คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Kai x Rella (คุณ sarang)
Kai x Rella
“ดอกกุหลาบสีแดงใครหลายคนอาจคิดว่ามันหมายถึงความรักและความปรารถนา แต่ความหมายอีกอย่างของมันคือความรักที่ไม่มีวันจืดจางไปจากหัวใจ”
“หมอนั่นเป็นใคร?”ฉันถามลูกน้องถึงผู้ชายที่ปล่อยมุกตลกฝืดๆแล้วหัวเราะเองเสร็จสรรพ ฉันจะไม่สนใจหมอนั่นเลย ถ้าหมอนั่นไม่ปล่อยมุกตลกฝืดๆนั่นท่ามกลางบรรยากาศเคร่งเครียดของพวกมาเฟีย
อ้อใช่…ฉันเป็นมาเฟียน่ะ
“ลูกชายของหัวหน้าแก๊งมาเฟียตระกูลคิม ไคครับ”ฉันชะงักเล็กน้อย ตระกูลคิมเป็นตระกูลที่ค่อนข้างจะสนิทกับตระกูลของฉันเป็นพิเศษ ฉันได้ยินมาว่าตระกูลนี้มีลูกชายคนเดียว แต่เพิ่งเคยเห็นหน้าเป็นครั้งแรกนี่แหละ
หึ…คนแบบนี้จะรับช่วงต่อเป็นหัวหน้าแก๊งได้เหรอ
.
.
.
ท้องฟ้ามืดสนิทแต่กลับมีดวงดาวระยิบระยับสวยงาม รวมทั้งดวงจันทร์เต็มดวงสีเหลืองอร่าม ทำให้ราตรีนี้ไม่มืดสนิทจนเกินไป ฉันเหม่อมองออกไปท้องฟ้าไกลอย่างอ้างว้าง…
ด้วยความที่ฉันเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อน แล้วรอบๆตัวฉันก็มีแต่คนที่แสร้งยิ้มจอมปลอมใส่ฉันทั้งนั้น
ตึก
ด้วยความเงียบบวกกับประสาทหูของฉันที่ดีกว่าคนปกติเล็กน้อยทำให้สัญชาตญาณมาเฟียของฉันมันทำงาน ก่อนที่ผู้มาเยือนจะเข้าถึงตัวของฉัน ฉันก็หลบแล้ววิ่งอ้อมไปด้านหลัง หยิบมีดพกออกจากขา แล้วเอาจ่อคอคนคนนั้นจากด้านหลัง
“จะ ใจเย็นๆสิ”
“นายเป็นใคร ต้องการอะไร!”
“ฉันไม่ใช่ศัตรูนะ ฉันชื่อคิมจงอิน เป็นลูกชายของตระกูลคิม”ฉันชะงักก่อนจะลดมีดลงแล้วหันผู้ชายคนนั้นมาเผชิญหน้า
ใช่จริงๆ ยิ่งกว่านั้น พอมองใกล้ๆแล้วฉันถึงได้รู้ว่าหมอนี่หล่อมากจริงๆ…
แสงจันทร์ที่ส่องกระทบผิวน้ำผึ้งของเขาขับให้ดูดีเป็นเท่าตัว ใบหน้าคมแสนจะดูดี คิ้วเข้ม ตาเรียวคม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากรูปสวย รวมทั้งผมสีดำที่เซ็ตแล้ว ทำให้ผู้ชายคนนี้ดูดีราวกับรูปสลัก
“เฮ้ๆ”ฉันได้สติเมื่อเขาโบกมือเมื่อเห็นฉันนิ่งไป
“นะ นายมาที่นี่ทำไม= =”
“ฉันเบื่อบรรยากาศอึมครึมแบบนั้นนี่นา ไม่มีใครหัวเราะกับมุกตลกของฉันเลย ทำหน้าบึ้งกันอยู่ได้ L”
“…”ก็มุกของนายมันฝืดนี่ พูดจากใจจริงเลย= =
“แล้วเธอชื่ออะไรเหรอ”
“เรลล่า”
“ชื่อน่ารักจัง ผมยาวสีบลอนด์ของเธอก็สวยมากๆเลย มันส่องแสงเหมือนพระจันทร์เลยล่ะ^^!”
ฉันมองหน้าหล่อๆที่ยิ้มร่าเริงนั้นโดยมีความรู้สึกแปลกๆก่อขึ้นในใจ
“ขอบใจ”ฉันทำท่าจะเดินออกจากตรงนั้นไป ด้วยนิสัยที่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร
“เดี๋ยวสิ! จะไปไหนน่ะ”
“กลับเข้างาน”
“อยู่กับฉันก่อนสินะๆ”ฉันมองร่างสูงที่พยายามส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ฉันโดยไม่ดูขนาดตัวของตัวเองอย่างจนใจ
แล้วเราก็อยู่คุยกันนานมาก เขาทำให้คนที่ไม่ค่อยพูดอย่างฉันตอบเขาได้นี่เพราะเขาเป็นคนช่างพูดรึเปล่านะ?
.
.
.
“เรลล่า! ได้เจอกันอีกแล้วนะ!”ฉันมองร่างสูงที่ยืนยิ้มแป้นแล้นให้ฉันมาแล้วหันกลับมามองหนังสือในมือต่อ โดยไม่ได้สนใจว่าหมอนี่มาโผล่ในบ้านของฉันได้ยังไง
“เรลล่า หนังสือมันมีดีกว่าฉันตรงไหน นี่ๆดูสิ ฉันย้อมสีผมใหม่ด้วยนะ”เขาเดินมานั่งข้างๆฉันแล้วชี้อวดสีผมใหม่ของตัวเองอย่างภูมิใจ
“เป็นไงมั่งๆ”
“ก็ดีนี่”
“จริงเหรอ ดีใจจัง เพราะฉันคิดว่ามันดูดีมากเลยนะ ตอนออกจากร้านทำผมก็มีแต่คนมองฉันเต็มไปเลย ฮ่าๆ”
“…”หน้าตาดีขนาดนั้นถึงไม่สระผมออกมาเดินก็มีคนมองอยู่ดีแหละ
“หนังสือนั่นเกี่ยวกับอะไรเหรอ ดูเธอจะชอบมันมาก”
“รวบรวมคนที่ประสบผลสำเร็จในชีวิต”
“จริงเหรอ! เล่าให้ฉันฟังหน่อยสิๆ*O*!”
“ก็เริ่มตั้งแต่…”
.
.
.
“ช่วงนี้ดูคุณหนูจะอารมณ์ดีขึ้นนะครับ ยิ้มบ่อยขึ้น ดูพูดเยอะขึ้นด้วย”เฉิน ลูกน้องคนสนิทของฉันเอ่ยทักเมื่อฉันเดินออกจากห้อง
“คิดอย่างนั้นเหรอ?”
“ครับ”
“งั้นเหรอ ไม่รู้ตัวเลยแฮะ”ฉันยกยิ้มเบาๆ
“ก็ตั้งแต่มีคุณไคนั่นแหละครับ”เฉิมอมยิ้มแนวล้อเลียนเล็กๆ
ตึกตัก
เอาอีกแล้ว…
ช่วงนี้เวลาฉันคิดถึงหมอนั่นทีไรหัวใจเจ้ากรรมก็จะเต้นตึกตักทันที แล้วช่วงนี้ฉันก็มักจะนึกถึงหมอนั่นจนทำอะไรไม่ถูกบ่อยซะด้วยสิ
“เรลล่า!”เสียงอันคุ้นเคยทำให้ฉันรีบหันไป พบร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า เฉินแอบอมยิ้มแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ
“อะไร เสียงดังแต่เช้า”ฉันพูดออกไปเมื่อไม่เขาไม่ยอมพูดอะไรสักที ฉันตีหน้านิ่งทั้งๆที่ในใจกลับเต้นรัว
“ฉันรักเธอ”ไครวบมือของฉันไปกุมแนบอก ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ฉันตกใจ
“หะ ห๊ะ!?”ฉันสบตาที่จริงจังและแน่วแน่ไม่มีแนวขี้เล่นของเขา หัวใจของฉันฟูฟ่องขึ้นมา ก่อนที่มุมปากของฉันจะเผลอยกขึ้นเองอัตโนมัติ
“ชอบเธอมาตั้งนานแล้ว ก่อนที่จะเจอกันที่งานเลี้ยง ฉันเฝ้ามองดูเธอมาตลอด แต่ไม่เคยเข้าไปคุย แล้วก็ได้ไปเจอเธอที่งานเลี้ยงก่อนจะตัดสินใจเข้ามาคุยกับเธอ”
“…”ฉันมองเขาที่พูดออกมาหมดเปลือกอย่างอึ้งๆ แก้มร้อนผ่าวๆอย่างรู้สึกได้
“ฉันดีใจมากเลยนะที่ได้คุยกับเธอ และได้เห็นรอยยิ้มของเธอ ฉันมีความสุขมากๆ แต่…”
“…”ฉันที่กำลังจะอ้าปากพูดต้องหุบลง เพราะคำว่า ‘แต่’ ของเขา
“เรลล่า ฉันรักเธอนะ แต่…”
“…”
“ฉันต้องหมั้นกับจีซา ตระกูลลี อาทิตย์หน้า เพื่อกระชับความสัมพันธ์”
“…”เหมือนมีใครเอาดาบมาแทงตรงใจของฉัน ฉันยืนอึ้งอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกตกใจ เสียใจ โกรธ ตีปนกันมั่วไปหมด แต่ความรู้สึกที่เด่นชัดที่สุดในตอนนี้คงจะเป็น
รัก
ฉันรักไค…
“เธอว่าฉันจะทำยังไงดี”ไคมีสีหน้าที่เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ถ้าเขาร้องไห้ได้เขาคงร้องไห้ไปแล้วล่ะ
“ก็หมั้นสิ”
“…”ไคเงยหน้ามองฉัน ฉันหลบแววตาผิดหวังและเจ็บปวดของเขา เพื่อไม่ให้เขาเห็นแววตาที่มักจะนิ่งเฉยของฉันที่เปลี่ยนไปเป็นเจ็บปวด
“ยังไงก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ถึงแม้ฉันจะระ…”คำว่ารักถูกกลืนลงคอไป ฉันคงไม่สามารถจะเอ่ยคำว่ารักเพื่อผูกมัดเขาได้หรอก ถ้าฉันเอ่ยไปมันจะรังแต่ทำให้เขาทุกข์ใจเปล่าๆ
“เธอจะพูดอะไร?”
“…”
“เธอจะพูดว่ารักฉันใช่ไหม?”ไคยิ้มให้ฉัน แววตาอ้อนวอน ที่ทำให้ฉันต้องหันหลังหนี
“เปล่านี่”
“…”
“…”
ความเงียบเข้าปกคลุมอยู่หลายอึดใจ จนกระทั่งมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ซึ่งฉันจำได้ว่าเป็นเสียงโทรศัพท์ของไค ไคหยิบมันขึ้นมาทำท่าจะกดตัดสาย แต่ฉันเหลือบไปเห็นชื่อของเบอร์ที่โทรมาก่อน
‘จีซา’
“รับสิ ว่าที่คู่หมั้นของนายโทรมานะ”
“แต่…”
“อย่าปล่อยให้เธอรอนาน แล้วก็…กลับไปเถอะ”ฉันเอ่ยเรียบๆหารู้ไม่ว่ากว่าฉันจะกลั่นประโยคนั้นออกมาได้ฉันต้องทนเจ็บที่อกข้างซ้ายมากแค่ไหน
“เข้าใจแล้ว…”
“…”
“ลาก่อนนะเรลล่า เราคงอาจจะไม่ได้เจอกันอีก^^”ไคยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินออกไปทันที
ฉันทำถูกแล้วใช่ไหมนะ…
แต่ทำไมเมื่อกี้ ยิ้มของไคถึงไม่สดใสอย่างที่เคยเป็นล่ะ…
.
.
.
อาทิตย์ต่อมา
ฉันเก็บตัวอยู่ในห้องมาตลอดหลังจากนั้น ถึงแม้บ้านคนสนิทมาเคาะห้อง ฉันก็ไม่เปิด จนกระทั่งถึงวันนี้ วันหมั้นของไค…
ก๊อกๆ
“คุณหนูคะ มีของมาถึงคุณหนูค่ะ”ฉันเปิดประตูออกไปรับ พยายามหบลเลี่ยงสายตาเป็นห่วงจากแม่บ้านแล้วกลับเข้ามาในห้องนอน
สิ่งที่ฉันได้มาเป็นดอกกุหลาบสีแดงหนึ่งดอก และมีการ์ดใบเล็กๆติดมาด้วย ฉันอ่านมันก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมา น้ำตา…ที่ไม่เคยคิดว่าจะเสียให้ใครนอกจากพ่อแม่
‘Love will not fade away form my heart
Kai’
ใครอาจจะคิดว่าว่าดอกกุหลาบเป็นตัวแทนของความรักที่มีความสุข คุณอาจจะลืมนึกว่าตำนานกุหลาบของเทพีวีนัส หรือตำนานของมัทนะพาธาก็ไม่ได้จบอย่างสุขสมเลย
“ช้าไปไหมนะถ้าจะบอกว่า ฉันรักนาย…ไค”
จบแล้วสินะ…ความรักของฉัน
THE END.
(ซะเมื่อไหร่ :P)
ป๊อก!
ฉันสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเหมือนอะไรบางอย่างกระทบที่หน้าต่างของฉัน ฉันตาสว่างเต็มตา ถึงแม้ว่าเมื่อตอนเช้ากับตอนบ่ายจะร้องไห้หนักไปหน่อย แต่ด้วยสัญชาติญาณของมาเฟียมันทำให้หลับต่อไม่ลง ฉันค่อยๆก้าวไปที่หน้าต่างอย่างช้าๆ แล้วยื่นหน้าออกไปดู
“ไค!”
ฉันเปิดหน้าต่างออกไป พบกับไคที่อยู่ในชุดสูทเต็มยศยืนอยู่ใต้ห้องของฉัน เขาไม่ได้เข้าพิธีหมั้นไปแล้วเหรอ
“ฉันกำลังหนีงานหมั้นมา พ่อของฉันกับลูกน้องตามหาตัวฉันใหญ่เลย เพราะว่าฉันดันไปปฏิเสธงานหมั้นเข้า เพื่อมาหาเธอ^^”ไคหัวเราะเบาๆแล้วยกมือเกาท้ายทอย
“…”
“ยังไงฉันก็แต่งงานกับคนที่ฉันไม่รักไม่ได้ ถ้าไม่ได้แต่งงานกับเธอ ฉันก็จะไม่แต่งงานกับใครทั้งสิ้น”แววตาจริงจังของเขาทำให้ใจของฉันสั่นไหว จนเกือบตอบว่าฉันรักนายไป
“…”
“ฉันมีเรื่องค้างคาใจอยู่เรื่องนึง”
“…”
“อยากให้เธอตอบฉันตามตรงนะ”ไคยิ้มและแววตาของเขากลับสั่นไหว
“อืม”
“เธอรักฉันรึเปล่า?”คำถามของไคทำให้ฉันพูดไม่ออก
“…”
“เธอไม่ต้องไปนึกถึงอะไรหลายๆอย่างในตอนนี้ ไม่ต้องนึกถึงจีซา ไม่ต้องนึกถึงความรู้สึกของฉัร แค่เธอตอบออกมาตามความรู้สึกของเธอ”
“…”
“ถ้าเธอรักก็บอกว่ารักฉัน แต่ถ้าไม่…ฉันก็จะไป”
ความรู้สึกของฉัน มันแน่นอนอยู่แล้ว…
“เฮ้ย!”ไคร้องเสียงหลงเมื่อฉันปีนออกจากหน้าต่างห้องไป โชคดีที่ห้องของฉันอยู่ไม่สูงนัก ฉันกระโดดกอดไคทันที
ด้วยแรงที่ไม่น้อยนักทำให้เราทั้งสองคนล้มลงไป โดยฉันทับไคอยู่ ไคงุนงงเล็กน้อยแต่สักพักก็ยิ้มออกมา
“ฉันรักนาย”
Happy Ending <3
ไม่ค่อยเกี่ยวกับมาเฟียอะ เพราะไรต์แต่งแนวนี้ไม่ค่อยได้ แล้วนานไปหน่อย ขอโทษนะจ้ะ ไรต์ได้เล่นคอมแค่วันเสาร์กับอาทิตย์เองT^T กดไลค์เพจของไรต์ด้วยนะ ไรต์จะอัพเดตกิจกรรมและฟิคต่างๆในนั้น
<<<<จิ้มๆๆๆ
ความคิดเห็น