ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่หมั้นตัวร้ายขอหนีไปปราบปีศาจ!

    ลำดับตอนที่ #6 : องก์ที่ 6 : ดวลธนูกับยัยมารหัวใจ(???)

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 64



    องก์ที่ 6

    เช้าวันนี้อากาศของที่นี่ดูแจ่มใสกว่าทุกวัน


    ตั้งแต่มาถึงฉันพบคนสำคัญแค่สองคนเท่านั้นคือท่านหญิงวาคะนะซึ่งเป็นแม่แท้ๆของคุณคู่หมั้นสุดหล่อ   และชินเมียวมารุหรือก็คือชายผู้เป็นคู่หมั้นของฉัน   แต่น่าแปลกที่ไม่พบพ่อของเขาเลย   ฉันรู้มาจากคุณชิโระว่าท่านเป็นซามูไรที่รวบรวมแคว้นได้กว้างขวางที่สุดในแถบนี้และเป็นชายที่น่ากลัวที่สุดเลยก็ว่าได้   ชื่อของท่านคือ  มาซามุเนะ  ไคโร


    นอกกำแพงปราสาทดูครึกครื้นกว่าด้านในซะอีก   ชาวบ้านในยุคนี้ทำไร่ทำนา   เลี้ยงวัวเลี้ยงม้าเหมือนกับที่ที่ฉันเคยอยู่    แต่ด้วยความที่ว่าเป็นยุคแห่งสงครามบางบ้านจึงมีแต่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งให้ใส่   ขนาดอาศัยอยู่แถบปราสาทยังขาดแคล้นถึงเพียงนี้แล้วพวกที่อยู่ไกลออกไปความเป็นอยู่จะเป็นยังไงกันนะ


    ฉันละสายตาออกจากด้านนอกก่อนจะก้าวไปตามทางเดินซึ่งเป็นพื้นหญ้านุ่มนิ่มเพื่อหวังจะสำรวจหลังปราสาทแก้เครียด   คุณชิโระเธอหายไปไหนก็ไม่รู้ส่วนท่านน้าวาคานะก็เอาแต่นั่งสวดมนต์อยู่ในห้อง    วันนี้ชีวิตของฉันมันก็เลยน่าเบื่อเป็นพิเศษ


    เคร้งเคร้ง!!!

    เสียงดาบกระทบกันดังออกมาจากบริเวณหลังปราสาทซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของฉัน   ฉันรีบขึ้นจากพื้นดินไปที่ทางเดินซึ่งปูด้วยแผ่นไม้เพื่อจะได้เห็นชัดๆว่าบริเวณนั้นเขาทำอะไรกัน


    “เกนบุใส่มาให้เต็มที่ไม่ต้องออมมือ”   เสียงทุ่มแฝงอำนาจของชินเมียวมารุตะโกนขึ้นลั่นบริเวณทำเอาคนอื่นๆสะดุ้งด้วยความตกใจ


    “ขอรับนายน้อย”    คู่ซ้อมดาบที่ชื่อว่าเกนบุรับคำก่อนจะง้างดาบกระโจนใส่นายน้อยของตน


    ชินเมียวมารุกำลังซ้อมดาบอยู่กับองครักษ์ชายร่างโตที่ฉันเคยพบเมื่อครั้งมาอยู่ที่นี่แรกๆ   ไม่ใกล้ไม่ไกลนักก็มีทหารสี่คนกำลังซ้อมดาบอยู่เช่นกัน


    “ย้าก!!!


    เคร้ง!

    พวกเขาแทบตะโกนออกมาพร้อมกันยามที่คมดาบปะทะกันแบบซึ่งๆหน้า    ฉันได้แต่ยืนมองพลางคิดแผนการที่จะทำให้ฉันได้คุยกับชินเมียวมารุ   อ่อยผู้ชายแบบเนียนๆเค้าทำกันยังไงนะ    ถ้าจะให้เลียนแบบนางร้ายในละครหลังข่าวฉันว่าอีตาชินเมียวมารุจับได้ชัวร์ๆ   เเล้วหมอนั้นก็จะรู้ว่าฉันต้องการจะทำอะไรกับเขา   อ๊ากกก!


    หรือว่าจะจับดาบแล้วโชว์สกิลเทพไล่ฟันหมอนี่เลยดีป้ะ   อึ้ย....มีหวังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเละเป็นศพแน่ๆ


    “แฮก....พะ....แพ้นายน้อยอีกจนได้”    เสียงหอบของเกนบุทำให้ฉันตื่นจากภวังค์    ตอนนี้ผลแพ้ชนะออกมาแล้ว   


    ดาบของชินเมียวมารุจี้อยู่ที่คอหอยขององครักษ์คนนั้นก่อนที่เขาจะเก็บดาบลงแล้วหันมาทางฉันที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลนัก


    ชิบหายล้ะ


    “ทะ....ท่านมิซึกิ”   เกนบุที่นั่งลงกับพื้นหญ้าเป็นฝ่ายเอ่ยทักฉัน


    ส่วนคู่หมั้นอย่างชินเมียวมารุกลับมองฉันแค่แวบหนึ่งก่อนจะเดินมานั่งดื่มน้ำโดยไม่หันมามองอีกเลย   ใจร้ายวะ...แต่ฉันไม่แคร์    ฉันจะสวมบทนางร้ายสายอ่อยแล้วไปนั่งอยู่ข้างหมอนี่เอง


    “นายน้อย”   


    น้ำเสียงหวานแต่แฝงความแข็งแกร่งเอาไว้เอ่ยเรียกคนที่นั่งอยู่    ทำให้ขาของฉันที่กำลังจะก้าวไปนั่งข้างชินเมียวมารุหยุดลงแค่นั้น


    หญิงสาวในชุดฮะกะมะของผู้หญิงวิ่งเหยาะๆมาตรงหน้าชินเมียวมารุก่อนจะนั่งลงข้างๆเขา(ซึ่งเป็นท่าที่หันหลังให้ฉัน)    ฉันแทบอ้าปากค้างเพราะยังงงๆกับสถาการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น   เธอคนนี้....เป็นใครมาจากไหนอ่ะ


    “ซ้อมธนูเป็นไงบ้างเฮียวโกะ”    เขาเอ่ยถามหญิงสาวผู้นั้นราวกับสนิทสนมกันมากๆ


    “ฝีมือยังอ่อนด้อยเหมือนเดิมค่ะ”


    “ฮื่ม....ผู้หญิงที่นี่ล้วนสู้รบเป็นทั้งนั้น   แล้วผู้หญิงที่อื่นจะทำอะไรเป็นสักอย่างมั้ยนะ”    เสียงทุ่มเอ่ยเรียบๆแต่ถ้อยคำเหมือนจะเหน็บแนมฉันทางอ้อม


    “ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงล้วนเก่งเรื่องงานฝีมือกันทั้งนั้น  คงมีแต่ดิฉันเท่านั้นที่ทำไม่เป็น”    เฮียวโกะเอ่ยด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสาจนฉันรู้สึกหมั่นไส้เธอแปลกๆ


    จ๊ะฉันเก่งทุกเรื่องอยู่แล้ว(ทำท่าทางภูมิใจ)


    เกนบุรีบนอนแผ่ลงบนพื้นทันทีเมื่อเห็นว่าฉันตวัดสายตาสุดสยองไปมอง   อันที่จริงฉันไม่ได้ตั้งใจจะมองเขาสักนิด   ฉันแค่มองดูรอบๆบริเวณนี้เพื่อหาเป้ายิงธนูเท่านั้น   ซึ่งมันก็ตั้งอยู่บริเวณที่เฮียวโกะวิ่งมา    


    ที่นี่ใช้แค่แผ่นไม้วางเรียงกันเป็นแน่วยาว   โดยมีผ้าสีแดงเล็กๆติดอยู่ที่กลางไม้เพื่อทำหน้าที่เป็นเป้า


    “ที่นี่อากาศดีมากเลยนะคะ   โอ๊ะมีที่ฝึกยิงธนูด้วย”   ฉันเดินไปพูดไปจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าชินเมียวมารุ   ก่อนจะหันไปมองเป้ายิงธนูแล้วแกล้งเอามือปิดปากเหมือนตกใจมากที่เห็นมัน   คิดได้ไงวะเนี่ย -_-


    “ท่านมิซึกิเคยลองยิงธนูมั้ยคะ”   


    นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นใบหน้าของเฮียวโกะชัดๆ   เธอเป็นผู้หญิงตาชั้นเดียวมีคิ้วเข้มแต่ไม่โก่ง    ผิวไม่ขาวมากแต่ก็ไม่ถึงกับดำ   คงเพราะต้องทำงานตากแดดอยู่ตลอดเวลา   ผมของเธอถูกรวบขึ้นโดยมีหมวกทรงสูงแบบซามูไรใส่ทับไว้อีกที    เธอดูสวยแบบเท่ๆเหมือนสาวห้าวเป้งอะไรแบบนี้


    “เคยค่ะตอนที่อยู่กับท่านพ่อ  ฉัน  เอ้ยข้าก็ฝึกยิงธนูอยู่เป็นประจำ”   โกหกหน้าตายแบบสุดๆ   ฉันอยากเอาชนะอีตาคู่หมั้นคนนี้ซะจริงๆ   ดูสิถ้าเห็นความสามารถของฉันเขาจะพูดว่าอะไร


    “งั้นเรามาแข่งกันสักครั้งมั้ยเจ้าคะ”   เฮียวโกะพูดพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนโยนให้ฉัน


    เธอชวนเองนะยะ  หึๆๆ


    “อื่ม   ดีจังได้มาประมือกับองครักษ์หญิงของท่านชินเมียวมารุ ^_^”   ฉันแสร้งยิ้มเหมือนเด็กอนุบาลได้ลูกอม   เพื่ออ่อยผู้ชายและสร้างมิตรภาพกับเฮียวโกะ


    “ใช้ธนูหนึ่งดอกนะเจ้าคะ   เล็งไปที่ตรงกลางของเศษผ้าเล็กๆสีแดงนั้นแล้วปล่อยมือเลย”


    รู้แล้วน่า -_-   พูดมากจริง   เป้าเล็กกว่านี้ฉันก็เคยยิงมาแล้วย่ะ  ไม่อยากจะโม้


    “จ๊ะ ^_^   งั้นเฮียวโกะเริ่มก่อนเถอะ”   


    มิตรภาพเกิดจากรอยยิ้มเเละความทอเเหล  อิๆ


    กิโมโนของฉันมันหนักกว่ายัยเฮียวโกะตั้งหลายกิโลเพราะฉันดันใส่มาตั้งสิบสองชั้น    แถมผมยาวๆยังทำให้ฉันเคลื่อนตัวได้ช้ากว่าปกติ   แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่ฝึกยิงธนูมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ


    ฉันมองดูเฮียวโกะตั้งท่ายิงธนูด้วยท่าทางตื่นเต้น(แกล้งทำจ้า)   พลางเหล่มองชินเมียวมารุที่จับจ้องมายังฉันด้วยสายตาดูถูกดูแคลน   เฮอะ!   โนแคร์ย่ะ


    ฉึก!

    เสียงลูกธนูพุ่งฝ่าอากาศปักเข้าที่เศษผ้าเล็กๆนั้น    ดูก็รู้ว่าเธอมีแรงแค่นิดเดียวเพราะลูกธนูมันเข้าไปในเนื้อไม้ไม่ถึงหนึ่งเซนด้วยซ้ำ   นึกภาพแผ่นไม้ผุๆออกป้ะ    ทำไมถึงยิ่งเข้าไปได้แค่นั้นทั้งที่ลูกธนูควรจะพุ่งทะลุไม้    เฮียวโกะทำท่าทางจะวิ่งไปเก็บแต่ฉันร้องห้ามไว้ซะก่อน


    “ไม่เป็นไร  ไม่ต้องเก็บหรอก”   ฉันพูดซ้ำก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้ชินเมียวมารุที่นั่งดูอยู่    แล้วเริ่มโก่งสายธนูพร้อมทั้งเล็งหัวลูกศรไปที่ลูกศรของเฮียวโกะ


    แม่จะผ่าลูกธนูให้ดูนะจ้ะ


    ฉันสายตาดีตั้งแต่เด็กเพราะไม่เคยเล่นสื่อดิจิตอลเกินครึ่งชั่วโมง(อันที่จริงคือฉันไม่มีโทรศัพท์เพราะโดนยัยนิวเคลียร์ขโมยไปโยนลงน้ำ)    แถมยังหูดีมากๆเพราะทุกๆวันต้องไปแอบฟังแม่ใหญ่(หรือก็คือคุณหญิงใหญ่ของบ้าน)คุยกับลูกสาวของเธอเรื่องแผนการกำจัดฉันออกจากตระกูล


    หึ   แต่ก็ต้องขอบคุณพวกเขาที่ทำให้ฉันเติบโตขึ้นเป็นเด็กที่พร้อมสู้กับโลกภายนอก


    ฟึบ

    ลูกธนูของฉันพุ่งฝ่าอากาศไปผ่าลูกธนูของเฮียวโกะจนแยกออกเป็นสองส่วนจบด้วยการทะลุเนื้อไม้ผุๆไปตั้งครึ่งนึง    นี่ขนาดใส่กิโมโนรุ่มร่ามนะยะ  วะฮาฮ่า!


    แปะๆๆ


    “ท่านมิซึกิเก่งมากเลยค่ะ”  เธอปรบมือให้ฉันด้วยท่าทางสุขุม  ส่วนฉันก็หันไปยิ้มให้เธอเหมือนเช่นเดิม


    สายตาของชินเมียวมารุดูจะอ่อนลงบ้างเล็กน้อย   เขาลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปซ้อมดาบกับเกนบุ   ส่วนคนอื่นๆที่มาซ้อมยิงธนูก็กล่าวชื่นชมฉันกันใหญ่จนอดนึกถึงพวกเพื่อนๆในชมรมยิงธนูไม่ได้


    ป่านนี้คงมีความสุขอยู่สินะ


    ไอ้พวกบ้าเอ้ย   ฉันคิดถึงพวกเเก~


    “ท่านมิซึกิดิฉันเป็นห่วงแทบแย่เลยเจ้าค่ะ  อย่าเดินออกจากห้องโดยลำพังอีกนะเจ้าคะ”    คุณชิโระที่วิ่งหน้าตั้งมาจากภายในปราสาทรีบก้มลงสำรวจร่างกายฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความเป็นห่วง


    “ข้า....เอ่อ  ขอโทษค่ะชิโระ”   


    “ไปกันเถอะค่ะ  ท่านวาคานะกำลังเรียกหาท่าน”   


    ฉันพยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบก่อนจะเดินตามคุณชิโระไปแบบเงียบๆ   เธอพาฉันเดินแยกมาอีกทางก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของท่านน้า


    คลืดดดด


    “มาแล้วเจ้าค่ะ”    คุณชิโระเปิดประตูออกนิดๆก่อนจะเอ่ยบอกคนที่อยู่ภายใน


    “เข้ามาได้”  


    เมื่อได้ยินเสียงนุ่มละมุนของท่านวาคานะคุณชิโระก็รีบพาฉันเข้าไปข้างในทันที    ท่านน้ายังคงนั่งสวดมนต์อยู่เช่นเดิมเมื่อเห็นว่าฉันเขามาเธอจึงลืมตาขึ้นแล้วนั่งหันหน้ามาทางฉัน


    “ท่านน้าเรียกข้ามามีอะไรเหรอคะ”    ฉันเปิดบทสนทนาด้วยการถามออกมาเบาๆ


    “น้าก็แค่เป็นห่วงไม่อยากให้หลานเดินไปไหนมาไหนคนเดียว”   ท่านวาคานะยืนมือมาลูบหัวฉันด้วยความอ่อนโยน  “มาเถอะ   มาสวดมนต์กับน้า”


    “...ค่ะ”  


    ฉันจำใจทำตามคำสั่งเพราะไม่อยากให้ท่านต้องผิดหวัง    ก่อนจะพนมมือขึ้นแล้วหลับตาลงต่อหน้ารูปปั้นของเทพีอะไรบางอย่าง    อย่าบอกนะว่าฉันต้องทำแบบนี้ตลอดทั้งวันอ่ะ   ไม่นะๆ

     

    ...........................................................................

    จะพยายามลงนิยายทุกวันให้ได้ค่ะ   เเต่งสดอัพสดผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะจ้ะ T_T
    เอ่อ....แล้วก็อีกเรื่อง    ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ~  ไอเลิฟยู    นักอ่านทุกคน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×