ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : พี่อย่าแพ้น้าาา
“สำหรับคู่ที่จะมาประลองกัน สำหรับชั้นปี2ก็คือ เมส ฟราเซล นักฆ่า จาก โรเวล กับ เชล เดียเอส พ่อมด จาก วอโร”
*เมส*
ผมก้าวขึ้นไปบนเวทีอย่างช้าๆและสง่างาม หล่อ เท่ สมาท วันนี้ผมต้องสุ้กับคนที่ผมไม่อยากสุ้อันดับที่2 เพราะที่หนึ่งคือแฟนของผม หลายๆคนคงเดาว่าคนนี้คงเป็นเพื่อนสนิทของผมสินะถึงได้ไม่กล้าสู้ แต่ถ้าใครที่คิดอย่างนั้นผมบอกได้เลยว่าคุณคิด...ผิด เหตุผลที่ผมไม่อยากสู้กับคนนี้คือ เขาเก่งตะหากล่ะ เก่งมากๆด้วย แต่งเก่งน้อยกว่าผม ล้อเล่นอ่ะ อันนี้ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าใครเก่งกว่าเพราะไม่เคยสุ้กัน เคยแต่เห็นไอ้พวกปากดี โดนหมอนี่ชัด(ชก)ที(หมัด)เดียวจอด ขอย้ำที(หมัด)เดียวเท่านั้น เอาล่ะเรามาเข้าเรื่องต่อเถอะ เชล เป็นชายผมสีดำ นัยน์ตาดูเย็นชาสีดำ เขาสุงพอๆกะผม(ผมสูง 180 เขาสูง 175)
“ไง”เชลพูดออกมา และโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาก็ชัดเวทย์มาที่ผม
“เปรี้ยง”ผมโดนเต็มๆ อาจจะเป็นเพราะผมเป็นาตุเดียวกะเขามั้ง ผมไม่เป็นอะไรเลย
“อ้าว ธาตุเดียวกันหรอเนี่ย แหมๆน่าเสียดายนะ”ตอนนี้นัยน์ตาของเขาพราวระริก แสดงถึงความสนุก ต่างจากปกติ ที่มีเพียงความเย็นชา
“ฉันเองก็ใช้เวทย์ธาตุอื่นไม่ค่อยเก่งซะด้วยสิ แย่จังเลยแหะ แต่วันนี้รับรองมีเรื่องสนุกๆแน่ๆ หึหึหึ” อยุ่ดีๆนัยน์ตาของเชลก็กลับเป็นซาดิสม์ซะนี้ ตกลงมันจะเอาไงกันแน่เนี่ย เลือกสักอันเซ่ เปลี่ยนอยุ่นั้นแหละ ผมขี้เกียจอธิบายแล้วนะ 
และแล้วก็มีเหมือนเข็มอันเล้กๆเป็นร้อยๆไม่ใช่สิ เป็นพันๆเล่มพุ่งเข้ามาหาผม ผมพยายามจะหลบแต่ว่าเหมือนมีอะไรมายึดผมไว้ ผมไม่สามารถขยับตัวได้ อ้ากกกก ทำไมมันเจ็บอย่างนี้เจ็บไปทั่วทั้งร่างกายเลย ยืนไม่ไหวแล้ว และในที่สุดผมก็ล้มลงไปคุกเข่าอยุ่กับพื้น
“5555+”เชลร้องออกมาหลังจากที่ผมล้มไปคุกเข้ากับพื้น
โอ้ย ไม่ไหวแล้ว เจ็บเหลือเกิน ตอนนี้สติของผมเริ่มเลือนรางลงทุกทีๆ แต่แล้วก็เหมือนมีเสียงจากสวรรคืมาช่วยผมไว้ เสียงนี้เป็นของใครไม่ได้นอกจากยัยเปี๊ยกน้องสาวสุดที่รักสุดที่แกล้งของผม
“พี่ค่ะ!! อย่าแพ้เขานะค่ะ!! สู้สิค่ะ! พี่ต้องชนะให้ได้!!”ยัยเปี๊ยกตะโกนมาหาผมด้วยน้ำเสียง20หลอดของเธอ 8หลอดมันน้อยไปสำหรับน้อยสาวผมน่ะ
เสียงน้อยสาวของผมมันเหมือนกับจุดไฟในตะเกียงที่ใกล้จะดับให้สว่างไสวขึ้นมา และผมก็ลุกขึ้นมาได้ โดยไม่รุ้สึกเจ็บแต่อย่างใดแล้ว สงสัยเสียงน้องสาวของผมจะขลังล่ะมั้งช่วยให้ผมลืมความเจ้บปวดไปเลย
“แหมๆ โดนขนาดนั้นแล้วยังลุกขึ้นมาได้หรอเนี่ย สงสัยเป็นเพราะเสียงน้องสาวของเธอสินะ อย่างนี้คงต้องกำจัดตัวขัดขวางทิ้งก่อนละมั้ง”พูดจบมันก็ร่ายเวทย์ หอกสีดำพุ่งตรงไปหาน้องสาวผม
“Destroy”ผมพูด และทันใดนั้นหอกที่พุ่งไปหาน้องสาวผมก็สลายหายไปทันที การกระทำของเชลครั้งนี้มันเหมือนกับไปกระตุ้นพลังของผม ผมใช้เวยท์อัดใส่มันอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ ผมโกรธ โกรธมัน ที่มันเกือบจะฆ่าน้องสาวของผมไป ผ่านไปหลายนาทีแล้ว แต่เวทย์โจมตีของผมก็ยังไม่หยุด มันโจมตีไปเลื่อยๆ และเลื่อยๆ จนในที่สุด เวทย์โจมตีของผมก็หยุดลง และสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็ปรากฎอยุ่ข้างหน้าผมนี้
“หึหึหึ มีน้ำยาแค่นี้เองเรอะ จำไว้นะ ‘โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า’การโกรธของนายเมื่อกี้นี้น่ะ ไม่ได้ช่วยให้นายใช้พลังหมด100%ของนายหรอก มันแค่ดึงเอามาใช้เพียงแค่ 3/10(สามส่วนสิบ)เท่านั้นเอง”มันยังไม่ตาย แถมยังมาสอนผมอีกแน่ะ สงสัยศุตรูบ้านมันจะสอนวิธีใช้พลังให้เป็น100%มั้งเนี่ย
“การจะใช้พลังออกมาได้100%นั้นจะต้องใจเย็น และทำความเข้าใจกับพลังของตัวเอง และเมื่อนั้นนายจะใช้พลังออกมาได้100%”ดูมันดิดูมานน ยังไม่เลิกสอนอีก แต่ก็ดีนะ ผมจะลองทำดูเพื่อนว่าจะใช้ได้ออกมา100%บ้าง
ผมหลับตาลง และพยายามใจเย็น เข้าใจกับพลังของตัวเอง พลังของผมคือธาตุมืด แบบพิเศษ ธาตุมืดแบบพิเศษ
“Aven Carel Soul”ผมใช้ท่าไม้ตายของผมที่ผมเพิ่งจะคิดได้เมื่อ3วินาทีก่อน แสงสีดำที่ผสมกับแสงสีขาวบิดกันเป็นเกลียวเหมือนควงสว่าน พุ่งเข้าไปหาเชล แต่ว่าเพียงแค่เขายกมือขึ้น ท่าไม้ตายของผมก็หายไป แต่สิ่งที่ผมตกใจกว่าก็คือ
“ผมขอยอมแพ้”เขาพูด ผมอยากจะตะโกนดังๆเข้าไปถามเขาว่าเขาบ้ารึเปล่าบอกยอมแพ้ ทั้งๆคนที่ควรจะแพ้คือผมไม่ใช่หรอ  ผมเดินลงจากลานประลองและเดินเข้าไปหาน้องสาวผม และผมก็เดินสวนกับเชลเข้า
“นายชนะน่ะถูกแล้ว ท่าไม้ตายของนายน่ะทำให้ฉันช้ำใน คนอื่นจึงเห็นเหมือนกับว่าฉันไม่เป็นอะไรเลย”
“พี่ค่ะ พี่เป็นอะไรรึเปล่า”ผมได้ยินเสียงของน้องสาวเรียกผม แต่ทำไมเสียงมันเบาจังล่ะ ตาของผมเริ่มพล่ามัวอีกครั้ง ความเจ็บปวดที่หายไปก็เริ่มกลับมา ความเจ็บปวดตอนนั้นมันกลับมาเยือนผมอีกแล้ว
“พี่ค่ะ เดี๋ยวหนุจะช่วยพี่เองนะค่ะ”พูดจบยัยเปี๊ยกก็ใช้เวทย์รักษา แต่ทำไมล่ะ ความเจ็บปวดและแผลมันยังไม่หายไป
*มาเรีย*
ทำไมทำไมกัน ทำไมเวทย์รักษา มันใช้ไม่ได้ผลล่ะ ฉันลองใช้มันอีกครั้ง อีกครั้งและก็อีกครั้ง แต่แล้วก็มีมือ มือนึงมาจับมือของฉันที่ใช้เวทย์รักษาให้พี่ไว้ ฉันเงยหน้าไปหาคนที่จับมือฉัน คนคนนั้นก็คือพี่เรเซียนี่เอง
“แผลที่โดนเวทย์จากปีศาจน่ะ ต้องใช้เวทย์ขับไอปีศาจไปเสียก่อน ถึงจะใช้เวทย์รักษาได้”
“งั้นพี่ก็ใช้สิค่ะ”
“ขอโทษนะมาเรียจัง ฉันใช้เวทย์นั้นไม่เป็นหรอก เวทย์ขับไล่ปีศาจน่ะ เป็นเวทย์แสงขั้นที่4 แต่ฉันใช้เป็นแค่ขั้นที่3เท่านั้น”เมื่อพี่เรเซียพูดจบ น้ำตาที่ฉันกลั้นไว้ ก็ล่วงลงมา ไหลลงมา ฉันตัดสินใจเรียก เวล ดอน กับ มีเอล มาหวังว่าคงจะมีใครใช้เวทย์นั้นเป็นบ้าง
“จงออกมา เวล ดอน มีเอล”ฉันคุยกับทั้ง3ว่าใครใช้ได้บ้าง เวลบอกขอโทษฉันและส่ายหน้า ดอนก็บอกขอโทษและส่ายหน้าเช่นกัน ความหวังสุดท้ายอยุ่ที่มีเอล ฉันหวังพวานาให้มีเอลใช้เป็น มีเอลเดินเข้าไปหาพี่ฉัน และเอามือวางไว้บนหน้าอกเขา ควันสีดำลอยออกมา จากตรงที่มีเอลวางมือไว้ และเมือควันออกไปหมดแล้ว มีเอลก็หันมาทางฉันแล้วยิ้มให้ ตอนนั้นฉันก็รุ้ทันทีว่ามีเอลทำได้ ฉันขอบคุณมีเอล และรอให้พี่ชายฉันตื่น น้ำตาแห่งความตื้นตันไหลพลังพรุออกมา
“แง พี่”สิ่งที่จะพูดออกมามันติดอยุ่ที่ริมฝีปากหมด
“โอ๋ๆ อย่าร้องนะ”ฉันซบหน้าอกพี่แล้วพี่ก็ลูบหัวฉัน
“ฮึก ฮึก”
“โตแล้วอย่าร้องสิ เอางี้ดีกว่าต่อไปนี้พี่จะไม่เรียกยัยเปี๊ยกแล้วพี่จะเรียกยัยขี้แงแทนละกัน”
“แง ไม่อาวว”ฉันเถียง
“ถ้าไม่เอาก็หยุดร้องสิ”
“แง หยุดก็ด้ายยย”
“พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมค่ะ”
“จ้ะ พี่สบายดี”
“อะแห่ม! โปรดระลึกไว้ด้วยว่าฉันอยุ่ตรงนี้”พี่เรเซียพูดขึ้น แหะๆลืมไปเลยว่าพี่เรเซียก็อยุ่ด้วย
“แหมๆใครจะไปลืมแฟนตัวเองลงได้ล่ะ จิงไหม”ความจิงแล้วพี่เองก็คงลืมไปด้วยละ แต่ด้วยความที่ว่าพี่เป็นพวกมากมาดจึงพูดไปอย่างงั้น
“นี่ๆเดียวไปดู เมล แข่งกันไหม อุ๊บ”พี่เรเซียรีบเอามือปิดปาตัวเอง
“ขอโทษนะคือแบบว่า พี่ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ”พี่เรเซียรีบขอโทษขอโพยฉันเป็นอันยกใหญ่
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ เราไปดูกันเถอะ”ฉันตอบพี่ไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ไม่มีใครหารู้เลยว่าใบหน้าในใจของฉันนั้น กลับกำลังเศร้ามากๆ เศร้าจนอยากจะร้องไห้ออกมา แต่ก็ทำไม่ได้
“คู่สุดท้ายที่จะมาปิดฉากของปี2ก็คือ เมล ฟราเซล นักฆ่าแห่งโรเวล กับ วี โลทิส นักดาบแห่งวอโร”พิธีกรประกาศการประลองสำหรับคู่สุดท้ายของปี2พอดีกับที่พวกเรามาถึงเวทีประลอง
ผู้ชายผมสั้นสีน้ำตาลดำ นัยน์ตาสีเทา รูปร่างสันทัด กำลังเดินขึ้นไปบนเวที เขาก็คือ เมล ฟราเซล พี่ชายคนโต ที่เกิดก่อนพี่เมสแค่เพียง12วินาที เมื่อพี่เมลเดินขึ้นไปเขาก็ใช้เวทย์กระหน่ำซัดใส่คู่ต่อสู้ทันที และผลก็ออกมาว่าพี่เมลชนะ ส่วนอีกฝ่ายนั้นก็มีสภาพปางตาย ฉันเดินตามพี่เรเซียและพี่เมสที่เดินไปหาพี่เมล
“แหมเมล ไม่ออมมือให้คู่ต่อสุ้เลยนะเล่นซัดซะปางตาย”พี่เรเซียทักพี่เมล
“แค่นี้ ก็เรียกว่าออมมือแล้วล่ะ เพราะถ้าเอาจริงคงตายไปนานแล้วละ จริงไหม”พี่เมสพูดบ้าง สงสัยจะกลัวไม่มีบทพูดละมั้ง
“อือ”พี่เมลตอบ สายตาของพี่เมลนั้นจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ อาฆาต แค้น และคงจะฆ่าฉันทันทีถ้าเกิดไม่มีพี่เมสและก็พี่เรเซียอยู่ด้วย
“เมล นายจะแค้นมาเรียไปจนถึงไหน มาเรียเขาเป็นน้องนายนะ”พี่เรเซียที่ดูสายตาของพี่เมลออกพูด
“ยัยเด็กนี่ไม่ใช่น้องฉัน! ฉันไม่มีน้องอย่างมัน มันเป็นคนที่ทำให้แม่ต้องตาย! ได้ยินไหมแกทำให้แม่ต้องตาย!!
เป็นเพราะแกแม่ถึงต้องตาย! ต้องตาย!!!”พี่เมลตวาดใส่ฉันจนฉันต้องหลบไปอยู่หลังพี่เรเซีย น้ำตาเริ่มไหลลงมาอาบแก้มฉันทีละน้อยๆจนในที่สุดมันก็พรั่งพลูออกมาอย่างหยุดไม่ได้
“มาเรียเธอไปก่อนเถอะ ไปเดินเล่นก็ได้ไปซะ”พี่เมสพูด ฉันเดินออกไปนั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวเดิม เอามือปิดหน้าและร้องไห้ออกมา
*เมส*
ผมก้าวขึ้นไปบนเวทีอย่างช้าๆและสง่างาม หล่อ เท่ สมาท วันนี้ผมต้องสุ้กับคนที่ผมไม่อยากสุ้อันดับที่2 เพราะที่หนึ่งคือแฟนของผม หลายๆคนคงเดาว่าคนนี้คงเป็นเพื่อนสนิทของผมสินะถึงได้ไม่กล้าสู้ แต่ถ้าใครที่คิดอย่างนั้นผมบอกได้เลยว่าคุณคิด...ผิด เหตุผลที่ผมไม่อยากสู้กับคนนี้คือ เขาเก่งตะหากล่ะ เก่งมากๆด้วย แต่งเก่งน้อยกว่าผม ล้อเล่นอ่ะ อันนี้ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าใครเก่งกว่าเพราะไม่เคยสุ้กัน เคยแต่เห็นไอ้พวกปากดี โดนหมอนี่ชัด(ชก)ที(หมัด)เดียวจอด ขอย้ำที(หมัด)เดียวเท่านั้น เอาล่ะเรามาเข้าเรื่องต่อเถอะ เชล เป็นชายผมสีดำ นัยน์ตาดูเย็นชาสีดำ เขาสุงพอๆกะผม(ผมสูง 180 เขาสูง 175)
“ไง”เชลพูดออกมา และโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาก็ชัดเวทย์มาที่ผม
“เปรี้ยง”ผมโดนเต็มๆ อาจจะเป็นเพราะผมเป็นาตุเดียวกะเขามั้ง ผมไม่เป็นอะไรเลย
“อ้าว ธาตุเดียวกันหรอเนี่ย แหมๆน่าเสียดายนะ”ตอนนี้นัยน์ตาของเขาพราวระริก แสดงถึงความสนุก ต่างจากปกติ ที่มีเพียงความเย็นชา
“ฉันเองก็ใช้เวทย์ธาตุอื่นไม่ค่อยเก่งซะด้วยสิ แย่จังเลยแหะ แต่วันนี้รับรองมีเรื่องสนุกๆแน่ๆ หึหึหึ” อยุ่ดีๆนัยน์ตาของเชลก็กลับเป็นซาดิสม์ซะนี้ ตกลงมันจะเอาไงกันแน่เนี่ย เลือกสักอันเซ่ เปลี่ยนอยุ่นั้นแหละ ผมขี้เกียจอธิบายแล้วนะ 
และแล้วก็มีเหมือนเข็มอันเล้กๆเป็นร้อยๆไม่ใช่สิ เป็นพันๆเล่มพุ่งเข้ามาหาผม ผมพยายามจะหลบแต่ว่าเหมือนมีอะไรมายึดผมไว้ ผมไม่สามารถขยับตัวได้ อ้ากกกก ทำไมมันเจ็บอย่างนี้เจ็บไปทั่วทั้งร่างกายเลย ยืนไม่ไหวแล้ว และในที่สุดผมก็ล้มลงไปคุกเข่าอยุ่กับพื้น
“5555+”เชลร้องออกมาหลังจากที่ผมล้มไปคุกเข้ากับพื้น
โอ้ย ไม่ไหวแล้ว เจ็บเหลือเกิน ตอนนี้สติของผมเริ่มเลือนรางลงทุกทีๆ แต่แล้วก็เหมือนมีเสียงจากสวรรคืมาช่วยผมไว้ เสียงนี้เป็นของใครไม่ได้นอกจากยัยเปี๊ยกน้องสาวสุดที่รักสุดที่แกล้งของผม
“พี่ค่ะ!! อย่าแพ้เขานะค่ะ!! สู้สิค่ะ! พี่ต้องชนะให้ได้!!”ยัยเปี๊ยกตะโกนมาหาผมด้วยน้ำเสียง20หลอดของเธอ 8หลอดมันน้อยไปสำหรับน้อยสาวผมน่ะ
เสียงน้อยสาวของผมมันเหมือนกับจุดไฟในตะเกียงที่ใกล้จะดับให้สว่างไสวขึ้นมา และผมก็ลุกขึ้นมาได้ โดยไม่รุ้สึกเจ็บแต่อย่างใดแล้ว สงสัยเสียงน้องสาวของผมจะขลังล่ะมั้งช่วยให้ผมลืมความเจ้บปวดไปเลย
“แหมๆ โดนขนาดนั้นแล้วยังลุกขึ้นมาได้หรอเนี่ย สงสัยเป็นเพราะเสียงน้องสาวของเธอสินะ อย่างนี้คงต้องกำจัดตัวขัดขวางทิ้งก่อนละมั้ง”พูดจบมันก็ร่ายเวทย์ หอกสีดำพุ่งตรงไปหาน้องสาวผม
“Destroy”ผมพูด และทันใดนั้นหอกที่พุ่งไปหาน้องสาวผมก็สลายหายไปทันที การกระทำของเชลครั้งนี้มันเหมือนกับไปกระตุ้นพลังของผม ผมใช้เวยท์อัดใส่มันอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ ผมโกรธ โกรธมัน ที่มันเกือบจะฆ่าน้องสาวของผมไป ผ่านไปหลายนาทีแล้ว แต่เวทย์โจมตีของผมก็ยังไม่หยุด มันโจมตีไปเลื่อยๆ และเลื่อยๆ จนในที่สุด เวทย์โจมตีของผมก็หยุดลง และสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็ปรากฎอยุ่ข้างหน้าผมนี้
“หึหึหึ มีน้ำยาแค่นี้เองเรอะ จำไว้นะ ‘โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า’การโกรธของนายเมื่อกี้นี้น่ะ ไม่ได้ช่วยให้นายใช้พลังหมด100%ของนายหรอก มันแค่ดึงเอามาใช้เพียงแค่ 3/10(สามส่วนสิบ)เท่านั้นเอง”มันยังไม่ตาย แถมยังมาสอนผมอีกแน่ะ สงสัยศุตรูบ้านมันจะสอนวิธีใช้พลังให้เป็น100%มั้งเนี่ย
“การจะใช้พลังออกมาได้100%นั้นจะต้องใจเย็น และทำความเข้าใจกับพลังของตัวเอง และเมื่อนั้นนายจะใช้พลังออกมาได้100%”ดูมันดิดูมานน ยังไม่เลิกสอนอีก แต่ก็ดีนะ ผมจะลองทำดูเพื่อนว่าจะใช้ได้ออกมา100%บ้าง
ผมหลับตาลง และพยายามใจเย็น เข้าใจกับพลังของตัวเอง พลังของผมคือธาตุมืด แบบพิเศษ ธาตุมืดแบบพิเศษ
“Aven Carel Soul”ผมใช้ท่าไม้ตายของผมที่ผมเพิ่งจะคิดได้เมื่อ3วินาทีก่อน แสงสีดำที่ผสมกับแสงสีขาวบิดกันเป็นเกลียวเหมือนควงสว่าน พุ่งเข้าไปหาเชล แต่ว่าเพียงแค่เขายกมือขึ้น ท่าไม้ตายของผมก็หายไป แต่สิ่งที่ผมตกใจกว่าก็คือ
“ผมขอยอมแพ้”เขาพูด ผมอยากจะตะโกนดังๆเข้าไปถามเขาว่าเขาบ้ารึเปล่าบอกยอมแพ้ ทั้งๆคนที่ควรจะแพ้คือผมไม่ใช่หรอ  ผมเดินลงจากลานประลองและเดินเข้าไปหาน้องสาวผม และผมก็เดินสวนกับเชลเข้า
“นายชนะน่ะถูกแล้ว ท่าไม้ตายของนายน่ะทำให้ฉันช้ำใน คนอื่นจึงเห็นเหมือนกับว่าฉันไม่เป็นอะไรเลย”
“พี่ค่ะ พี่เป็นอะไรรึเปล่า”ผมได้ยินเสียงของน้องสาวเรียกผม แต่ทำไมเสียงมันเบาจังล่ะ ตาของผมเริ่มพล่ามัวอีกครั้ง ความเจ็บปวดที่หายไปก็เริ่มกลับมา ความเจ็บปวดตอนนั้นมันกลับมาเยือนผมอีกแล้ว
“พี่ค่ะ เดี๋ยวหนุจะช่วยพี่เองนะค่ะ”พูดจบยัยเปี๊ยกก็ใช้เวทย์รักษา แต่ทำไมล่ะ ความเจ็บปวดและแผลมันยังไม่หายไป
*มาเรีย*
ทำไมทำไมกัน ทำไมเวทย์รักษา มันใช้ไม่ได้ผลล่ะ ฉันลองใช้มันอีกครั้ง อีกครั้งและก็อีกครั้ง แต่แล้วก็มีมือ มือนึงมาจับมือของฉันที่ใช้เวทย์รักษาให้พี่ไว้ ฉันเงยหน้าไปหาคนที่จับมือฉัน คนคนนั้นก็คือพี่เรเซียนี่เอง
“แผลที่โดนเวทย์จากปีศาจน่ะ ต้องใช้เวทย์ขับไอปีศาจไปเสียก่อน ถึงจะใช้เวทย์รักษาได้”
“งั้นพี่ก็ใช้สิค่ะ”
“ขอโทษนะมาเรียจัง ฉันใช้เวทย์นั้นไม่เป็นหรอก เวทย์ขับไล่ปีศาจน่ะ เป็นเวทย์แสงขั้นที่4 แต่ฉันใช้เป็นแค่ขั้นที่3เท่านั้น”เมื่อพี่เรเซียพูดจบ น้ำตาที่ฉันกลั้นไว้ ก็ล่วงลงมา ไหลลงมา ฉันตัดสินใจเรียก เวล ดอน กับ มีเอล มาหวังว่าคงจะมีใครใช้เวทย์นั้นเป็นบ้าง
“จงออกมา เวล ดอน มีเอล”ฉันคุยกับทั้ง3ว่าใครใช้ได้บ้าง เวลบอกขอโทษฉันและส่ายหน้า ดอนก็บอกขอโทษและส่ายหน้าเช่นกัน ความหวังสุดท้ายอยุ่ที่มีเอล ฉันหวังพวานาให้มีเอลใช้เป็น มีเอลเดินเข้าไปหาพี่ฉัน และเอามือวางไว้บนหน้าอกเขา ควันสีดำลอยออกมา จากตรงที่มีเอลวางมือไว้ และเมือควันออกไปหมดแล้ว มีเอลก็หันมาทางฉันแล้วยิ้มให้ ตอนนั้นฉันก็รุ้ทันทีว่ามีเอลทำได้ ฉันขอบคุณมีเอล และรอให้พี่ชายฉันตื่น น้ำตาแห่งความตื้นตันไหลพลังพรุออกมา
“แง พี่”สิ่งที่จะพูดออกมามันติดอยุ่ที่ริมฝีปากหมด
“โอ๋ๆ อย่าร้องนะ”ฉันซบหน้าอกพี่แล้วพี่ก็ลูบหัวฉัน
“ฮึก ฮึก”
“โตแล้วอย่าร้องสิ เอางี้ดีกว่าต่อไปนี้พี่จะไม่เรียกยัยเปี๊ยกแล้วพี่จะเรียกยัยขี้แงแทนละกัน”
“แง ไม่อาวว”ฉันเถียง
“ถ้าไม่เอาก็หยุดร้องสิ”
“แง หยุดก็ด้ายยย”
“พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมค่ะ”
“จ้ะ พี่สบายดี”
“อะแห่ม! โปรดระลึกไว้ด้วยว่าฉันอยุ่ตรงนี้”พี่เรเซียพูดขึ้น แหะๆลืมไปเลยว่าพี่เรเซียก็อยุ่ด้วย
“แหมๆใครจะไปลืมแฟนตัวเองลงได้ล่ะ จิงไหม”ความจิงแล้วพี่เองก็คงลืมไปด้วยละ แต่ด้วยความที่ว่าพี่เป็นพวกมากมาดจึงพูดไปอย่างงั้น
“นี่ๆเดียวไปดู เมล แข่งกันไหม อุ๊บ”พี่เรเซียรีบเอามือปิดปาตัวเอง
“ขอโทษนะคือแบบว่า พี่ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ”พี่เรเซียรีบขอโทษขอโพยฉันเป็นอันยกใหญ่
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ เราไปดูกันเถอะ”ฉันตอบพี่ไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ไม่มีใครหารู้เลยว่าใบหน้าในใจของฉันนั้น กลับกำลังเศร้ามากๆ เศร้าจนอยากจะร้องไห้ออกมา แต่ก็ทำไม่ได้
“คู่สุดท้ายที่จะมาปิดฉากของปี2ก็คือ เมล ฟราเซล นักฆ่าแห่งโรเวล กับ วี โลทิส นักดาบแห่งวอโร”พิธีกรประกาศการประลองสำหรับคู่สุดท้ายของปี2พอดีกับที่พวกเรามาถึงเวทีประลอง
ผู้ชายผมสั้นสีน้ำตาลดำ นัยน์ตาสีเทา รูปร่างสันทัด กำลังเดินขึ้นไปบนเวที เขาก็คือ เมล ฟราเซล พี่ชายคนโต ที่เกิดก่อนพี่เมสแค่เพียง12วินาที เมื่อพี่เมลเดินขึ้นไปเขาก็ใช้เวทย์กระหน่ำซัดใส่คู่ต่อสู้ทันที และผลก็ออกมาว่าพี่เมลชนะ ส่วนอีกฝ่ายนั้นก็มีสภาพปางตาย ฉันเดินตามพี่เรเซียและพี่เมสที่เดินไปหาพี่เมล
“แหมเมล ไม่ออมมือให้คู่ต่อสุ้เลยนะเล่นซัดซะปางตาย”พี่เรเซียทักพี่เมล
“แค่นี้ ก็เรียกว่าออมมือแล้วล่ะ เพราะถ้าเอาจริงคงตายไปนานแล้วละ จริงไหม”พี่เมสพูดบ้าง สงสัยจะกลัวไม่มีบทพูดละมั้ง
“อือ”พี่เมลตอบ สายตาของพี่เมลนั้นจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ อาฆาต แค้น และคงจะฆ่าฉันทันทีถ้าเกิดไม่มีพี่เมสและก็พี่เรเซียอยู่ด้วย
“เมล นายจะแค้นมาเรียไปจนถึงไหน มาเรียเขาเป็นน้องนายนะ”พี่เรเซียที่ดูสายตาของพี่เมลออกพูด
“ยัยเด็กนี่ไม่ใช่น้องฉัน! ฉันไม่มีน้องอย่างมัน มันเป็นคนที่ทำให้แม่ต้องตาย! ได้ยินไหมแกทำให้แม่ต้องตาย!!
เป็นเพราะแกแม่ถึงต้องตาย! ต้องตาย!!!”พี่เมลตวาดใส่ฉันจนฉันต้องหลบไปอยู่หลังพี่เรเซีย น้ำตาเริ่มไหลลงมาอาบแก้มฉันทีละน้อยๆจนในที่สุดมันก็พรั่งพลูออกมาอย่างหยุดไม่ได้
“มาเรียเธอไปก่อนเถอะ ไปเดินเล่นก็ได้ไปซะ”พี่เมสพูด ฉันเดินออกไปนั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวเดิม เอามือปิดหน้าและร้องไห้ออกมา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น