คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : องก์ที่ 6 : ดวลธนูกับยัยมารหัวใจ(???)
เช้าวันนี้อากาศของที่นี่ดูแจ่มใสกว่าทุกวัน
ตั้งแต่มาถึงฉันพบคนสำคัญแค่สองคนเท่านั้นคือท่านหญิงวาคะนะซึ่งเป็นแม่แท้ๆของคุณคู่หมั้นสุดหล่อ และชินเมียวมารุหรือก็คือชายผู้เป็นคู่หมั้นของฉัน แต่น่าแปลกที่ไม่พบพ่อของเขาเลย ฉันรู้มาจากคุณชิโระว่าท่านเป็นซามูไรที่รวบรวมแคว้นได้กว้างขวางที่สุดในแถบนี้และเป็นชายที่น่ากลัวที่สุดเลยก็ว่าได้ ชื่อของท่านคือ มาซามุเนะ
ไคโร
นอกกำแพงปราสาทดูครึกครื้นกว่าด้านในซะอีก ชาวบ้านในยุคนี้ทำไร่ทำนา เลี้ยงวัวเลี้ยงม้าเหมือนกับที่ที่ฉันเคยอยู่ แต่ด้วยความที่ว่าเป็นยุคแห่งสงครามบางบ้านจึงมีแต่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งให้ใส่ ขนาดอาศัยอยู่แถบปราสาทยังขาดแคล้นถึงเพียงนี้แล้วพวกที่อยู่ไกลออกไปความเป็นอยู่จะเป็นยังไงกันนะ
ฉันละสายตาออกจากด้านนอกก่อนจะก้าวไปตามทางเดินซึ่งเป็นพื้นหญ้านุ่มนิ่มเพื่อหวังจะสำรวจหลังปราสาทแก้เครียด
คุณชิโระเธอหายไปไหนก็ไม่รู้ส่วนท่านน้าวาคานะก็เอาแต่นั่งสวดมนต์อยู่ในห้อง วันนี้ชีวิตของฉันมันก็เลยน่าเบื่อเป็นพิเศษ
เคร้ง!
เคร้ง!!!
เสียงดาบกระทบกันดังออกมาจากบริเวณหลังปราสาทซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของฉัน ฉันรีบขึ้นจากพื้นดินไปที่ทางเดินซึ่งปูด้วยแผ่นไม้เพื่อจะได้เห็นชัดๆว่าบริเวณนั้นเขาทำอะไรกัน
“เกนบุ! ใส่มาให้เต็มที่ไม่ต้องออมมือ” เสียงทุ่มแฝงอำนาจของชินเมียวมารุตะโกนขึ้นลั่นบริเวณทำเอาคนอื่นๆสะดุ้งด้วยความตกใจ
“ขอรับนายน้อย” คู่ซ้อมดาบที่ชื่อว่าเกนบุรับคำก่อนจะง้างดาบกระโจนใส่นายน้อยของตน
ชินเมียวมารุกำลังซ้อมดาบอยู่กับองครักษ์ชายร่างโตที่ฉันเคยพบเมื่อครั้งมาอยู่ที่นี่แรกๆ ไม่ใกล้ไม่ไกลนักก็มีทหารสี่คนกำลังซ้อมดาบอยู่เช่นกัน
“ย้าก!!!”
เคร้ง!
พวกเขาแทบตะโกนออกมาพร้อมกันยามที่คมดาบปะทะกันแบบซึ่งๆหน้า ฉันได้แต่ยืนมองพลางคิดแผนการที่จะทำให้ฉันได้คุยกับชินเมียวมารุ อ่อยผู้ชายแบบเนียนๆเค้าทำกันยังไงนะ ถ้าจะให้เลียนแบบนางร้ายในละครหลังข่าวฉันว่าอีตาชินเมียวมารุจับได้ชัวร์ๆ เเล้วหมอนั้นก็จะรู้ว่าฉันต้องการจะทำอะไรกับเขา อ๊ากกก!
หรือว่าจะจับดาบแล้วโชว์สกิลเทพไล่ฟันหมอนี่เลยดีป้ะ
อึ้ย....มีหวังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเละเป็นศพแน่ๆ
“แฮก....พะ....แพ้นายน้อยอีกจนได้” เสียงหอบของเกนบุทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ ตอนนี้ผลแพ้ชนะออกมาแล้ว
ดาบของชินเมียวมารุจี้อยู่ที่คอหอยขององครักษ์คนนั้นก่อนที่เขาจะเก็บดาบลงแล้วหันมาทางฉันที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลนัก
ชิบหายล้ะ
“ทะ....ท่านมิซึกิ” เกนบุที่นั่งลงกับพื้นหญ้าเป็นฝ่ายเอ่ยทักฉัน
ส่วนคู่หมั้นอย่างชินเมียวมารุกลับมองฉันแค่แวบหนึ่งก่อนจะเดินมานั่งดื่มน้ำโดยไม่หันมามองอีกเลย ใจร้ายวะ...แต่ฉันไม่แคร์ ฉันจะสวมบทนางร้ายสายอ่อยแล้วไปนั่งอยู่ข้างหมอนี่เอง
“นายน้อย”
น้ำเสียงหวานแต่แฝงความแข็งแกร่งเอาไว้เอ่ยเรียกคนที่นั่งอยู่ ทำให้ขาของฉันที่กำลังจะก้าวไปนั่งข้างชินเมียวมารุหยุดลงแค่นั้น
หญิงสาวในชุดฮะกะมะของผู้หญิงวิ่งเหยาะๆมาตรงหน้าชินเมียวมารุก่อนจะนั่งลงข้างๆเขา(ซึ่งเป็นท่าที่หันหลังให้ฉัน) ฉันแทบอ้าปากค้างเพราะยังงงๆกับสถาการณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธอคนนี้....เป็นใครมาจากไหนอ่ะ
“ซ้อมธนูเป็นไงบ้างเฮียวโกะ” เขาเอ่ยถามหญิงสาวผู้นั้นราวกับสนิทสนมกันมากๆ
“ฝีมือยังอ่อนด้อยเหมือนเดิมค่ะ”
“ฮื่ม....ผู้หญิงที่นี่ล้วนสู้รบเป็นทั้งนั้น แล้วผู้หญิงที่อื่นจะทำอะไรเป็นสักอย่างมั้ยนะ” เสียงทุ่มเอ่ยเรียบๆแต่ถ้อยคำเหมือนจะเหน็บแนมฉันทางอ้อม
“ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงล้วนเก่งเรื่องงานฝีมือกันทั้งนั้น คงมีแต่ดิฉันเท่านั้นที่ทำไม่เป็น” เฮียวโกะเอ่ยด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสาจนฉันรู้สึกหมั่นไส้เธอแปลกๆ
จ๊ะฉันเก่งทุกเรื่องอยู่แล้ว(ทำท่าทางภูมิใจ)
เกนบุรีบนอนแผ่ลงบนพื้นทันทีเมื่อเห็นว่าฉันตวัดสายตาสุดสยองไปมอง อันที่จริงฉันไม่ได้ตั้งใจจะมองเขาสักนิด ฉันแค่มองดูรอบๆบริเวณนี้เพื่อหาเป้ายิงธนูเท่านั้น ซึ่งมันก็ตั้งอยู่บริเวณที่เฮียวโกะวิ่งมา
ที่นี่ใช้แค่แผ่นไม้วางเรียงกันเป็นแน่วยาว โดยมีผ้าสีแดงเล็กๆติดอยู่ที่กลางไม้เพื่อทำหน้าที่เป็นเป้า
“ที่นี่อากาศดีมากเลยนะคะ โอ๊ะ! มีที่ฝึกยิงธนูด้วย” ฉันเดินไปพูดไปจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าชินเมียวมารุ ก่อนจะหันไปมองเป้ายิงธนูแล้วแกล้งเอามือปิดปากเหมือนตกใจมากที่เห็นมัน คิดได้ไงวะเนี่ย -_-
“ท่านมิซึกิเคยลองยิงธนูมั้ยคะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นใบหน้าของเฮียวโกะชัดๆ เธอเป็นผู้หญิงตาชั้นเดียวมีคิ้วเข้มแต่ไม่โก่ง ผิวไม่ขาวมากแต่ก็ไม่ถึงกับดำ คงเพราะต้องทำงานตากแดดอยู่ตลอดเวลา ผมของเธอถูกรวบขึ้นโดยมีหมวกทรงสูงแบบซามูไรใส่ทับไว้อีกที เธอดูสวยแบบเท่ๆเหมือนสาวห้าวเป้งอะไรแบบนี้
“เคยค่ะตอนที่อยู่กับท่านพ่อ ฉัน
เอ้ย!
ข้าก็ฝึกยิงธนูอยู่เป็นประจำ”
โกหกหน้าตายแบบสุดๆ
ฉันอยากเอาชนะอีตาคู่หมั้นคนนี้ซะจริงๆ
ดูสิถ้าเห็นความสามารถของฉันเขาจะพูดว่าอะไร
“งั้นเรามาแข่งกันสักครั้งมั้ยเจ้าคะ” เฮียวโกะพูดพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนโยนให้ฉัน
เธอชวนเองนะยะ หึๆๆ
“อื่ม
ดีจังได้มาประมือกับองครักษ์หญิงของท่านชินเมียวมารุ ^_^” ฉันแสร้งยิ้มเหมือนเด็กอนุบาลได้ลูกอม เพื่ออ่อยผู้ชายและสร้างมิตรภาพกับเฮียวโกะ
“ใช้ธนูหนึ่งดอกนะเจ้าคะ เล็งไปที่ตรงกลางของเศษผ้าเล็กๆสีแดงนั้นแล้วปล่อยมือเลย”
รู้แล้วน่า
-_-
พูดมากจริง เป้าเล็กกว่านี้ฉันก็เคยยิงมาแล้วย่ะ ไม่อยากจะโม้
“จ๊ะ ^_^ งั้นเฮียวโกะเริ่มก่อนเถอะ”
มิตรภาพเกิดจากรอยยิ้มเเละความทอเเหล อิๆ
กิโมโนของฉันมันหนักกว่ายัยเฮียวโกะตั้งหลายกิโลเพราะฉันดันใส่มาตั้งสิบสองชั้น แถมผมยาวๆยังทำให้ฉันเคลื่อนตัวได้ช้ากว่าปกติ แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนที่ฝึกยิงธนูมาตั้งแต่อายุ
6 ขวบ
ฉันมองดูเฮียวโกะตั้งท่ายิงธนูด้วยท่าทางตื่นเต้น(แกล้งทำจ้า) พลางเหล่มองชินเมียวมารุที่จับจ้องมายังฉันด้วยสายตาดูถูกดูแคลน เฮอะ! โนแคร์ย่ะ
ฉึก!
เสียงลูกธนูพุ่งฝ่าอากาศปักเข้าที่เศษผ้าเล็กๆนั้น ดูก็รู้ว่าเธอมีแรงแค่นิดเดียวเพราะลูกธนูมันเข้าไปในเนื้อไม้ไม่ถึงหนึ่งเซนด้วยซ้ำ นึกภาพแผ่นไม้ผุๆออกป้ะ ทำไมถึงยิ่งเข้าไปได้แค่นั้นทั้งที่ลูกธนูควรจะพุ่งทะลุไม้ เฮียวโกะทำท่าทางจะวิ่งไปเก็บแต่ฉันร้องห้ามไว้ซะก่อน
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องเก็บหรอก” ฉันพูดซ้ำก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้ชินเมียวมารุที่นั่งดูอยู่ แล้วเริ่มโก่งสายธนูพร้อมทั้งเล็งหัวลูกศรไปที่ลูกศรของเฮียวโกะ
แม่จะผ่าลูกธนูให้ดูนะจ้ะ
ฉันสายตาดีตั้งแต่เด็กเพราะไม่เคยเล่นสื่อดิจิตอลเกินครึ่งชั่วโมง(อันที่จริงคือฉันไม่มีโทรศัพท์เพราะโดนยัยนิวเคลียร์ขโมยไปโยนลงน้ำ) แถมยังหูดีมากๆเพราะทุกๆวันต้องไปแอบฟังแม่ใหญ่(หรือก็คือคุณหญิงใหญ่ของบ้าน)คุยกับลูกสาวของเธอเรื่องแผนการกำจัดฉันออกจากตระกูล
หึ แต่ก็ต้องขอบคุณพวกเขาที่ทำให้ฉันเติบโตขึ้นเป็นเด็กที่พร้อมสู้กับโลกภายนอก
ฟึบ
ลูกธนูของฉันพุ่งฝ่าอากาศไปผ่าลูกธนูของเฮียวโกะจนแยกออกเป็นสองส่วนจบด้วยการทะลุเนื้อไม้ผุๆไปตั้งครึ่งนึง นี่ขนาดใส่กิโมโนรุ่มร่ามนะยะ วะฮาฮ่า!
แปะๆๆ
“ท่านมิซึกิเก่งมากเลยค่ะ” เธอปรบมือให้ฉันด้วยท่าทางสุขุม ส่วนฉันก็หันไปยิ้มให้เธอเหมือนเช่นเดิม
สายตาของชินเมียวมารุดูจะอ่อนลงบ้างเล็กน้อย
เขาลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปซ้อมดาบกับเกนบุ ส่วนคนอื่นๆที่มาซ้อมยิงธนูก็กล่าวชื่นชมฉันกันใหญ่จนอดนึกถึงพวกเพื่อนๆในชมรมยิงธนูไม่ได้
ป่านนี้คงมีความสุขอยู่สินะ
ไอ้พวกบ้าเอ้ย ฉันคิดถึงพวกเเก~
“ท่านมิซึกิ! ดิฉันเป็นห่วงแทบแย่เลยเจ้าค่ะ อย่าเดินออกจากห้องโดยลำพังอีกนะเจ้าคะ” คุณชิโระที่วิ่งหน้าตั้งมาจากภายในปราสาทรีบก้มลงสำรวจร่างกายฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความเป็นห่วง
“ข้า....เอ่อ ขอโทษค่ะชิโระ”
“ไปกันเถอะค่ะ ท่านวาคานะกำลังเรียกหาท่าน”
ฉันพยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบก่อนจะเดินตามคุณชิโระไปแบบเงียบๆ เธอพาฉันเดินแยกมาอีกทางก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของท่านน้า
คลืดดดด
“มาแล้วเจ้าค่ะ” คุณชิโระเปิดประตูออกนิดๆก่อนจะเอ่ยบอกคนที่อยู่ภายใน
“เข้ามาได้”
เมื่อได้ยินเสียงนุ่มละมุนของท่านวาคานะคุณชิโระก็รีบพาฉันเข้าไปข้างในทันที ท่านน้ายังคงนั่งสวดมนต์อยู่เช่นเดิมเมื่อเห็นว่าฉันเขามาเธอจึงลืมตาขึ้นแล้วนั่งหันหน้ามาทางฉัน
“ท่านน้าเรียกข้ามามีอะไรเหรอคะ” ฉันเปิดบทสนทนาด้วยการถามออกมาเบาๆ
“น้าก็แค่เป็นห่วงไม่อยากให้หลานเดินไปไหนมาไหนคนเดียว” ท่านวาคานะยืนมือมาลูบหัวฉันด้วยความอ่อนโยน “มาเถอะ
มาสวดมนต์กับน้า”
“...ค่ะ”
ฉันจำใจทำตามคำสั่งเพราะไม่อยากให้ท่านต้องผิดหวัง ก่อนจะพนมมือขึ้นแล้วหลับตาลงต่อหน้ารูปปั้นของเทพีอะไรบางอย่าง
อย่าบอกนะว่าฉันต้องทำแบบนี้ตลอดทั้งวันอ่ะ ไม่นะๆ
ความคิดเห็น