ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    It's destiny

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 8 ส.ค. 57


                                ยามค่ำคืนที่มักจะเงียบสงัด กลับมีเสียงหนึ่งดังก้องตามพื้นถนนที่ไร้ผู้คน นั้นคือเสียงฝีเท้าของชายร่างเล็กที่วิ่งด้วยความเหน็บเหนื่อยแต่เขากลับไม่คิดที่จะหยุด ขาทั้งสองข้างแม้จะเริ่มอ่อนล้าจนเขารู้สึกเจ็บปวด แต่มันก็ยังคงวิ่งต่อไป เพราะเมื่อไรที่เขาหยุด นั้นหมายถึงความตายกำลังจะมาเยือนในไม่ช้า..
     

                            แต่ก็เหมือนโชคชะตาจะกลั่นแกล้ง ชายหนุ่มดันสะดุดขาตัวเองเสียหลักล้มลงโดยพลัน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบเหงื่อแสดงถึงความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคู่นั้นเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นใครบางคนในชุดคลุมสีดำสนิทเดินฝ่าความมืดอย่างเงียบเชียบ

                            เขาพยายามตะเกียงตะกายพาร่างที่เหนื่อยล้าออกวิ่งต่อ แต่ขาของเขาก็ได้หาเป็นใจไม่ เพราะมันทั้งอ่อนล้าจนเจ็บปวดและยิ่งเจ็บปวดขึ้นไปอีกเมื่อตอนที่เขาล้มลง ชายหนุ่มได้แต่ใช้มือทั้งสองจิกพื้นพาร่างตัวเองคลานไปอย่างเชื่องช้า ซึ่งมันแทบไม่ได้ช่วยให้เขารอดพ้นจากความตายไปได้เลย และเป็นจังหวะเดียวกันที่ร่างในชุดคลุมสีทมิฬปรากฏกายท่ามกลางความมืด  ร่างสูงก้าวฉับๆหาชายหนุ่มก่อนจะใช้เท้าข้างหนึ่งขยี้ฝ่ามือเขาพลางเผยอรอยยิ้มน่าขนลุก

                            อ๊าก!

                            เสียงนั้นครวญครางด้วยความเจ็บปวดชวนเวทนา แต่ร่างสูงกลับไม่คิดปราณี สองมือตวัดมีดที่ซ่อนไว้ในชุดคลุมหวังจะเชือดเฉือนชายตรงหน้าให้สิ้นใจ แต่ก็ช้าไปเพียงก้าวเดียว ชายหนุ่มยังคงดิ้นรนที่จะหาทางรอด เขาใช้แรงที่ยังมีดึงขาให้ร่างในชุดคลุมล้มลงกระแทกพื้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว จนมีดที่เคยอยู่ในมือหล่นลงพื้น ซึ่งแทบจะทันที ชายหนุ่มดันตัวคว้ามีดเล่มหนึ่งไว้ และฉวยโอกาสตอนที่ร่างในชุดคลุมกำลังเผลอจ้วงแทงมีดใส่เขา

                            นั้นอาจจะทำให้คนๆหนึ่งถึงกลับเสียชีวิตได้เลยทีเดียวถ้ามันแทงทะลุร่าง..

                            แต่มันกลับเป็นการทำร้ายตัวเองเสียมากกว่า ร่างสูงเอี้ยวตัวหลบได้ทันท่วงทีพร้อมกับจับข้อชายหนุ่มแล้วใช้แรงที่มีมากกว่ามนุษย์ทั่วไปหักข้อมือนั้นทิ้ง สร้างความเจ็บปวดกับชายหนุ่มเป็นทวีคูณจนเขาเกือบคิดว่าตายไปคงจะดีกว่าโดนทรมานแบบนี้ ร่างนั้นกุมข้อมือที่หักของตนพลางดิ้นทุกรนทุรายไปมาอย่างเวทนา แต่เพียงไม่กี่อึดใจเขาก็กัดฟันสู้กับความเจ็บปวดเพื่อหาหนทางหนีรอดอีกครั้ง

                            ช่างเป็นมนุษย์ที่เข้มแข็งเสียจริง

                            ริมฝีปากบางของร่างในชุดคลุมเผยอรอยยิ้มขึ้นอีกครั้ง ดูท่าคราวนี้คงจะไม่มีโอกาสให้หนีรอดไปได้แล้วล่ะ ร่างสูงหยิบมีดทั้งสองเล่มปักลงบนหลังมือของชายตรงหน้าอย่างไร้เมตตา ร่างนั้นดิ้นทุรนทุรายพร้อมกรีดร้องเสียงแหลม ในขณะที่มันยังคงยิ้ม.. ยิ้มอย่างมีความสุขเสียด้วย..

                            มันในชุดคลุมดึงมีดที่เคยปักบนหลังมือชายหนุ่มออก ก่อนจะบรรจงจรดปลายมีดลงที่คอของเขาแล้วค่อยๆกรีดลงไป เลือดสีแดงข้นไหลจากบาดแผลฉกรรจ์อย่างเนิบช้า ในขณะที่ชายหนุ่มดิ้นพล่านไม่หยุดอย่างไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาที่สั่งให้เขาตาย หากแต่การกระทำอย่างนั้นกลับทำให้เขายิ่งตายไวเสียมากกว่า

                            เพราะยิ่งร่างของชายหนุ่มดิ้นทุรนทุรายมากเท่าไร มีดก็ยิ่งกรีดลงลึกมากไปเท่านั้น..

                            แต่ในที่สุดร่างที่เคยต่อสู้กับความตายจนลมหายใจสุดท้ายก็แน่นิ่ง เป็นสัญญาณว่าเขาได้พ่ายแพ้เสียแล้ว ส่วนฆาตกรใจโฉดที่ยืนกุมมีดเปื้อนเลือดนั้นแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์  มันผละจากร่างชายหนุ่มก่อนจะเดินหายไปในความมืด ทิ้งไว้เพียงศพของชายร่างเล็กกับแอ่งน้ำสีเลือดไว้บนถนนที่ไร้ผู้คน..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×