ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ความทรงจำอันแสนเศร้า
เมื่อ10ปีก่อน ฉันกำลังเดินเล่นอยู่ในป่ากับท่านแม่ ท่านมีผลสีน้ำตาลดำ นัยน์ตาสีน้ำตาลเหมือนกับฉันผู้
เป็นลูก ท่านแม่มีชื่อว่า มีเรีย วันนี้ข้ากับท่านแม่แอบหนีจากท่านพ่อและพี่ทั้งสองมาเล่นในป่า อาจจะเป็นเพราะข้าเป็นลูกท่านแม่ก็ได้มั้งข้ากับท่านแม่จึงมีนิสัยอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกัน ตอนนี้พวกเรามานั่งพิงต้นไม้บลูเกรด ซึ่งเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ ลักษณะของต้นไม้นี้ เป็นต้นไม้ที่ใหญ่พอๆกับบ้านหลังหนึ่งสูงประมาณบ้าน3ชั้น มีลำต้นเป็นสีฟ้า มีใบเหมือนต้นซากุระสีฟ้าอมม่วง ตั้งอยู่ตรงกลางป่าพอดี และคอยให้ที่พักพิงอันร่มรื่นให้กับสิ่งมีชีวิต
“มาเรีย ท่านแม่ อยู่ไหนครับ”เสียงของพ่อและพี่ทั้งสองเรียกพวกเรา
“ท่านแม่ค่ะ ทำไงดี”ฉันถามท่านแม่ไป
“อืม อ้ะตรงนั้นมีโพลงด้วยล่ะ เราเข้าไปหลบอยู่ตรงนั้นดีกว่า”ท่านแม่ตอบและลากฉันเข้าไปในโพลง
ในโพลงนั้นมืดสนิท บรรยากาศดูน่ากลัวและมีกลิ่มเหม็นโฉยออกมาด้วย คิดถูกรึเปล่าเนี่ยที่เข้ามาในนี้
เมื่อฉันคิดดังนั้นฉันก็เรียกท่านแม่ แต่ไม่มีเสียงตอบ ฉันจึงคิดว่าท่านแม่คงจะแกล้งฉันเล่น ฉันจึงเดินตรงเข้าไปและใช้มือยืนออกไปข้างหน้า และในที่สุดฉันก็สัมพัสถึงแขนของคน ฉันจึงเรียกอีกหครั้ง
“ท่านแม่อย่าแกล้งกันสิ มาเรียหาท่านแม่เจอแล้วนะ”ฉันพูดและคิดว่าคราวนี้ฉันเป็นคนชนะแล้วเพราะฉันหาท่านแม่เจอแล้ว
“หนีไป มาเรียหนีไป”ฉันได้ยินเสียงของท่านแม่ เสียงนั้นแผ่วเบามาก และอยู่ดีๆก็มีมือนึงมาปิดปากฉันไว้
“เงียบไว้ซะ ถ้าไม่อยากให่แม่ของเจ้าตาย”เสียงของคนที่ปิดปากฉันพูด และแล้วในโพลงนั้นก็สว่างเพราะไฟที่ถูกจุด ฉันเห็นหน้าของผู้ชายที่ปิดปากฉันไว้ได้อย่างขัดเจน หน้าเขาโหดๆเหมือนฆาตกรฆ่าพันศพ ฉันหันไปทางอื่นเพื่อหาแม่ของฉัน
“ท่านแม่”เมื่อฉันเห็นท่านแม่แล้วอาการตะลึงก็บังเกิด ร่างของท่านแม่นั้นดูอ่อนแรงมาก ฉันรีบวิ่งไปหาท่านแม่ทันทีแต่ก็โดนดึงไว้
“ท่านพ่อ พี่ มาเรียกับท่านแม่อยู่ในโพลงนี้ มาเร้วๆเข้าท่านแม่แย่แล้ว!!”ฉันตะโกนออกไปสุดเสียงโดยลืมคำที่มันขู่ไว้ตอนแรกสนิท
“ไอ้เด็ก เ-ว-ร”ชายคนนั้นพูดและรีบปล่อยฉันและวิ่งหนีไปทางทางเข้าโพลงทันที แต่ก็ถูกพ่อของฉันที่อยู่หน้าโพลงดักไว้
“แก เป็นใคร”เสียงพ่อตอนนี้น่ากลัวมาก แงพ่อจ๋าทำไมพ่อที่แสนใจดีของหนูถึงกลับกลายเป็นปีศาจอันน่ากลัวไปได้อย่างนี้ แต่ไม่ทันที่ชายคนนั้นจะได้ตอบหรือมันอาจจะไม่ตอบตั้งแต่แรกก็เถอะ มันโดนพ่อแนชักหมัดเข้าใส่เต็ม ตามมาด้วยพี่ทั้งสองที่วิ่งมาดูท่านแม่ ส่วนฉันเรื่งอะไรจะยอมให้ตัวเองไร้บทอุส่าห์เป็นนางเอก(ตัวเอก)ของเรื่องทั้งที ฉันวิ่งไปหาท่านแม่
“ท่านแม่ ท่านแม่เป็นอะไรรึเปล่า”ฉันรีบถามท่านแม่ กลัวว่าตัวเองจะไม่มีบท
“ถามไรโง่ๆก็ต้องเป้นสิ อาการขนาดนี้”พี่ตัวแสบเมสตอบ
“แม่อยากให้ลูกรักกันมากๆนะ และเรื่องในคราวนี้ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น”ท่านแม่พูดพร้อมหลับตา
“ท่านแม่!!!!”พีเมล สติแตกทันที ที่ท่านแม่หลับตาซึ่งบ่งบอกว่าท่านแม่ไปดีแล้ว พี่เมลวิ่งเข้าไปหาชายคนนั้นและกระหนั่มชัดทันที ถึงแม้ท่านพี่เมลจะมีอายุเพียงแค่7ขวบ แต่พี่เขาในตอนนี้กลับดูมีแรงเหมือนคนอายุ15
“เมลหยุด”ท่านพ่อสั่ง
“ฮึก ฮึก”พี่เมลร้องไห้T-T
“ฮึก ฮึก”พี่เมสร้องไห้ตามT_T
“ฮึก ฮึก แง”ฉันร้องไห้ตามอีกคนT^T
“มาเรียเพราะเธอ”พี่เมลพูด  อะไรอ่ะฉันไม่เข้าใจTTOTT??
“เพราะเธอท่านแม่ถึงตาย”TTOTT อ้าวพี่ มาโยนกันอย่างนี้ได้ไง T_T^
“ถ้าเธอไม่หนีออกมา ถ้าเธอไม่เข้ามาในโพลงนี้ ถ้าไม่มีเธอ ท่านแม่ก็คงไม่ต้องตาย”คงเป็นเพราะคำพูดของพี่เมลฉันจึง เริ่มร้องไห้หนักขึ้นTTTOTTT แงเค้าม่ายผิดเค้าม่ายด้ายทำ เสียงนี้เพียงได้แค่ร้องในใจเท่านั้น
“เธอต้องชดใช้”พูดจบพี่เมลก็พุ่งเข้ามาหาฉัน แต่พี่เมสก็มาขวางไว้ ฉันเพิ่งจะรู้ซึ้งถึงความดีของพี่เมสก็วันนี้แหละ
“เมลหยุดซะ”พ่อสั่ง และแล้วพวกเราก็กลับบ้าน พ่อแบกร่างอันไร้วิญาณของแม่ไว้ที่ห้องๆนึงและหายตัวไป
พี่เมลเดินเข้าห้อง พี่เมสก็เดินเข้าห้องอีก เหลือแต่ฉันที่ไม่รู้จะทำอะไรช่วยไม่ได้ก็ฉันแค่อายุ5ขวบนิ ฉันจึงเดินเข้าห้อง
*กลับมาที่เวลาเดิม*
“นี่เธอ”ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อน นัยน์ตาสีเขียว รุปร่างสันทัดเหมือนกับพี่เมล เข้ามาทักฉัน ฉันเงยหน้าขึ้น
“นายมีอะไร”
“ร้องไห้ทำไมน่ะ”
“นายจะถามแค่นี้ใช่ปะฉันจะได้ร้องไห้ต่อ”ฉันเอามือเตรียมจะมาปิดหน้าและนั่งร้องไห้ต่อ
“เดี๋ยวๆ คือฉันจะถามว่าฉันนั่งข้างๆเธอได้เปล่า”
“อยากนั่งก็นั่งไปสิ นี่มันที่สาธารณะนะ”พูดจบฉันก็ร้องไห้ต่อ
“นี่ๆ เธอชื่ออะไร”เขาถามฉัน อีกละคนจะร้องไห้แท้ๆทำไมถึงต้องโดนขวางอยุ่เรื่อย
“มาเรีย ฟราเซล”ตอบเสร็จปุ๊ปร้องไห้ต่อปั๊ป
“ฉันชื่อ เฟร์ย..”
“ไม่ต้องพูดฉันไม่อยากฟัง”ฉันขัดนายนั่น
“ก็ได้”นายนั่นทำเสียงเหมือนจะงอนๆ
“งอนหรอ”ฉันถาม
“เปล่า”
“งั้นก็ดี ฉันจะได้ร้องไห้ต่อ”พูดจบก็ร้องไห้ต่อเช่นเดิม และฉันก็ได้ยินเสียงอีกคนเดินเข้ามาเขาพูดกับนายนั่น
“มานั่งอะไรอยู่นี่”ชายที่เดินมาถามชายคนนั้น
“รอนายแหละ”ชายคนนั้นตอบชายที่เดินมา
“แล้วนี่ใคร”ชายที่เดินมาชี้ฉันแล้วถามชายคนนั้น
“ผู้หญิ่งคนนึง ที่ชื่อ มาเรีย ฟราเซล”ชายคนที่นั่นตอบชายมานั่น เอ้ย โอ้ยยเริ่มสับสนแล้ว ช่างหัวมันฉันไม่สนพวกมันแล้วววว
“นี่เธอ”เอาอีกแล้ว มันเรียกฉันอีกแล้วแต่คราวนี้รุ้สึกชายที่เดินมาจะเรียกนะ
“มีอะไร”ฉันเงยหน้าขึ้น
“เธอมีต่อมน้ำตา100ต่อมรึไง ร้องไห้มาเป็นครึ่งชั่วโมงแล้ว”ชายหนุ่มผมสั้นสีเงินเหมือนนัยน์ตาของเขา รุปร่างสูงใหญ่เหมือนพี่เมส ถาม
*เฟร์ย*
“ใช่ฉันมีต่อมน้ำตา100ต่อม แล้วนายมายุ่งอะไรกับฉันล่ะ ถ้าฉันจะร้องไห้จนถึงพรุ่งนี้น่ะ”
“เห็นแล้วมันรำคาญหูรำคาญตา”
“นายก็ไปไกลๆสิจะได้ไม่ต้องรำคาญหูรำคาญตานายน่ะ”
“ฉันไม่ไปฉันจะอยู่ที่นี่ เธอต่างหากที่ควรไป”
“ไม่ฉันอยู่ที่นี่ก่อน และฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”’ง่า ทั้งสองคนเริ่มทะเลาะกันแล้ว ผมต้องทำอะไรสักอย่าง
“เอ่อ ทั้งสองช่วยหยุดทะเลาะกันเถอะครับ”ผมพูดออกไป
“นาย/เฟร์ย ไม่ต้องมายุ่ง”ทั้งสองคนตวาดใส่ผม ความอดทนของผมเริ่มหมด
“คัมภีร์มนตร์สวรรค์ ถ้าทั้งสองคนยังไม่หยุดอย่าหาว่าไม่เตือนนะ”ผมขู่ทั้งคู่
*เรย์*
“เชอะ!”ยายนั้นเชิดหน้าแล้วเดินจากไป ผมกับเรย์มองดูยายนั้นเดินไปจนลับตา
“นายไม่น่าทะเลาะกับมาเรียเลย อุส่าห์จะได้เพื่อนใหม่แล้วอ่ะ”เฟร์ยเริ่มพูดหลังจากยายนั้นเดินไปจนลับตา
“ให้ฉันอยู่คนเดียวไม่มีเพื่อนเลยยังดีกว่าต้องอยู่กับยายนั้น”
“ตามใจ แต่ว่ามาเรียน่ะน่ารักดีนะ นายว่าไหม”
“เหอะ น่ารักตายละ หน้าตายังกะซาตาน”
“งั้นยายนั้นก็คงจะเป็นญาติกับนายแล้วละ”
เชอะ ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลาย โลกดับสูญ ผมก็ไม่มีวันเป็นเพื่อนกะยายนั้นเด็ดขาด แต่จิงๆแล้วยายนั้นก็น่ารักนะ ไม่ได้ๆเราจะมองว่ายายนั้นน่ารักไม่ได้เด็ดขาด ม่ายด้ายยย
เป็นลูก ท่านแม่มีชื่อว่า มีเรีย วันนี้ข้ากับท่านแม่แอบหนีจากท่านพ่อและพี่ทั้งสองมาเล่นในป่า อาจจะเป็นเพราะข้าเป็นลูกท่านแม่ก็ได้มั้งข้ากับท่านแม่จึงมีนิสัยอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกัน ตอนนี้พวกเรามานั่งพิงต้นไม้บลูเกรด ซึ่งเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ ลักษณะของต้นไม้นี้ เป็นต้นไม้ที่ใหญ่พอๆกับบ้านหลังหนึ่งสูงประมาณบ้าน3ชั้น มีลำต้นเป็นสีฟ้า มีใบเหมือนต้นซากุระสีฟ้าอมม่วง ตั้งอยู่ตรงกลางป่าพอดี และคอยให้ที่พักพิงอันร่มรื่นให้กับสิ่งมีชีวิต
“มาเรีย ท่านแม่ อยู่ไหนครับ”เสียงของพ่อและพี่ทั้งสองเรียกพวกเรา
“ท่านแม่ค่ะ ทำไงดี”ฉันถามท่านแม่ไป
“อืม อ้ะตรงนั้นมีโพลงด้วยล่ะ เราเข้าไปหลบอยู่ตรงนั้นดีกว่า”ท่านแม่ตอบและลากฉันเข้าไปในโพลง
ในโพลงนั้นมืดสนิท บรรยากาศดูน่ากลัวและมีกลิ่มเหม็นโฉยออกมาด้วย คิดถูกรึเปล่าเนี่ยที่เข้ามาในนี้
เมื่อฉันคิดดังนั้นฉันก็เรียกท่านแม่ แต่ไม่มีเสียงตอบ ฉันจึงคิดว่าท่านแม่คงจะแกล้งฉันเล่น ฉันจึงเดินตรงเข้าไปและใช้มือยืนออกไปข้างหน้า และในที่สุดฉันก็สัมพัสถึงแขนของคน ฉันจึงเรียกอีกหครั้ง
“ท่านแม่อย่าแกล้งกันสิ มาเรียหาท่านแม่เจอแล้วนะ”ฉันพูดและคิดว่าคราวนี้ฉันเป็นคนชนะแล้วเพราะฉันหาท่านแม่เจอแล้ว
“หนีไป มาเรียหนีไป”ฉันได้ยินเสียงของท่านแม่ เสียงนั้นแผ่วเบามาก และอยู่ดีๆก็มีมือนึงมาปิดปากฉันไว้
“เงียบไว้ซะ ถ้าไม่อยากให่แม่ของเจ้าตาย”เสียงของคนที่ปิดปากฉันพูด และแล้วในโพลงนั้นก็สว่างเพราะไฟที่ถูกจุด ฉันเห็นหน้าของผู้ชายที่ปิดปากฉันไว้ได้อย่างขัดเจน หน้าเขาโหดๆเหมือนฆาตกรฆ่าพันศพ ฉันหันไปทางอื่นเพื่อหาแม่ของฉัน
“ท่านแม่”เมื่อฉันเห็นท่านแม่แล้วอาการตะลึงก็บังเกิด ร่างของท่านแม่นั้นดูอ่อนแรงมาก ฉันรีบวิ่งไปหาท่านแม่ทันทีแต่ก็โดนดึงไว้
“ท่านพ่อ พี่ มาเรียกับท่านแม่อยู่ในโพลงนี้ มาเร้วๆเข้าท่านแม่แย่แล้ว!!”ฉันตะโกนออกไปสุดเสียงโดยลืมคำที่มันขู่ไว้ตอนแรกสนิท
“ไอ้เด็ก เ-ว-ร”ชายคนนั้นพูดและรีบปล่อยฉันและวิ่งหนีไปทางทางเข้าโพลงทันที แต่ก็ถูกพ่อของฉันที่อยู่หน้าโพลงดักไว้
“แก เป็นใคร”เสียงพ่อตอนนี้น่ากลัวมาก แงพ่อจ๋าทำไมพ่อที่แสนใจดีของหนูถึงกลับกลายเป็นปีศาจอันน่ากลัวไปได้อย่างนี้ แต่ไม่ทันที่ชายคนนั้นจะได้ตอบหรือมันอาจจะไม่ตอบตั้งแต่แรกก็เถอะ มันโดนพ่อแนชักหมัดเข้าใส่เต็ม ตามมาด้วยพี่ทั้งสองที่วิ่งมาดูท่านแม่ ส่วนฉันเรื่งอะไรจะยอมให้ตัวเองไร้บทอุส่าห์เป็นนางเอก(ตัวเอก)ของเรื่องทั้งที ฉันวิ่งไปหาท่านแม่
“ท่านแม่ ท่านแม่เป็นอะไรรึเปล่า”ฉันรีบถามท่านแม่ กลัวว่าตัวเองจะไม่มีบท
“ถามไรโง่ๆก็ต้องเป้นสิ อาการขนาดนี้”พี่ตัวแสบเมสตอบ
“แม่อยากให้ลูกรักกันมากๆนะ และเรื่องในคราวนี้ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น”ท่านแม่พูดพร้อมหลับตา
“ท่านแม่!!!!”พีเมล สติแตกทันที ที่ท่านแม่หลับตาซึ่งบ่งบอกว่าท่านแม่ไปดีแล้ว พี่เมลวิ่งเข้าไปหาชายคนนั้นและกระหนั่มชัดทันที ถึงแม้ท่านพี่เมลจะมีอายุเพียงแค่7ขวบ แต่พี่เขาในตอนนี้กลับดูมีแรงเหมือนคนอายุ15
“เมลหยุด”ท่านพ่อสั่ง
“ฮึก ฮึก”พี่เมลร้องไห้T-T
“ฮึก ฮึก”พี่เมสร้องไห้ตามT_T
“ฮึก ฮึก แง”ฉันร้องไห้ตามอีกคนT^T
“มาเรียเพราะเธอ”พี่เมลพูด  อะไรอ่ะฉันไม่เข้าใจTTOTT??
“เพราะเธอท่านแม่ถึงตาย”TTOTT อ้าวพี่ มาโยนกันอย่างนี้ได้ไง T_T^
“ถ้าเธอไม่หนีออกมา ถ้าเธอไม่เข้ามาในโพลงนี้ ถ้าไม่มีเธอ ท่านแม่ก็คงไม่ต้องตาย”คงเป็นเพราะคำพูดของพี่เมลฉันจึง เริ่มร้องไห้หนักขึ้นTTTOTTT แงเค้าม่ายผิดเค้าม่ายด้ายทำ เสียงนี้เพียงได้แค่ร้องในใจเท่านั้น
“เธอต้องชดใช้”พูดจบพี่เมลก็พุ่งเข้ามาหาฉัน แต่พี่เมสก็มาขวางไว้ ฉันเพิ่งจะรู้ซึ้งถึงความดีของพี่เมสก็วันนี้แหละ
“เมลหยุดซะ”พ่อสั่ง และแล้วพวกเราก็กลับบ้าน พ่อแบกร่างอันไร้วิญาณของแม่ไว้ที่ห้องๆนึงและหายตัวไป
พี่เมลเดินเข้าห้อง พี่เมสก็เดินเข้าห้องอีก เหลือแต่ฉันที่ไม่รู้จะทำอะไรช่วยไม่ได้ก็ฉันแค่อายุ5ขวบนิ ฉันจึงเดินเข้าห้อง
*กลับมาที่เวลาเดิม*
“นี่เธอ”ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อน นัยน์ตาสีเขียว รุปร่างสันทัดเหมือนกับพี่เมล เข้ามาทักฉัน ฉันเงยหน้าขึ้น
“นายมีอะไร”
“ร้องไห้ทำไมน่ะ”
“นายจะถามแค่นี้ใช่ปะฉันจะได้ร้องไห้ต่อ”ฉันเอามือเตรียมจะมาปิดหน้าและนั่งร้องไห้ต่อ
“เดี๋ยวๆ คือฉันจะถามว่าฉันนั่งข้างๆเธอได้เปล่า”
“อยากนั่งก็นั่งไปสิ นี่มันที่สาธารณะนะ”พูดจบฉันก็ร้องไห้ต่อ
“นี่ๆ เธอชื่ออะไร”เขาถามฉัน อีกละคนจะร้องไห้แท้ๆทำไมถึงต้องโดนขวางอยุ่เรื่อย
“มาเรีย ฟราเซล”ตอบเสร็จปุ๊ปร้องไห้ต่อปั๊ป
“ฉันชื่อ เฟร์ย..”
“ไม่ต้องพูดฉันไม่อยากฟัง”ฉันขัดนายนั่น
“ก็ได้”นายนั่นทำเสียงเหมือนจะงอนๆ
“งอนหรอ”ฉันถาม
“เปล่า”
“งั้นก็ดี ฉันจะได้ร้องไห้ต่อ”พูดจบก็ร้องไห้ต่อเช่นเดิม และฉันก็ได้ยินเสียงอีกคนเดินเข้ามาเขาพูดกับนายนั่น
“มานั่งอะไรอยู่นี่”ชายที่เดินมาถามชายคนนั้น
“รอนายแหละ”ชายคนนั้นตอบชายที่เดินมา
“แล้วนี่ใคร”ชายที่เดินมาชี้ฉันแล้วถามชายคนนั้น
“ผู้หญิ่งคนนึง ที่ชื่อ มาเรีย ฟราเซล”ชายคนที่นั่นตอบชายมานั่น เอ้ย โอ้ยยเริ่มสับสนแล้ว ช่างหัวมันฉันไม่สนพวกมันแล้วววว
“นี่เธอ”เอาอีกแล้ว มันเรียกฉันอีกแล้วแต่คราวนี้รุ้สึกชายที่เดินมาจะเรียกนะ
“มีอะไร”ฉันเงยหน้าขึ้น
“เธอมีต่อมน้ำตา100ต่อมรึไง ร้องไห้มาเป็นครึ่งชั่วโมงแล้ว”ชายหนุ่มผมสั้นสีเงินเหมือนนัยน์ตาของเขา รุปร่างสูงใหญ่เหมือนพี่เมส ถาม
*เฟร์ย*
“ใช่ฉันมีต่อมน้ำตา100ต่อม แล้วนายมายุ่งอะไรกับฉันล่ะ ถ้าฉันจะร้องไห้จนถึงพรุ่งนี้น่ะ”
“เห็นแล้วมันรำคาญหูรำคาญตา”
“นายก็ไปไกลๆสิจะได้ไม่ต้องรำคาญหูรำคาญตานายน่ะ”
“ฉันไม่ไปฉันจะอยู่ที่นี่ เธอต่างหากที่ควรไป”
“ไม่ฉันอยู่ที่นี่ก่อน และฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”’ง่า ทั้งสองคนเริ่มทะเลาะกันแล้ว ผมต้องทำอะไรสักอย่าง
“เอ่อ ทั้งสองช่วยหยุดทะเลาะกันเถอะครับ”ผมพูดออกไป
“นาย/เฟร์ย ไม่ต้องมายุ่ง”ทั้งสองคนตวาดใส่ผม ความอดทนของผมเริ่มหมด
“คัมภีร์มนตร์สวรรค์ ถ้าทั้งสองคนยังไม่หยุดอย่าหาว่าไม่เตือนนะ”ผมขู่ทั้งคู่
*เรย์*
“เชอะ!”ยายนั้นเชิดหน้าแล้วเดินจากไป ผมกับเรย์มองดูยายนั้นเดินไปจนลับตา
“นายไม่น่าทะเลาะกับมาเรียเลย อุส่าห์จะได้เพื่อนใหม่แล้วอ่ะ”เฟร์ยเริ่มพูดหลังจากยายนั้นเดินไปจนลับตา
“ให้ฉันอยู่คนเดียวไม่มีเพื่อนเลยยังดีกว่าต้องอยู่กับยายนั้น”
“ตามใจ แต่ว่ามาเรียน่ะน่ารักดีนะ นายว่าไหม”
“เหอะ น่ารักตายละ หน้าตายังกะซาตาน”
“งั้นยายนั้นก็คงจะเป็นญาติกับนายแล้วละ”
เชอะ ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลาย โลกดับสูญ ผมก็ไม่มีวันเป็นเพื่อนกะยายนั้นเด็ดขาด แต่จิงๆแล้วยายนั้นก็น่ารักนะ ไม่ได้ๆเราจะมองว่ายายนั้นน่ารักไม่ได้เด็ดขาด ม่ายด้ายยย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น