คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ความจริง...เป็นเรื่อง
บทที่ 5
เฮ้อวันอันแสนสุขของเพื่อนสาวของฉันจบลงไปอย่างราบรื่นแต่แล้ว พวกเราก็ต้องกลับมาเจอภาพอะไรที่มันแสนจะสะอิดสะเอียน คนจูบกันบนรถไฟฟ้า โอ้กอด!! 2 คนนั้นใส่ชุดนักเรียนม.ปลายโรงเรียนฉันด้วย ใครกันนะที่มาทำเรื่องชั่วๆให้สถาบันเสื่อมเสีย ต้องรู้ให้ได้
“บุ้ง หวานใครอะตรังมุมนั้นอะ พวกแกมองเห็นรึป่าว” ฉันสะกิดเพื่อนสาวให้หันไปดู
“ไหนอะแกฉันมองเห็นนะแต่มันก็ไม่ชัดเลย” หวานว่าอาจจะเป็นเพราะเป็นเวลาเร่งด่วนคนจึงเยอะและเราก็อยู่ไกลจากจุดนั้นพอสมควรทีเดียว
“อื้ม ฉันยืมกล้องแกหน่อยดิ” ยัยหวานล้วงๆควักๆเข้าไปในกระเป๋านักเรียนอยู่พักนึ่งเพื่อหากล้อง
ZooM-------------------------------- ZooM -------------------------------ZooM
โอ้ ยิ่งใกล้ก็ยิ่งคุ้น นั้นเห็นมั๊ยคะท่านผู้ชม มันคุ้นมากๆ และแล้วภาพของชายหญิงทั้งคู่ก็ชัดจนรู้ได้เลยว่าฉันรู้จักพวกเขาดี เอมี่กับกอน
“โห แก ดูดินี่มันที่สาธารณะนะ”
“เด็ดสุดๆเลยเตย แกว่ามั๊ยยัยหวาน” อ้าวทำไมยัยหวานเงียบไปเนี่ย
พอหันไปก็เจอกัยช่างภาพสาวจำเป็น ยัยน้ำหวานนั้นเอง โหยมือยัยนี่กดชัตเตอร์เป็นระวิงเลย
“เอามานี่ยัยหวานแกทำอะไรฮะ”ฉันแย้งกล้องออกจากมือยัยหวาน
“เตยแกเป็นอะไรไป นี่มันข่าวเด็ดของปักษ์นี่นะ” ฉันยิ้มก่อนจะบอกว่า
“ป่าวแค่แกถ่ายไม่ได้มุมหนะ ฉันจะถายเองหยะ”
“โธ่ ฉันก็คิดว่าแกยังไม่หายดี” ยัยบุ้งบ้าฉันหนะคิดได้ 2 ปีแล้วมั้ง ฮิฮิ
ไม่เอาละฉันหันไปถ่ายรูปต่อ ฉันจะต้องแฉให้ได้ พวกหญิงร้ายชายชั่วมันต้องโดนแบบนี้ โฮะๆๆๆ
ตอนนี้ฉันแยกจากพวกยัยหวานแล้ว ฉันกำลังจะไปไหนหนะหรอ อ๋อ อยากรู้ใช่มั๊ยหละงั้นต้องตามไปดู มาดู มาดู ดูมาดูมาให้ชิดเขยิมเข้ามาอีกนิดซูม มาซูมใกล้ๆ
หน้า ชมรมหนังสือพิมพ์
“หวัดดีคะเจ้ครีม”
“ว่าไงยะแม่หัวหน้าคอลัมน์แฉ วันนี้เอาอะไรมาแฉหละ”
“อะไรคะเจ้ แต่ก็มีมาแฉอยุ่ดีแหละ” ฉันยิ้มก่อนยื่นกล้องมาไปให้เจดู
“ไปเอารูปพวกนี้มาจากไหนเตย”
“ถ่ายเมื่อเช้าคะ”
“แล้วเตยจะลงจริงๆหรอ เตยไม่เป็นไรแล้วใช่มั๊ย”
“คะ เตยไม่เป็นไรแล้ว”ฉันยิ้มก่อนจะพูดต่อว่า
“เตยว่าเตยโชคดีนะคะที่รอดจากคนหื่นแถมยังเป็นฆาตกรอีกด้วย”
“ฮะ คนอย่างนายกอนถึงจะเจ้าชู้แต่ไอที่ว่าฆาตกรเนี่ยหมายความว่าไง”
โอ้ ไม่น้า ฉันหลุดปากเรื่องนี้ไปได้ยังไงเกิดเรื่องถึงหูตาคี นายนั้นฆ่าฉันแน่ ไม่รุ้ว่าเขาทำใจได้รึยังเรื่องนี้ อันที่จริงฉันนสงสารเขาจังเลย เขาร่าเริงก็จริงแต่มันก็ยังมีอะไรที่ทำให้ฉันคิดว่าลึกๆแล้วเขายังเศร้าอยู่มาทีเดียว
“ป่าวคะ ไม่มีอะไร แบบว่าฆ่าความบริสุทธิ์ของสาวๆไงคะ” ฉันแก้ตัวไปโน้น เจ้แกดูเหมือนจะเชื่อ
“อ่าจะ มีเวลาอีก 15 นาทีนะ เจ้จะส่งพิมแล้วเดี๋ยวไม่ทันเที่ยงนี่”
ฉันพยักหน้าและรีบทำคอลัมน์ของตัวเองต่อ ฉันเขียนโน้นเขียนนี้อยู่นานเหมือนกันแหละ แต่เอ๊ะทำไมเวลามันผ่านไปแค่ 10 นาทีเองหละเนี่ย เฮ้อ เสร็จแล้วๆๆๆๆๆ ดีใจจัง ฉันรีบส่งไฟล์ ไปที่เครื่องเจ้ครีมเพื่อส่งพิมพ์
“พี่เตยคะ พี่คีมารออยู่หน้าห้องชมรมคะ”เสียงน้องเค้กตะโกนมาจากหน้าชมรม แต่ว่าไงนะ นายคีมารออยู่หน้าห้องชมรมงั้นหรอ ตลกจังแฮะ
“จ้าๆ พี่ไปเดี๋ยวนี่แหละจะ” ฉันตะโกนกลับไป และรีบเก็บของบนโต๊ะอย่างเร่งรีบ แต่ฉันจะรีบไปทำไมเนี่ย
“อ้าวเสร็จแล้วหรอยัยโหด”
“เออ เสร็จแล้ว ว่าแต่นายมาทำไมที่นี่ อย่าบอกนะว่ามารับฉันหนะ”
“เออ ก็ประมาณนั้นแหละ”
“หมายความว่าไงยะ” ฉันเริ่มใจไม่ดีรู้สึกหวิวๆทุกทีที่เขาพูดจาแบบนี้ ไหนจะคอยเป็นห่วงเป็นใยไหนจะทำให้หัวเราะทุกครั้งที่ไม่สบายใจอีก ฉันยังไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรสักที
“ก็ใช่ไง ฉันมารับเธอ”
“หงะ งั้นเราไปเถอะดูดิคนทั้งชมรมมองฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อฉันแล้ว” ฉันว่าก่อนลากอีตาคีออกจากตรงนั้น อีตานั้นก็ยังไม่เลิกโบกไม้โบกมือให้พวกสาวๆในชมรมฉันสักที หน่อยหงุดหงิดจริงๆ
“หยุดได้แล้วตาบ้า” ฉันบอกอย่างฉุนๆ
“อะไรยัยโหดหึงฉันรึไง” โอ้คำพูดนี่เหมือนโดนน้ำร้อนลาดหน้าเลยอะ
“บ้ารึไง” ฉันว่าก่อนรีบเดินๆๆๆๆๆๆ ให้ห่างออกจากนายนั้น
“โอ้ๆ ไม่แกล้งละๆ” เขาว่าก่อนรีบดึงฉันให้หยุดรอ
“เออนี่นายฉันอยากรู้เรื่องแคนน้องสาวนายหนะ จะเล่าได้มั๊ย” เขาหยุดเดินก่อนหันมามองหน้าฉัน หงะเขาโกรธฉันแน่ๆเลยอะ
“ขอโทษๆ ไม่ถามแล้ว นายอย่าโกรธฉันนะ”
“ ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะเล่าให้เธอฟัง”
แล้วเขาก็เล่าว่า แคนเป็นน้องสาวของเขา เธอเป็นคนสวยมากทีเดียว และที่สำคัญเธอเกิดไปหลงรักกอนเข้า ตอนแรกๆเขาก็ห้ามเธอเพราะรู้ว่าสุดท้ายน้องสาวที่เขารักก็ต้องเจ็บเพราะกอนแน่ๆ แต่ก็ห้ามไม่ได้ สุดท้ายเขาก็ต้องปล่อยให้แคนคบกับกอน เพราะเธอบกว่าถ้าเขาไม่ยอมเธอจะฆ่าตัวตาย พวกเขา 2 คนคบกันอยุ่นานเกือบปี แล้วเหตุการณ์ที่เป็นต้นเรื่องก็เกิดขึ้น ตอนนั้นเป็นช่วงหลังสอบปลายภาคเสร็จ ตัวนายคีมีฉลองกับเพื่อนๆที่สอบขึ้นม.ปลายได้ ก็เลยไม่ได้สนใจเรื่องของแคนมากนัก ในช่วงที่เขากำลังสนุกกับเพื่อนกันอยู่ แคนก็หนีออกไปเที่ยวกับพวกของกอน เธอเป็นผู้หญิงที่จัดว่าเรียบร้อยและหัวอ่อนเอามากๆจากที่ฟัง เพราะเธอยอมทำตามที่นายกอนนั้น (หล)บอกทุกอย่างตั้งแต่ดืมเหล้ายัยตามมันไปบนห้อง อันที่จริงเรื่องพวกนี้ฉันก็เจอนะแต่ฉันไม่ทำหนะสิถึงรอดมาได้ คิดแล้วเสียว ต่อๆ คีเล่าต่อว่า น้องเพื่อนเขาโทรมาบอกว่ากอนพาแคนขึ้นไปบนห้อง พอได้ยินอย่างนั้นคีก็เลยรีบไปที่บ้านกอน แต่กว่าจะไปถึงมันก็ทำอะไรๆไปเรียบร้อยแล้วหละ แต่พอเขาไปถึงกลับเห็นแคนน้องสาวที่เขารักมากๆ นั่งยิ้มกินขนมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเลยนึกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แล้วหลังจากคืนนั้นแคนก็เปลี่ยนจากสาวน้อยที่ว่านอนสอนง่ายเรียบร้อยและเชื่อฟังพี่ชายของเขากลายเป็นผู้หญิงที่ติดเที่ยวแต่งตัวดุไม่ได้และกลับบ้านไม่เคยต่ำกว่าตี 3 ทุกคืน คีบอกว่าเขาไม่รู้จะทำยังไงแล้วได้แต่ห้ามเพราะตอนนั้นเขาเองก็ต้องเตรียมตัวขึ้นม.ปลาย แล้วเหตุการณ์ที่เลวร้ายก็เกิดขึ้น แคนผูกขอตายในห้องของเธอหลังจากฉลองวันเกิดกับกอนเสร็จ เธอทิ้งจดหมายลาตายไว้ว่า
‘ถึงพี่คี
แคนขอโทษที่ไม่ฟังคำพี่ตั้งแต่แรก ตอนนี้แคนรู้แล้วว่าที่พี่คีพยายามห้ามแคนเป็นเพราะอะไร กอนเขาไม่รับผิดชอบแคน แคนท้องกับเขาได้ 3 เดือนแล้ว แคนไม่มีหน้าสู้หน้าพี่คีได้อีกแล้ว แคนอับอายและรู้สึกไร้ค่า แคนตายไปพร้อมปัญหาที่หน้าอับอายนี่ดีกว่า แคนขอโทษนะคะพี่คี แคนผิดไปแล้ว จากนี้แคนจะไม่อยู่สร้างความอับอายให้พี่คีอีกแล้วนะคะ แคนขอบคุณสำหรับความหวังดีทุกอย่างที่พี่คีเคยให้แคน แคนลาก่อนนะคะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
ด้วยรักและขอบคุณ
แคน ’
แล้วอยู่ๆ คีก็หยุดเล่าทำให้ฉันต้องหยุดเดินเพื่อหันไปดูบุคคลข้างๆ นายร้องไห้ ฉันทั้งตกใจทั้งอึ้ง เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายร้องให้เลย แล้วอยู่ๆเขาก็ดึงฉันเขาไปกอดแล้วก็ทั้งร้องทั้งพยายามพูดบางอย่าง
“ฮึก....เธอจะต้องไม่ทำอย่างที่แคนเคยทำนะ อย่ากลับไปหามันอีกนะเตย”
“ไม่กลับไปหรอก ไม่กลับไปแน่นอน หยุดร้องเถอะนะ ฉันไม่สบายใจเลย”
“อืมๆ ไม่ร้องแล้ว” เขาบอกก่อนหันมายิ้มให้ฉัน ฉันรู้นะว่านายยังไม่เลิกคิดมากแต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้ต่อ
“ไปกินข้าวกลางวันกันดีกว่า แล้วนายจะได้เห็นอะไรดีๆ”ฉันว่าก่อนเดินจูงมือเขาไปโรงอาหาร
ตอนนี้ที่โรงอาหารกำลังวุ่นวายและมีเสียงซุบซิบดังไปทั่วบริเวณแต่ไม่ต้องตกใจมันเป็นฝีมือฉันเอง ดูนายคีก็ยังงงๆกับภาพตรงหน้าไม่น้อยเช่นกัน
“ไม่ต้องงงๆ เดี๋ยวฉันจะทำให้หายงง” ฉันส่งหนังสือพิมพ์โรงเรียนให้เขาแล้วก็
“เฮ้ย ยัยโหดเธอนี่มันร้ายจริงๆ”
“หุหุ ฉันแค่พูดความจริงเท่านั้นเอง” เขาเองก้ยิ้มให้กับความร้ายกาจของฉันก่อนจะขยี้ผมฉันเล่นจนมันยุ่งไปหมด
“หยุดเล่นเลยนะ หัวฉันยุ่งหมดแล้ว ไปกินข้าวดีกว่า”
ฉันเดินไปซื้อข้าวกับนายคี แล้วก็ถามถึงพวกยัยหวาน นายนั้นบอกว่าพวกนั้นจะไปนั่งโต๊ะข้างหลังโรงอาหาร ตรงนั้นเป็นที่ประจำของพวกเราเลยก็ว่าได้เพราะมันทั้งเงียบทั้งเป็นส่วนตัว หลังจากที่ซื้อข้าวเสร็จฉันก็เดินไปหาพวกนั้นที่โต๊ะหลังโรงอาหารทันที
“นี่ๆยัยเตยเล่ามาเลยนะว่าแกทำอะไรเนี่ย”
“อะไรของแกหวาน ก็แค่ลงข้าวเท่านั้นเองนะไม่เห็นจะมีอะไรเลย”
“ฉันโกรธแกมากๆเลย ย้ำว่าโกรธมากๆ” เอ้าแกมาโกรธฉันได้ไงอะยัยบุ้ง
“ทำไมแกไม่ชวนพวกเราไปด้วยอะ เลยอดสนุกเลย”
“อ้าว อ่านะ ขอโทษๆ ฉันไม่อยากให้พวกแกซวยหนิ”
“อืม ฉันกับหวานก็แกล้งเล่นไปงั้นแหละ แต่จะว่าไปแกเขียนแรงเหมือนกันนะเนี่ย”
“แรงตรงไหนหรอ” ฉันถามก่อนดูประดยคที่พวกนั้นชี้ ‘1 หญิงร้าย 1 ชายชั่วมั่วโลกีกลางที่สาธรณะ’
“แหะๆ แรงไปนิด แต่มันก็เป็นความจริงนะ”
“ฉันว่าเธอน่าจะลงรูปที่ชัดกว่านี้หน่อยนะ แล้วชื่อก็ไม่เห็นจะต้องเป็นตัวย่อเลย”
“โธ่ เคนคุงก็ ถ้าไม่ลงเป็นตัวย่อฉันก็ผิดดิ แต่เกิดยัยนั้นมันมาหาเรื่องฉันฉันก็จะบอกว่ามันร้อนตัวเพราะฉันไม่ได้ใส่ชื่อมันสักหน่อย”
“ฉลาดดีหนิยัยโหด”
“แน่นอนหยะ”
หลังจากนั้นก็มีบทสนทนาสัพเพเหระมากมายไปเรื่อยจนพวกเรากำลังจะขึ้นห้องเพื่อไปเรียนวิชาต่อไป
“ไปเหอะ หมดเวลาพักแล้วคาบนี้เรียนอะไรอะอาร์ต” ยัยหวานหันไปถามอาร์ตอย่างร่าเริง
“เรียนรักมั้งจะน้ำหวาน” โหยจะอ้วกหวะน้ำเน่าจริงๆ
“บ้าหน่า” หวานพุดก่อนหันไปทุบๆๆอาร์ตด้วยความเขิน
“เออ บ้าทั้งคู่เลย คาบต่อไปเรียนวิทย์ รีบไปเหอะเดี๋ยวจานอำพรจะพิโรธเอา” ฉันว่า
พวกเรารีบเดินขึ้นไปเรียนที่ตึกวิทย์อันที่จริงลิฟต์ก็มีอะนะ แต่ว่ากลัวมันค้าง ตึกนี่เก่ามากๆ
“พวกเธอไปไหนกันมานี่มาสายไป 3 นาทีแล้วนะ”
“ขอโทษครับ/คะ”
พวกเรารีบเดินก้มหน้างุดๆเพื่อไปนั่งหลังห้อง
“ทุกคน วันนี้เราจะเรียนผ่ากบกันจับกลุ่ม6 คนแล้วตามไปที่ห้องชีวะ”
“พอดีเลยอะ ไปเถอะผ่าเสร็จจะได้ว่าง”
อื้มจริงแต่ใครจะผ่าหละฉันกลัวนะยะ แต่ก่อนที่จะเดินพ้นห้องไปก็มีเสียงไม่พึงประสงค์มาเข้าหู
“นังตัวดี แกเอาอีกแล้วนะ” ยัยเอมี่ไม่รอช้าเจ้แกย่างสามขุมเข้ามาหาฉัน
“เอมี่เธอพูดกับพวกเราหรอ”หวานถาม
“ใช่ นังเตยแกอีกแล้วใช่มั๊ยที่ลงข่าวบ้าๆนี่” ยัยเอมี่โยนหนังสือพิมพ์ใส่หน้าฉันเต็มๆ มันเจ็บนะเฟ้ย
“ฉันเป็นคนลงแล้วยังไงหละ เธอรึไงในข่าวหนะ ฉันเขียนชื่อเธอลงไปหรอยะ ยัยโง่” ฉันตอกกลับจนยัยเอมี่กรี๊ดๆๆๆๆๆลั่นตึกไปหมด ฉันกับพื่อนๆไม่สนใจพวกเรารีบตามเพื่อนในห้องไปห้องชีวะเพื่อผ่ากบ ฉันเรียนสายศิลป์นะ ใจร้ายมาที่ให้วิชาผ่ากบมาอยู่ในตารางสอนฉัน ฉันแอบโวยวายในใจ ตอนนี้เคนกับบุ้งกำลังทำหน้าที่ผ่าศพ เอ้ย ผ่ากบกันอยู่ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนเกาะคีเพราะจะอ้วก ตานั้นยิ่งเห็นฉันซีดยิ่งซีดตาม อาจเป็นเพราะกลัวฉันอ้วกใส่หละมั้ง แต่ฉันจะมายืนเกาะนายนี่ทำไมเนี่ย ฉันรีบชักมือกลับมายืนกอดอด ส่วนคีได้แต่มองอย่างงงๆ
“เย้ๆ เสร็จแล้ว”นายเคนกับยัยบุ้งตะโกนลั่นจนคนอื่นหันมามองเป็นตาเดียว
“กรุณาเบาเสียงด้วยคะ เอางานมาส่งแล้วไปได้”
พวกเรารีบเอางานผ่าศพกบไปส่งแล้วออกจากห้องเพื่อไปโรงอาหาร อันที่จริงฉันกินไม่ลงหรอกนะจะบอกให้ ใครจะไปกินลง พึ่งเห็นกบกลายเป็นศพอยู่หยกๆเอง
“เป็นอะไรไปยัยโหด หน้าเธอซีดมากๆเลยนะ” นายคีว่าก่อนเอามือมาแตะหน้าผากฉัน มันอาจจะร้อนขึ้นถ้านายทำอย่างนี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“บ้า ไม่ได้เป้นอะไรสักหน่อยแค่เห็นกบเป็นศพแล้วจะอ้วก”
“โธ่เตยก็ ฉันว่านะผ่าศพไม่เห็นหน้ากลัวเหมือนตอนแกโดนตบเลย”
“เอาหน่ายัยหวาน มันไม่เหมือนกันสักนิด”ฉันว่าก่อนเดินไปนั่งเก้าอี้ตัวติดพนัง ตามมาด้วยนายคี จะว่าไปนายจะตามมาทำไม่เนี่ย ที่มีเยอะแยะ ชิ!
พวกเรานั่งคุยนั่งเลยนั่งแหย่นั่งตบนั่งตี บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และอีกมากมาย และด้วยเหตุอันได้ฉันเองก็ไม่รู้ ทำให้ฉันต้องหันไปมองคนที่เดินเข้ามาทางด้านหลัง อ๋อ คุณๆทั้งหลายนี่เอง ประกอบด้วย เอมี่ คี กอน แล้วก็ โจ ทำหน้าสงสัยกันทำไมเนี่ย ฉันยังไม่เห็นจะสงสัยเลย จะเรื่องอะไร มีอยู่เรื่องเดียวที่จะทำให้พวกนี้มาหาฉันถึงที่ “หนังสือพิมพ์”
“ว่าไงเอมี่ ผ่าศพเสร็จแล้วหรอ” ยัยหวานทักเสียงใส
“จะเสร็จไม่เสร็จมันก็เรื่องของฉัน หุบปากไปดีกว่าน้ำหวาน”ดูมันพูดกับเพื่อนฉัน
“พูดงี้อยากตายรึไง ถามดีๆ#!*+--*/&&*(%$#” ยัยหวานสบถออกมาพร้อมกับกระโจนเข้าใส่ยัยเอมมี่ นี่ถ้าไม่ได้อาร์ตกับเคนดึงไว้มีหวังเละแน่ๆเลย
“เฉยๆเถอะหน่ายัยหวาน ฉันจัดการให้” ฉันว่าก่อนจะเดินออกมาจากหลังโต๊ะ หงะ เดินไม่ได้อะ นายคีมันขวางทางไม่ให้ฉันออกไปอ่า นายนี่มันยังไงเนี่ยฮะ ฉันกระทืบเท้านาย
“โอ๊ย ยัยโหดเธอทำอะไร อย่าออกไปนะ”
“อย่าห่วงเลย หนามเตยซะอย่าง” ฉันว่าก่อนเดินเข้าไปหาเอมี่ที่ยืนเกาะแขนนายกอนแน่น
“ว่าไงยัยภูเขาไฟฟูจิ” ฉันว่า
“หน่อยนังหมารอบกัด เธอเอารูปพวกนี้มาลงหนังสือพิมพ์ทำไม”ยัยเอมี่ปาหนังสือพิมพ์ใส่หน้าฉัน
“อ้าว รูปเธอหรอ ฉันไม่รู้หนิก็แค่เจอคนกำลังทำอะไรน่าเกลียดๆกลางที่สาธารณะเลยเอามาลงประจานความชั่ว” ฉันทำหน้าใสซื่อสุดๆ
“แล้วข่าวที่เธอเขียนหละ อย่าบอกนะว่าไม่ได้หมายถึงฉันกับกอน”
“อ้าว เธอจะรู้ได้ไงหละว่าใคร มันก็แค่ตัวย่อเองนะ จะเป็นพี่ต้นกับน้องเอแคล หรือว่าพี่ตองกับอิง ก็ได้หนิ อย่าร้อนตัวเลย ถ้าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่เห็นจะต้องเดือดร้อนเลย” ฉันว่าก่อนเดินหันหลังกับไปเพื่อจะกลับไปนั่งกับเพื่อนๆ แต่แล้วความรู้สึกเหมือนหนังหัวถูกกระชากอย่างแรงก็เกิดขึ้นบนหัวของฉัน นังบ้านั้นมันดึงหัวฉัน
“นังเตยแกมันเป็นพวกแกว่งเท้าหาเสี้ยนจริง” ยัยนี่ฉันยังไม่ได้แกว่งเท้าเลยนะยะ ที่สำคัญเท้าฉันไม่ได้มีเสี้ยนยะ
“อะไรยะ ฉันไม่ได้แกว่งเท้าหาเสี้ยสักหน่อย”
“นังปากดี ฉันจะเอาเลือดปากแกออกมาล้างเท้าฉัน”
โหยัยนี้โหดมากเลยนะเนี่ย ฉันว่าฉันโหดแล้วแต่ได้ยินยัยนี้พูดแล้วขนลุกเลยเรื่องอะไรฉันจะยอมแพ้หละ ต้องเจอนี้ อะจ้าก อะจึก จึก จึก ปึงปัง โปก
“เปนไงยะ เลือดเธอล้างเท้าฉันก่อนแล้วหละเสียใจด้วยนะ” “เฮ้ย อย่าเล่นหมาหมู่ซิ ปล่อยดิวะ” ฉันตะโกนลั่นเมื่อยัยเอมี่สั่งพวกให้มาจับตัวฉันล็อกไว้
“เอ้ย ปล่อยเตยนะ!” เพื่อนๆพากันตะโกน แต่ยัยเอมี่ก็สั่งให้คนของหล่อนไปล็อกตัวเพื่อนฉันเอาไว้อีก กอนกับคีแทบจะต่อยกันให้ตายไปข้างนึ่ง ฉันไม่รู้หรอกว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไร อาจเป็นเรื่องของแคน หรือคีอาจจะห่วงฉัน ไม่จริงหรอกยัยหนามเตยคิดอะไรบ้าๆ
“เพี๊ยะ” หน้าฉันหันไปตามแรงของฝ่ามือ และมันช่วยเรียกสติฉันให้หันมาสนใจคนที่ตบฉัน
“ทำไมเธอถึงชอบเล่นหมาหมู่นักนะ ตั้งแต่ตบกันมาฉันไม่เคยเห็นครั้งไหนจะตัวต่อตัวเลย ยัยหมาหมู่”
“หุบปากเถอะหน่า ฉันจะเอาเลือดแกมาล้างเท้าฉัน” เอมี่ว่าก่อนจะรัวฝ่ามือลงบนหน้าฉัน หล่อนตบฉันไม่ยั้งแต่ใช่ว่าฉันจะไม่ตอบโต้อะไร ฉันทั้งถีบทั้งเตะยัยนี่ล้มลงไปกองกับพื้น แต่ยัยนี่อึดมากเหลือเกินแล้วอยู่ก็
“ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!” ทุกอย่างหยุดนิ่ง กอนกับคีแยกออกจากกันสวนพวกยัยหวานก็ลดมือลงก่อนหันไปมองต้นเสียง
“อาจารย์!!!!” พวกเราแย่งกันตะโกนออกมา ทั้งตกใจและกลัว
“ใช่อาจารย์
“เพราะเธอคนเดียวหนามเตย เธอทำให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้น”
“งั้นหรอ แล้วดูละกันว่าที่เธอจะโดนมันคดีอะไร” ฉันว่าก่อนจะยิ้มอย่างโรคจิต ฉันรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ฉันกับเพื่อนๆอาจโดนแค่ทะเลาะวิวาทกระทงเดียว แต่เอมี่กับกอนจะต้องเจอคดีอื่นด้วยอย่างแน่นอน เพราะฉันส่งตรงหนังสือพิมพ์โรงเรียนไปให้อาจารย์วิทยาและผอ.เรียบร้อยแล้ว จะหาว่าฉันร้ายก็ยอม แต่ฉันนี่แหละจะแก้แค้นแทนแคนเอง ( ใช่ๆเธอร้ายมากหนามเตย ฉันชักไม่อยากจะเชื่อแล้วว่าเธอหนะเป็นนางเอกของเรื่อง )
พวกเรารีบเดินไปที่อาคารทรงไทยเพื่อไปพบอาจารย์วิทยาและผอ.ที่ห้อง ส่วนพวกเอมี่จะมารึป่าวฉันเองก็ไม่รู้ แต่ฉันเชื่อว่าคนผิดย่อมโดนลงโทษ ฉันกำลังคิดว่าพวกเราจะได้รับโทษอะไร ตอนนี้คิ้วฉันมันคงจะผูกเป็นโบแล้ว
“นี่ยัยโหด เธอคิดอะไรอยู่ฮะ กลัวจะโดนลงโทษรึไง” คีถามฉัน
“ป่าวหยะ แค่คิดว่าจะโดนอะไรแค่นั้นเอง”
“ฉันว่านะแก โดนอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่พบผู้ปกครองหนะ ฉันกลัวว่าจะโดนดุ”
“อื้ม ขอโทษละกันนะบุ้งที่ทำให้แกกลัว” ฉันพูดขึ้น
“อื้ม ไม่เป็นไรหรอกน่า เราแค่ป้องกันตัวเท่านั้นเอง” เคนว่าก่อนโอบยัยบุ้งเข้าไปใกล้ๆ นี่มันหน้าสิ่วหน้าขวานอยู่นะยะ
“จะๆ” บุ้งตอบยิ้มๆ
ตอนนี้พวกเรามายืนกันอยู่หน้าอาคารทรงไทยแล้ว พวกเอมี่กับกอนก็กำลังจะเดินมาถึงเช่นกัน
“ทำใจได้รึยังหละยะหนามเตย โทษของพวกเธอมันต้องไล่ออกแน่ๆ”
“น้อยๆหน่อยเอมี่ เธอคิดว่าครูเขาไม่มีตารึไงถึงจะเอาผิดแค่พวกฉันหนะ”หวานว่า
“ใครเขาจะให้ลูกสะใภ้ในอนาคตต้องมีประวัติด่างพร้อยหละยะ” เอมี่ว่าก่อนกระชับแขนก่อนให้แน่นขึ้น
“อ๋อ งั้นหรอ อื้มเข้าใจแล้วหละว่ากอนเป็นลูกผอ. แล้วไงหละฉันไม่กลัว” ฉันว่าบ้างแล้วรีบเดินกระแทกไหล่ยัยนั้นเข้าไป อันที่จริงฉันเริ่มหวั่นๆแล้วหละ กอนเป็นถึงลูกผอ. คงไม่ยอมให้แฟนตัวเองเป็นอะไรไปหรอก แต่มันก็ไม่ยุติธรรมนะ ถ้าเป็นอย่างงั้นฉันไม่ยอมเด็ดขาด
“ก๊อกๆๆๆ” อาร์ตเคาะประตูห้องผอ.
“เชิญ” เสียงอาจารย์วิทยาดังลอดออกมาจากในห้อง
“สวัสดีคะ/ครับ” พวกเรากล่าวทักอาจารย์ทั้ง2 ท่าน
“คุณอาคะ เรียกพวกเรามาทำไมคะเนี่ย มี่ไม่ได้ทำอะไรผิดหนิคะ”
“พ่อเรียกผมกับมี่มาทำไม” กอนว่า
“เงียบทั้ง2คนนั้นแหละ พวกเธอด้วย มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันในโรงเรียนถือว่าผิดกฎใช่มั๊ย”
“ใช่คะ แต่พวกหนูไม่ได้อยากมีเรื่องหนิคะ พวกเราป้องกันตัวเท่านั้นเอง”ฉันเถียงขึ้น
“ใครถามความคิดเห็นเธอ ยังไงพวกเธอก็ทะเลาะวิวาทกันในโรงเรียน”
“แล้วผอ.จะให้หนูยืนให้ลูกสะใภ้ไร้ยางอายของผอ.ตบฟรีๆรึไงคะ” ฉันว่า ผอ.หน้าแดงด้วยความโกรธจัด
“ฉันจะพักการเรียนพวกเธอ 6 คน 2อาทิตย์ ออกไปได้แล้ว พาเพื่อนสาวปากดีของเธออกไปด้วย” ผอ.ชี้นิ้วสั่งให้เพื่อนๆพาตัวฉันออกไป แต่ทำไมเขาถึงได้ลงโทษแค่เรา 6 คน มันไม่ยุติธรรมหนิ
“ ทำไมผอ.ทอย่างนี้หละคะ พวกเราไม่ได้ผิดฝ่ายเดียวสักหน่อย คนที่หาเรื่องและทำผิดมากกว่าพวกเราก็คือลูกชายของคุณนั้นแหละ แล้วทำไม...”
“เงียบได้แล้วคุณ สุภาพัฒน์ ท่านผอ.มีเรื่องต้องคุยกับเอมิกา และกอนต่อ กรุณาออกไปข้างนอกได้แล้ว” อ.วิทยาบอกก่อนเปิดประตูให้แล้วไล่พวกเราออกไป
“หนูไม่ยอมหรอก ปล่อยสิวะ ฉันบอกให้ปล่อยไง”ฉันดิ้นพรวดพลาดเหมือนโดนน้ำร้อนลาด เพื่อให้หลุดออกจากแขนที่แข็งแรงของคีแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
“หยุดเถอะหน่าเตย พูดไปก็เท่านั้นอย่าโง่ไปหน่อยเลย เขาเป็นพ่อลูกกันนะ” คีว่าก่อนพยายามดึงฉันให้นั่งลง
“หยุดงั้นหรอ ก็ได้ แล้วพวกเราจะทำไงกันต่อไปหละ พ่อคนฉลาด” ฉันว่า
“2 อาทิตย์ อื้มไปเที่ยวทะเลกันมั๊ย”
“ทะเลหรอ ก็ดีนะที่ไหนหละ” หวานถามขึ้น
“อื้ม บ้านพักของแม่ฉัน”คีว่า
“อยู่ที่ไหนหรอคี ฉันอยากไป”
“หัวหินหนะ บุ้ง พวกเราไปกันดีมั๊ย อย่างน้อยก็ หาอะไรคลายเครียดไง”
“อื้มเอางั้นก็ได้นะ”ฉันว่า จากนั้นพวกเราก็เดินออกจากหน้าอาคารทรงไทยไป ในใจฉันเองยังคิดไม่พอใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่แต่ว่า ได้ไปเที่ยวพักผ่อนแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
“ว่าไงนะครับพ่อ ไปอังกฤษ” ผมอุทานทันทีที่ได้ยินพ่อของผม หรือผอ.ที่ทุกคนเรียกกันบอกให้ผมไปต่อไอสคูลที่อังกฤษ
“นั้นสิคะคุณอา”มี่พูดขึ้น
“แกทำให้ฉันต้องทำอย่างนี้เอง ดูสิ่งที่แกทำให้เต็มตาซะ”พ่อว่าก่อนโยนรูปถ่ายที่ชัดกว่าในหนังสือพิมพ์ใส่ผม นั้นมันผมกับเอมี่บนรถไฟฟ้า ใช่มันน่าอับอายมาก เราจูบกันบนนั้น
“ทำไมคะคุณอา ก็เรา 2 คนรักกันหนิคะ”
“ฉันรู้ว่าเธอ 2 คนรักกัน และรู้จักลูกของฉันดีกว่าใครๆ เพราะงั้นกอนแกไม่มีทางเลือก อีก2 อาทิตย์แกจะต้องไปอังกฤษ ทางโน้นป้าเอ็มมิลี่จะดูแลแก”
“โธ่ พ่อ...”
“หุบปาก ไปได้แล้ว ส่วนหนูเอมี่ อาคงต้องหักคะแนนจิตพิสัยของหนู 50 คะแนน”
“คุณอาทำอย่างนี้กับเราไม่ได้นะคะ หนูจะบอกคุณพ่อ”
“อาจำเป็นต้องให้ความยุติธรรมกับทุกคน เชิญออกไปกันได้แล้ว”
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อแค่ดึงเอมี่ออกจากห้องนั้นอย่างรวดเร็ว ผมอึ้งกับคำพูดของพ่อเอามากๆ ทุกครั้งที่ผมไปมัวเมาเคล้านารีที่ไหน พ่อไม่เห็นเคยสนใจแต่ครั้งนี้กลับส่งผมไปอยู่ถึงเมืองนอก พ่อคงโกรธเข้าจริงๆแล้วซินะ
“กอน เอมี่ว่า เราเลิกกันเถอะคะ”เอมี่ทำให้ผมอึ้งอีกครั้งด้วยคำพูดนี้
“ทำไม”ผมถามเธอเสียงเรียบ
“มี่ไม่อยากให้ตัวเองต้องเสื่อมเสีย และที่สำคัญมี่เบื่อความโง่ของคุณเต็มที จะจัดการอะไรก็ไม่จัดการ คุณยังปกป้องมี่ไม่ได้อีก คุณ
“งั้นก็ตามใจ เพราะฉันเองก็เบื่อกับความเอาแต่ใจไม่รู้จักคิดของเธอแล้วเหมือนกัน” ผมว่า
ผมเองก็เบื่อเต็มที จากที่เคยคิดว่าเอมี่เป็นผู้หญิงที่น่ารัก แต่ที่จริงเธอนั้นแหละที่พาชีวิตผมมาพัง ถ้าเป็นเตยเธอคงไม่ทำกับผมอย่างนี้ นึกแล้วผมเองก็เสียใจกับสิ่งที่ผมทำไม่น้อย อย่างน้อยที่สุดก่อนไปผมต้องไปขอโทษเธอให้ได้
ความคิดเห็น