คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คารมพี่ชาย
คารมพี่ชาย
“โหพี่ โรงเรียนอะไรมันจะฮ่ารูฮ่าราอย่างนี้เนี้ย”เสียงใสๆร้องอย่างตื่นๆ เมื่อเห็นโรงเรียนอันฮ่ารูฮ่าร่า ซึ่งแปลอีกทีก็คือ หรูหรา ภาษาพิลึกกึกกือดังมาจากเด็กสาวอายุประมาณ 14-15 ผมสีน้ำตาลยาวตรงที่ดูจะสวยถ้าไม่มัดเป็นหางม้าด้วยโบสีส้ม จนจากสวยกลายเป็นน่ารัก ใบหน้าติดงามของสาวเจ้าดูจะได้รับการดูแลระดับหนึ่งจึงไร้สิวฝ้า ดูสมเป็นลูกคุณหนูที่จะเข้าเรียนที่โรงเรียนเอสทิวา
“โรงเรียนเอสทิวา โรงเรียนใหม่ของแกที่จะต้องอยู่ในหอพัก จนกว่าพี่จะมารับกลับบ้าน”อีกเสียงหนึ่งดังไม่ไกลกันมากจากปากของผู้เป็นพี่ ที่มีเรือนผมสีดำสนิทผิดกับน้องสาว นัยน์ตาสีเดียวกันคือสีน้ำตาลพอจะทำให้ดูรู้ว่าสองคนนี้เป็นพี่น้องกัน
“อย่างนี้ก็หนีเที่ยว เอ๊ย ไปเยี่ยมเพื่อนเก่าไม่ได้เลยอ่าดิ”ผู้มีศักดิ์เป็นน้องเผลอไต๋บอกไป ทำให้ผู้พี่ต้องขมวดคิ้ว ก่อนเอ่ยวาจาหนักๆ ที่ทำเอาน้องสาวหน้าเจื่อนทันที
“อยู่นี้ไปตลอดนั้นแหละ จนกว่า...จะมีจดหมายมาเรียกตัวกลับบ้าน แต่คงอีกนาน เพราะพี่ไม่อยู่เมืองไทยเกือบปี”
“ฆ่ากันชัดๆ”คนน้องบ่นงุบงิบ ทว่าคนพี่หูไวพอกัน จึงถามกลับทันที
“บ่นอะไร”
“เปล๊า แค่พึมพำว่า สนุกแน่ๆ ก็เท่านั้นเอง”เหงื่อเม็ดเป้งไหลออกมาจากคนน้องที่ชื่อว่า เชน และพี่ชายที่ชื่อ ชิน
“แล้วไป”ชินเอ่ยแต่สายตาไม่ได้ว่าอย่างนั้น ก่อนเดินนำไปที่ตึกใหญ่โต ทิ้งน้องสาวลากกระเป๋าตามมาอย่างไม่คิดจะช่วย
พอมาถึงบันไดที่มีมากถึง 5 ขั้น ถ้าเดินธรรมดาคงนำลิ่วๆตามพี่ไป แต่นี้ มันติดที่กระเป๋า ที่คิดไม่ออกว่าป้าที่ช่วยจัดกระเป๋ายัดอะไรมานักหนา
ทำไงดีฟร่ะตู
เชนคิดพลางทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะเรียกพี่มาช่วยก็คงโดนหัวเราะแย่ เรียกคนแถวนี้ก็ไม่รู้จัก หรือจะเอาของทิ้งดีฟร่ะ
“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ”เสียงหนึ่งดังขึ้น เชนตวัดสายตาไปมองทันที ชายร่างสูงค่อนข้างผอม ผมสีดำยุ่งเหยิง ดวงตาสีดำอยู่หลังแว่นไร้กรอบสี่เหลี่ยมนั้น
เด็กเรียน
ความคิดเดียวที่เข้ามาในสมองของเชน
“ยกกระเป๋าไม่ไหว”เชนเอ่ย ชายคนนั้นพยักหน้าก่อนมาช่วยยก ที่เล่นเอาเหงื่อของทั้งคู่ออกมาเป็นกระตักเลยทีเดียว
“หนักดีนะ”เสียงกลั้วหัวเราะ ที่เชนขมวดคิ้ว ไม่แน่ใจว่ามันหลอกด่าหรือแค่ประชด
“ป้าจัดมาให้”เชนเอ่ยราวกับออกตัวหรือถ้าให้พูดแบบตรงๆก็คือ ‘เฮ้ เค้าไม่ได้จัดกระเป๋า ป้าแก่ๆแถวบ้านจัดให้ตั้งหาก’
“อ้อ! ลูกคุณหนู”ไม่ว่าเปล่าสายตาที่บ่งบอกถึงความเจ้าเล่ห์ก็ฉายออกมาทันที เชนนิ่งเงียบไม่ตอบ แน่นอนว่าในใจกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
‘เรียนที่นี้ ไม่คุณหนูก็หลานคนรวย ยังกับว่าแกเป็นยาจก คอยอิจฉาคน’เชนคิดงุบงิบในหัวตัวเอง ก่อนเอ่ยขอบใจอย่างไม่เต็มปาก
############################
“ทำอะไรชักช้าอยู่ได้”เสียงต้อนรับดังมาจากปากของผู้เป็นพี่ที่ยืนรออยู่หน้าห้องอาจารย์ใหญ่
“พี่นั้นแหละ กระเป๋าก็ไม่ใช่ใบเล็กๆดันให้ยกคนเดียว แทบตาย”เสียงบ่นเป็นทอดๆของเชนทำให้ผู้เป็นพี่ยิ้มกว้าง ด้วยความรู้สึกสะใจ
“รู้ว่าหนักทำไมไม่มาเรียกไปช่วยยก งี่เง่าไม่เข้าเรื่อง”คำด่าออกมาจากปากของผู้เป็นพี่ที่ชื่อ ชิน ทำเอาน้องผู้ชื่อเชนแยกเขี้ยวงุด แต่ไม่ต่อปากต่อคำต่อ เพราะว่าเดี๋ยวสุดท้ายก็มาจบตรงงี่เง่าเหมือนเดิม
ก๊อก ๆๆ ก๊อก ๆ ก๊อก ๆๆ ก๊อก ๆๆๆ ก๊อก!
เสียงรั่วเคาะประตูของพี่ชิน ทำเอาสีหน้าน้องเหยเก มีที่ไหนเคาะประตูแทบจะเป็นจังหวะเชียร์กับห้องของอาจารย์ใหญ่ อ้อ~ลืมไป
ก็มีพี่บ้าๆของเธอคนเดียวล่ะ ที่กล้าทำแบบนั้น เพราะเหตุผลที่พี่ไม่ได้เรียนกับเธอนั้นเอง
“เชิญครับ”เสียงแก่ๆ เอ๊ย ทุ้มๆ จากในห้องดัง ชินเปิดประตูโดยมีน้องสาวลากกระเป๋าเข้าตามมา
“สวัสดีครับ มีอะไรให้รับใช้หรือครับ?”มันเป็นคำถามที่ความจริงแล้วไม่ต้องการคำตอบ แต่ชินกลับพุ่งคำตอบให้ทันที
“ขอน้ำหน่อย”
อาจารย์ใหญ่ทำสีหน้าอึ้งจัด พอๆกับสีหน้าเหวอจัดของเชน
“ได้ครับ แล้วหนูล่ะเอาไหม?”ความจริง อาจเป็นคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบอีกก็ได้ แต่ทว่า คนตระกูลนี้คงจะ ด้านกันหมดแล้ว
“สักแก้วก็ดีค่ะ”
สีหน้าเรียบเฉยของอาจารย์ใหญ่ทำเอาเชนยิ้มแหยๆ ในขณะที่ผู้เป็นพี่ยิ้มเสียตาปิด รู้สึกจะชอบใจที่น้องตนเองตอบแบบนั้น
‘อโหสิให้หนูนะอาจารย์ ถ้าไม่พูดมีหวังได้โดนสวดจากพี่อีกอ่ะ’
คำตอบอยู่แค่ในห้วงความคิด ที่ทำเอาเชนกลืนน้ำลายอย่างหนืดคอเต็มที
“แล้วนี้มีอะไรหรือเปล่าครับ ถึงมาที่นี้”อาจารย์ใหญ่ที่แปลหน้าที่เป็นบ่อยเสิร์ฟน้ำถาม
“พาน้องมาเข้าเรียน รีบๆคุย ต้องไปขึ้นเครื่อง”คำตอบที่ทำเอาคนเป็นน้องปวดหัวตุบๆ ในขณะที่แววตาของอาจารย์ใหญ่วาบไปด้วยไฟลุกโชน
“งั้นไม่มีอะไรครับ เชิญ คุณพ่อ ไปไกลๆ เอ๊ย ไปขึ้นเครื่องได้เลยครับ”คนที่ถูกเด้งกลายเป็นคุณพ่อทำสีหน้าช็อกเป็นเรียบร้อย ในขณะที่เชนพยายามอย่างยิ่งไม่ให้เสียงหัวเราะหลุดออกมา
“คุณพ่อ รีบไปเถอะ อุ๊บส์!”พูดเหน็บแล้ว แต่เกือบเอามือปิดไม่ทัน ไม่งั้นได้มีเรื่องใหญ่โต
“ผมไม่ใช่พ่อ แต่เป็นพี่ชาย!!!”คำแก้ตัวดังลั่นห้อง พร้อมกับใบหน้าที่พร้อมจะฆ่าคนทุกเมื่อ
“อ้อ คล้ายๆกันล่ะครับ เฮ้ย ไม่ใช่ ทราบแล้วครับ เดี๋ยวให้เด็กเขาจัดการเองก็ได้ครับ”อาจารย์ใหญ่เอ่ยพลางยิ้มกว้าง แต่คงกว้างน้อยกว่าเชน ที่ยืนยิ้มราวกับเป็นมิสไทยแลนด์ ยังไงยังงั้น
ชินทำสีหน้าเครียดแค้นทันทีทันใด ก่อนแยกเขี้ยวงุด แล้วดื่มน้ำจนหมดแก้ว ตามด้วยการวางกระแทก แล้วลุกพรวดออกไป “โชคดีนะเชน”
สิ้นเสียงประตูเชนแอบลอบถอนหายใจ ‘เฮ้อ รอดตายแล้วตู’
“เอาล่ะ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จบ ตอนที่ 1 คารมพี่ชาย
++++++++++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น