ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่หมั้นตัวร้ายขอหนีไปปราบปีศาจ!

    ลำดับตอนที่ #4 : องก์ที่ 4 : ระบบสาวใช้คนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 64


     


    องก์ที่ 4


    บางครั้งตอนที่ฉันตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับอันยาวนาน   ฉันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองนั้นร้องไห้


    ฉันเป็นคนที่นอนหลับง่ายแต่ฝันยากมาก    ในคืนที่ฝันก็จำความฝันได้ไม่มากเท่าไหร่    ทว่า.....ความรู้สึกที่เหมือนทำบางอย่างหลุดหายไป    มันกลับค้างคาอยู่นานมากๆหลังจากที่ตื่นขึ้นมา


    เหมือนตอนนี้....


    ฉันกำลังฝันถึงเรื่องราวของใครบางคน   ทุกอย่างมันเหมือนความจริงเอามากๆ   เรื่องราวดำเนินไปคล้ายละครหลังข่าวโดยมีฉันยืนดูอยู่ไม่ห่างนักและมีเสียงของใครบางคนคอยบรรยายเบาๆราวกับสายลม


    ภายในห้องเเห่งหนึ่งในปราสาทญี่ปุ่นอันใหญ่โต  ร่างบางระหงของสตรีสูงศักดิ์อายุประมาณ  16 ปี  กำลังยื่นเด่นเป็นสง่าเพื่อให้เหล่านางรับใช้นำกิโมโนมาสวมให้เธอ


    วันนี้ท่านหญิงมิซึกิมีความสุขเป็นพิเศษเพราะบิดาและมารดาของเธอเดินทางกลับจากการไปรบกับเเคว้นคิโซะ   เธอจึงตั้งอกตั้งใจเเต่งตัวให้งดงามที่สุดเพื่อรอต้อนรับ


    ขบวนทัพเดินทางมาถึงเเล้วเจ้าค่ะ’   


    สาวใช้ที่เธอสั่งให้ออกไปสังเกตุการอยู่ที่หน้าปราสาทวิ่งหน้าตั้งเข้ามารายงานผู้เป็นนายก่อนที่ท่านหญิงมิซึกิจะรีบวิ่งออกไปด้านนอกเพื่อต้อนรับขบวนทัพของบิดาและมารดาของเธอ


    เเต่เมื่อลงมาถึงสิ่งที่เธอพบกลับเป็นร่างไร้วิญญาณของบิดาและมารดาที่นอนเเน่นิ่งอยู่บนเปลไม้โดยมีท่านน้าของเธอนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ


    ท่านคิโยโมริและท่านมุตสึสิ้นเเล้ว’ 


    เสียงนายทหารคนหนึ่งประกาศลั่น    ร่างของท่านหญิงมิซึกิทรุดลงกับพื้นด้วยอาการช็อก   ตอนนี้ตระกูลของเธอกำลังขาดผู้นำ     ซึ่งมันไม่ดีเเน่ๆ


    และก็เป็นอย่างที่เธอคาด   เพราะหลังจากงานศพเพียงไม่กี่วันท่านน้าก็จับเธอหมั้นหมายกับบุตรชายของเจ้าเเคว้นเอชิ   


    เพียงพบกันวันเเรกเธอก็เห็นเขากับองครักษ์สาววัยเดียวกันกำลังยืนจับไม้จับมืออยู่ที่สวนหลังปราสาท   ภาพนั้นช่างดูคล้ายบุรุษและสตรีที่เป็นคู่รักกันมากกว่าจะเป็นเพียงเจ้านายกับลูกน้อง   


    นับจากวันนั้นท่านน้าของเธอก็พยายามใช้เล่ย์เหลี่ยมหลอกล่อให้เธอทำสิ่งไม่ดีกับองครักษ์หญิงคนนั้น    เเถมมันยังสำเร็จไปด้วยดีตั้งหลายครั้งหลายครา    นางคงโกรธมากๆที่ไม่สามารถทำอะไรท่านหญิงอย่างเธอได้     เพราะด้วยยศที่ต่ำกว่าและมิตรที่ไม่ค่อยจะมี     ในขณะที่ท่านหญิงมิซึกิมีคนที่พร้อมจะเข้าข้างอยู่ตั้งมากมาย


    เเต่มิซึกิไม่ได้รู้สึกชอบคู่หมั้นของตนเเละไม่ต้องการให้เขาโดนบังคับให้เเต่งงานกับเธอทั้งที่มีคนรักอยู่เเล้วจึงตัดสินใจกระโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตาย


    คนดีอะไรเบอร์นี้ -_-


    ฉันมองเห็นร่างของมิซึกิที่กำลังจมดิ่งลงใต้ทะเลสาป   น่าเเปลกที่เธอพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาบนผิวน้ำ    เเละดิ่งลงไปอีกครั้งยามที่โดนสิ่งแปลกๆลักษณะคล้ายสาหร่ายขนาดใหญ่ตวัดมาพันที่ขา


    เชื่อมั้ยว่าฉันเห็นอะไร....


    ฉันเห็นเจ้าสาหร่ายยักษ์ออกเเรงดึงจนร่างของมิซึกิจมลงใต้น้ำเเละขาดอากาศหายใจจนตายในที่สุด


    สิ่งที่ฉันเห็นคือกอสาหร่ายที่มีชีวิต    ญี่ปุ่นยุคโบราณมักจะมีเรื่องเล่าของปีศาจอยู่มากมาย


    เจ้าสิ่งนั้นมันจะใช่ปีศาจมั้ยนะ

     

    ........


    ตึง!


    เฮือก!


    ฉันสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจเพราะเสียงกำปันของใครบางคนชกลงที่พื้นใกล้ๆกับใบหน้าของฉัน


    ท่านมิซึกิได้เวลาตื่นมาทานข้าวเเล้วเจ้าค่ะ”


    เสียงนุ่มละมุนเเบบนี้   ใบหน้าเเบบนี้   ผมสีดำยาวถึงกลางหลังเเบบนี้    คนที่ฉันไม่มีวันลืม


    คุณชิโระ!”   ฉันเเทบจะแผดเสียงใส่เธอเลยก็ว่าได้เมื่อเห็นว่าหญิงสาวในชุดนางกำนัลคือใคร  “ทำไมคุณชิโระถึงมาโผล่ที่นี่ละคะ”    ฉันขมวกคิ้วพร้อมกับถามเธอด้วยความสงสัย


    มาทำหน้าที่ระบบสาวใช้เจ้าค่ะ   หวังว่าการมาอดีตของท่านแพนเจียจะเป็นไปด้วยดี    ใช่มั้ยคะ?  


    ฉันเลิกคิ้วข้างซ้ายพร้อมกับทำหน้าเบื่อโลกแบบสุดๆ   ซึ่งก็ได้รับเพียงรอยยิ้มเเห้งๆของคุณชิโระตอบกลับมาเท่านั้น    แค่นี้เธอก็รู้แล้วสินะว่าฉันมีความสุขแค่ไหนที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่(ประชดจ๊ะ)


    คุณชิโระมารับฉันกลับบ้านเหรอคะ”   ฉันลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองดูโต๊ะอาหารขนาดย่อมที่ตั้งอยู่กลางห้องด้วยสายตาว่างเปล่า   


    อาหารมื้อเเรกของฉัน(ซึ่งเพิ่งมามีชีวิตในยุคสงครามเป็นครั้งแรก)คือข้าวสวย  ปลานึ่ง  ผักดองเเละซุปเต้าเจี้ยวหนึ่งถ้วยเล็กๆ   อ่า....คิดถึงข้าวเเกงร้ายเจ้จอยโว้ยยยยย!!!


    ป่าวค่ะ   ดิฉันเเค่มาดูเเลคุณหนู   เเบบว่า...ในฐานะระบบสาวใช้ชั่วคราว”   คุณชิโระพูดพร้อมกับยิ้มด้วยท่าทางภาคภูมิใจ  You know what I mean   (คุณรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร)  


    Don’t know.  อันนี้ฉันตอบในใจนะ   ไม่อยากโดนพลังเวทของคนตรงหน้าซัดจนร่างลอยกระแทกพื้นเป็นครั้งที่สองอ่ะ


    ฉันมองดูคนตรงหน้าตั้งเเต่หัวจรดเท้าพร้อมกับใช้ความคิด  ตอนนี้คุณชิโระไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ธรรมดาทั่วไป   ผิวของเธอดูหมองกว่าตอนที่เจอกันครั้งเเรกเเถมยังไม่รู้สึกถึงความน่าเกรงขามเลยสักนิด


    ท่าทางหงอยๆเเบบนี้คงโดนพระเจ้าถีบหัวส่งมาดูแลฉันเเหงๆ


    ฉันอยากอาบน้ำค่ะ”  ฉันจัดการพับผ้าห่มจนเรียบร้อยก่อนจะนั่งลงตรงหน้าคุณชิโระ


    น้ำพุร้อนอยู่ตรงห้องส่วนหลังของประสาทค่ะ  เดี๋ยวดิฉันพาไป    แต่ว่า!   ต้องหลังจากที่คุณหนูทานอาหารเสร็จเเล้วเท่านั้น”    


    -_-? จ๊ะ!


    ก็ได้ค่ะ”


    พูดจบฉันก็คลานไปนั่งบนเบาะรองนั่งก่อนจะใช้ตะเกียบซึ่งวางอยู่ข้างๆชามข้าวคีบกับข้าวที่วางเรียงอยู่ตรงหน้ากินไปเรื่อยๆ   ทีละอันจนกระทั้งเกือบหมด


    มันก็อร่อยดี   กินเเล้วท้องเบา   เเล้วก็สบายใจ(มั้ง)   ยุคสงครามเเบบนี้น่าจะไม่มีของอร่อยแบบที่ฉันชอบสักเท่าไหร่   ไม่มีขนมปัง   ไม่มีสเต็กหรืออาหารอิตาเลี่ยนเพราะอิทธิพลจากต่างชาติยังมาไม่ถึง


    ที่นี่ใกล้จะค่ำเเล้ว   เหล่าชาวบ้านที่อยู่นอกกำเเพงปราสาทเริ่มกลับเข้าบ้านของตนเเล้วจุดตะเกียงจนมันสว่างจ้าไปตามขอบถนน    ส่วนรอบๆปราสาทพวกทหารกับนางกำนัลก็ช่วยกันจุดคบเพลิงเเละเดินลาดตระเวนเป็นระยะ  


    เเสงไฟพวกนี้หากมองไกลๆมันก็ดูคล้ายกับยุคปัจจุบันอยู่นะ   เเต่มัน....ก็ไม่ได้คล้ายกันขนาดนั้หรอก


    ฉันเดินตามคุณชิโระไปเงียบๆ   สายตาก็สอดส่องดูวิวทิวทัศน์รอบทางไปทั่วเพราะรู้สึกขนลุกแปลกๆ   ราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังจ้อมมองฉันอยู่ภายใต้ความมืดมิดของเวลายามค่ำคืน


    คุณชิโระพาฉันมายืนอยู่หน้าห้องแห่งหนึ่งภายในกลางปราสาทหลังนี้ก่อนจะเอาตะเกียงที่ถือมาไปแขวนที่ประตูห้องเพื่อเป็นสัญญาณบอกว่ามีคนกำลังใช้งานห้องนี้อยู่


    ตรงนี้น่าจะเป็นฝั่งของผู้หญิงค่ะ   ถ้าดิฉันจำไม่ผิด”   คุณชิโระว่าพร้อมกับส่งผ้าที่คล้ายจะเป็นผ้าเช็ดตัวเเละชุดกิโมโนสีขาวหนึ่งตัวให้ฉัน


    ฉันนึกว่าห้องเล็กๆที่เเยกออกจากห้องเเต่งตัวของฉันจะมีอ่างอาบน้ำซะอีก”  ฉันขมวดคิ้วมองคุณชิโระที่เริ่มชักสีหน้า    อันที่จริงฉันจำมาจากหนังที่เคยดูอ่ะ   ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงหรือเท็จ


    ดิฉันคิดว่าการอาบน้ำพุน่าจะผ่อนคลายกว่าค่ะ”


    ตอบแบบนี้แสดงว่าห้องแต่งตัวของฉันมีอ่างอาบน้ำจริงๆสินะ


    เเต่ฉันกลัวว่าคนอื่นจะเข้ามาค่ะ”   ฉันมองดูรอบๆด้วยความระเเวง   เเม้ที่นี้จะอยู่ในปราสาทเเละจะมีทหารหรือนางกำนัลเดินอยู่รอบๆ   ฉันก็กลัวอยู่ดี


    คุณหนูอย่ากลัวเลย   ที่นี่เป็นของคุณหนูเพียงคนเดียวค่ะ   ถ้าไม่ไว้ใจดิฉันจะยืนเฝ้าอยู่ตรงนี้เอง”  


    ....โอเค”  


    ฉันทำมือเป็นสัญลักษณ์โอเคก่อนจะยอมเข้าไปในบ่อน้ำพุร้อนแต่โดนดีเมื่อเห็นว่าฉันเข้ามาคุณชิโระก็ทำหน้าที่เลื่อนประตูให้ปิดเพื่อให้ฉันมีเวลาที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น    


    ที่นี่เป็นน้ำพุที่เกิดจากธรรมชาติ   มีโขดหินแซมอยู่เต็มไปหมดแถมน้ำยังใสแจ๋วจนแทบจะกินได้     ฉันวางของไว้ที่ขอบอ่างก่อนจะถอดชุดกิโมโนแปดชั้นวางไว้ที่เดียวกันแล้วเดินลงไปนั่งแช่ในน้ำพุร้อน


    สบายตัวมากเลย   คิดถึงตอนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งเเรกไม่มีผิด   ยุคนี้ดูสะอาดสะอ้านเเละเป็นธรรมชาติมากเลย   อ่า....ออนเซนของฉันนนน!   คาวาอี้~~~


    ฉันเคลื่อนตัวไปที่แนวโขดหินเพื่อใช้เป็นที่พิงและนอนผ่อนคลาย    ฉันไม่รู้ว่าตนเองแช่อยู่ในนี้นานแค่ไหน    รู้แค่ว่าไม่อยากลุกออกจากที่นี่เลย    อยากจะนอนห้องนี้ซะด้วยซ้ำ


    คลืดดดด

    เสียงประตูถูกเลื่อนให้เปิดออก   ก่อนที่จังหวะการก้าวแบบหนังหน่วงจะเดินเข้ามาในห้องแห่งนี้ช้าๆ    ในช่วงแรกฉันคิดว่าคงเป็นคุณชิโระที่เข้ามาตาม    แต่ในตอนนี้ฉันชักไม่แน่ใจแล้วสิ


    เพราะหากเป็นคุณชิโระเธอต้องเรียกฉันก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้ามา    ฉันพยายามหลบอยู่หลังโขดกหินแล้วหาโอกาสมองมายังคนที่กำลังแช่น้ำอยู่อีกมุมหนึ่ง    แต่พอคิดได้ว่าคนที่แช่น้ำต้องถอดเสื้อผ้าฉันจึงไม่กล้าที่จะขยับตัวไปมอง


    ไหนคุณชิโระบอกว่าที่นี่ถูกสร้างให้เป็นแบบส่วนตัวไง    แล้วทำไมมีคนเข้ามาอ่ะ >_<


    ตุบ


    “อึก!


    อยู่ๆก้อนหินขนาดใหญ่บริเวณที่ฉันวางมือไว้ก็กลิ้งลงมาทับมือของฉันจนมันขยับไปไหนไม่ได้    แบบว่ามันไม่ได้ทับแรงขนาดนั้นแต่ทับแบบซ้อนกับหินก้อนอื่นโดยมีมือของฉันวางอยู่ตรงกลาง 

      

    มือของฉันมีแค่แผลถลอกนิดๆ   แต่สิ่งที่แย่คือมันไม่ยอมหลุดออกจากก้อนหินเลย    ทำไงดีๆ    คนที่เเช่อยู่ฝั่งนั้นต้องรู้แล้วแน่ๆว่าฉันอยู่ตรงนี้   อ๊ากกก!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×