คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 11
“อีทึก.. ฉันได้ข่าวว่าน้องนายบาดเจ็บ” เสียงทุ้มของคิบอมดังขึ้น พร้อมกับเสียงเปิดประตู อีทึกหันไปมองหน้าคนที่พึ่งมา
“น้องฉันน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้ที่นอนอยู่นั่นน่ะ ใกล้ตายแล้วล่ะ”อีทึกพยักพเยิดหน้าไปที่เตียง คิบอมเหลือบมองดูเห็นเยซองนอนอยู่ ใบหน้าดูซีดเซียว ผ้าพันแผลสีขาวพันรอบตัว เหงื่อเกาะพราวเต็มใบหน้า
...ดูมันไม่น่ารอดจริงๆแหละ...
“แผลไกลหัวใจมั้ย” คิบอมถาม นั่งลงข้างเตียงของเยซอง เอื้อมมือไปจับดูชีพจรของเยซอง “ชีพจรแทบจับไม่ได้เลยนะเนี่ย”
“ห่างจากหัวใจแค่ 3 เซ็น ดูสภาพมันสิ ใกล้ตายจริงๆ” อีทึกส่ายหน้า พร้อมกับยื่นยาล้างแผลให้คิบอม
“พี่อีทึก!” เสียงรยอวุคดังขึ้น ใบหน้าเล็กทำหน้าไม่พอใจกับคำพูดของพี่ชายเมื่อครู่ ก่อนจะเดินไปดึงขวดยาจากมือของคิบอม
“พี่พูดเล่นนิดเดียวทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วยเล่า” อีทึกพูดอู้อี้อยู่ในลำคอ
“เรื่องแบบนี้..ฮึก.. ใครให้พูดเล่นกันเล่า ถ้าเกิดพี่เยซองตายขึ้นมาจริงๆ ...ฮึก ผมจะทำยังไง” รยอวุคตะโกน น้ำตาไหลอาบแก้มใสๆ อีทึกมองน้องตัวเองด้วยความสงสาร
“คิบอม.. ฉันว่าต้องรีบพาฮีชอลกับมาแล้วล่ะ” อีทึกพูด ถอนหายใจอย่างเป็นกังวล
“แล้วฉันจะไปตามฮีชอลที่ไหนเล่า”คิบอมพูดเหมือนจนหนทาง เอามือกุมขมับเพื่อไม่ให้อีทึกจับได้ พร้อมกับเหลือบมองอีทึกเป็นระยะๆ
“คิบอม ฉันรู้นะว่านายเจอตัวฮีชอลแล้ว”อีทึกพูด ตาคู่สวยจ้องลึกลงไปในดวงตาของคิบอมราวกับจะขุดหาความจริงที่อยู่ข้างใน
“เฮ้อ..”คิบอมหลบสายตาของอีทึก พร้อมกับถอนหายใจเสียงดัง
“เจ้านั่น ไม่ยอมมากับฉันหรอก ตามสัญญา อีก 3 อาทิตย์ เจ้านั่นถึงจะกลับมา” คิบอมบอก อีทึกถอนหายใจอย่างหัวเสีย
“งั้นฉันจะไปตามฮีชอลกลับมาเอง” อีทึกพูด
“ไม่ได้”คิบอมห้ามทันที อีทึกมองหน้าคิอบมอย่างสงสัย
“ทำไม ทีนายยังไปได้ ทำไมฉันจะไปไม่ได้”อีทึกพูด คิบอมส่ายหน้า
“ฉันเป็นแวมไพร์.. ฉันเคยตายที่โลกนู้นมาแล้ว เพราะฉะนั้นฉันถึงอยู่ที่นั่นได้โดยไม่เป็นอะไร แต่นาย.. นายรับกับสภาพกดดันจากโลกนู้นไม่ไหวหรอก มันจะทำให้อวัยวะภายในของนายระเบิดออกเป็นจุลน่ะสิ”คิบอมบอก
“แต่ถ้าฉันไม่ไป ยังไงซะ ฮีชอลก็จะไม่กลับมาไม่ใช่รึไง” อีทึกว่า ค้านหัวชนฝา
“ก็ใช่ แต่นายไปไม่ได้”คิบอมพูดอย่างอดทน
“นายจะห่วงอะไรฉันนักหนา หา! ตอนนี้เรากำลังอยู่ในอันตราย ทุกคนมีสิทธิ์ตายได้ทั้งนั้น”อีทึกพูด
“เพราะฉัน.. รัก นายไงล่ะ” คิบอมพลั้งหลุดปากออกมา อีทึกถึงกับนิ่งไปทันที “เอ่อ..ฉันรักนาย.. รยอวุค รักนาย.. ทุกคนรักนาย ทุกคนไม่อยากเห็นนายตายหรอกนะ” คิบอมรีบแก้ตัวแต่ก็ไม่ยอมสบตากับอีทึก
“แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง” อีทึกพูด ทันทีที่ตั้งสติได้
“เดี๋ยวจัดการเอง.. ไม่เกิน 1 อาทิตย์ ฮีชอลต้องกลับมาแน่” คิบอมบอก ในสมองเขาตอนนี้มีแผนการต่างๆไหลเข้ามามากมาย
“อาทิตย์นึง รยอวุคคงได้ไปนอนคุยกับรากมะม่วงก่อนพอดี” อีทึกพึมพำเบาๆ ก่อนจะเดินจากไป คิบอมมองตามร่างบางที่เปิดประตูออกไปด้วยความเป็นห่วง
...อีทึก ถ้านายตาย หัวใจฉันคงสลาย ฉันถึงให้นายไปไม่ได้ไงล่ะ...
สายลมเย็นที่โบกพัดผ่านระเบียง ทำเอาคนที่นั่งอยู่ริมระเบียงสั่นเล็กน้อย
...คงอีกไม่นานแล้วสินะ ที่จะได้อยู่ที่นี่ ใจหายจัง...
“เหม่ออะไรคนเดียวอีกแล้ว” เสียงซีวอนดังขึ้น พร้อมกับโอบกอดฮีชอลจากทางด้านหลังเพื่อให้ความอบอุ่น
“ผมรักคุณนะ” แทนคำตอบ คำพูดที่ซีวอนไม่คิดว่าจะได้ยินดังขึ้น ซีวอนยิ้มน้อยๆพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“พูดเหมือนนายจะไปไหน”ซีวอนพูดติดตลก วางคางลงบนไหล่ของฮีชอล
“ไม่รู้สิ.. ผมรู้สึกเหมือนเวลาของผมเหลือน้อยลงทุกที.. ยิ่งผมอยู่ที่นี่นานขึ้น เวลาของผมยิ่งสั้นลง...” ฮีชอลพูดน้ำเสียงดูเศร้าลง
“ไม่เอาน่า..อย่าพูดแบบนี้สิ ป่ะ เราไปเก็บของกันดีกว่า พรุ่งนี้ดงแฮต้องกลับไปสอบซ่อมวิชาประวัติศาสตร์” ซีวอนบอก จูงมือร่างบางกลับเข้าไปในห้อง
...พระเจ้า ขอให้ไอ้คิบอมมันกลับมาที่นี่ไม่ได้อีกเลยได้มั้ย...
เช้าวันรุ่งขึ้น
“โอ๊ย! ปวดก้นเป็นบ้าเลย.. ขอบคุณฮะพี่ ตอนเย็นเจอกันฮะ” ดงแฮหันมาโบกมือลา ก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในโรงเรียน
“เมื่อไหร่มันจะเลิกสอบตกวิชานี้ซะทีเนี่ย” ซีวอนพึมพำเบาๆ เพราะกลัวจะไปปลุกคนที่นอนหลับเป็นตายอยู่ข้างๆ
เมื่อถึงบ้าน ซีวอนค่อยๆอุ้มร่างอันบอบบางของฮีชอลขึ้นไปยังห้องนอน ก่อนจะลงมาขนข้าวของ กระเป๋าสัมภาระขึ้นไปเก็บ
“คิม ฮีชอล” เสียงนุ่มปลุกให้คนที่หลับใหลอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมา
“โธ่ คิบอม ฉันตกใจหมด... นายมาทำไมเนี่ย ยังไม่ครบสามอาทิตย์เลยนะ” ฮีชอลว่า มองหน้าคิบอมอย่างไม่พอใจ
“ฉันว่า ฉันคงรักษาสัญญาที่ให้ไว้ไม่ได้แล้วล่ะ สามอาทิตย์น่ะ มันมากเกินไปนะฮีชอล” คิบอมพูด ฮีชอลหน้าซีดลงไปทันที
“อย่ามาอำฉันตอนกลางวันแสกๆอย่างนี้นะ” ฮีชอลพูด พยายามทำเหมือนมันเป็นเรื่องตลก พร้อมกับตีแขนคิบอมเบาๆ
“ฮีชอล รยอวุคโดนลอบทำร้าย โชคดีที่เยซองไปช่วยได้ทัน” คิบอมบอก สีหน้าและแววตาดูจริงจัง
“ลองไม่ทันดูสิ กลับไปฉันจะฆ่ามันหมกท้ายสวนเลยคอยดู” ฮีชอลพูด
“แล้วตอนนี้ เยซองบาดเจ็บ ฉันจึงต้องมาตามนายกลับไป” คิบอมพูด ฮีชอลมีสีหน้าเศร้าลงทันที
“อีกซัก...”ฮีชอลเอ่ยปากขอต่อรอง แต่คิบอมขัดขึ้นก่อน
“วันนี้เท่านั้นฮีชอล ถ้านายช้า รยอวุคอาจไปเฝ้าท่านยมก่อนก็ได้” คิบอมพูด ฮีชอลถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะมองหน้าคิบอมด้วยสีหน้าจริงจัง
“2 วันได้ไม่หรอ... ฉันอยากอยู่ที่นี่ต่อ.. แค่ 2 วันเอง” ฮีชอลพูด มองหน้าคิบอมด้วยแววตาที่มีความหวัง
“เรื่องมันเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆแล้วนะฮีชอล อีกอย่าง นายอยู่ที่นี่ก็ใช่จะปลอดภัย... นายเองน่าจะรู้ ว่าไอ้เจย์มันตามนายอยู่” คิบอมบอก ฮีชอลหน้ามุ่ยลง
“ขอแค่คืนนี้ ให้ฉันได้ลาเค้าก่อนได้มั้ย แล้วฉันจะไป แค่คืนนี้คืนเดียว..”
“บ้าชิบ.. โดนมันเอาคืนจนได้” คยูฮยอนสบถอย่างหัวเสียขณะที่วางร่างของซองมินบนเตียงนุ่ม
“ผมขอโทษครับ... ผมทำพลาดเอง” ซองมินเอ่ยเสียงแผ่ว ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนเตียง มองเลือดสีแดงที่ไหลออกจากบาดแผล แต่แปลก! เขากลับไม่รู้สึกเจ็บ ไม่รู้สึกเลย นี่หรอ... คือ การเป็น ตุ๊กตา!
“นายไม่ผิดหรอกซองมิน อะไรก็เกิดขึ้นได้น่า... ว่าแต่นายไม่เจ็บแล้วใช่มั้ย” คยูฮยอนพูด น้ำเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นคนตัวเล็กทำหน้ารู้สึกผิด
“ไม่มีความรู้สึกเจ็บเลยต่างหากครับ” ซองมินบอก ก้มหน้านิ่ง ไม่ยอมสบตากับคยูฮยอน
“ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก นายพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะทำแผลให้” คยูฮยอนบอก ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของซองมินออกอย่างเบามือ
คยูฮยอนมือสั่นเล็กน้อยเมื่อปลดกระดุมเม็ดสุดท้ายออก ผิวขาวเนียนน่าสัมผัสของซองมินทำให้อารมณ์เขากระเจิดกระเจิงไปถึงไหนต่อไหน เขาได้แต่สูดหายใจลึกๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสบาดแผลของซองมิน ไม่นาน บาดแผลนั้นก็หายไปราวกับไม่เคยมีมาก่อน ยิ่งทำให้ซองมินน่าสัมผัสมากขึ้นกว่าเดิม
“โว้ย!” คยูฮยอนตะโกน ก่อนจะรีบห่มผ้าให้ซองมินแล้วออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะเผลอทำอะไรลงไปอย่างใจคิด
‘คังอิน นายสบายดีอยู่รึเปล่านะ’ อีทึกนั่งมองท้องฟ้าอยู่ที่ริมระเบียง นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ไม่ได้เจอหน้าไอ้หมีนั่น
“ดอกไม้ดอกนี้ มันยังเหมาะที่จะเป็นของนายเสมอเลยนะ” เสียงที่คุ้นหูดังขึ้น อีทึกรีบหันหลังกลับไปด้วยความดีใจ
“คังอิน!” อีทึกกระโดดกอดคอคนตรงหน้าอย่างลืมตัว ทำเอาคังอินยืนอึ้งอยู่พักใหญ่
“คิดถึงฉันขนาดนั้นเชียว” คังอินพุด หัวเราะน้อยๆอย่างชอบใจ
“มั่ว” อีมึกตีที่แผ่นอกของคังอิน ก่อนจะเบือนหน้าหนี
“ฉันคิดถึงนายที่สุดเลยรู้มั้ย” คังอินพูด พร้อมกับนั่งลงที่ขอบระเบียง
“ฉันก็ไม่ต่างอะไรกับนายหรอก”อีทึกบอก ก่อนจะนั่งลงที่เดิม
“วันนี้ฉันไม่ค่อยมีเวลานะ เอาไว้วันหลังเดี๋ยวฉันจะมาหาใหม่” คังอินพูด อีทึกมองหน้าเขาอย่าง งงๆ มาเร็ว ไปเร็วจริงๆ
“ไปเถอะ แล้วเจอกันนะ” อีทึกปั้นหน้ายิ้ม ทั้งที่ในใจกลับเศร้า อยากจะรั้งไว้... แต่ไม่กล้า ไม่อยากทำตัวให้มันดูน่ารำคาญ...
“ดอกไม้ดอกนี้ สวยเหมือนนายเลยรู้มั้ย” คังอินก้มหน้าลงมาหอมแก้มอีทึกฟอดใหญ่ ก่อนจะกระซิบที่ข้างหู “ที่รัก...”
อึ้ง! มันหยอดคำหวานใส่ แล้วมันก็หายไป...
“อะ.. ไอ้บ้า” อีทึกพึมพำ หน้าแดงลามไปถึงหู ในมือมีดอกกุหลาบสีขาวนวล ที่คังอินเอามาให้
‘หลังจากที่ซีวอนหลับ ฉันจะมารับนาย’
เสียงของคิบอมยังคงก้องอยู่ในหัว(เหมือนเรากำลังหนีตามชายอื่นไปเลยเนาะ) ร่างบางได้แต่ถอนหายใจ อีกไม่กี่ชั่วโมง เขาต้องไปจากที่นี่ ทั้งๆที่สัญญากันไว้ว่าอีกสามอาทิตย์แท้ๆ
“พี่ฮีชอล ไปทานข้าวได้แล้วคร้าบบ พี่ซีวอนเรียกแล้ว” ดงแฮสะกิดเขาจากด้านหลัง ฮีชอลสะดุ้ง ก่อนจะหันไปยิ้มแล้วลุกตามดงแฮไปที่ห้องครัว
“ฮีชอล นายไม่สบายรึเปล่า หรือกลุ้มใจเรื่องอะไร วันนี้ฉันเห็นนายเหม่อตั้งแต่บ่ายแล้วนะ” ซีวอนเอ่ยถามเมื่อเขานั่งลงประจำที่
“เปล่าครับ ผมแค่... อินกับเพลงที่ฟังเมื่อวานไปหน่อยน่ะ” ฮีอชลปด พร้อมกับหัวเราะแห้งๆ ดงแฮถึงกับขำพรืด
“พี่ซีวอนเปิดเพลงอะไรให้พี่ฮีชอลฟังเนี่ย กะมอมเพลงพี่ฮีชอลหรอครับ” ดงแฮแซว ซีวอนเอากำปั้นทุบหัวน้องชายหน้าหวานของตัวเองอย่างแรง
“มากไป” ซีวอนว่า ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ บ้านนี้มันมีคนพอดีซักคนมั้ยเนี่ย ไอ้น้องรักนี่ก็เกินบาท ฮีชอลนี่ก็เหมือนจะไม่เต็มอยู่หน่อยๆ -*- เศร้า!
หลังจากที่ทานอาหารเย็นเสร็จ ดงแฮกลับไปดูทีวีพร้อมกับอ่านหนังสือตามปกติ ส่วนซีวอนก็ขึ้นห้องไปทำงานที่ค้างอยู่ เหลือแค่เขา... คิม ฮีชอล เขาควรจะทำอะไรดี เขียนโน้ตทิ้งไว้หรอ หรือเก็บของ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว
ปัง!
เสียงของแข็งกระแทกผนังห้องอย่างแรง มือเรียวสะบัดไปมาเพราะความเจ็บ บ้าเอ๊ย! เจ็บฟรี แถมคิดอะไรไม่ออกอีก กลุ้มใจเว้ย!
ในที่สุดร่างบางก็ตัดสินใจเขียนโน้ตแปะไว้ที่กระจกที่เขาเคยทำแตกตอนมาอยู่ที่นี่วันแรก ก่อนจะซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนใหญ่ ตาคู่สวยปิดลงไปทั้งๆที่ยังไม่ง่วง ขอแค่ได้หลับตา... ไม่อยากเห็นหน้าเขา ซีวอน ยิ่งเห็นหน้ายิ่งไม่อยากไปจากที่นี่ สู้ว่าไม่เห็นหน้าเลยจะง่ายซะกว่า(หรอ)
ร่างสูงค่อยๆเปิดประตูห้องอย่างเบามือ กลัวว่าร่างบางจะตื่นจากการหลับใหล ใบหน้าสวยเวลาหลับยิ่งดูน่ารักมากกว่าเดิม แต่แปลก ทำไมวันนี้เขาถึงรู้สึกแปลกๆ ไม่เหมือนกับทุกวัน มันรู้สึกใจหายยังไงก็ไม่รู้...
ซีวอนเอื้อมมือไปลูบหัวของคนที่นอน(แกล้ง)หลับอยู่บนเตียง ก่อนจะโน้มตัวจูบที่หน้าผากมน พร้อมกับกระซิบอย่างแผ่วเบา
“ฉันรักนายนะ.. ฝันดีนะ..”
เมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้น น้ำตาใสก็ไหลเป็นทางเหมือนท่อแตก มือเรียวปาดน้ำตาที่แก้มอย่างลวกๆ ท่ามกลางความเงียบสงัด เสียงปิดประตูห้องของซีวอนดังขึ้น พร้อมกับความมืดมิดเมื่อซีวอนปิดไฟ นั่นหมายถึงเวลาเริ่มสั้นลงทุกที
“พร้อมรึยัง ฮีชอล” เสียงของคนที่ไม่ต้องการได้ยินดังขึ้น ร่างบางได้แต่ถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ
“ขอเวลาฉันลาเค้าหน่อยได้มั้ย” ฮีชอลพูดเสียงแผ่ว น้ำเสียงสั่นเครือราวกับพยายามกลั้นความรู้สึกเศร้าเอาไว้
“เราช้าแล้วนะ เฮ้! นะ... นาย” คิบอมมองฮีชอลด้วยความแปลกใจ เมื่ออยู่ดีๆ ร่างบางก็คุกเข่าลงตรงหน้าเขาเสียดื้อๆ ฮีชอลมันเคยก้มหัวให้ใครซะที่ไหน
“ไม่นานหรอก ฉันขอร้องเถอะนะ แค่ลาเค้า ไม่นาน” ฮีชอลก้มต่ำลง พยายามสกัดกั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
“เฮ้อ! ก็ได้ๆ ไม่คิดเลยว่าความรักจะเปลี่ยนคนได้ขนาดนี้” คิบอมพูด ฮีชอลรีบวิ่งไปที่ห้องของซีวอนทันที
ฮีชอลค่อยๆนั่งลงที่ขอบเตียง ตากลมจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลาของร่างสูงที่นอนหลับสนิท มือเรียวเอื้อมไปจับมือที่ใหญ่กว่า ก่อนจะถอดแหวนเงินที่สลักชื่อตัวเองเอาไว้ วางลงบนมือใหญ่ของซีวอน
“ผมก็รักคุณนะ ลาก่อน...”
น้ำตาใสหยดลงที่มือของซีวอน ร่างบางรีบปาดน้ำตาก่อนจะกลับไปที่ห้อง เปิดประตูระเบียง พร้อมแล้วที่จะกลับไปยังที่ที่จากมา
“เกาะฉันแน่นๆล่ะ” คิบอมบอก ฮีชอลพยักหน้า
ชั่วพริบตา ทั้งสองก็ทะยานสู่ท้องฟ้า ฮีชอลหันมามองบ้านหลังนี้เป็นครั้งสุดท้าย ภาพนี้จะอยู่ในความทรงจำของฉัน ชั่วนิรันดร์
...ลาก่อนดงแฮ...
...ลาก่อน ซีวอน....
...คุณจะอยู่ในความทรงจำของผม ตลอดไป...
.
.
.
จบอีกตอนแล้ววจ้าา
ขอโทษจริงๆที่ไม่ได้เข้ามาอัพนานมากๆ
จนหลายคนเหมือนจะเลิกอ่านไปเลยอ่าาา TT^TT
ยังไงก็อย่าเพิ่งทิ้งกันน๊าา
เพราะไรท์เตอร์สัญญา จะไม่ทิ้งคนอ่าน 55++
.
.
.
ความคิดเห็น