คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมสงคราม ของสองโรงเรียน
ปฐมสงคราม ของสองโรงเรียน
นานนับจากนี้ไปอีกหลายต่อหลายต่อหลายปี ประเทศไทยของเราเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะ ประเทศที่เป็นกลางมาตลอด
ไม่ว่าจะสงครามครั้งไหน ประเทศของเราต่างอยู่ไปกลางไม่เข้าข้างใคร อยู่อย่างสันติ ดังนั้น เมื่อประเทศเพื่อนบ้านสู้รบกัน ทำให้หลายชนชาติย้ายเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเล็กๆแต่อบอุ่นแห่งนี้
การปกครองไม่ได้ถูกเปลี่ยนไปมาก เพียงแต่เปลี่ยนจากมีนายกรัฐมนตรีและสส.รวมถึง สว. เป็นการปกครองที่ดูเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น
อาศัยหลักของประชาธิปไตยเฉกเช่นในอดีต แต่เปลี่ยนเป็นสภาสูงสุดที่มีตัวแทนจากที่ต่างๆ มารวมประชุมเพื่อยื่นข้อคิดเห็นต่อสามกงสุลทั้งสามคน
หนึ่งในนั้นเป็นกงสุลที่มีอำนาจเด็ดขาด แต่ว่า การตัดสินใจในเรื่องที่มีการร้องว่าไม่ยุติธรรม เรื่องนั้นก็จะถูกยกสืบสวนแล้วขึ้นตรงต่อกษัตริย์ที่เข้ามามีบทบาทมากกว่าเดิมยิ่งๆขึ้น
ทว่า เรื่องราวที่จะเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเมืองมากนัก แต่มันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสองโรงเรียน
โรงเรียนเอสทิวา โรงเรียนเอกชนที่มีประวัติยาวนาน แต่ว่าความทันสมัยต่างหากที่ยืนยงเคียงคู่กับโรงเรียนแห่งนี้
อีกโรงเรียนแห่งหนึ่ง
โรงเรียนเทพศิรัตน์ โรงเรียนเอกชนอีกแห่งที่มีประวัติยาวนานไม่แพ้กัน แต่ความขลังของโรงเรียนต่างหากที่ดูดึงดูดพอสมควร
โรงเรียนเอสทิวา โรงเรียนสมัยใหม่ หัวคิดทันสมัย กับ โรงเรียนเทพศิรัตน์ โรงเรียนหัวโบราณ หัวคิดค่อนไปทางเก่า
มันจะเข้ากันได้ไหมล่ะ?
มันไม่ใช่คำถามที่ต้องการคำตอบ แต่เป็นคำถามเพื่อตอกย้ำความคิดในสมองตั้งหาก...
โรงเรียนเอสทิวา เป็นโรงเรียนหอพักแยกชายหญิง ที่จะให้กลับบ้านได้ก็ต่อเมื่อทางญาติเรียกกลับ และต้องมีใบอนุญาต โรงเรียนค่อนข้างจะปล่อยนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนให้เลยตามเลย โรงเรียนนี้แม้จะมีแต่พวกคุณหนู แต่ความสัมพันธ์เป็นในแบบตัวใครตัวมัน เอาแค่...ตัวเองอยู่รอด
โรงเรียนเทพศิรัตน์ เป็นโรงเรียนหอพักเช่นเดียวกัน แต่กลับปล่อยให้นักเรียนกลับบ้านได้ทุกวันเสาร์อาทิตย์ แถมยังให้พักได้อีกด้วย เพียงแต่ขอมีใบอนุญาตก็เพียงพอแล้ว โรงเรียนนี้อยู่กันแบบครอบครัว...ไม่ร่ำรวย แต่อบอุ่น ไม่ทันสมัยแต่อยู่อย่างมีความสุข
ด้วยความแตกต่างของการปกครอง ทำให้สองโรงเรียนนี้เป็นศัตรูกันตั้งแต่ย่างเท้าเข้าโรงเรียน ไม่ว่าจะใครก็ตาม เหมือนเป็นกฎตายตัว
...ถ้าคุณอยู่โรงเรียนเอสทิวา ก็ต้องเป็นศัตรูกับโรงเรียนเทพศิรัตน์ทันที...
...ถ้าอยู่โรงเรียนเทพศิรัตน์ ก็ต้องบาดหมางกับโรงเรียนเอสทิวาอย่างไม่ต้องสงสัย...
ทั้งสองโรงเรียนที่มักจะมีการแข่งขันอยู่เนื่องๆ แต่ละฝ่ายจึงต้องหาวิธีป้องกัน จึงเป็นต้นกำเนิดของ ผู้พิทักษ์ทั้ง 7 และผู้คุมกฎทั้ง 4
' ผู้พิทักษ์ทั้ง 7 แห่งโรงเรียนเอสทิวา กับผู้คุมกฎทั้ง 4 แห่งโรงเรียนเทพศิรัตน์'
ผู้พิทักษ์ทั้ง 7 ขึ้นตรงต่อประธานนักเรียนอีกที ทั้ง 7 คนมีหน้าที่ต่างๆกัน นั้นคือ
1) หัวหน้าผู้พิทักษ์ เปรียบเหมือนกงสุลสูงสุด แล้วส่งเรื่องต่อประธาน เป็นเหมือนรองประธานนั้นเอง
2) ฝ่ายกองกำลัง เหมือนจะไปรบกับใคร แต่ฝ่ายนี้เป็นฝ่ายดูแลและควบคุมนักเรียนทั้งโรงเรียน และยังเป็นคนคอยสั่งการเวลามีเรื่อง เหมือนพวกแม่ทัพ
3) ฝ่ายโจมตี เหมือนนักรบผู้กล้า แต่เปลี่ยนเป็นนักกีฬาผู้แข็งขัน เป็นเหมือนหน่วยจู่โจม บางครั้ง ยังมีการไปสอดแนมอีกด้วยซ้ำ!
4) ฝ่ายป้องกัน ยิ่งพูดถึงชักเริ่มเหมือนจะไปออกรบที่ไหน แต่ฝ่ายนี้มีหน้าที่คอยดูแลรักษาโรงเรียน ไม่ใช่แบบภารโรง แต่เป็นเหมือนยามเสียมากกว่า
5) ฝ่ายบริหารแผน จะไปรบไม่มีนักวางแผนก็คงแย่ ฝ่ายนี้ดูแลการทำงานต่างๆของโรงเรียนตั้งแต่เรื่องเล็กๆอย่างงานโรงเรียน ไปจนถึงการวางแผนเพื่อรับเหตุการณ์จากโรงเรียนฝ่ายศัตรู
6) ฝ่ายรักษา หรือ พยายม เอ๊ย พยาบาล คอยดูแลสุขภาพนักเรียนในโรงเรียน รวมถึงอาการบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ต่างๆ
7) ฝ่ายอุปกรณ์ คอยสรรหาอุปกรณ์ต่างๆมากมาย ทั้งไฮเทค ทั้งทันสมัย รวมไปถึงความคิดพิลึกๆจากฝ่ายนี้ ก็มีเหมือนกัน
เดี๋ยวโรงเรียนเทพศิรัตน์จะน้อยใจไป มาพูดถึงสี่ผู้คุมกฎ
สี่ผู้คุมกฎขึ้นตรงต่อประธานเหมือนโรงเรียนเอสทิวาเช่นกัน แต่ฝ่ายนี้มีเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น!!
1) ฝ่ายรักษาการณ์ รวมหมดทั้งจู่โจมทั้งป้องกัน หรือแม้แต่กองกำลัง แม้จะดูเหมือนต้องควบคุมเยอะ แต่ว่าก็เก่งกาจมากเช่นกัน
2) ฝ่ายสืบสวนสายลับ ดูชื่อก็รู้แล้วว่าคงเป็นเหมือนสปาย คอยสืบข่าวทั้งในและนอกโรงเรียน
3) ฝ่ายแผนการ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่มีนักวางแผนก็คงแย่ ดังนั้นต่อให้รวยจนทันสมัยเก่าแก่ แต่ก็ต้องมี อยู่ที่ว่าใครจะเหนือกว่ากัน!!
4) ฝ่ายดูแลรักษา คอยดูแลเรื่องสุขภาพทั่วไป จนถึงเรื่องร้ายแรงอย่างโรคระบาดด้วยซ้ำ
เรื่องที่ทะเลาะกันจนต้องมีฝ่ายนู้นฝ่ายนี้จนจะกลายเป็นโรงเรียนมาเฟีย ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง รู้แต่เพียงรุ่นทวดๆๆๆๆเขาเหม็นหน้ากัน เลยพาลทำให้เรื่องราวใหญ่โต...
อธิบายจนจบแล้ว อยากรู้เรื่องราวแล้วละสิ... เรื่องมันเริ่มจาก
เด็กสาวร่าเริงวัย 15 ปี ผู้มีรอยยิ้มสดใสตลอดเวลา นัยน์ตาสีกลมโตสีน้ำตาลอ่อนดูอ่อนโยนและยิ้มแย้มให้กับสิ่งที่เผชิญเสมอ ผมตรงยาวสลวยสีดำแกมน้ำตาลถูกมัดเป็นหางม้าแต่ดูน่ารักมากกว่ามาดมั่น ร่างบางแต่ถือว่าหุ่นดี ผิวขาวดูน่าทะนุถนอม
เธอย้ายมาเรียนที่โรงเรียนเอสทิวา คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมาเรียนโรงเรียนชื่อดัง แต่ทว่า ถ้านั้นไม่ใช่เพราะเธอย้ายมาจากโรงเรียนเทพศิรัตน์!!
ความคิดเห็น