ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่หมั้นตัวร้ายขอหนีไปปราบปีศาจ!

    ลำดับตอนที่ #5 : องก์ที่ 5 : โยสึซึเมะวิหคยามราตรี

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 64



    องก์ที่ 5


    จ๋อม....


    เสียงเดินหยุดลงชั่วขณะราวกับว่าบุคคลผู้นั้นกำลังพบเจอกับอะไรบางอย่าง    ฉันหลับตาลงพลางผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆด้วยความกลัว     แม้นี่จะไม่ใช่ร่างจริงของฉันแต่เมื่อวิญญาณมาอยู่ในร่างนี้มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอับอายและหวงเนื้อหวงตัว


    “ความมืดมิด....งั้นเหรอ”   เสียงทุ่มอันแสนคุ้นเคยพึมพำออกมาเบาๆราวกับพูดกับตัวเอง    ฉันจำน้ำเสียงนี้ได้ดีเพราะเจ้าของเสียงคืออีตาคู่หมั้นของฉันเอง -_-


    โอ้ยจะบ้าตาย    หมอนี้เข้ามาทำอะไรในนี้ฟ้ะ    ไม่รู้รึไงว่าฉันใช้งานอยู่   หรือว่าคุณชิโระไม่ได้อยู่หน้าห้องน้ำแล้ว?    ถ้าฉันเดินออกไปมีหวังหมอนี้ได้เห็นร่างกายของฉัน(เอ่อ...หมายถึงของมิซึกิ)จนหมดไส้หมดพุงแน่ๆ    แล้วเขาก็จะหลงรักฉันหัวปักหัวปำเพราะเวลาเปียกฉันดูเซ็กซี่มากกกกก~


    “ชู่ว~  ท่านมิซึกิ”    น้ำเสียงเย็นเฉียบของผู้หญิงคนหนึ่งกระซิบเบาๆอยู่บริเวณข้างหูของฉันราวกับเป็นเสียงจากความมืด


    ฉันไม่กล้าลืมตาขึ้นมองรู้สึกแค่ว่าหินที่ทับอยู่บนฝ่ามือมันลอยขึ้นไปวางอยู่ที่เดิมราวกับมีใครบางคนยกมันขึ้น    บอกตรงๆว่าเป็นการยกหินที่เงียบที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเลยล่ะ


    “ลืมตาขึ้นเถอะเจ้าค่ะ   ดิฉันจะช่วยท่านเอง”     น้ำเสียงโทนเดิมยังคงพูดคุยกับฉันราวกับว่ามีแค่เราสองคนเท่านั้นที่จะได้ยินเสียงของกันและกัน


    ฉันจะลืมตาดีมั้ยวะ?    อา...แต่หวังว่าเวลาลืมตาฉันจะไม่จ้ะเอ๋เข้ากับหนอนน้อยของชินเมียวมารุพอดีนะ    โอ้ยเธอคิดอะไรอยู่เนี่ยยัยแพนเจีย    ทำไมเธอถึงได้ลามกแบบนี้!!!


    โอเคฉันจะลองลืมตาขึ้นก็ได้  ฮึบ!


    “อะ!   ฉันร้องออกมาเบาๆยามเห็นว่าคนตรงหน้าคือใครหรือตัวอะไร(???)


    “อย่าส่งเสียงดังกว่านี้เจ้าค่ะ....อำนาจภูตของดิฉันไม่ได้แข็งกล้าขนาดนั้น”  


    หญิงสาวผมสีดำยาวถึงกลางหลังเอ่ยขึ้นพลางใช้นิ้วชี้จรดริมฝีปากของตนเพื่อเป็นเชิงบอกให้ฉันเงียบ    เธออยู่ในชุดออกรบของผู้หญิงซึ่งเป็นกางเกงขาสามส่วนและเสื้อฮะกะมะคล้ายกับของผู้ชาย   ที่แปลกคือเธอมียันต์พันรอบตัวแถมยังมีปีกสีดำอยู่ข้างหลัง!!!


    “เธอ.....เธอเป็น.....ปะ....ปีศาจ”


    “อย่ากลัวเลยเจ้าค่ะ   ดิฉันมาเพื่อช่วยผู้หญิงของนายท่าน  เอ้ย! ท่านหญิง”   หญิงสาวขยี้หัวตัวเองราวกับว่าเผลอพูดสิ่งไม่ควรออกมาก่อนจะจับที่หน้าอกเหมือนพยายามทำจิตใจให้สงบลง


    ฉันขมวดคิ้วให้กับคำพูดของปีศาจสาวตรงหน้า   มัวแต่งงจนลืมไปว่าตนเองกำลังโป๊อยู่   อ๊ากกกก!   พอเห็นว่าฉันยกมือขึ้นปิดหน้าอกกับส่วนนั้น   ผู้หญิงตรงหน้าก็รีบเอากิโมโนสีขาวซึ่งก่อนหน้านี้ฉันเอาวางไว้ที่ขอบสระมาคลุมให้ฉัน


    “ขอบใจ....เอ่อ...หมายถึงขอบคุณ”  


    “ไปกันเถอะเจ้าค่ะ”   


    ฉันพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะยืนขึ้นแล้วหันไปยังทิศทางของประตูเพื่อหวังจะเดินออกไป    แต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้น(ของท่านหญิงมิซึกิ)กำลังยืนนิ่งคล้ายกับติดอยู่ในห้วงของอะไรบางอย่าง   ยังดีนะที่สมัยนี้มีกางเกงในใส่ไม่งั้นตาฉันคงบอดแน่ๆ


    ถ้าฉันเดาไม่ผิดอาการแบบนี้ต้องเป็นฝีมือของหญิงสาวคนนี้แน่ๆ    เธอเป็นภูตอะไรกันนะ


    คลืดดดด


    ฉันเปิดประตูอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้    ก่อนจะค่อยๆคลานออกมาจากห้องช้าๆแล้วรีบปิดประตูไว้เช่นเดิมก่อนจะเดินตรงดิ่งไปตามทางเพื่อกลับห้องของตน


    ในที่สุดฉันก็ออกมาจากออนเซนนรกนั้นจนได้   เฮ้อออออออออ~


    “ดิฉันไปแล้วนะเจ้าคะท่านมิซึกิ....”    เสียงเย็นเฉียบที่ลอยมาตามลมเรียกให้ฉันหยุดเดินแล้วหันไปมองบริเวณกำแพงปราสาท


    เธอคนนั้นกำลังยืนอยู่บนกำแพงของปราสาท   ปีกสีดำกางออกเพื่อเตรียมพร้อมจะบินไปไหนสักแห่ง   ปีกนั้นคล้ายกับปีกของนกกระจอกไม่มีผิด


    “เดี๋ยวก่อนสิ    เธอชื่ออะไรเหรอ?”    ฉันเอ่ยถามเสียงไม่ดังนักเพราะกลัวคนอื่นจะเดินมาดู


    “โยะ.....โยสึซึเมะเจ้าค่ะ”   


    ปีศาจโยสึซึเมะ.....ฉันเคยอ่านเจอเรื่องราวของปีศาจชนิดนี้ในกระทู้หนึ่งในเน็ต   


    เธอคือปีศาจที่มีความสามารถในการทำให้คนตาบอดได้ชั่วขณะหนึ่ง   ว่ากันว่าถ้าถูกปีกสีดำนั้นเข้าภาพเบื่องหน้าจะมืดสนิทไปเลย    เป็นปีศาจที่คอยทำให้คนที่เดินทางตอนกลางคืนตามืดมัวจนต้องเดือดร้อน......ถ้ากลัวความมืดก็เท่ากับว่ากลัวโยสึซึเมะ


    “แล้วทำไมถึงมาช่วยฉันล่ะ”    คือแบบว่าฉันไม่รู้จักเธอสักนิด    แล้วเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่ง


    คือเธอเป็นปีศาจจจจจจจ!!!!!


    “....เพราะท่านเป็นคนสำคัญ”   เธอตอบเรียบๆก่อนจะบินหายเข้าไปในความมืดมิดของรัติกาล


    ฉันเนี่ยนะ?    คนสำคัญ


    มีแต่คุณพ่อคุณแม่และคนที่อยู่ในโรงเรียนเท่านั้นที่เห็นฉันเป็นคนสำคัญ    ส่วนคุณปู่คุณย่าและคนอื่นๆในครอบครัวมักจะเห็นฉันเป็นส่วนเกินอยู่เสมอ    แม้ว่าฉันจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดแล้วก็ตาม   แต่พวกท่านก็ไม่เคยชื่นชมฉันเลยสักครั้ง    หากเป็นเด็กคนอื่นเจอพฤติกรรมแบบนี้เข้าไปคงกลายเป็นเด็กมีปมหรือไม่ก็กลายเป็นบ้าไปแล้ว


    พอเข้าไปในห้องนอนฉันก็เห็นคุณชิโระนั่งรออยู่ก่อนแล้ว    เธอยิ้มให้ฉันราวกับว่ามีความสุขเอามากๆ   ส่วนฉันก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอดี    เพราะมีหลายอย่างที่เธอมำให้ฉันอารมณ์เสีย


    อารมณ์เสียเรื่องอะไรงั้นเหรอ    อา....ก็อย่างเช่นเรื่องที่เธอทิ้งฉันไว้ในห้องน้ำไงล่ะ


    “โอเคกับการอาบน้ำมั้ยคะ”    เธอถามขึ้นทำให้ฉันต้องละสายตาจากการปูฟูกนอนไปมองเธอแทน


    พยายามยิ้มสุดๆอ่ะ  ^_^


    “ทำไมคุณชิโระถึงมาอยู่ที่นี่เหรอคะ?”     ฉันจงใจถามจี้จุดพร้อมกับยิ้มให้เธอเพื่อกลบเกลื่อน   หึๆ  ดูสิจะแถว่าอะไร


    “ดิฉันไปเอามันจูมาให้คุณหนูค่ะ”    คุณชิโระว่าพลางผายมือไปที่โต๊ะกินข้าวเล็กๆซึ่งมีมันจูวางอยู่


    นี่มันอาหารรอบดึกสุดอันตราย      กินไปฉันต้องอ้วนแหงๆ


    “ท่านชินเมียวมารุเข้าไปที่บ่อน้ำพุร้อนค่ะ    ไหนคุณชิโระบอกว่าที่นั้นเป็นแบบส่วนตัวไงคะ”    ถามจี้จุดก๊อกสองอย่างไม่น่าให้อภัย


    “ก....เกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างคะคุณหนูแพนเจีย”   เธอถามพร้อมกับทำสายตาเป็นประกาย


    “ไม่เกิดเรื่องค่ะ    แค่เกือบเกิดเท่านั้น”   ฉันเลี่ยงที่จะไม่พูดเรื่องปีศาจโยสิซึเมะเพราะเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจใครอีกแล้ว


    ฉันนอนลงบนฟูกก่อนจะเอาผ้าห่มคลุมตัวเหลือไว้เพียงส่วนหัวเท่านั้นที่โผล่ออกมา     คุณชิโระเดินไปค้นตู้เล็กๆตรงมุมห้องก่อนจะหยิบกิโมโนมาวางข้างๆฉัน


    “เวลากลางคืนมันหนาวค่ะ”


    “ขอบคุณค่ะคุณชิโระ”   


    ฉันลุกขึ้นมายืนนิ่งเพื่อให้คุณชิโระสวมชุดกิโมโนให้และเมื่อแต่งตัวจนเสร็จสรรพฉันก็กลับไปนอนตามเดิม    ฉันไม่มีเรื่องราวในอดีตให้คิดถึงมากนัก      อดีตที่สวยงามของฉันมันมีไม่กี่เรื่องหรอก   ส่วนมากจะเป็นช่วงเวลาที่ฉันอยู่กับแม่หรือไม่ก็พ่อ


    “ในฐานะท่านหญิงมิซึกิคุณหนูควรจะให้ความสำคัญกับท่านชินเมียวมารุให้มากๆนะเจ้าคะ”   อยู่ๆคนที่นั่งอยู่ก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบของยามราตรี


    “คะ?”    ฉันลืมตามองคุณชิโระพร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความงง  


    คุณชิโระอยากให้ฉันสร้างความสัมพันธ์กับคู่หมั่นที่ไม่เคยสนใจกันเนี่ยนะ    เพื่อ?


    “บางทีการที่คุณหนูจะกลับโลกปัจจุบันได้.....อาจจะต้องมี   เอ่อ....ความรักกับคนยุคนี้”   คุณชิโระพูดพร้อมกับก้มหน้างุด   “แล้วดิฉันก็คิดว่าถ้าเป็นท่านชินเมียวมารุน่าจะดูเป็นไปได้มากที่สุดนะคะ   เพราะว่าทั้งสองคนเป็นคู่หมั้นกัน”


    “.......”


    ฉันเงียบไปอึดหนึ่งเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี   เอาตรงๆคือฉันก็ไม่ได้อยากกลับไปยุคปัจจุบันสักเท่าไหร่    เพราะไม่รู้จะใช้ชีวิตยังไงในโลกที่มีแต่คนเกลียด     แต่ฉันก็ไม่ได้อยากลำบากอยู่ที่ยุคนี้


    ขอแค่ได้แม่กลับมา....ต่อให้ต้องอยู่ยุคไหนฉันก็ยอม


    “พระเจ้าบอกว่าถ้าคุณหนูทำให้คนยุคนี้หลงรักสำเร็จ    เมื่อไปยุคปัจจุบันท่านจะให้พรเพิ่มหนึ่งข้อค่ะ”


    “หมายถึงให้ฉันขออะไรก็ได้ใช่มั้ยคะ”   ฉันถามย้ำด้วยตาที่เป็นประกายแห่งความหสัง


    “ค่ะ”


    แบบนี้สิถึงจะคุ้มแก่การปฏิบัติ


    “งั้นฉันจะเริ่มภารกิจจีบหนุ่มเองค่ะ”


    ฉันประกาศต่อหน้าตุณชิโระทำเอาเธออึ้งจนทำอะไรไม่ถูก    เเต่ฉันก็ไม่ได้อธิบายอะไรให้เธอฟังเพราะตอนนี้ง่วงมากๆ    เธอนั่งอ้ำอึ้งอยู่นานพอสมควรก่อนจะปิดไฟแล้วเดินออกจากห้องของฉันเพื่อไปพักผ่อนที่ห้องของเธอ


    หลักการจีบผู้ชายมาทำหลัว


    ต้องกีดกันสาวๆคนอื่น!


    และต้องทอแหลเก่ง.....


    หึ   แต่ฉันออกจะสวย   รวย   เริด   แถมยังมีผมสีขาวพราวเสน่ห์ขนาดนี้    มีเหรอที่พวกผู้ชายจะไม่เหลียวแลและหันมาดูแลหัวใจฉัน    หึ  ภารกิจนี้มันโครตง่ายสุดๆไปเลย    พระเจ้าเอาสมองซีกไหนคิดวะ


    ........................................................


    เราจะค่อยๆจูงเรือออกมาให้เลือกทีละลำนะเจ้าคะ   มีทั้งเรือมนุษย์เเล้วก็เรือ  เเคกๆ (555+)    


    เเพนเจียหรือมิซึกิ  &  ท่าน.....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×