงถูกใช้เพื่อเรียกความจำของเจ้าชาย” คยูฮยอนพูด ท่าทางครุ่นคิด
“ใช่.. เพราะฉะนั้น เป็นหน้าที่นาย..คยูฮยอน”คังอินพูด รอยยิ้มร้ายกาจผุดขึ้นมาบนใบหน้า
“หน้าที่ของผม... ที่จะทำให้รยอวุค.. ตาย.. ให้เร็วที่สุด” คยูฮยอนเสริมอย่างรู้หน้าที่ พร้อมกับยิ้มออกมา
“พี่อีทึก พี่เยซอง.. คิดถึงจังเลย” เสียงใสๆของคนที่รอคอยดังขึ้นเมื่อทั้งสองเดินเข้ามาในปราสาท
“รยอวุค.. ไม่ได้เจอหน้านานเลยนะ... คิดถึงเหมือนกัน”อีทึกพูดพลางหอมแก้มน้องรักแรงๆทั้งสองข้าง
“อยากหอมมั่งวุ้ย” เยซองพึมพำเบาๆอย่างขัดใจ แต่ยังไงก็ทำได้แค่มองดูเท่านั้น
“พี่อีทึกไปหาท่านลุงกันเถอะ.. ผมว่าท่านลุงคงคิดถึงพี่แย่เลย” รยอวุคบอก จูงมือพี่ชายสุดรัก ไปหาผู้เป็นลุง ก่อนจะเดินออกมาเพื่อให้คนที่ไม่ได้เจอกันนานได้คุยกัน
“รยอวุค นายไม่คิดถึงพี่บ้างรึไง”เยซองถามเมื่อเห็นคนตัวเล็กเดินยิ้มแป้นออกมา แก้มบวมๆเหมือซาลาเปาพองออกอย่างน้อยใจ
“คิดถึงสิครับ.. แต่จะให้ผมแสดงออกเกินหน้าเกินตาต่อหน้าพี่อีทึกได้ไงเล่า” รยอวุคพูด กระโดดหอมแก้มคนตรงหน้าเบาๆ
“ต่อไปนี้ พี่จะคอยปกป้องนายที่นี่.. ไม่ไปไหนแล้วนะ” เยซองบอก รยอวุคก้มหน้าเพื่อปกปิดความเขินอาย
“ครับ...” สิ้นเสียง เยซองก็ดึงคนตัวเล็กมากอด
“เฮ้ยๆ.. นิดนึงๆ เกรงใจกันนิดนึง..นี่มันน้องฉัน”เสียงของอีทึกดังขึ้น ทั้งสองรีบผละจากกันอย่างรวดเร็ว เยซองส่ายหน้าอย่างขัดใจ
“พี่อีทึกมาตั้งแต่เมื่อไหร่” รยอวุคถาม หน้าแดงยิ่งกว่ามะเขือเทศสุก ทำเอาอีทึกกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
“ตั้งแต่พวกนายกอดกันแล้ว”อีทึกบอก ยักคิ้วให้เยซองที่ทำหน้าเว็งสุดๆอย่างสะใจ ...กวนเบื้องล่างดีนัก เป็นไงล่ะ.. สม...
“มารขวางตลอด”เยซองพึมพำดังๆกะให้ได้ยินก่อนจะเดินจากไป ทิ้งอีทึกที่กำลังจะสวนกลับอ้าปากค้าง
“อะ..ไอ้.. เยซอง..กลับมาให้ด่าก่อนสิวะ.. คอยดูนะ ฉันจะเป็นมารของนายไปตลอดเลย”อีทึกตะโกนไล่หลัง ทำเอาคนตัวเล็กหน้ามุ่ยไป
“พี่อีทึกอ่ะ”รยอวุคตะโกนใส่ ก่อนจะวิ่งหนีขึ้นปราสาทไป
“อ้าว..ผิดทั้งขึ้นทั้งร่องเลยเรา”อีทึกพูด ยืนเกาหัวอย่าง งงงวย
.
“พี่ซีวอน.. เดี๋ยวผมออกไปเดินย่อยอาหารข้างนอกก่อนนะ”ดงแฮบอกหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ก่อนจะลุกออกมาข้างนอก
สายลมเย็นอ่อนๆพัดตามชายหาด เสียงคลื่นซัดฝั่งดังตลอดเวลาทำให้ที่นี่ดูครึกครื้น ถัดไปประมาณสองกิโล แสงไฟสว่างจ้าจากสถานบันเทิงหลายแห่ง เสียงเพลงดังได้ยินถึงที่นี่ ดงแฮเดินท่ามกลางแสงสว่างมัวของหลอดไปริมทาง
“ทำไมนายชอบออกมาดึกอย่างนี้นะ..รู้มั้ยมันอันตรายแค่ไหน” เสียงทุ้มที่คุ้นเคย(แต่ไม่ชิน)ดังขึ้น ทำเอาดงแฮสะดุ้งทุกครั้งที่ได้ยิน
“แล้วทำไมนายชอบโผล่มาแบบนี้อยู่เรื่อยเลย หา! รู้มั้ยฉันหัวใจจะวาย”ดงแฮหันไปว่า
“จะให้ฉันบอกพนักงานประชาสัมพันธ์ก่อนมั้ย.. ว่าจะมาหานาย”คิบอมเอ่ยเสียงเรียบ ใบหน้ามีรอยยิ้มที่ยากจะให้ใครเห็น
“เรื่องของนาย..แต่ขอร้อง.. อย่ามาแบบไม่ให้สุ้มไม่ให้เสียง” ดงแฮพูด ถอนหายใจอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเดินต่อไป
“ก็นะ.. แต่ว่า มันอันตรายนะเดินกลางค่ำกลางคืนแบบนี้ กลิ่นเลือดนายยิ่งหอม..ชวนให้พวกแวมไพร์ตัวอื่นมาหา... ถ้าฉันไม่คอยตามนายแบบนี้ นายตายไปนานแล้วรู้มั้ย” คิบอมพูด ดงแฮหันมามองหน้าอย่างไม่พอใจ
“เป็นพระคุณอย่างสูง..”ดงแฮพูดประชด “แล้วแวมไพร์กลัวไม้กางเขนมั้ย”
“ตัวอื่นอาจจะกลัว.. แต่ฉันไม่” คิบอมพูด
“ด้านจัง”ดงแฮเอ่ยเบาๆ ก่อนจะหัวเราะคิกคักขึ้นมา
“ฉันจะถือว่าเป็นคำชมที่ดี”คิบอมบอก
แต่การสนทนาของทั้งคู่ ถูกสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ด้านหลังอย่างเงียบๆ
“นายตามดงแฮทำไมนะ.. คิม คิบอม”
“พูดอะไรคนเดียว.. ฮีชอล”เสียงทุ้มของซีวอนดังขึ้นจากด้านหลัง “แล้วนั่นดงแฮคุยกับใครอยู่”
“คงจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเหมือนกันล่ะมั้งครับ”ฮีชอลปด นิ้วชี้กับนิ้วกลางไขว้กันอยู่ “แล้วคุณออกมาทำไมหรอ”
“ก็เห็นพวกนายออกมาเดินเล่น ฉันก็อยากเดินเล่นบ้าง”ซีวอนตอบ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ “ทะเลช่วงกลางคืนนี่ อากาศดีไม่เบาเลยนะเนี่ย”
“นั่นสินะครับ” ฮีชอลเสริม ดวงตาคู่กลมลอบมองคนข้างๆที่ กำลังสดชื่นกับอากาศจนลืมมองคนที่อุตส่าห์แอบตามมา
“ฮีชอลแอบตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย” คิบอมพึมพำเบาๆ แต่ก็ไม่รอดหูของดงแฮไปได้
“นายรู้จักพี่ฮีชอลด้วยหรอ.. อย่าบอกนะว่าพี่ฮีชอลก็เป็น...”ดงแฮพูด ตาค้างด้วยความไม่เชื่อ
“บ้าแล้ว.. คิดได้ยังไง.. ฮีชอลไม่ได้เป็นแวมไพร์เหมือนฉันหรอก”คิบอมบอก ส่ายหน้ากับความคิดของดงแฮ
“แล้วนายรู้จักพี่ฮีชอลได้ไง” ดงแฮถาม มองหน้าคิบอมด้วยสายตาคาดคั้น
“เรื่องของฉัน”คิบอมตอบปัดๆ ก่อนจะอุ้มดงแฮขึ้นแล้วบินขึ้นกลางอากาศ “ดึกแล้วนะ ฉันว่านายไปนอนได้แล้ว”
“เฮ้ยๆๆ... ไอ้บ้านี่.. ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ.. ไม่ชอบความสูงโว้ยยย... ปล่อยยยย”ดงแฮแผดเสียงร้องออกมาอย่างตกใจมื่อรู้ตัวอีกทีก็อยู่ในอ้อมแขนของแวมไพร์หนุ่ม แล้วก็อยู่กลางอากาศเรียบร้อยแล้ว
“ถ้าฉันปล่อยนายก็ตกลงไปตายน่ะสิ...”คิบอมพูด อมยิ้มน้อยๆกับท่าทางของคนที่อยู่ในอ้อมแขน
“เออๆ งั้นก็รีบพาไปที่ห้องซะทีสิ.. หวาดเสียววุ้ย”ดงแฮพูด กอดคอคิบอมแน่น พร้อมกับซบใบหน้าลงบนไหล่ของคิบอม
“งั้นไปแล้วนะ...”คิบอมบอก พร้อมกับพุ่งตัวลงไปที่ระเบียงห้องพักของซีวอนอย่างรวดเร็ว ทำเอาดงแฮร้องเสียงหลง
“ไอ้บ้าเอ๊ย! พามาส่งให้เหมือนชาวบ้านชาวช่องหน่อยไม่ได้รึไง.. นาชอบทำให้ฉันตกใจอยู่เรื่อยเลยนะเนี่ย”ดงแฮว่าทันทีที่เท้าแตะพื้น ขณะที่หอบหายใจถี่
“เท้าแตะพื้นล่ะทำเก่งเชียวนะ.. หึหึ.. แล้วโอกาสหน้าเจอกัน”คิบอมบอก ก่อนจะบินจากไป ดงแฮได้แต่แลบลิ้นใส่ตามหลังอย่างหมั่นไส้
“อ้าว.. หายไปไหนแล้วล่ะนั่น”ซีวอนมองไปตรงหน้าเพื่อหาดงแฮที่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว
“นั่นสิครับ เร็วจัง”ฮีชอลพูด คิ้วขมวดเป้นปมด้วยความสงสัย
...คิบอมมันเอาไปกินแล้วเรอะ หรือยังไง...
ทันใดนั้น ร่างบางก็รู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ท่ามกลางความมืด ร่างบางหันกลีบไปดู แต่ก็ไม่พบใคร... การจ้องมองแบบนี้ ไม่ใช่คิบอมแน่.. ความรู้สึกแบบนี้...ไม่ใช่คิบอม.. แต่.. เป็นนายแน่ๆ..
...ไม่ผิดแน่... ใช่นายจริงๆด้วย..
...เจย์...
“เป็นอะไรไปเด็กดื้อ..”ซีวอนมองท่าทางของฮีชอลอย่างสงสัย
“เปล่าครับ... ผมกำลังมองหาดงแฮอยู่”ฮีชอลปดอีกรอบ ในใจได้แต่นึกขอโทษซีวอนที่โกหกไปถึงสองครั้งติดกัน
“อากาศเริ่มเย็นแล้ว.. ฉันว่าเราไปนอนกันดีกว่านะ” ซีวอนบอกพร้อมกับจูงมือร่างบางเข้าไปในโรงแรม
“คุณคยูฮยอน คูรทำหน้าเครียดอีกแล้วนะครับ” เสียงหวานร้องทักทันทีที่เขาเข้ามาใน พร้อมกับเอาชาอุ่นๆมาให้
“ฉันมีเรื่องเครียดนิดหน่อยน่ะ”คยูฮยอนบอก นั่งลงบนโซฟาอย่างอ่อนเพลีย
“ผมน่าจะช่วยคุณได้บ้าง”ซองมินพูดเสียงแผ่ว ก่อนจะนั่งลงข้างๆ
“ฉันเห็นทีต้องให้นายช่วยแล้วล่ะซองมิน” คยูฮยอนพูด รอยยิ้มร้ายกาจผุดขึ้นมาบนใบหน้าเจ้าเล่ห์
“ให้ผมช่วยอะไรบอกมาได้เลยครับ”ซองมินพูดเสียงใสด้วยความยินดี
“ฆ่าใครบางคนให้ฉันที..”คยูฮยอนบอก ซองมินทำหน้าฉงนเล็กน้อย
“ใครกัน...”ซองมินเอียงคอถามด้วยความสงสัย
“คิม รยอวุค” สิ้นเสียงซองมินถึงกับทำตาโตด้วยความตกใจปนแปลกใจ
“แต่รยอวุคเป็น...” ยังไม่ทันได้พูดจบ คยูฮยอนก็ดึงซองมินเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน พร้อมกับประกบริมฝีปากลงบนปากนุ่มๆของซองมิน ลิ้นร้อนกวาดไปทั่วโพรงปาก ซองมินได้แต่เลื่อนตัวไปแอบอิงตัวของคยูฮยอน ก่อนที่คยูฮยอนจะถอนริมฝีปากออก
“นี่เป็นค่ามัดจำ.. เสร็จงานแล้ว นายจะได้มากกว่านี้อีก”คยูฮยอนบอก มองหน้าของซองมินที่เป็นสีแดงจัด “นายจะช่วยฉันได้มั้ย”
“คะ..ครับ”
...ฉันขอโทษจริงๆนะ.. รยอวุค...
...ขอโทษที่รักษา ‘สัญญา’ ที่ให้ไว้กับนายไม่ได้...
.
.
.
โอ๊ๆๆๆ กลับมาอัพอีกตอนแล้ววว
กว่าจะได้มา นานมากมั้ยอ่ะ
คนอ่านคงจะลืมกันหมดแล้วล่ะเนี่ย TT^TT
ยังไงก็อย่าเพิ่งลืมกันน๊าาา
คิดถึงกันนิดนึงนะจ๊ะๆ
เป็นยังไงก็คอมเม้นบอกกันได้นะ
ให้แก้ตรงไหนยังไง
ฝากด้วยละกันนะ
แต๊งกิ้วอย่างแรงเลยจ้าาา
.
.
.
.
ความคิดเห็น