ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Playboy's love story รักนี้สุดๆขอหยุดที่เธอ!

    ลำดับตอนที่ #12 : Part: 11 I never forget you.

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 55


      Shalunla

    Part: 11

    I never forget you.

     

     

    “น่าเบื่อพวกถ้ำมองจริงๆเลยเนอะ นายคิดเหมือนฉันรึเปล่าดริฟต์!!

              “ออกมาได้แล้วฉันรู้นะว่านายหลบอยู่ตรงนั้น!! J”                    

                เมื่อฉันพูดจบเขาก็ค่อยๆก้าวออกมาจากข้างหลังเสาที่อยู่บริเวณหน้าทางเข้าคอนโดฯ ฉันรู้ตั้งแต่ตอนที่เพอร์เฟคต์จอดรถคุยกับฉันแล้วล่ะเพราะฉันบังเอิญเหลือบมองกระจกข้างและเห็นรถใครบางคนจอดชิดอยู่ริมทางเหมือนเรา ตอนแรกฉันก็ไม่คิดว่าจะเป็นเขา เพียงแค่คิดว่าคนขับรถคันนั้นแวะงีบแต่อะไรบางอย่างที่อยู่หน้ารถก็สะดุดตาฉันซะก่อน มันคือตุ๊กตาหมีไหมพรมสีเหลืองอ๋อยซึ่งฉันจะไม่สนใจเลยถ้ามันไม่ใช่ตัวที่ฉันจำได้แม่นว่าเป็นคนถักเองกับมือเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้เขาเมื่อสามปีก่อน ใช่...อะไรที่เกี่ยวกับเขาฉันจำมันได้ทุกอย่าง!

              “ว๊า ฉันว่าฉันหลบดีแล้วนะเธอนี่ตาดีชะมัด”

                “หึๆ ตามฉันมาที่นี่ทำไม?” ฉันถามออกไปอย่างไม่อ้อมค้อม ใจจริงฉันก็แอบดีใจอยู่นะที่เขาสะกดรอยตามฉันมาถึงนี่ เพราะนั่นแสดงว่าเขายังสนใจฉันหรืออาจจะยังรักฉันอยู่ก็เป็นได้ คงไม่ผิดหรอกใช่มั้ยที่ฉันอยากจะขอคิดเข้าข้างตัวเองทั้งๆที่บอกใจไว้แล้วว่าให้ลืมเขาแต่ฉันก็ทำไม่ได้ซักที การที่เราเจอกันวันนี้มันยิ่งเป็นการตอกย้ำได้อย่างดีเลยว่าเวลาสามปีที่ผ่านมาฉันไม่เคยลืมเขาได้เลย

                “ฉันก็แค่บังเอิญผ่านมาน่ะ” เหอะ นี่น่ะเหรอผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าฉลาด สุขุมนักหนาแค่คำแก้ตัวยังคิดได้ห่วยแตกเลย

                “ฉันว่านายควรไปคิดหาคำแก้ตัวที่ฟังดูดีกว่านี้หน่อยนะ เพราะสำหรับฉันมันห่วยแตกมาก”

                “ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเธอเรื่อง...”

                “เรื่อง?” ฉันถามเมื่อเห็นเขาพูดไม่จบประโยค

                “เอ่อ.. ช่างเถอะ คิดซะว่าฉันไม่ได้มาที่นี่ก็แล้วกัน” เขาพูดและหันหลังเดินจากไป

                “ฉันมันน่ารังเกียจมากถึงขนาดที่นายไม่อยากจะเสวนาด้วยเลยสินะ ^^” ฉันพูดหน้าระรื่นซึ่งขัดกับเสียงที่เริ่มสั่นอย่างสิ้นเชิง

                กึก เขาหยุดเดินและค่อยๆหมุนตัวกลับมาสบตาฉันด้วยใบหน้าเรียบเฉยมีแค่เพียงดวงตาของเขาเท่านั้นที่กำลังสั่นไหวอย่างรุนแรงฉันดูออก

                “มันไม่ใช่อย่างนั้นนะรัน ฉันแค่ไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอเหมือน...ที่ผ่านมา”

                “ถ้านายรู้ว่าการที่นายมาพบฉันมันทำให้ฉันเจ็บ แล้วนายจะมาเพื่ออะไร? มาทำไม? แค่นี้ฉันยังเจ็บไม่พอหรอ? ฮึก..” ฉันเริ่มสะอื้นเมื่อคิดถึงตอนที่เขาทิ้งฉันไปเมืองนอกใหม่ๆ ฉันจำได้ดีไม่มีวันลืมเลยว่าตอนนั้นฉันร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนไม่เป็นอันกินอันนอนนึกถึงสภาพของตัวเองแต่ก่อนแล้วสมเพชชะมัดเลยให้ตายสิ ฉันเฝ้าอธิษฐานทุกวันขอให้เขากลับมาหาแต่สุดท้ายฉันก็ได้รู้ว่ามันเป็นแค่เพียงคำอธิษฐานไม่มีวันเป็นจริงจนมาตอนนี้ไม่รู้ฉันควรจะดีใจรึเปล่าที่ได้พบกับเขาอีกครั้ง 

                “ฉันขอทะ...”

                “ฮึก ฮือๆๆ” เขายังพูดไม่ทันจบประโยคฉันก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาจจะกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป ดูจากแววตาแล้วเขาคงตกใจไม่น้อยที่จู่ๆฉันปล่อยโฮออกมาเสียงดัง

                หมับ

                “ฉันขอโทษ ฉันขอโทษจริงๆ ถ้าฉันเลือกได้ฉันจะไม่ทิ้งเธอไปเลย เธอรู้รึเปล่าว่าฉันน่ะก็เจ็บไม่น้อยไปกว่าเธอเลย หรืออาจจะเจ็บมากกว่าด้วยซ้ำกับการที่เห็นคนที่เรารักอยู่ทุกวันห่างกันแค่เพียงเอื้อมมือ..เอื้อมมือเท่านั้นเองแต่ไม่สามารถเข้าไปหาไปพูดคุยด้วยได้ เธอรู้มั้ยมันทรมานขนาดไหน ที่อยู่ใกล้กันก็เหมือนไกล” เขากอดฉันและพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่น เขาหมายความว่ายังไงกัน อยู่ใกล้กันแต่ก็เหมือนไกลงั้นหรอ?

              “นะ..นายหมายความว่ายังไงกัน ฮึก..”

                “ที่จริงแล้วฉันไม่ได้ไปเมืองนอกอย่างที่ใครบอกเธอหรอก เธอคงไม่รู้ตัวเลยว่าฉันคอยอยู่ข้างๆเธอเสมอมา”

                “ฮึก..”

                “ตอนนั้นฉันไปเหยียบหางพวกมาเฟียแก๊งใหญ่เข้า พวกมันขู่ว่าจะฆ่าคนที่ฉันรักทั้งหมดรวมถึงเธอฉันเลยต้องแกล้งตีตัวออกห่างจากเธอ ที่จริงฉันสามารถใช้อำนาจของครอบครัวสั่งเก็บแก๊งนั่นได้ถ้าไม่ติดอยู่ที่ว่ายังมีอีกหลายแก๊งคอยหนุนหลังพวกมันอยู่ทั่วโลกและนั่นอาจส่งผลกระทบต่อกิจการของครอบครัวได้ ฉันเลยจำเป็นต้องตีตัวออกห่างจากเธอ ฉันกลัว..กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไปจริงๆฉันเลยต้อง...”

                “เลยต้องทิ้งฉันไป ปล่อยให้ฉันทนอยู่กับความเจ็บปวดที่ไม่มีวันจางหายทุกครั้งที่คิดถึงนาย ฮืออๆ”

              “ฉะ..ฉัน..ขะ..ขอโทษ” เขาบอกฉันอย่างตะกุกตะกักเพราะกลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่ไหว

                “แล้วทำไมนายถึงหายหน้าไปตั้งสามปี ฮึก..”

              “หลังจากที่ตำรวจกวาดล้างพวกมันหมดแล้ว พอฉันจะกลับมาหาเธอแต่ก็ดันเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำซะก่อน อาการของฉันตอนนั้นโคม่าโอกาสรอดมีเพียงยี่สิบเปอร์เซนต์เท่านั้นทางบ้านเลยส่งฉันไปรักษาตัวที่เมืองนอกกว่าฉันจะรักษาตัวจนหายดีก็กินเวลาไปตั้งสามปี” เขาเกิดอุบัติเหตุงั้นหรอเขาคงทรมานมากสินะ ฉันน่าจะรู้ตั้งแต่แรกว่าเขาไม่มีทางหักหลังฉันแน่นอนฉันมันโง่จริงๆ!!

                เขาดึงตัวฉันออกจากอ้อมกอดและจูบซับน้ำตาให้ฉันอย่างนุ่มนวลและอ่อนหวาน ..นานเท่าไหร่แล้วนะที่ฉันไม่ได้รับสัมผัสที่อ่อนหวานจากเขาอย่างนี้ เขาค่อยๆไล่จูบจากเปลือกตาลงมาที่จมูกแล้วลากไปที่แก้มทั้งสองข้างของฉันสลับกันและสุดท้ายมาจบที่ริมฝีปาก ฉันจูบตอบเขาอย่างเต็มใจ

                ความรัก ความคิดถึง ความห่วงใย เขาบอกฉันผ่านจูบนี้ฉันรู้สึกได้เพราะฉันเองก็กำลังบอกเขาอยู่เช่นกัน

                แต่แล้ว! เราสองคนก็ต้องหยุดทุกการกระทำเมื่อได้ยินเสียงของใครคนหนึ่ง

                “พอได้แล้วมั้ง เห็นอย่างนี้แล้วฉันชักรู้สึกเจ็บจี๊ดๆที่หัวใจแฮะ” 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×