คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 13
“อยากเป็นพี่? ทำไมอ่ะ??”ฮีชอลถามอย่างงงๆ
“ก็ได้อยู่ทั้งสองโลกเลยน่ะสิ มันน่าสนุกออกนะ ถึงจะอยู่ที่โลกนั้นไม่นานก็เถอะ”รยอวุคพุด ยิ้มกว้างอย่างร่าเริง
ตุบ!
เพล้ง!
เสียงของแข็งกระทบกับโต๊ะอย่างแรง! ตามด้วยเสียงของแก้วที่แตกละเอียด ทิ้งเศษเกลื่อนทั้งบนโต๊ะและใต้โต๊ะ
“มันจะไปสนุกได้ยังไงกันเล่า เรื่องแบบนั้นน่ะ การเขาไปอยู่ที่นั่น ได้ผูกพันธ์กับคนที่โลกนั้นแล้วจากมาน่ะ มันไม่สนุกหรอกนะ”ฮีชอลตวาดเสียงดัง ในที่สุดมันก็ออกมาจนได้ ความรู้สึกที่อุตส่าห์เก็บไว้ในใจ
ร่างบางของฮีชอลวิ่งหายลับไปในปราสาท สร้างความงงงวยให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก
“ผมทำอะไรผิดหรอ ทำไมพี่เค้าต้องตวาดด้วยล่ะ”รยอวุคทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“พวกนายน่ะ ไม่เข้าใจฮีชอลหรอก” คิบอมบอก
“เจ้านั่นต้องไปเจออะไรมาสินะ” เยซองกระซิบ คิบอมยักคิ้วเล็กน้อย
“ใช่... เจอกับความรักไงล่ะ” คิบอมบอก ทำเอาเยซองถึงกับสำลักน้ำชาที่พึ่งจะดื่มเข้าไปเมื่อกี๊
“พูดเป็นเล่น” เยซองทำหน้าไม่เชื่อ คิบอมยักไหล่
“ก็นะ”
“ฮีชอล เป็นอะไรไปนะ” อีทึกพูดลอยๆ สายตาจับจ้องไปที่ห้องที่พึ่งจะเปิดไฟเมื่อไม่นาน ห้องของฮีชอล
“ฮือ.. ฮึก... มืดแล้วนะ คุณจะทานข้าวเย็นรึยังนะ ซีวอน” ร่างอันบอบบางของฮีชอลนั่งกอดเข่าอยู่ที่ซอกตู้ในห้อง น้ำตาไหลรินเป็นสายราวกับน้ำป่าไหลหลาก
“ผมคิดถึงคุณจัง” ฮีชอลพูด อีกนานแค่ไหนนะ ถึงจะได้กลับไปอีก อีกนานแค่ไหนถึงจะได้ไปเจอหน้าคนๆนั้น อาจจะอีกปี 5 ปี 10 ปี... หรือ อาจจะไม่มีวันนั้นเลยก็ได้
“เห... คิบอมมันพาฮีชอลกลับมาแล้ว หึ! งั้นก็ง่ายหน่อย จะได้ไม่ต้องลงมือหลายที” คังอินยิ้มกว้างเมื่อได้ทราบข่าวจากลูกน้อง
“ยิ้มอะไรกันพี่ ทำหน้าเหมือนโลกทั้งโลกมีแต่สีชมพูอย่างนั้น”คยูฮยอนทัก พร้อมกับนั่งลงบนโซฟา
“สายของเราบอกว่า ฮีชอลกลับมาแล้ว” คังอินบอก คยูฮยอนยิ้มกว้างเมื่อได้ฟัง
“เฮ้! งั้น แผนเราก็ใกล้เป็นจริงขึ้นมาทุกๆแล้วสินะ”คยูฮยอนพูด รอยยิ้มชั่วร้ายเฉิดฉายบนใบหน้าอันหล่อเหลา
“จะใกล้กว่านี้นะ... ถ้า รยอวุคน่ะ ตายๆไปซะ” คังอินบอก คยูฮยอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ซองมินน่ะ ตอนนี้กำลังซึมเลยนะ ผมยังไม่อยากให้เค้ารู้สึกแย่ไปมากกว่านี้” คยูฮยอนบอก ดวงตาเจ้าเล่ห์ดูเหม่อลอย
“ฮ่าๆ อะไรกันที่ทำให้เจ้าชายผู้สูงศักดิ์อย่างแก เป็นห่วงเจ้าเด็กนักฆ่าที่กลายเป็นตุ๊กตาได้ขนาดนี้” คังอินหัวเราะเมื่อสังเกตเห็นความคิดของน้องชายตัวดีเปลี่ยนไป
“ผมขอตัวนะ”คยูฮยอนไม่ตอบ แถมยังเลี่ยงจากตรงนั้นออกมา
“พิลึกจริง” คังอินพูด ส่ายหน้าเบาๆ แล้วความคิดก็เตลิดไปถึงใครบางคนที่คอยสร้างรอยยิ้มให้เขา
...ใครบางคนที่เหมาะกับดอกกุหลาบสีขาวที่อยู่ในสวน...
...คนๆนั้น...
“จริงสิ!” คังอินกระเด้งตัวออกจากโซฟา ก่อนจะตรงไปที่สวนเพื่อเด็ดดอกกุหลาบสีขาวที่กำลังตูม
สายลมที่พัดโบกมา พัดพาร่างของคังอินให้หายวับไปจากที่ตรงนั้น
“ซองมิน”เสียงนุ่มเรียกคนที่นั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟา ข้างๆมีตุ๊กตาผู้หญิงผมดำยาวถึงกลางหลัง ชุดกระโปรงยาวสีดำดูน่าเกรงกลัว
“ฮึก!”คนที่ถูกเรียกสะดุ้งเฮือก ก่อนจะขยับถอยหนีเหมือนตื่นกลัวอะไรบางอย่าง
“ซองมิน นายเป็นอะไรไป”คยูฮยอนถาม พลางเดินเข้าไปใกล้ซองมินที่กำลังถอยหนีเขาออกไปเรื่อยๆ
“อย่าเข้ามา ผมขอร้อง...ฮึก... ปล่อยผมไปเถอะ...”ซองมินร้องพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ใบหน้าขาวซีดด้วยความกลัว
“นายเป็นอะไร ใครทำร้ายนาย...”คยูฮยอนถามซ้ำ มองหน้าคนตัวเล็กที่พยายามหนีเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ผะ..ผม ฮือ.. ผมยังไม่อยากตาย ขอร้อง.. คุณคยูฮยอน..ฮึก.. อย่าทำอะไรผมเลย” ซองมินร้องไห้ ถอยหนีจนตัวชิดกับกำแพง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้น
“หือ! เอาอะไรมาพูด ซองมิน... ใครกันบอกนายแบบนั้น”คยูฮยอนเลิกคิ้วถาม สายตาเหลือบมองไปที่ตุ๊กตาผมสีดำตัวนั้น
“ไม่ต้องรู้หรอก... แต่ผมรู้ว่า ฮึก... ถ้าตุ๊กตาตัวไหนของคุณทำงานพลาด... สิ่งเดียวที่พวกนั้นจะได้รับ คือ...ฮึก.. ความตาย” ซองมินพูด ตัวสั่นสะท้านมือเล็กกอดตุ๊กตาตัวนั้นเอาไว้แน่น
“นายเลยคิดว่าฉันจะฆ่านายงั้นสิ” คยูฮยอนถาม ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้คนตรงหน้า
“....” ไม่มีเสียงตอบรับ ซองมินได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง ทั้งมือและตัว สั่นราวกับเจ้าเข้า
“ฉันไม่มีวันฆ่านาย ซองมิน... ฉันจะฆ่าตุ๊กตาตัวน้อยที่ฉันรักได้ยังไงกันล่ะ” คยูฮยอนบอก เอื้อมมือไปแตะที่แก้มของซองมินอย่างอ่อนโยน ก่อนจะดึงเอาตุ๊กตาตัวนั้นออกมาอย่างเบามือ
“ฮึก!”ซองมินสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถอยหนีไปไหน น้ำตาไหลยังไหลรินมาเป็นสาย
“ไม่เอาน่า เลิกร้องไห้ได้แล้ว... นอนซะนะเด็กดื้อ แล้วต่อไป.. ห้ามเชื่อใคร นอกจากฉัน เข้าใจมั้ย” คยูฮยอนพูด พลางอุ้มซองมินที่ไม่ยอมขยับไปไหนขึ้นมา ก่อนจะพาไปวางที่เตียงนุ่มๆของตนเอง
“ครับ...”ซองมินรับคำ ก่อนจะหลับตาลงแล้วเข้าสู่ห้วงนิทรา
ร่างสูงของคยูฮยอนยืนอยู่ที่กลางทุ่งห่างไกลจากปราสาทของตนเองพอสมควร ในมือมีตุ๊กตาผมสีดำตัวนั้นอยู่ แววตาเย็นชาจับจ้องที่ตุ๊กตาตัวนั้น
“นี่เป็นการตอบแทนที่ทำให้ซองมินตกใจกลัวนะ” คยูฮยอนพูด รอยยิ้มชั่วร้ายกลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง
ไม่นาน ร่างสูงก็กลับมาซุกตัวอยู่ที่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับซองมิน ก่อนจะดึงซองมินเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น
ท้องทุ่งที่ห่างไกล ซากตุ๊กตาตัวหนึ่งที่ถูกทำลายวางกองอยู่กลับพื้น ดวงตาข้างหนึ่งถูกล้วงออกมา ศรีษะถูกตัดขาดออกจากคออย่างโหดร้าย ผมสีดำแผ่สยายอยู่กลางท้องทุ่ง รอคนเก็บไปทิ้ง
“นี่ พี่ฮะ... ทานอะไรหน่อยสิ”เสียงดงแฮที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้ซีวอนทานอาหารเย็นดังเป็นระยะๆ
“พี่ไม่หิว นายกินเถอะ” ซีวอนบอก ผลักจานอาหารออกจากตัว ก่อนจะซบใบหน้าลงบนโต๊ะ
“แต่พี่ยังไม่ทานอะไรเลยนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก” ดงแฮพูด ดันจานเข้าไปใกล้ๆซีวอนอีกครั้ง
“พี่น่ะไม่เป็นไรหรอก” ซีวอนบอก ทั้งๆที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมา
“พี่เป็นห่วงพี่ฮีชอลขนาดนั้นเลยหรอ”ดงแฮถามเสียงแผ่ว รู้สึกน้อยใจนิดๆ ไอ้เรารึอุตส่าห์เป็นห่วง หาข้าวหาน้ำใจ แต่กลับไม่เป็นห่วงเราเลยสักนิด
“อือ..”ซีวอนตอบ คำตอบนั้นทำเอาดงแฮฉุนกึกขึ้นมาทันที
“ถ้าพี่ฮีชอลรู้ว่าพี่เป็นห่วงเค้าโดยที่ไม่ยอมทานอะไรเลยน่ะ พี่คิดว่าพี่ฮีชอลเค้าจะดีใจหรอ แล้วถ้าพี่เกิดเป็นอะไรขึ้นมาน่ะ แล้วผมจะอยู่กับใคร พี่เคยคิดถึงผมบ้างมั้ย เคยเป็นห่วงผมบ้างมั้ย” ดงแฮตวาดเสียงดัง น้ำตาใสคลอเต็มดวงตา พร้อมที่จะไหลได้ทุกเมื่อ
“ดงแฮ”ซีวอนเงยหน้าขึ้นมามองน้องชายสุดรักของตัวเอง แววตาดูอ่อนโยนลง
“พี่มันบ้าที่สุด” ดงแฮตะโกน แล้ววิ่งขึ้นชั้นบนไป
“หึ! เรานี่มันจริงๆเลยน๊า ชอบทำให้ดงแฮเป็นห่วงอยู่เรื่อย เป็นพี่ที่แย่จริงๆเลยเรา” ซีวอนพูด พร้อมกับดึงจานข้าวเข้าหาตัว แล้วเริ่มทานช้าๆ ดวงตามองไปยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสลับกับแหวนเงินที่สวมอยู่ที่นิ้วก้อยเป็นระยะๆ
...ที่ตรงนั้น เป็นที่ที่นายนั่งทานข้าวประจำ เป็นที่ที่ยังมีไออุ่นของนายเสมอ...
...คิม ฮีชอล นายอยู่ที่ไหนน่ะ ฉันน่ะ... คิดถึงนายที่สุดเลยรู้มั้ย....
‘ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันต้องตามหานายให้พบ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต ก็ยอม’
เสียงของตัวเองที่เคยพูดไว้ดังก้องสะท้อนอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมา จนแล้วจนเล่า เขาก็ยังตามหาฮีชอลไม่พบ ไม่มีแม้ร่องรอย ไม่มีแม่บันทึกการเดินทาง ไม่มีการโดยสารทางถนน เครื่องบิน หรือว่าเรือ ไม่มีเบาะแสเลยสักอย่าง
“เฮ้อ~~ อีกนานแค่ไหนกันนะ เราถึงจะได้พบกันอีก”ซีวอนพูด พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง
“ไหนว่ามาซิ เกิดอะไรขึ้น ใครเป็นคนทำร้ายรยอวุคและเยซอง” ราชาชินดงเริ่มเปิดประเด็น เมื่ออีทึกสามารถลากฮีชอลมาประชุมร่วมกันได้สำเร็จ
“คนที่ลงมือคือ ลี ซองมิน แต่คนที่บงการน่ะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น คยูฮยอน” เยซองบอก สีหน้าใช้ความคิด
“ซองมิน บ้าน่า... ซองมินไม่มีวันทำร้ายรยอวุคหรอกนะ”อีทึกว่า ฮีชอลพยักหน้าเห็นด้วย
“มันก็ไม่แน่หรอกนะ พวกนายก็รู้ ว่าคยูฮยอนน่ะ มีความสามารถพิเศษคืออะไร” ฮันกยองเอ่ยเสียงเรียบ ฮีชอลทำตาโต
“หรือ ซองมินจะกลายเป็น...”ฮีชอลพูด ยกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความตกใจ มองหน้าทุกคนที่นั่งล้อมวงกันอยู่
“อืม.. อย่างที่นายคิดนั่นแหละ เจ้านั่นน่ะ กลายเป็นตุ๊กตาไปแล้ว” เยซองบอก “ทั้งๆที่โดนมีดกรีดเป็นทางยาวขนาดนั้น กลับไม่ร้องซักแอะ”
“แล้วพวกมันต้องการชีวิตรยอวุคเพื่ออะไรกัน”ฮีชอลพูด สีหน้าดูกังวลใจ เรื่องนี้ทำให้ร่างบางลืมเรื่องซีวอนไปสนิท
“ไม่ใช่...พวกมันไม่ได้ต้องการชีวิตรยอวุคหรอกนะ” คิบอมพูด หลังจากที่เงียบมานาน (ถึงบทกรูซะที)
“หมายความว่าไง ถ้ามันไม่ต้องการชีวิตรยอวุค แล้วมันจะทำร้ายรยอวุคทำไม” อีทึกตบโต๊ะเสียงดัง สีหน้าไม่พอใจอย่างมาก
“พวกมันต้องการชีวิตของฮีชอลต่างหาก แต่เพราะรยอวุคเป็นกุญแจสำคัญ มันเลยต้องกำจัดซะ ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป” ฮันกยองพูด คิบอมพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่า นั่นล่ะใช่
“ชีวิตฉันหรอ...”ฮีชอลถามเสียงแผ่ว ...อะไรกันเนี่ย กรูเพิ่งกลับมา จะให้กรูตายซะแล้วเหรอ TT^TT…
“แล้วไอ้กุญแจสำคัญที่ว่านี่...คงจะเป็น...”ราชาชินดงเอ่ย มองหน้าเยซองอย่างต้องการคำตอบ
“ครับ...ที่หัวใจของรยอวุค จะมีสร้อยเส้นที่ห้อยกุญแจสีเงินเอาไว้ เป็นกุญแจที่เก็บความทรงจำและพลังอำนาจของราชาแห่งเอเดนเอาไว้ พวกนั้นมันรู้ว่า ถ้ารยอวุคตายโดนที่ยังไม่ได้นำสร้อยออกจากร่างของรยอวุค สร้อยเส้นนั้นจะสลายไปพร้อมๆกับกุญแจและพลังอำนาจของจอมราชัน” เยซองบอก มือข้างหนึ่ง(แอบ)กุมมือรยอวุคเอาไว้
“แล้วทำยังไงถึงจะเอาสร้อยเส้นนั้นออกมาได้” ราชาชินดงถาม รู้สึกเป็นกังวลใจอยู่ไม่น้อย
“หรือว่าจะ...”ฮีชอลเอ่ย ความคิดแล่นไปถึงไหน ...จะให้ล้วงเอาหัวใจรยอวุคออกมาหรอ ไม่นะ-[]- ...
“ประสาท!” ฮันกยองที่อ่านความคิดของคนอื่นได้หันไปว่าฮีชอลทันที ฮีชอลหันขวับไปยังแหล่งกำเนิดเสียง
“ไอ้บ้านี่... ถ้ารู้ก็รีบบอกมาสิวะ”ฮีชอลว่า พร้อมกับฝ่ามือพิฆาตลอยฝ่าอากาศไปลงที่กลางหลังของฮันกยองอย่างแรง
...เหอะๆ อยู่เจ้าซีวอนนั่นล่ะออกจะเรียบร้อย เชื่องยังกะลูกแมว ไหงกลับมากลายเป็นแม่เสือซะได้... คิบอมคิด พร้อมกับส่ายหน้าไปมาเบาๆ
“ฉันก็ว่างั้นแหละ” ฮันกยองหันไปกระซิบบอก
“วิธีที่จะเอาสร้อยเส้นนั้นออกมาน่ะ...” เยซองตั้งใจเว้นเพื่อให้เกิดความตื่นเต้น
.
.
.
เย้ๆๆ กลับมาอัพอีกตอนแล้ว
พร้อมกับความปิติยินดี
ที่ ไรต์เตอร์ ติด มศว.แหละ ทุกคน
ฮิ้วๆๆๆๆๆ
ครั้งนี้ ไรต์เตอร์ไม่ขออะไรมาก
นอกจากกำลังใจ และคอมเม้น 55++
.
.
.
.
ความคิดเห็น