คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 8
ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องในยามราตรี สะท้อนให้เห็นภาพร่างของคนตาสวยนอนหลับอยู่บนเตียงนุ่ม ผู้มาเยือนนั่งมองอยู่ที่ริมหน้าตา ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาร่างที่หลับอยู่
“เฮ้ย!” ชายหนุ่มผู้มาเยือนร้อง เมื่อมีดสั้นเฉียดลำคอไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
“โธ่ เยซอง.. นายทำฉันตกใจหมด”อีทึกถอนหายใจ เหงื่อเม็ดใสเกาะเต็มใบหน้าอันขาวเนียน
“ฉันจะไม่ตกใจกว่าหรอ นายเล่นจ้องจะปาดเส้นเลือดฉันขนาดนั้น ถ้าฉันหลบไม่ทันมีหวัง ได้มีการจารึกชื่อฉันในหน้าประวัติศาสตร์แน่”เยซองย้อนกลับ ก่อนจะนั่งลงที่ปลายเตียง
“เอาน่า..ฉันขอโทษแล้วกัน แล้วนายหาฉันเจอได้ยังไง”อีทึกถาม พลางเก็บมีดไว้ที่ใต้หมอนเหมือนเดิม
“ก็สุ่มๆเอา”เยซองตอบ ก่อนจะยักคิ้วให้คนตาสวยอย่างกวนๆ
“เออ..ขอบใจสำหรับคำตอบ”คนตาสวยพูด “แล้วนายมาที่นี่ทำไม”
“ฉันก็มาตามนายกลับน่ะสิ..หรือจะให้ฉันมาขอคนที่นี่แต่งงานเล่า”เยซองตอบกวนๆ (ขอแต่งงาน...ที่นี่มีแต่ คังอินกับคยูฮยอนนะเฟ้ย-*-)
“กลับ?? ตอนนี้เนี่ยนะ”อีทึกทวน คิ้วขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย
“ใช่.. ตอนนี้แหละ”
“แต่ว่า ฉันยังไม่บอกลาคังอินเลยนะ แล้วก็คยูฮยอนด้วย”อีทึกบอก เยซองส่ายหน้า
“ไม่จำเป็น ขืนไปลาไอ้สองตัวนั่น มีแต่จะเสียเรื่อง ไปเหอะ”พูดจบ ก็ดึงแขนคนตาสวยกระโดดลงจากปราสาททันที
“นี่ แต่มันเป็นการแสดงมารยาทที่ไม่ดีเลยนะ”อีทึกตะโกนฝ่าเสียงลมที่ดังอื้อ
“เฮ้อ..นายจะไปอาลัยอาวรณ์อะไรเจ้าคังอินนั่นมันนักหนา..ชอบมันอยู่รึไง อย่าให้คิบอมมันมาได้ยินเชียวนะ มันคงเสียใจแย่เลย”เยซองพูด ทำเอาคนที่เกาะอยู่ข้างหลังหน้าแดงไปถึงหู
“บ้า.. ใครชอบ..ไม่มีหรอก...แล้วคิบอมเกี่ยวอะไรด้วย”อีทึกพูด ตีแขนคนข้างหน้าอย่างแรง
“ช่างมันเหอะ.. แล้วอย่าถามอะไรอีกนะ.. ฉันต้องการสมาธิ”เยซองบอก ทำเอาคนตาสวยได้แต่กัดฟันอย่างหมั่นไส้
“เฮ้อ.. อยู่คนเดียวอีกตายเคย”ร่างบางบ่น ขณะที่นั่งอยู่ที่ระเบียงนอกห้อง
“นั่นสินะ.. ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนมั้ยล่ะ”เสียงทุ้มดังขึ้น ฮีชอลมองไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า
“ทำไมนายชอบมาแบบไม่ให้สุ้มไม่ให้เสียงเลยนะ คิบอม”ฮีชอลตำหนิ พร้อมกับมองหน้าคิบอมอย่างไม่พอใจ
“ขอโทษแล้วกัน.. แล้วนายใช้เวทย์ได้รึยัง”คิบอมถาม หัวเราะน้อยๆอย่างขำๆ ร่าบางถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ได้แล้ว... คล่องเลยด้วย..ให้โชว์ให้ดูมั้ย”ร่างบางพูดอย่างเบื่อๆ ก็แน่ล่ะ ซีวอนเล่นมิ้งให้อยู่บ้านคนเดียวแบบนี้ มันก็ต้องเหงากันบ้างล่ะ...
“งั้นก็ดี.. ฉันจะได้พานายกลับซะที”คิบอมพูด ร่างบางถึงกับมีสีหน้าตกใจ
“ไม่นะ.. คิบอม ฉันยังไม่อยากกลับเลยอ่ะ.. ให้ฉันอยู่ต่อเหอะนะๆ”ฮีชอลทำเสียงออดอ้อนหวังความเห็นใจจากคนตรงหน้า
“ฮ่าๆ..ทำไม นายติดใจชายหนุ่มรูปงามเจ้าของบ้านแล้วรึไง”คิบอมถามตรงจุด ทำเอาคนโดนถามถึงกับหน้าขึ้นสี
“เหอะน่า..เรื่องของฉัน..สรุปว่า นายให้ฉันอยู่ต่อใช่ป่ะ” ร่างบางถามเป็นเชิงอ้อนๆ
“ไม่ได้... ยังไงนายก็ต้องกลับไปอยู่ดี”คิบอมบอก ร่างบางทำแก้มป่องอย่างขัดใจ
“อะไรว้า... งั้นฉันขออยู่ต่ออีกเดือนนึงน่า” ฮีชอลพูด คิบอมส่ายหน้าเชิงปฏิเสธ
“แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น”คิบอมบอก ฮีชอลจิ๊ปากอย่างขัดใจ
“แค่เดือนเดียวเอง..นะๆ ถ้านายคิดถึงอีทึกมากนะ นายก็ไปหาอีทึกก่อนก็ได้แล้วค่อยมารับฉัน”ฮีชอลพูด คิบอมแก้มเป็นสีเรื่อๆเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่ได้... ตอนนี้มีคนจ้องเล่นงานนายอยู่... อาทิตย์ครึ่ง โอเค”คิบอมพูด ฮีชอลทำแก้มป่องอีกครั้ง
“ไม่เอา.. เดือนเดียวนะๆๆ..คิบอมสุดหล่อ..แสนใจดี..สุดที่รักของทึกกี้”ฮีชอลพยายามสรรหาคำพูดเพื่อให้คิบอมใจอ่อน
“ฉันให้นายได้แค่ 3 อาทิตย์ เท่านั้น ไม่มีการต่อรอง...แล้วฉันจะมารับนาย”พุดจบคิบอมก็กางปีกออกแล้วบินหายไปทันที ทิ้งให้ร่างบางสบถอย่างหัวเสียอยู่คนเดียว
“เฮ้อ..วันนี้รู้สึกใจหายแปลกๆแฮะ” ซีวอนพึมพำ ก่อนจะลงมือเซ็นเอกสารกองโตที่วางซ้อนกันอยู่ตรงหน้า
เพล้ง!
เสียงแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะซึ่งอยู่คนละฟากกับโต๊ะทำงานตกลงมาแตกอย่างหาเหตุผลไม่ได้ร่างสูงมองอย่างสงสัย ก่อนจะคิดถึงคนๆนึงขึ้นมา
...คิม ฮีชอล...
ร่างสูงรีบออกจากบริษัท ก่อนจะบึ่งรถด้วยความเร็วสูงกลับมาที่บ้าน ด้วยอาการจิตไม่ค่อยจะปกติเพราะความเป็นห่วงเจ้าจอมจุ้นที่เขาปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียว
“ฮีชอลๆๆๆ”เสียงเรียกพร้อมกับเสียงทุบประตูดังขึ้นที่หน้าห้องของฮีชอล
แอ๊ด..(เสียงเก่าโครต)
ร่างบางเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก ซีวอนมองอย่างสงสัย ก่อนที่ร่างบางจะโผเข้ากอดเขา
“ฮีชอล”ซีวอนเอ่ยเสียงแผ่ว มือข้างหนึ่งลูบหัวคนในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยน
“ถ้าผมต้องไปจากที่นี่.. ผมคงคิดถึงคุณน่าดู”คนในอ้อมกอดเอ่ยขึ้นมา ร่างสูงกระชับอ้อมกอดให้แน่ยิ่งขึ้น ราวกับว่าคำพูดของร่างบางจะเป็นจริง
“นั่นสินะ.. ฉันคงต้องหาเวลาไปเยี่ยมนายทุกเดือน.. ทุกสัปดาห์.. ทุกวัน เลยมั้ง”ซีวอนพูด ก่อนจะคลายร่างบางออกจากอ้อมกอด ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าสวยของคนตรงหน้าอย่างจริงใจ
“คุณคงจะหาผมไม่เจอหรอก.. ที่ที่ผมอยู่ มันไกลมาก.. มากจน เราห่างกันเกินไป.. จนหากันไม่เจอ”ร่างบางพูดเสียงแผ่ว พยายามสกัดกั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา
“ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน..ฉันก็จะไปหานาย.. ต่อให้ไกลกันสุดฟ้าก็ช่าง.. ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เจอนายอีกครั้ง”ซีวอนพูด จ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่กลมโตของฮีชอล ราวกับจะบอกอะไรบางอย่าง
“ไม่มีทาง...”ร่างบางเอ่ยอย่างแผ่วเบา ยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า ร่างสูงส่ายหน้า
“ยังไงซะ..ฉันก็ต้องไปพบนายให้ได้.. แม้จะแลกด้วยชีวิต ฉันก็ยอม”
ท่ามกลางห้องหรูที่ตกแต่งด้วยฟอร์นิเจอร์สไตล์ตะวันตกแบบโบราณ คนตัวเล็กนั่งหน้ามุ่ยอย่างขัดใจบนโซฟาตัวเดิมที่เคยนั่งอยู่เป็นประจำ ก็มันน่านัก.. ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถไปที่ไหนก็ได้ตามใจชอบ แต่เจ้านายสุดที่รักกลับหายไปไหนก็ไม่รู้แบบนี้.. ทำเอาเซ็งกันไปยกใหญ่
“ซองมิน.. ทำไมนั่งหน้ามุ่ยอย่างนั้นล่ะ”เสียงที่รอคอยดังขึ้น ถึงแม้ในใจจะดีใจที่ได้ยิน แต่ตามฟอร์ม เขาต้องขอเมินไว้ก่อนล่ะ
“...” ไม่มีเสียงตอบกลับ คยูฮยอนยิ้มอย่างเพลีย ก่อนจะเดินเข้าไปนั่ง(เบียด)ข้างๆ คนตัวเล็ก ที่ทำเป็นไม่ได้ยินเสียง
“งอนฉันรึไง.. ขอโทษนะ.. แบบว่า..มีเรื่องยุ่งนิดหน่อยน่ะ”คยูฮยอนบอกเสียงเพลียๆ ซองมินหันมามองด้วยความเป็นห่วง
“ผมน่าจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง” ซองมินบอกด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด เขากำลังทำให้เจ้านายสุดที่รักกำลังลำบากใจสองต่อ
“ไม่ต้องหรอก.. แค่นายช่วยทำตัวน่ารักๆแล้วก็เป็นกำลังใจให้ฉันก็พอแล้ว” คยูฮยอนบอก ก่อนจะเอนตัวนอนลงบนตั๊กนุ่มของซองมิน ที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข
ครืดๆๆ
เสียงโทรศัพท์สีดำขลับสั่นสะเทือน ขณะที่เจ้าของเครื่องกำลังอยู่ในห้วงนิทรา
“ฮัลโหล..”เจ้าของเครื่องงัวเงียรับสาย
“ฮยอกแจ.. สายของเรารายงานมาแล้ว ตอนนี้ ที่ เดิมรีบๆด้วย” เสียงทุ้มลอดปลายสายออกมา ฮยอกแจค่อยๆดันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเงยหน้ามองนาฬิกา ที่บอกเวลา อีก 15 นาที ตีสอง
“มาทำซอกอะไรตอนนี้วะ” ฮยอกแจบ่นเบาๆ ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมและอุปกรณ์สำหรับล่าแวมไพร์เล็กๆน้อยๆติดมือไปด้วย
“เวลาอื่นมีแสนแปดไม่ยักโผล่ ชอบโผล่จริง..เวลาอากาศหนาวเนี่ย” ฮยอกแจสบถอย่างหัวเสีย พลางกระชับเสื้อคลุมเข้ามาหาตัวเพื่อความอบอุ่น
“เพราะเลือดมนุษย์มันช่วยให้เราอุ่นขึ้นไงล่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น จากทางด้านหลัง ฮยอกแจหันขวับกลับไปอย่างอารมณ์ไม่สู้จะดีนัก
“หรอ.. นายอีกแล้วนะ เมื่อไหร่จะเลิกตามฉันซะที.. ฮันคยอง ”ฮยอกแจถาม จิ๊ปากอย่างขัดใจ
“ใช่... ฉันเอง” ฮันคยองรับ ยิ้มอย่างสุภาพให้คนตรงหน้า สร้างอารมณ์โมโหให้ฮยอกแจเป็นอย่างมาก
“เหอะ.. แล้วนายตามฉันทำไม.. หรือว่า.. อยากตายเร็วขึ้น”ฮยอกแจถาม ยกปืนขึ้น เล็งไปที่ศีรษะของฮันคยอง
“เปล่า.. ฉันตามมา แก้แค้น ต่างหาก” ฮันคยองตอบเสียงเย็น รอยยิ้มสุภาพเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่เยียบเย็น
“แก้แค้น ?? ฉันไปทำอะไรให้นาย” ฮยอกแจ คิ้วขมวดติดกันจนเป็นปม
“ว้า.. นายจำผู้ชายคนนึงที่นายไล่ฆ่าเมื่อต้นปีที่แล้วไม่ได้หรอ... พ่อของเค้าต้องตายเพราะนาย แม่ของเค้า พยายามจะปกป้องลูกชายแต่กลับถูกฆ่าตายอย่างเลือดเย็น... เค้าแกล้งทำเป็นตาย เพื่อที่จะรอดชีวิต.. เพื่อวันนี้ไงล่ะ” ฮันคยองพูด สีหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด
“หรือว่า.. นายคือ... เจ้านั่น...”ฮยอกแจถามเสียงแผ่วด้วยความตกใจ ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“ใช่.. เอาล่ะ.. ทำไม.. นายถึงเลือกเป็นนักล่าแวมไพร์ ทั้งๆที่นายไม่มีอะไรบาดหมางกับพวกแวมไพร์เลย” ฮันคยองเปิดประเด็น
“ฉันคิดว่านายน่าจะรู้คำตอบนะ..”ฮยอกแจพูดหลังจากที่ตั้งสติได้ รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ซีดเซียวเพราะความหนาว “เพราะ..เงินไงล่ะ”
“นั่นสินะ.. นักล่าแวมไพร์เงินดีจะตาย...”ฮันคยองพูด มองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา “ฉันไปดีกว่า..วันนี้ไม่ว่างเท่าไหร่.. ไว้เจอกันนะ.. ครั้งหน้านายไม่โชคดีอย่างนี้หรอก”
พูดจบ ฮันคยองก็กางปีกออก ก่อนจะบินหายไปท่ามกลางความมืด
“มันให้เราออกมา..เพื่อมาฟังมันพล่ามเนี่ยนะ...เวรเอ๊ย!” ฮยอกแจสบถอย่างหัวเสีย ขณะเดินกลับห้อง
“หายไปไหนมา.. ฮันคยอง”เสียงเพื่อนรักเอ่ยถาม เมื่อเท้าเขาแตะลงบนพื้น
“ไปหาคนที่นายก็รู้ว่าใคร”ฮันคยองบอก “แล้ว ฮีชอลเป็นไงบ้างล่ะ คิบอม”
“ก็ดี... แต่ฉันว่าเราต้องรีบแล้วล่ะ” คิบอมบอก สีหน้าเคร่งเครียด
“เพราะเจ้านั่นสินะ”ฮันคยองพูด ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย “ฉันนึกว่ามันจะตายไปแล้วซะอีกนะเนี่ย”
“นายคิดว่าไง ถ้าเราจะไปเจรจา” คิบอมถาม ฮันคยองส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
“อย่าเลย ขนาดฉันเป็นน้องชายมัน.. มันยังไม่ฟังฉันเลย” ฮันคยองบอก คิบอมพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ
“แต่ว่า.. เจ้าเด็กที่ชื่อ ดงแฮนั่น.. ก็ดีแฮะ.. เจอเด็กนั่นคนเดียว ได้นดตั้งสองตัว”
“ไม่หรอก... มันมากกว่านั้น..” คิบอมบอก รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าอันเคร่งเครียด
...นายพลาดแล้วล่ะ.. เจย์...
ทามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ ร่างบางนั่งเหม่ออยู่ที่ระเบียง ในหัวคิดถึงวันข้างหน้า ถ้าเขาต้องจากที่นี่ไป จากคนที่ ‘รัก’ ไปอยู่ในที่ที่เขาจากมา
“มานั่งเหม่ออะไรอยู่ตรงนี้.. ฮึ!”เสียงนุ่มของซีวอนดังขึ้นพร้อมกับกลิ่มหอมของชาร้อนๆ ที่ซีวอนตั้งใจชงมาให้
“ก็.. เรื่อยเปื่อยฮะ” ฮีชอลตอบ ยิ้มให้ซีวอนก่อนจะรับชาร้อน มาจิบ
“เข้าไปข้างในดีกว่า.. เดี๋ยวไม่สบายเอา.. พรุ่งนี้จะไปเที่ยวไม่ได้”ร่างสูงบอก พลางจูงมือร่างบางเข้าไปในห้องที่อบอุ่น
“เที่ยว??”ร่างบางทวนซ้ำ ก่อนจะยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
“ใช่.... ดงแฮหยุดเรียนอาทิตย์นึงพอดี ฉันเลยกะว่าจะพาพวกนายไปเที่ยว.. เห็นนาย
“เย้... ดีใจจัง... คุณปล่อยผมเหงาอยู่คนเดียวตั้งหลายวันเลย คุณรู้มั้ย” ร่างบางพูด กระโดดขึ้นไปนั่งบนเตียว กอดตุ๊กตาหมีพูตัวใหญ่ ก่อนจะทำแก้มป่อง
“ฉันขอโทษ.. ฉันเลยกะจะพานายไปเที่ยวเป็นการไถ่โทษไง” ร่างสูงบอก ขยี้หัวร่างบางอย่างหมั่นเขี้ยว
“แค่นี้ผมไม่ยกโทษให้หรอก”ร่างบางพูด หันไปทางอื่นอย่าง งอนๆ
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ ฮึ” ร่างสูงถาม ดวงตาคมมองใบห้าหวานที่เป็นสีเรื่อๆดูน่ารัก
“เดี๋ยวก็รู้”ร่างบางยิ้มหวานให้.. แต่แปลก เขากลับรู้สึกว่ามันเป็นลางไม่ดีเอาซะเลย รอยยิ้มหวานแบบนี้...
.
.
.
กลับมาอัพอีกตอนแล้ววว
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาเลยอ่า
โทษทีน๊าาาา
อยากมาอัพบ่อยๆ แต่ไม่ค่อยมีเวลา
อีกอย่างไรต์เตอร์กำลังอกหักแหละ
เมื่อวานนี้เอง TT^TT
ยังไงไรต์เตอร์จะพยายามหาเวลามาอัพเรื่อยๆจ้า.
.
.
ความคิดเห็น