ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    It's destiny

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 20 ส.ค. 57


                           ยามเช้าในตลาดดูวุ่นวายเป็นพิเศษ เมื่อข่าวฆาตกรใจโหดหรือที่ผู้คนต่างกล่าวขานถึงชื่อของมันว่า เครสเซนด้า วิญญาณต้องสาป กำลังแพร่สะพัดไปทั่วทุกแห่ง

                            ไม่มีให้รู้ว่ามันมาจากไหน แต่จากเท่าที่หลายๆ คนบอกต่อๆ กันมา มันจะปรากฏตัวในตอนกลางคืนเท่านั้น ซึ่งทุกครั้งที่มันเผยตัวต้องมีศพสังเวยให้ทุกครั้งไป ราวกับมันปรากฏตัวเพื่อกลืนกินวิญญาณมนุษย์ก็ไม่ปาน ทุกคนต่างก็หวาดกลัวเครสเซนด้าเพราะไม่มีใครทราบถึงวิธีการเลือกเหยื่อของมัน จนบางคนบางกลุ่มคิดว่ามันอาจจะฆ่าแบบไม่เลือกก็ได้ แต่ก็มีอีกกลุ่มที่คิดต่าง พวกเขามองว่ามันอาจจะฆ่าเฉพาะคนเลว.. แม้ว่าจะไม่ทราบจริงๆเสียก็เถอะ

                            ข้อถกเถียงเกี่ยวกับตัวเควสเซนด้าดังระงม หากแต่นั้นกลับไม่ได้เข้าหูสาวน้อยเจ้าของเรือนผมสีเงินที่ถูกมัดรวบยกขึ้นสูงสักนิด ใบหน้าหวานของนางยิ้มกริ่มเมื่อลิ้นได้รับรสของเนื้อ ความหวานละมุนแผ่ซ่านทั่วปากจนหญิงสาวคลี่ยิ้มออกมา

                            อร่อย

                            น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยจากริมฝีปากบางของ เอลิก้า ลอร์เมนเทรียนางดูเหมือนผู้หญิงธรรมดาๆ แตกต่างเพียงหอกสีเงินเล่มยาวที่สะพายอยู่ด้านหลังนั้น ทำให้เธอไม่ใช่แค่ผู้หญิงทั่วไปแต่เป็นนักผจญภัย ส้อมในมือของหญิงสาวเสียบลงบนเนื้อวัวที่ชุ่มฉ่ำ ก่อนจะยกเข้าปากอีกครั้งและอีกครั้ง จนกระทั่งเนื้อที่เคยวางบนจานมลายหายเข้าไปในท้องเอลิก้าอย่างรวดเร็ว ราวกับเสกเข้าไปก็ไม่ปาน

                            นิ้วมือเรียวลูบท้องกลมๆของตนที่ถูกอัดแน่นด้วยอาหารหลายจาน ก่อนจะตามมาด้วยการเรอเสียงดังลั่น จนหญิงสาวยกมือมาปิดปากตนแทบไม่ทัน ไปหน้านั้นเริ่มแดงก่ำด้วยความเขินอาย เธอก้มหน้างุดๆ หลบสายตาหลายคู่ที่มองเธอเหมือนตัวประหลาด แต่ก็จะไม่ให้พวกเขามองเธอแบบนั้นได้ยังไงกัน ในเมื่ออาหารมากมายถูกยัดลงกระเพาะเล็กๆ นั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาคงคิดไม่ถึงว่าหญิงสาวตัวเล็กๆ อย่างเอลิก้าจะกินจุเสียอย่างนี้

                            แต่มันก็เป็นความสัตย์จริง 

                            หลายครั้งที่เอลิก้าพยายามกินอาหารน้อยๆ แต่กลับไม่เคยทำได้เลยสักครั้ง ซ้ำยังทำให้เธอไม่มีแรงอีก เอลิก้าจึงจำต้องถูกมองด้วยสายตาที่ว่าเธอประหลาดอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งทุกครั้งเอลิก้าก็ต้องบอกตัวเองว่าอย่าได้สนใจสิ่งรอบข้าง เราก็คือเราจะเอาไปเปรียบกับคนอื่นได้อย่างไร

                            ก็แค่สายตาดูถูก ไม่ทำให้เธอเดือดร้อนสักเท่าไหร่!

                            แต่สิ่งที่เธอไม่ชอบและรับไม่ได้คือพวกนินทา ยัยพวกผู้หญิงที่นั้งสุมหัวกันอีกฟากหนึ่งของร้าน ดูท่าทางจะกำลังนินทาเธออย่างสนุกปาก นั่นทำให้เอลิก้าอยากจะเดินไปเลาะฟันพวกบ้านั้นเสียให้หมดเรียงคนไปเลย แต่เธอกลับเลือกที่จะนิ่งเฉยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วเดินออกจากร้านไปเงียบๆ ด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น หากแต่เสียงหนึ่งก็ดังตะโกนไล่หลังเธอมาจนหญิงสาวทนไม่ไหว ระเบิดอารมณ์ออกมาไม่ยั้ง

                            อะไรอีกฮะ!! นี่ยังนินทาข้าไม่พออีกรึไง! แถมยังมองสายตาแบบนั้นอีก! จะเอายังไงกับข้ากันฮะ!!”

                            เอลิก้าหันขวับไปหาต้นเสียงด้วยใบหน้าบึ้งตึง เธอก่นด่าไม่ยั้งไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดแทรกขึ้นมา แต่ในที่สุดเมื่อร่างกายเริ่มหายใจไม่ทันเอลิก้าจึงจำต้องหยุดพักหายใจเสียหน่อย เป็นโอกาสให้ชายที่ร้องตะโกนใส่เธอมีโอกาสได้พูดบ้าง เขาชูมีดอีโต้พลางมองเอลิก้าด้วยสายตาคาดโทษ

                            เจ้ายังไม่จ่ายค่าอาหาร!!”

                            น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงน้ำเราะของคนทั้งร้าน ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนใบหน้าเธอแตกร้าวเยี่ยงกับกระจกชำรุด ก่อนที่มันจะล่วงผล็อยลงพื้นแล้วถูกเหยียบย่ำด้วยสายตาของชายตรงหน้าเสียยับเยิน เอลิก้าหยิบถุงเล็กๆ ที่ข้างในบรรจุเงินจำนวนหนึ่งโยนให้เขาอย่างไม่พูดไม่จาและรีบเดินหนีให้ไกลๆ อย่างตรงนั้นให้ไวที่สุด แต่เสียงของเขาที่เหมือนกับยมทูตจากนรกก็ดังไล่หลังเธออีกครั้ง

                            ปัดโถ่ จะให้ข้าขอโทษที่ด่าเจ้าเสียๆ หายๆ รึไง

                            เธอตะโกนกลับอย่างเหลืออด แค่นี้ยังทำให้เธออับอายไม่มากพออีกรึ มันยังไม่สาแก่ใจเจ้าใช่ไหม เอลิก้าได้แต่ก่นด่าในใจพร้อมใช้สายตาถมึงตึงมองเขา

                            เปล่า เจ้าจ่ายไม่ครบ

                            ราวกับมีฟ้าผ่าลงมาในหัวของเอลิก้า เธอดันปล่อยไก่อีกตัวไปจนได้ หญิงสาวล้วงเงินที่เก็บสำหรับค่าเดินทางโยนให้เขาโดยที่มีเสียงหัวเราะรอบๆ กายดังลั่น มันดังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับกำลังชอนไชเข้าไปในสมอง จนเธอปวดหัว! เอลิก้ารีบหันหลังวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด ไกลเท่าที่เสียงหัวเราะจะตามมาหลอกหลอนเธอไม่ได้

                           

                            .........

     

                            ร่างที่วิ่งมาอย่างเนินนาน เดินหลบมุมเข้าไปในซอกระหว่างตึกเล็กๆ อย่างเหนื่อยล้า พร้อมใช้มือทั้งสองข้างเกาะกุมกำแพงก่อนจะเอาหัวโขกมันอยู่หลายครั้ง ราวกับกำลังระบายความอับอายที่เกิดขึ้น เอลิก้าเม้มริมฝีปากแน่นแล้วหันหลังให้กำแพงพร้อมทรุดตัวลงนั้งกอดเข่า

                            เป็นเวลาเดียวกันกับที่ดวงตาสีชาดสอดส่ายมองรอบๆอย่างเหม่อลอย เยี่ยงคนวิญญาณหลุดจากร่าง...

                            ฮะ...  ฮะๆ ... ฮ่า... ฮื่ออออ

                            เสียงคร่ำครวญของเอลิก้าดังอย่างสยดสยองก่อนที่ร่างจะค่อยๆ ไหลเปลี่ยนท่าเป็นนอนกับพื้นเสียอย่างนั่น อ่า อีกไม่นาน ซอกแห่งนี้คงจะมีข่าวว่ามีเสียงคร่ำครวญสลับกับเสียงหัวเราะสุดสยองของหญิงสาวนิรนามเป็นแน่แท้


    APPLE PIE★
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×