คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1 --- บทเริ่มเรื่อง
“อีทึก รีบหนีไป ไม่ต้องห่วงฉัน” เสียงตะโกนบอกของเพื่อนรักดังจากข้างหลัง
“ไม่ฮีชอล ฉันจะไม่ทิ้งนาย”อีทึกพูด วิ่งเข้าไปหาเพื่อนรักที่อาการกำลังแย่
“ไม่ได้ นายต้องไป พวกมันใกล้เข้ามาแล้ว นายต้องรอดนะอีทึก เพื่อรยอวุค น้องนายไง”ฮีชอลบอก แววตาเด็ดเดี่ยว “ฉันรับมือกับพวกมันไหว เชื่อฉันสิ รีบไป”
ฮีชอลผลักเพื่อนรักออกไป ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก เลือดสีแดงสดไหลออกจากบาดแผลทั่วร่างกาย ร่างบางค่อยๆสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเล็งธนูไปที่ด้านหน้า พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับพวกที่ไล่ล่าเขาอยู่
“ฮีชอล!!”อีทึกตะโกนก้อง เมื่อถูกเพื่อนรักผลักออกมา น้ำตาใสไหลเอื่อ
“อุ๊บบ !!” มือใหญ่เอื้อมมาปิดปากเขาไว้จากมุมมืด อีทึกพยายามดินรน แต่เหมือนเรี่ยวแรงจะมลายหายไปแล้ว บุคคลนิรนามลากเขาเข้าไปในความมืด
“ชู่ว์ ไม่เอาน่า อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวพวกนั้นก็มาเจอหรอก”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น เขาหยุดดิ้นทันที
“ไม่ดีเลยนะ ที่นายเที่ยวเพ่นพ่านกับคนที่มีวิญญาณของปิศาจไปซะทั่ว จนโดนจับได้แบบนี้น่ะ”
“ฮีชอลไม่ใช่ปิศาจ เขาถูกใส่ร้าย”อีทึกตะโกนอย่างเดือดดาล “พวกนั้นไม่ยอมฟังอะไรเลย ไม่เคยแม้แต่จะให้โอกาสฮีชอลได้พูด”
“ฮ่าๆ เอาล่ะ ฉันว่านายพักผ่อนดีกว่า แผลคงไม่ต้องทำหรอกมั้ง เดี๋ยวมันก็คงจะสมานกันเอง ใช่มั้ย” ชายนิรนามหัวเราะ
“ฉันจะไปช่วยฮีชอล” อีทึกลุกขึ้นยืน แววตามุ่งมั่น
“ขอบอกนะ ว่าไม่ได้!”
“นายไม่มีสิทธิ์ห้ามฉัน”
“งั้นขอโทษด้วย ที่ต้องใช้ความรุนแรง” สิ้นเสียง วัตถุแข็งๆ ก็กระทบกับท้ายทอยของอีทึก แล้วสติของเขาก็ดับวูบไป
“ไอ้เด็กปิศาจ วันนี้แกไม่รอดแน่”
“ไอ้พวกบ้าเอ๊ย! ตามกันจังวะ”ร่างบางพยายามลากสังขารไป เลือดสีแดงสดยังไหลไม่หยุด ตอนนี้เขาเริ่มเหนื่อยเต็มทีแล้ว ร่างกายของเขาเริ่มจะไม่ทำงานตามใจสั่งแล้ว
“อย่าเพิ่งเดี้ยงตอนนี้สิ” ร่างบางสบถอย่างหงุดหงิด ลากสังขารอันอ่อนล้ามาจนถึงหน้าผา
“เวรเอ๊ย!”
“ไอ้เด็กปิศาจ ตายซะเถอะ”เสียงชายฉกรรจ์นับสิบคนวิ่งตรงมาที่เขา
เขามีทางเลือกสองทาง ระหว่างโดดหน้าผาลงไปตาย กับ ตายเพราะน้ำมือคนพวกนี้
“เทพอย่างฉันจะตกหน้าผาตายก็ให้มันรู้ไปสิ”ร่างบางกัดฟันพูด ก่อนจะทิ้งตัวลงไปยังหน้าผาอันสูงชัน ลมปะทะร่างกายทำให้ร่างบางหนาว บาดแผลแสบจนสะท้าน สติของเขาค่อยๆเลือนหายไป จนจมสู่ความมืดมิด
“มาตกอะไรตอนนี้เนี่ย” เสียงทุ้มของชายหนุ่มเอ่ยอย่างหงุดหงิด เมื่อยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสาย เขามองนาฬิกา ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
“พี่ซีวอน ทางนี้” เสียงสดใสของน้องชายสุดที่รักดังขึ้น เขามองไปที่รถเก๋งสีดำจอดอยู่อีกฟากของถนน ก่อนจะวิ่งข้ามถนนไปหาน้องรักทันที
“รถพี่เสียหรอ”เสียงใสเอ่ยถาม ซีวอนพยักหน้าแทนคำตอบ
“นายยังขับช้าไม่เปลี่ยนเลยนะ ดงแฮ”ซีวอนทัก ดงแฮเบ้ปาก
“ฝนมันตกเฉยๆหรอก ถนนมันลื่น”ดงแฮบอก แก้ตัวน้ำขุ่นๆ
ความเงียบเข้าปกคลุมระหว่างการเดินทาง จนกระทั่งถึงบ้าน
“พี่เข้าบ้านก่อนนะ เดี๋ยวผมขอไปเอาของที่ร้านคุณนายมุนก่อน ผมสั่งของไว้” ดงแฮบอก ก่อนจะเบรกอย่างแรงจนซีวอนหน้าทิ่ม
“นายคิดจะทำอะไร” ซีวอนเงยหน้าขึ้นมา โชคดีที่เขารัดเข็มขัดไม่งั้น เขาได้พุ่งออกนอกรถแน่ๆ
“นั่นใคร นอนที่หน้าบ้านเรา” ดงแฮชี้มือไปที่หน้าบ้าน
ร่างของใครบางคน นอนตากฝนอยู่ตรงนั้น ฝนที่ตกลงมาทำให้เลือดสีแดงเจิ่งนองทั่วบริเวณ
“รีบพาไปโรงพยาบาลเร็ว” ซีวอนบอก เปิดประตูออกไปอุ้มคนที่นอนอยู่ตรงนั้น แล้วพาขึ้นรถ ดงแฮเหยียบคันเร่งจนมิด
“เตรียมห้อง ICU ที่ชั้น 2 เร็ว” เสียงพยาบาลสาวดังขึน ทันทีที่รถจอด บุรุษพยาบาลลากเตียงมารับคนที่อยู่บนหลังของซีวอน ซีวอนวางร่างนั้นลงบนเตียง ก่อนจะวิ่งตามไปจนถึงห้อง ICU
“ญาติห้ามเข้าค่ะ” พยาบาลสาวกันเขาไว้ที่หน้าห้อง เขานั่งอยู่ที่หน้าห้อง รู้สึกไม่สบายใจเลย ที่เห็นคนๆนั้นบาดเจ็บ ทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน
“พี่ซีวอน พี่จะรอดูอาการเขาหรอ” ดงแฮถาม เมื่อเห็นพี่ชายนั่งอยู่ที่หน้าห้อง ICU โดยไม่ยองลุกไปไหน
“ฉันแค่อยากรู้ว่าเขาจะรอดมั้ย เห็นเสียเลือดซะเยอะ” ซีวอนบอก ดงแฮพยักหน้ารับ
“งั้นเดี๋ยวผมกลับไปเอาชุดมาให้พี่เปลี่ยน” ว่าแล้ว ดงแฮก็เดินจากไป ซีวอนเพิ่งรู้ตัวว่าเปียกอยู่ หลังของเขาเต็มไปด้วยเลือด
ขอ.... อย่าให้เขาเป็นอะไรเลย
ขอให้เขาฟื้นขึ้นมาด้วยเถิด....พระเจ้า.....
หลายชั่วโมงต่อมา
“หมอครับ คนไข้เป็นไงบ้าง”ซีวอนถามทันทีที่หมอออกจากห้องมา
“ตอนนี้คนไข้อาการอยู่ในขั้นโคม่าครับ โชคดีที่พามาโรงพยาบาลได้ทันเวลา ไม่งั้นคงไม่รอด คุณเป็นญาติของคนไข้ใช่มั้ยครับ”
“ครับ” ถึงไม่ใช่ ก็ต้องบอกว่าใช่ ก็เขาเป็นคนพามาที่โรงพยาบาลนี่..
“ตามหมอมาครับ” หมอบอก ก่อนจะเดินนำไปที่ห้องส่วนตัวของหมอ
“นี่คือ ผลการตรวจอย่างละเอียด คนไข้ได้รับบาดเจ็บมาก บาดแผลจากการถูกฟันหลายจุด ทำให้คนไข้เสียเลือดมาก แต่ทางโรงพยาบาลได้ให้เลือดไปแล้วครับ” หมอพูด ก่อนจะหยิบฟิล์มเอ็กซ์เรย์ขึ้นมาให้ซีวอน “แต่ผลการเอ็กซ์เรยสมองของคนไข้ สมองคนไข้ดีรับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก นั่นแหละครับ ทำให้อาการน่าเป็นห่วง”
“เขาจะเป็นอัมพาตมั้ยครับ”ซีวอนถาม สีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด
“หมอยังให้คำตอบไม่ได้ครับ บางทีคนไข้อาจจะไม่ฟื้นเลยก็ได้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นเจ้าชายนิทราไปเลยก็ได้ครับ”
“ขอบคุณครับ อ้อ ถ้าเกิด อาการของเขาเป็นยังไงช่วยโทรแจ้งผมทันทีนะครับ นี่เบอร์โทรผม” ซีวอนบอก เดินออกจากห้องไป
“อ้าวพี่ จะกลับแล้วหรอ ผมเอาเสื้อผ้ามาให้แน่ะ” เสียงดงแฮดังขึ้น
“ขอบใจ แต่ฉันจะกลับแล้ว”
“แล้วเขาเป็นไงอ่ะ” ดงแฮถาม ขณะวิ่งตามพี่ชายออกจากโรงพยาบาล
“อาการน่าเป็นห่วง ยังโคม่าอยู่เลย” ซีวอนบอก น้ำเสียงเป็นกังวล
“ผมว่าพี่กลับไปพักก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยมาดูอาการกันใหม่” ดงแฮเสนอ ซีวอนพยักหน้ารับ
ทางด้านหนึ่ง
ตาสวยค่อยๆปรือตาขึ้น ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับสภาพ ความรู้สึกเจ็บที่ท้ายทอยพรุ่งปรี๊ดขึ้นมา อีทึกพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็พบว่า ร่างของเขาถูกพันธนาการด้วยเชือก
“บ้าชิบ” อีทึกสบถอย่างหัวเสีย นี่ต้องเป็นฝีมือไอ้บ้านั่นแน่ๆ
“อย่าพยายามเลยน่า เสียแรงเปล่า” เสียงทุ้มของชายหนุ่มนิรนามดังขึ้น พร้อมกับปรากฏตัวท่ามกลางความมืด เสียงสว่างจากเทียนทำให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาได้ชัดเจน “ฉันชื่อ คังอิน นายชื่ออะไร”
“ฉันไม่บอกชื่อคนแปลกน้า” อีทึกพูด พยายามดิ้นให้หลุด
“ตามใจ”คังอินบอก วางมือใหญ่บนหัวฟูๆของอีทึก “ชื่อ อีทึก เอ๊ะไม่สิ ปาร์ค จองซู”
“ฮึ่ย” อีทึกสะบัดหัวออกจากมือใหญ่ “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
“ฉันไม่ทำตามสำสังคนแปลกหน้า” คังอินตอบ ยิ้มอย่างสบายใจ ก่อนจะนั่งลงที่ปลายเตียง
“นายจับฉันมาทำไม” อีทึกเริ่มถาม มองคังอินด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ฉันไม่จำเป็นต้องบอกนาย” คังอินตอบ คว้าแก้วชามาจิบ “อากาศดีจัง”
“นายอย่ามายัวะฉันนะ ตอนนี้เพื่อนฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย ฉันต้องไปช่วยเขา” อีทึกเริ่มเดือด เมื่อเห็นคนตรงหน้าทำหน้าตาไม่ทุกข์ร้อนใดๆ
“ฉันว่านายเก็บชีวิตไปดูแลรยอวุคดีกว่านะ ตอนนี้น่ะ มันเริ่มแย่แล้ว รยอวุคโดนลอบฆ่า แต่ดีที่มีคนช่วยไว้ได้” คังอินบอก สีหน้าเรียบเฉย
“ใครกัน” อีทึกถามอย่างรวดเร็ว สีหน้าตกใจ
“เยซอง”
“ฉันหมายถึงใครคิดจะฆ่าเขา”อีทึกพูด คังอินส่ายหน้า
“ไม่มีใครรู้หรอก ฉันว่านายพักผ่อนซะเถอะ ฉันจะออกไปทำธุระ”
“เฮ้ๆ เดี๋ยวสิ ปล่อยฉัน ไอ้บ้าเอ๊ย ปล่อยสิวะ” อีทึกตะโกนไล่หลังคังอินไป แต่ดูเหมือนคังอินจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย
“เอามาไว้ที่นี่จะดีหรอ มันจะเป็นหนอนบ่อนไส้ซะเองนะ”เสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อคังอินเปิดประตู้ห้องเข้ามา
“อย่าคิดมากน่า ถ้าเจ้านั่นยังอยู่กับเรา อย่างน้อย ก็ล่อฮีชอลได้ล่ะ” คังอินบอก นั่งลงบนโซฟาที่อ่อนนุ่มอย่างสบายใจ มองไปที่หน้าต่าง ชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ที่นั่น
“ก็ดี จะได้ไม่เสียแรง” ชายหนุ่มคนนั้นพูด ก่อนจะลุกขึ้นยืน ผมสีดำปลิวไปตามสายลมที่โหมกระหน่ำ
“แล้วนายจะไปไหนคยูฮยอน” คังอินถาม มันอยู่นิ่งๆกับบ้านสักคืนนี่มันจะตายเอารึไง
“ไปซื้อตุ๊กตา”
แล้วร่างตรงหน้าก็หายไปกับอากาศ คังอินถอนหายใจกับการชอบสะสมตุ๊กตาของน้องชายคนนี้ ตอนนี้ ตุ๊กตาแทบจะเต็มบ้านอยู่แล้ว
.
.
.
ว้าววว ตอนแรกมาแล้ววววว
เป็นยังไงก็ มาเม้น บอกกันมั่งนะ
อย่าปล่อยให้เรื่องนี้ อ้างว้างเดียวดาย(พอและ จบ)
ยังไง ก็เม้น+โหวตให้กันมั่งนะจ๊ะ
เป็นกำลังใจให้เจ๊ เกี่ยวไรกับเจ๊วะ???
.
.
.
ความคิดเห็น