ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สงครามแห่งเคได

    ลำดับตอนที่ #2 : หญิงสาวขี้ลืม

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 49


                    อีกครั้งที่เธอตื่นนอนตอนเช้ามืด  ไม่ต้องเหลือบไปดูนาฬิกาที่ข้างเตียงนอนก็รู้ว่าเป็นเวลาตี 4  เพราะเธอตื่นเวลานี้ทุกวันโดยไม่มีสาเหตุที่อธิบายได้   เช้าเกินไป  สำหรับนักเรียนเกรด 6 (อายุ 19 ปี) ที่ต้องจัดโปรแกรมการศึกษาด้วยตนเองวันละ 8 ชม. (ซึ่งทุกคนมีสิทธิกำหนดเองว่าจะจัดตารางอย่างไรให้ครบตามที่กระทรวงการศึกษากำหนด)  ปรกติเธอจะเริ่มการเรียนเวลา 9 นาฬิกา  แต่ตอนเช้าแบบนี้ แปลกที่เธอรู้สึกตื่นตัวเต็มที่  ร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง  ไม่มีความง่วงเหงาหาวนอน  สมองที่ทำงานดีได้ในทันทีราวกับเปิดสวิทซ์ หวนคิดถึงความผิดปรกติของตนเองที่รู้สึกมานับครั้งไม่ถ้วน  กับความรู้สึกโหยหาอะไรบางอย่าง!  บางอย่างที่สำคัญมากเกี่ยวกับ...  ความอบอุ่น และพลัง! ราวกับว่าเธอผ่านความฝันที่วิเศษสุดและเปี่ยมไปด้วยความหมาย  แต่ความฝันก็ยังคงเป็นความฝัน  เธอจำอะไรไม่ได้เลย

    เวลาที่เหลืออยู่จึงใช้ในการวิ่ง เหมือนเดิมทุกวัน   ทั้งที่อยู่ในชุดนอนคือเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นสีขาวทั้งตัว  เครื่องวิ่งที่เธอใช้เป็นแบบใหม่ล่าสุด คือตั้งโปรแกรมได้หลายรูปแบบ  ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ป้องกันตัว(ที่หากต้องการคู่ต่อสู้  คอมพิวเตอร์ก็จะสร้างภาพผ่านอุปกรณ์ที่ใช้สรวมที่ศีรษะเหมือนหมวกกันน็อค)  การยกน้ำหนัก  อุปกรณ์โลหะที่เชื่อมโยงกับร่างกายของเธอโดยการสวมมือและเท้า   และผูกมัดที่ข้อต่อก็จะถ่วงน้ำหนักตามที่เธอระบุ  (หรือถ้าป้อนโปรแกรมอัตโนมัติ  มันก็จะคำนวณให้เหมาะสมกับเธอเอง)  แต่เธอชอบที่จะวิ่งมากที่สุด  มันทำให้เธอรู้สึกว่ากำลังไป....เข้าใกล้สิ่งที่มีความสำคัญทีเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร  ความจริงก็คือ  ถ้าไม่วิ่งเธอจะรู้สึกว่าทนไม่ได้! พ่อของเธอที่เป็นจิตแพทย์ชื่อดังบอกว่ามันเป็นอาการที่เกิดจากความผิดปรกติของกระแสประสาทและฮอร์โมน  ท่านให้เธอกินยาบางอย่างและแนะนำให้วิ่งเพื่อปลดปล่อยพลังส่วนเกิน 

                    กริ๊งงงงงงงง   เสียงโทรศัพท์ดังแสบหู  ทำให้เธอหลุดจากผวังค์ความคิด  นาฬิกาที่เครื่องออกกำลังบอกว่าเธอวิ่งมานานถึง  2 ชม.แล้ว 

    งั้นตอนนี้ก็คง  6 โมงสินะ  เธอคิดแล้วหยุดการทำงานของเครื่องออกกำลัง  ปฏิเสธโปรแกรมสโลว์ดาวน์  มันไม่จำเป็นสำหรับเธอที่การทำงานของร่างกายเหมือนกับเปิด-ปิดได้ เสียงโทรศัพท์ยังดังไม่หยุด  เธอถอดโทรศัพท์วางไว้ที่ไหนกันน้า  โทรศัพท์สมัยนี้มีขนาดเล็กมากเท่ากิ๊บติดผมขนาดใหญ่  วิธีใช้คือติดไว้หลังหูแถมยังออกแบบให้เหมือนเครื่องประดับไปในตัว มันทำให้พกพาสะดวกแถมสวยถูกใจวัยรุ่นที่แทบจะเปลี่ยนจมูกตัวเองเป็นแบบหมูเพื่อไม่ให้ซ้ำกับใคร  แต่สำหรับคนขี้ลืมอย่างเธอ  อันใหญ่หน่อยน่าจะดีกว่าในเวลาที่ต้องหาแบบนี้   เธอหาเจอมันที่ข้างเตียงนอนในห้อง  เบอร์ที่โทรมาขึ้นเป็น

    Daddy!( Mr. Korunagi  Shiwa- 54-98173-56) 

    "ค่า สวัสดีค่า"

    "อันนะ!  นี่ลูกใช่ไหม"

    "แหม! ก็ต้องเป็นหนูสิคะ  จะเป็นใครอื่นล่ะคะที่พ่อทิ้งให้อยู่บ้านนี้คนเดียว  นี่พ่อทำงานโต้รุ่งอีกแล้วสิ  หักโหมแบบนี้ระวังสุขภาพด้วยนะคะ"

    "ลูกก็รู้ว่างานพ่อยุ่งนี่จ๊ะ   ว่าแต่วันนี้ลูกวางแผนไว้ว่าอย่างไร  พ่อจำได้ว่าลูกมีนัดกับ เดปเปอร์นี่นา"

    "อ๊ะ! อ๋อ เอ่อ... ค่ะ แหม  หนูจะลืมได้ยังไง"

    เธอพึ่งจะนึกออกว่าทำไมเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา  เธอถึงตั้งโปรแกรมการศึกษาไว้ล่วงหน้าโดยเพิ่มจำนวนเวลาในการศึกษาด้วยตนเองเป็น 10 ชม.ต่อวัน  ก็เพราะการคะยั้นคะยอของแม่เพื่อนสาวที่ต้องการนัดเที่ยวพิเศษนอกจากวันหยุดกลางสัปดาห์ที่มีประจำนั่นเอง

    "หนูวางตารางไว้ล่วงหน้าแล้วค่ะ  วันนี้ตอน 11 โมงหลังจากเรียนภาคเช้าเสร็จหนูก็จะว่างทั้งวันเลย"

    "งั้นพ่อเดาว่าตอนเย็นนี้ลูกคงจำนัดทานอาหารของเราได้และวางแผนเผื่อมันไว้ด้วย"

    "ฮ่าๆ   แน่นอนสิคะ"   ถึงตอนนี้ เธออยากเขกหัวตัวเองซักที  ทำไมกันเนี่ยยยย  ถ้ามีประกวดความจำสั้น  เธอต้องชนะแน่นอน  สงสัยคงต้องขอโทษขอโพยยัยเดปเปอร์เรื่องยกเลิกนัดเที่ยวคลับโต้รุ่งซะแล้ว

    "งั้นเราเจอกันตอนเย็นนะลูก  อย่าลืมกินยาและเอาเครื่องคอมฯมือถือพกไปด้วยก่อนออกจากบ้านนะจ๊ะ  พ่อขอนอนก่อนล่ะ"

    "แล้วพบกันค่ะ"

      เธอนึกนับถือพ่อในความรอบคอบ  พ่อจะคิดถึงเธอเสมอว่าเธอต้องทำอะไร  เธอมักจะลืมอะไร  ท่านไม่เคยตำหนิเธอเลยแต่พยายามช่วยเหลือเต็มที่  น่าแปลกที่คนระดับหัวสมองอย่างพ่อจะมีลูกเฉิ่มๆขี้ลืมขนาดนี้  บางครั้งเธอนึกขอให้พ่อผลิตยาช่วยความจำให้เธอด้วยซ้ำ  แน่นอนว่ามันต้องทำรายได้ให้มหาวิทย- ศิลปาลัยแห่งดาโกต้าที่พ่อทำงานอยู่แน่ด้วยเงินบริจาคสมทบทุนจากบรรดาเศรษฐีลูกโง่(เหมือนใครกันล่ะ!)    ถึงกระนั้นผลการเรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของเธออยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว  เดปเปอร์เคยพูดว่ากระแสไฟฟ้าในสมองเธอทำงานได้ลื่นไหลรวดเร็วกว่าใคร แต่เหมือนมีเขื่อนกั้นขวางไม่ให้กระแสความคิดไหลผ่านสมองส่วนที่ควบคุมความจำซะอย่างนั้น 

    ผ้าม่านในห้องเปิดอัตโนมัติพร้อมกันทุกผืน  บอกเวลา 6.30 น. แสงแดดอ่อนๆยามเช้าทอเข้ามา  วันนี้เธอตั้งโปรแกรมอาหารเช้าเป็นเนื้อย่าง กับสลัดผัก แน่นอนว่าเป็นเนื้อเทียมจากโปรตีนสังเคราะห์ เพราะปัจจุบันถือว่าวัวเป็นสัตว์สงวนชั้นที่ 2 ตามพระราชบัญญัติแห่งดาโกต้า ปี ค.ศ. 2306 เธอกะว่าอาหารจากเครื่องทำคงเสร็จพอดีหลังจากอาบน้ำ  ภาพในกระจกห้องน้ำสะท้อนภาพหญิงสาวผมดกหนาสีน้ำตาลเข้มยาวระบ่า  ดวงตาสีน้ำทะเลโตบนใบหน้าเรียว  เธอกำลังคิดถึงเพื่อนคนนี้ "เดปเปอร์"ผู้คลั่งไคล้เรื่องประวัติศาสตร์และของเก่า  และแทบจะนับเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของเธอในเมืองนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×