ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่หมั้นตัวร้ายขอหนีไปปราบปีศาจ!

    ลำดับตอนที่ #12 : องก์ที่ 11 : เจอหมีให้เเกล้งตาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.39K
      882
      28 เม.ย. 64


    องก์ที่ 11

    “ท่านมิซึกิหายไปไหนมาเจ้าคะ”  


    การกลับห้องของฉันสร้างความตื่นตกใจให้นางกำนัลทั้งสองเป็นอย่างมาก    ฉันหันไปส่งยิ้มแห้งๆให้กับพวกเธอก่อนจะเปิดประตูเข้ามายืนเอ๋ออยู่ในห้อง


    เป็นถึงนักเรียนดีเด่นอุส่าห์มาเยือนยุคอดีตทั้งที    ฉันกลับทำได้แค่เดินไปเดินมา   แอบฟังคนนั้นคนนี้คุยกันไปทั่ว    แถมยังไม่รู้ว่าเป้าหมายของตนเองคืออะไร


    คลืดดดด

    ประตูเลื่อนถูกปิดเองโดยอัตโนมัติเรียกให้ฉันตื่นจากภวังค์    ก่อนจะหันไปโฟกัสแขกหน้าใหม่ที่มาเยือน


    จิ้งจอกดำหกหางเดินไปเดินมาอยู่ริมระเบียงห้องนอนของฉันก่อนจะกลายร่างเป็นชายที่ฉันรู้จัก


    “ชิโระไปไหน?”     คุณคุโระเป็นฝ่ายตั้งคำถาม    เขาเดินเข้ามาในห้องก่อนจะโบกพัดกระดาษในมือด้วยความร้อนรน


    “ไม่รู้ค่ะ    ตั้งแต่กลับมาฉันยังไม่เจอเธอเลย”


    ชายมีหูขมวดคิ้วเข้าหากันหลังจากได้ยินคำตอบของฉัน    ใบหน้าของเขาแสดงความเป็นกังวลจนเห็นได้ชัด    ฉันไม่รู้ว่าเขากังวลใจเรื่องอะไร    จึงทำได้แค่มองดูพวงหางนุ่มนิ่มสีดำด้วยความทึ่ง    สิ่งที่อยู่ตรงหน้าฉันคือจิ้งจอกญี่ปุ่นสีดำตัวเป็นๆเลยจ้า


    “มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ”   


    คุณคุโระส่ายหัวเบาๆแทนคำตอบก่อนจะยื่นดาบคาตานะสีดำมาตรงหน้าฉัน    ซึ่งมันเป็นดาบเล่มเดียวกับที่ปีศาจหนุ่มตนนั้นยกให้ฉัน


    หรือสิ่งนี่จะเป็น....การจองเวรจองกรรม! -_-


    “ของเจ้า”    น้ำเสียงของคุณคุโระอ่อนลงเล็กน้อย   เขาไม่ได้มองฉันแต่มองดาบที่ยื่นมาไม่วางตา


    ถ้าฉันบอกว่าเจ้าดาบเล่มนี้ไม่ใช่ของฉัน   มันจะกลับไปหาเจ้าของจัวจริงมั้ยนะ...


    แต่บางสิ่งมันบอกฉันว่า  ไม่!


    “ขอบคุณค่ะ”


    ฉันยอมรับดาบเล่มนั้นมาถือไว้แต่โดยดี   คุณคุโระก้มหัวให้ฉันเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเพื่อเตรียมจากไป   แต่ก่อนจะได้ก้าวขาพ้นระเบียงเขาก็วิ่งกลับมาหาฉันอีกครั้ง    คุณคุโระเอาพัดตีหัวตัวเองเหมือนพยายามนึกอะไรบางอย่าง    เขาถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะจ้องตาฉันด้วยท่าทางจริงจัง


    “วันนี้พระจันทร์เต็มดวง   เจ้าต้องเอาดาบเล่มนี้ไปยืนรับแสงจันทร์อยู่ริมระเบียง   ไม่ต้องถามเหตุผล....แค่ทำตามที่ข้าบอกก็พอ   เข้าใจนะ”


    ครึ่งมนุษย์ครึ่งจิ้งจอกเอ่ยย้ำด้วยท่าทีจริงจัง   แม้จะงงๆอยู่แต่ฉันก็พยักหน้าทำทีเป็นเข้าใจ


    “เอาดาบไปรับแสงจันทร์   เข้าใจแล้วค่ะ”    ฉันทวนคำเบาๆเพื่อให้คนตรงหน้าสบายใจ   แม้จะได้ยินเสียงถอนหายใจด้วยความโล่งอก    แต่สายตาของคุณคุโระก็ยังแฝงความเป็นกังวลอยู่เช่นเดิม   “.....แล้วคุณชิโระล่ะ   คุณจะไปตามหาเธอใช่มั้ย”


    คำถามของฉันเรียกให้ดวงตายาวรีคล้ายจิ้งจอกตวัดมามอง    คุณคุโระเดินเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นก่อนจะพูดอะไรบางอย่างเบาๆ


    “ทุกเหตุการณ์ผ่านไปต้องใคร่ครวญ   ทุกคนล้วนแตกต่างอำพลางกัน”


    ..........


    “ไม่รู้จักตัวจริงยิ่งยากทาย   ดีหรือร้ายต้องอาศัยใช้เวลา”


    เขาถอยออกไปก่อนจะก้มหัวให้ฉันอีกครั้ง    คราวนี้เขาคงไปแบบจริงๆจังๆ


    “ข้าขอตัวขอรับ....นายหญิง” 


    ฉันมองดูร่างจิ้งจอกญี่ปุ่นวิ่งอ้อมไปหลังปราสาทด้วยความกังวล    คุณคุโระกำลังวิ่งไปที่หลังห้องท่านไคโร   ซึ่งฉันรู้สึกว่ามันเป็นที่ที่ไม่ควรไปอย่างยิ่ง


    ไม่แน่ใจว่าบทกลอนที่เขาพูดหมายถึงใคร   ไม่น่าจะหมายถึงคุณชิโระ   แต่อาจหมายถึงใครบางคนที่อยู่รอบตัวฉัน


    อา...ให้ตายสิ   ฉันไม่ชอบเรื่องลับลมคมในนะยะ

     

    ตกค่ำเมื่อพระจันทร์ขึ้นแทนที่พระอาทิตย์....

    หลังจากทานข้าวเย็น   อาบน้ำและแต่งตัวจนเสร็จสรรพฉันก็ถือคาตานะสีดำเล่มนั้นมายืนที่ระเบียงก่อนจะชูมันสูงเท่าช่วงอกแล้วมองดูปฏิกิริยาต่อจากนี้


    แหม   ลืมถามซะได้    ว่าต้องทำแบบนี้กี่ชั่วโมง


    แต่พระจันทร์เต็มดวงของที่นี่ก็สวยไม่เบานี่นา   มีแสงดาวล้อมรอบ   ไม่มีแสงจากเครื่องบินหรือไฟตามถนนมารบกวนทัศนียภาพ   มีแต่ธรรมชาติแบบเพียวๆ


    บรรยากาศที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน    ฉันจะบอกให้นะว่าอากาศที่นี่แม้จะเป็นเวลากลางวันแต่มันก็ดูปลอดโปร่งกว่าบ้านฉันเป็นสิบเท่า   ส่วนเวลากลางคืนนะ....โคตะระหนาวเลย   อ๊ากกก!


    “เจ้ายอมทำตามที่ข้าสั่งจริงๆด้วย”


    เอ๊ะ!?!?!?!?


    ฉันหันไปตามเสียงพูดแสนคุ้นหูก่อนจะพบเข้ากับชายหนุ่มร่างโปร่งซึ่งกำลังนอนซุกตัวอยู่ในฟูกนอน(ของฉัน)


    ฉันยืนอ้าปากค้างด้วยความอึ้ง    ส่วนเขาก็ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้แถมยังฝังจมูกลงบนหมอนของฉันเพื่อสูดดมอะไรบางอย่าง


    ปีศาจอีกแล้วเหรอ?


    “ท่านมาทำไม....”    แถมยังแอบเข้ามาในห้องตอนไหนก็ไม่รู้!


    ฉันเดินเข้าไปในห้องก่อนจะวางดาบไว้ข้างๆคนที่นอนอยู่     แล้วถอยหลังไปนั่งชิดประตูระเบียงเพื่อเว้นระยะห่าง


    “มาหาคนสำคัญ     แต่.....ตอนนี้อยากนอนพักแล้ว”   เขาพูดเรียบๆก่อนจะหลับตาลง


    นี่มันเควสโดนจีบรึยังไง    แล้วฉันควรจะทำไงกับผู้ชายคนนี้ดีระหว่างห้าม + ไล่เขาออกไป    กับนั่งมองเขานอนไปเรื่อยๆจนกว่าจะเช้า


    ถ้าเลือกอย่างหลังมีหวังฉันได้อดหลับอดนอนทั้งคืนจนกลายเป็นหมีแพนด้าแน่ๆ    แล้วฉันก็จะไม่สวย!


    “ท่านปีศาจเจ้าคะ    ท่านจะนอนที่นี่ไม่ได้นะ”    ฉันทำเพียงแค่พูดกับเขา    ไม่กล้าโดนตัวอ่ะ   กลัวหลงเสน่ห์


    .....


    และแน่นอน    ว่าสิ่งที่ตอบกลับมาต้องเป็นความเงียบ


    “ท่านปีศาจ”   เสียงฉันแผ่วลงมากกว่าเดิม    โอ้ย  อยากจะร้องไห้   ตั้งแต่เกิดมาแม้แต่พ่อก็ไม่เคยเข้ามานอนในห้องฉัน    แล้วผู้ชายคนนี้   ผู้ชาย!!!


    ตะเกียงซึ่งทำหน้าที่ให้ความสว่างถูกลมแรงๆวูบหนึ่งพัดจนดับ   เสียงลมหวีดหวิวทำให้ฉันรู้สึกกลัวจนต้องคลานไปปิดประตูระเบียง    ผีกับปีศาจก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่    แต่ถ้าให้ฉันเลือกระหว่างผีหน้าเละแถมกลิ่นเหม็นเน่า   กับปีศาจที่นอนอยู่


    ฉัน....เลือกปีศาจก็ได้  T_T


    เปรี๊ยะ!

    เสียงเหมือนน้ำแข็งแตกทำให้ฉันหันไปโฟกัสประตูระเบียงอีกครั้ง    แสงจันทร์ทำให้ฉันรู้ว่าตอนนี้ประตูระเบียงกำลังถูกน้ำแข็งเกาะ    เกล็ดน้ำแข็งบางๆค่อยๆเคลื่อนเข้าปกคลุมด้านนอกช้าๆก่อนจะลามเข้ามาภายใน


    ชิบไก่แล้วไง....


    จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกเนี่ย!


    ฉันถอนหายใจยาวอย่างปลงๆ    และเพราะอากาศที่หนาวเหน็บลมหายใจของฉันจึงกลายเป็นควัน    ไหนตาลุงนั้นบอกว่าช่วงนี้เป็นฤดูแล้งไง   แล้วน้ำแข็งพวกนี้มันคืออารายเนี่ย!


    “จงคืนท่านปีศาจมา   นางมนุษย์ครึ่งเทพ   ท่านปีศาจ.....ท่านปีศาจเจ้าขา”


    วอท!


    เสียงโหยหวนเย็นยะเยือกของผู้หญิงดังแว่วเข้ามาราวกับสายลม   รู้ตัวอีกทีฉันก็ถอยหลังมาประชิดร่างที่นอนหลับตาพริมซะแล้ว


    หรือว่า     เมียตานี่จะมาตามแล้วเข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นเมียน้อย   โอ้ย!


    “ถึงเจ้าจะเป็นครึ่งเทพแต่ข้าก็ไม่กลัวเจ้าหรอก   ท่านปีศาจต้องเป็นของข้า   กายและใจของท่านต้องเป็นของข้าคนเดียว  ฮือ~    เสียงโหยหวนยังคงดังไม่หยุด   และดูเหมือนเธอจะร้องไห้ด้วย


    สรุปแล้วยัยนี่แค่มาตามหึงหวงใช่ป้ะ   หรือว่ามีเบื่องลึกเบื่องหลังอีก


    ฉันคว้าดาบมาถือไว้ก่อนจะชักออกจากฝักแล้วเตรียมเปิดประตู   เหตุผลหลักคือออกไปดูให้แน่ชัดว่ามีคนอยู่มั้ย   จะได้เคลียร์กันไปเลยว่าต้องการอะไร


    หมับ!

    มือใหญ่ยื่นมาคว้าข้อมือฉันไว้ก่อนจะดึงให้นอนลงบนฟูก   ซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่สามารถสู้แรงอันมหาสารของเขาได้    ปีศาจหนุ่มเคลื่อนตัวมาทาบทับร่างของฉันพร้อมกับกดข้อมือฉันให้แนบลงกับฟูกนอน


    “นางตามข้าอยู่   ช่วยหน่อยสิ”   เขาจ้องตาฉันพร้อมกับเอ่ยเรียบๆ   


    ไม่มีท่าทีขอร้องเลยสักนิด    เขาน่าจะขอร้องฉันนะ


    “ภรรยาท่านไม่ใช่เหรอ   เธอมาตามขนาดนี้....ท่านก็ไปซะสิ”    ฉันไม่ได้ตั้งใจจะใช้น้ำเสียงหงุดหงิดคุยกับชายคนนี้นะ   แต่มันเผลอทำไปแล้ว


    “ข้ายังไม่มีภรรยา”   ท่านชิราคาวะหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะก้มใบหน้าลงมาใกล้ฉันเรื่อยๆจนกระทั้งจมูกของเราชนกัน


    ฉันแทบหยุดหายใจเพราะถูกริมฝีปากเรียวบางเคลื่อนเข้ามาทาบทับเเถมยังบดขยี้เบาๆราวกับกำลังกลืนกินฉันไปทั้งตัว   จูบของเขาทั้งอ่อนนุ่มและแผ่วเบา   ให้ความรู้สึกเหมือนเวลากินสายไหม


    ในขณะที่ฉันกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวาม    เสียงเย็นยะเยือกของผู้หญิงคนนั้นก็หวีดร้องขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ


    “ข้าก็อยากประกบปากกับท่าน    ข้าทำได้ดีกว่านางด้วยซ้ำ”


    เธอพูดอะไรอยู่เนี่ย   O///O


    “ข้าก็งดงามมิด้อยไปกว่านาง....”


    ริมฝีปากของท่านชิราคาวะคลี่ยิ้มบางยามมองดูใบหน้าแดงก่ำของฉัน    เขาหันไปมองพื้นไม้บริเวณที่มีน้ำแข็งเกาะก่อนจะเอาดาบสีดำที่วางอยู่เคาะบริเวณนั้นเบาๆประมาณสองสามที    เพียงไม่นานนักน้ำแข็งพวกนั้นก็เคลื่อนกลับไปด้านนอกตามเดิม


    “ใจข้ามีแค่นาง”


    คำตอบของเขาทำให้ฉันต้องเบื่อนหน้าหนีด้วยความเขินอาย    และแน่นอนว่าปีศาจสาวตนนั้นก็คงจะช้ำใจพอสมควร    เกล็ดน้ำแข็งเริ่มมลายหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น


    ตอนนี้เธอหายไปแล้ว    ส่วนฉันยังไม่เป็นอิสระ


    เขาชอบฉันเนี่ยนะ   ผู้ชายหล่อขนาดนี้    


    ฉันเถียงกับตัวเองในใจ   พอรู้ตัวอีกทีปีศาจตนนี้ก็ลุกขึ้นมานั่งข้างๆฟูกนอนของฉันแล้ว    เขาห่มผ้าให้ฉันก่อนจะนั่งจ้องอยู่แบบนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ    ส่วนฉันก็ทำทีเป็นหลับทั้งที่หัวใจเต้นแรงจนจะระเบิดออกมา


    “นี่คาราสึเท็งงู   ผู้หญิงชอบกาพย์ชอบกลอนใช่หรือไม่”    เสียงทุ่มกระซิบกระซาบแผ่วเบาราวกับมีใครอีกคนอยู่ในห้อง


    “นะ....น่าจะใช่นะขอรับ”   เสียงตอบกลับของปีศาจมีปีกที่ฉันเคยพบเมื่อวันก่อนดังมาจากนอกห้อง


    “แต่งให้หน่อยสิ”


    -_-^   ควรจะแต่งเองป่าวฟ้ะ   จะจีบหญิงทั้งทีไม่ลงทุนเอาซะเลย   


    ฉันพลิกตัวไปทางอื่นเพื่อหลบเลี่ยงสายตาเรียวคมของเขา    โอ้ย   อยากนอนลืมตาจะตายชัก


    “อ้อ....ไม่ต้องแล้ว   นางอยากให้ข้าแต่งเอง”


    O_O   อ่านใจฉันออกด้วยเรอะ


    “ดูพิรามยามชมภิรมย์ร่า   งามกว่าฟ้างามกว่าดาวประพาขวัญ”


    .......


    เขาเงียบไปนานทีเดียวจนฉันแทบหยุดหายใจเพราะความตื่นเต้น    อยากรู้ว่าจะมีอะไรต่อ   โบราณจังเนอะมาจีบกันด้วยกลอน    เอ่อ...แต่นี่ก็ยุคโบราณนี่หว่า


    “นางหลับแล้วขอรับท่านชิราคาวะ   บทกลอนของท่านคงต้องเก็บไว้แค่นี้   เรากลับปราสาทกันเถิด”   คาราสึเท็งงูบอกนายของตน


    ฉันยังไม่หลับว้อย   และอยากฟังต่อ!


    “คืนนี้ข้าจะนอนกับนาง”


    “ขอรับ”


    นอนกับฉัน!   เขาหมายถึงแค่นอนเฝ้าใช่มั้ย


    ..................................................................



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×