ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fanfic Boku No Hero Academia / BNHA || Tell Me You Love Me [ Todoroki x OC ]

    ลำดับตอนที่ #3 : ARC 1 :: 2. [ You can close your eyes to things you don’t want to see, but you can’t close your heart to things you don’t want to feel ]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.54K
      233
      6 เม.ย. 64







    tell me you love me | fanfic bnha

    todoroki shouto x kosakura ritsuka (oc)

    warning - painful feelings of family matters/ intolerance to family members and touch without consent 






    ARC 1 :: 2. [ You can close your eyes to things you don’t want to see, but you can’t close your heart to things you don’t want to feel ]  









    เธอตื่นขึ้นมาพร้อมขยับตัวอย่างเชื่องช้า ไม่ได้เร่งรีบอะไรกับการเปิดเทอมวันแรก ริทสึกะมองตัวเอง มองหน้าของตนที่ปรากฎในกระจก มือค่อยๆเลื่อนจับแผลบาดเจ็บจากความรุนแรงเมื่อวาน เธอจับแผลที่ถูกทำแผลพยายามไม่ออกแรงมากเพื่อไม่ให้เจ็บ - ให้ตายสิ เป็นเด็กผู้หญิงแท้ๆ ไม่ควรให้มีแผลติดบนหน้าเลยนะ เธอคิดแบบนั้น

    ดวงตาสีชมพูเข้มยังคงมองตัวเองในกระจก เธอพยายามขยับริมฝีปากขึ้นมา


    "สวัสดีนะ ริทสึกะ"


    เอ่ยสวัสดีคนในกระจกที่ยังคงเข้มแข็งและอยากมีชีวิตอยู่ "วันนี้พยายามเข้านะ" เธอบอกตัวเองก่อนจะหัวเราะร่วน รู้สึกสิ้นหวังเหลือเกิน คำว่าพยายามเข้าที่แสนเบาบางไม่มีน้ำหนักอะไรแบบนั้น


    ใช้เวลาสักพักกว่าที่เธอจะขยับตัวออกจากห้องน้ำและห้องนอนของตัวเอง ลูกสาวของภรรยารองบ้านโคซากุระสวมใส่เครื่องแบบของสถาบันฮีโร่ชื่อดัง หลังจากถักเปียเล็กๆพร้อมผูกริบบิ้นสีแดงตัดกับเส้นผมสีขาว เธอก็ยิ้มออกมาตบท้ายเป็นการชื่นชมตัวเองที่หน้ากระจก และขาทั้งสองข้างก็กำลังพาเด็กสาวมายังโต๊ะอาหารอีกครั้ง บนโต๊ะมีเพียงแม่ใหญ่เพียงคนเดียวที่กำลังนั่งอยู่


    "จะไปเรียนแล้วเหรอ?"


    เธอถามริทสึกะ เด็กสาวที่มีศักดิ์เป็นลูกอีกคนไม่ได้ตอบอะไร ริทสึกะทำแค่การนั่งลงที่โต๊ะอาหาร ค่อยๆพนมมือท่องก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมา และเพราะเธอไม่ตอบ แม่ใหญ่ก็ไม่ได้เซ้าซี้ในคำถามเดิมอีก หญิงสาวในชุดกิโมโนสวยตัดสินใจชวนริทคุยด้วยคำถามอื่น "ให้ไปส่งไหม?"


    "ไม่เอาหรอกค่ะ" เธอบอกหลังกลืนข้าวสามสี่คำแรกลงคอของตัวเอง "คุณไม่ต้องยื่นมือเข้ามายุ่งวุ่นวายหรอกค่ะ"


    เธอรู้ว่ามันเป็นมารยาทที่แย่

    แต่จะให้เธอทำอย่างไร - จะให้เธอทำตัวน่ารัก อ่อนหวานกับคนที่เป็นส่วนหนึ่งในความบิดเบี้ยวของบ้านหลังนี้หรือ?


    "อ่า...ริท ฉันเองก็เป็นแม่คนหนึ่งของเธอนะ"


    "ริทมีแม่คนเดียวค่ะ"


    เธอตอบไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง "มีแค่คนเดียว คนเดียวเท่านั้น"


    และริทก็ย้ำคำนั้น


    แม่ใหญ่ถอนหายใจขณะที่ลูกสาวที่สืบสายเลือดจากสามีกำลังกินข้าวต่อ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองได้กระทำสิ่งใดที่แย่กับเด็กคนนี้หรือไง - ริทถึงไม่เคยเปิดใจกับเธอเลยสักครั้ง ทั้งๆที่ โคซากุระ อิรุมิ ก็ปฏิบัติกับเด็กคนนี้เป็นอย่างดี เสมือนเธอเป็นลูกสาวคนหนึ่งของตนเอง อิรุมิไม่เข้าใจเลย


    "ทำไมถึงเกลียดฉันขนาดนั้นล่ะ?"


    ไวกว่าความคิด - อิรุมิถามออกไปแล้ว


    และคำถามของแม่ใหญ่ก็ทำให้เด็กสาววัยรุ่นกระแทกตะเกียบลงที่ชามข้าว ดวงตาสีชมพูมาเจนต้าตวัดตาขึ้นมอง ใบหน้าน่ารักนั้นเม้มปากแน่นและค่อยๆเอ่ยขยับริมฝีปาก "ทำไมถึงเกลียดน่ะเหรอ?"


    อิรุมิตั้งใจฟังคำตอบของเด็กสาวเผื่อว่าเธอจะเข้าใจอะไรขึ้นบ้าง - เผื่อว่าเธอจะสามารถช่วยอะไรเด็กคนนี้ไว้ได้


    "เพราะถ้าวันนั้นคุณรั้งพ่อเอาไว้ พ่อก็ไม่ต้องเจอกับแม่ของหนู และก็คงไม่ให้หนูเกิดมาน่ะสิ"


    และเหตุผลที่เด็กสาวแค้นเคือง เธอเองก็เป็นส่วนผิดของมัน


    "ถ้าหนูไม่เกิดมา ไม่ต้องรักพวกเขา หนูก็จะไม่เจ็บปวด"ริทสึกะพูดก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะ "ถ้าคุณทำหน้าที่ภรรยาที่ดี ทำให้พ่อมีแค่คุณ หนูก็ไม่ต้องเกิดมารู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ นั่นแหละที่หนูเกลียดคุณ เพราะคุณก็เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องเฮงซวยพวกนี้"


    อ่อนไหว

    มันเป็นเรื่องอ่อนไหวอย่างชัดเจน 


    อิรุมิไม่กล้าพูดว่าเด็กตรงหน้าอคติ เพราะความจริงที่ว่าเธอคือส่วนหนึ่งของแผลเหวอะหวะขนาดใหญ่ในใจของริทสึกะมันตอกย้ำผ่านสายตาและคำพูดที่แสนเจ็บปวด - แต่ก่อนจะได้เอ่ยอะไรสักอย่างออกไป ริทก็ส่งเสียงหัวเราะดังลั่น เด็กสาววัยรุ่นยังคงใช้มือปิดปากหัวเราะเป็นน้ำเสียงหัวเราะที่ดูตลกร้าย


    "โอ๊ะ ตกใจเหรอคะ แม่ใหญ่" เด็กคนนั้นคลี่ยิ้ม แววตาปกปิดความรู้สึก "ล้อเล่นนะคะ"


    ริทลุกขึ้นยืน ข้าวเช้าพร่องลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดวงตาสีชมพูมาเจนต้านั้นไม่ได้สะท้อนความเจ็บปวดหรือโกรธเคือง มันแทนที่ด้วยความซุกซนขี้เล่น และ รอยยิ้มกวนประสาทที่ผุดขึ้นมาบนมุมปากของลูกสาวภรรยารองบ้านโคซากุระ "ยังไง ริทขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ ยังไม่อยากสายแต่วันแรกหรอกน้า"


    แผ่นหลังเล็ก

    แต่เอ่อล้นความรู้สึกมากมาย


    "ริท"


    เด็กสาววัยรุ่นชะงักเท้าของตัวเอง เธอค่อยๆหันหน้าไปมอง แม่ใหญ่กำลังยิ้มบนใบหน้า อีกฝ่ายส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ ดวงตาดูจริงใจไม่มีความเสแสร้งใดๆแต่อย่างไร


    "ยังเจ็บแผลอยู่รึเปล่า?"


    คำถามที่เธออยากให้ใครสักคนมาถามเธอ


    จะพ่อหรือจะแม่ก็ได้

    แต่ทำไม - ทำไมต้องเป็นแม่ใหญ่ทุกที


    ริทกัดปากของตัวเองแน่น เธอสะบัดหน้าหนี พยายามเร่งฝีเท้าให้เดินหนีออกมาให้ไกล หากแต่เสียงของแม่ใหญ่แห่งบ้านโคซากุระก็ยังคงไล่หลังมา


    "มื้อเย็น อย่าลืมกลับบ้านมากินข้าวด้วยกันนะคะ"


    เธอไม่ได้ต้องการมันจากอิรุมิ

    เธอต้องการมันจากพ่อและแม่ต่างหาก















    ริทก้าวขาขึ้นรถหลังมันจอดที่หน้าป้าย เด็กสาววัยรุ่นกระชับสายกระเป๋าเป้หนังแท้ยี่ห้อดังอย่าง MCM เธอเข้าไปจับจองที่นั่งที่ว่างอยู่ พอนั่งลงแล้วรถขยับออกเดินทาง ริทสึกะก็ใช้เวลางีบหลับบนรถอย่างไม่กลัวเลยว่ามันจะไปถึงที่หมายตอนไหน - ถึงจะเรียกว่าการงีบ แต่มันก็แค่การปิดเปลือกตาเพื่อพักสายตาเฉยๆ ไม่ได้หลับไปแต่อย่างใด


    พอหลับตาก็ไม่เห็นอะไร

    มันเห็นแค่เรื่องเก่าๆ


    รถเคลื่อนไปจนจอดอีกป้าย ริทสึกะลืมตาขึ้นมา มันยังไม่ถึงที่หมาย เธอหยิบกระเป๋าที่ตัวเองวางไว้ข้างๆขึ้นมากอด เพื่อให้คนที่จะขึ้นมาใหม่ได้จับจองที่นั่งข้างตนเอง - และยามที่ร่างของเด็กหนุ่มผมสองสีคนนั้นเดินขึ้นมาบนรถโดยสารคันเดียวกัน ลมหายใจของริทสึกะก็แทบหยุดชะงัก


    รูปลักษณ์

    หน้าตา

    ทุกอย่างจัดว่าดี

    ดี - เกินมาตรฐานเสียด้วยซ้ำ


    "ตรงนี้ว่างใช่ไหม?"


    เขาถามเสียงเรียบ เป็นน้ำเสียงที่ดูไม่เป็นมิตรอะไรเท่าไรเลย และเธอก็ส่งรอยยิ้มกลับไป "อื้อ ว่าง นั่งเลย"


    มันเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับเขา


    ร่างกายที่สูงกว่าเธอในชุดเครื่องแบบของโรงเรียนเดียวกันนั่งลงข้างๆ ริทสึกะแอบลอบมองอีกฝ่าย เขาอยู่นิ่งไม่ได้หากิจกรรมเช่นการหลับ หรือการเล่นมือถือ ใบหน้าของเขาเรียบนิ่ง ดูกำลังเคร่งเครียดกับอะไรสักอย่างจนชวนให้บรรยากาศโดยรอบทะมึนตามไปอย่างไรไม่รู้


    "เตง"


    เธอเผลอหลุดเรียกเขาด้วยสรรพนามที่ใช้กับคนสนิทไปซะได้


    "เตง?"


    "ใช่ เตงน่ะแหละ" เธอยิ้มร่า "เค้าชื่อริทนะ เตงชื่อไรเหรอ?"


    "โชโตะ"


    ทางนั้นเอ่ยสั้นๆ "โทโดโรกิ โชโตะ"


    "โชจังก็เรียนยูเอย์เหมือนกันสินะ" เธอเท้าคางกับหน้าต่างพลางพูดคุยกับอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม "เค้าเรียนแผนกฮีโร่แหละ อยู่ปีหนึ่ง เหมือนจะห้องเอ่อ...ห้อง 1-A" เธอชวนเขาคุย ทางนั้นไม่ได้โต้ตอบอะไรออกมาเพียงแค่นั่งรับฟังเธอ


    "งั้น...เหรอ?"


    "ใช่แล้ว เค้าเก่งใช่ไหมล่า?"


    เธอบอก


    "อื้อ"


    เขาเองก็ตอบด้วยคำสั้นๆราวกลัวดอกพิกุลจะร่วงออกจากปาก ท่าทางนั้นทำให้ยิ้มเอ็นดูจนอยากจะขยุ้มเส้นผมสองสีให้ยุ่งเหยิงชะมัดยาก

    และริทสึกะก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน


    ทำไมเธอถึงยังขยับปากพูดพร้อมขยับไม้ขยับมือแบบนี้กับอีกฝ่าย


    "เห็นแบบนี้เค้าก็เป็นคนที่ได้คะแนนสูงสุดของการสอบเข้าเลยน้า"


    ทางนั้นปรายตาสองสีมองมา ข้างหนึ่งสีเทา และอีกข้างเป็นสีเทอร์ควอยซ์สวย โทโดโรกิ โชโตะ ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งทำให้ริทสึกะรู้ว่าเขาเป็นคนที่หน้าตาดีจัดมากๆ เธอหัวเราะออกจากลำคอเป็นเสียงเบาเมื่อเห็นว่าเขาเริ่มสนใจบ้างแล้ว


    "แต่ก็เป็นได้แค่ที่หนึ่งปลอมๆน่ะ"


    "ทำไมล่ะ?"


    "ก็อีกคนเขาได้คะแนนเต็มโดยไม่บวกคะแนนช่วยเหลือเพิ่มนี่" เธออธิบายให้ฟัง "นี่บวกเพิ่มไปประมาณยี่สิบคะแนนจะได้มั้งถ้าจำไม่ผิด อย่างว่าแหละ ดวงดีอ่ะเนอะ"


    ทางนั้นหรี่ตามอง - ริทยังคงเอ่ยเล่าเรื่องให้เขาฟัง

    จนกระทั่งเขาเอ่ยออกมา


    "ริท…"


    "หือ ว่าไงคะ สุดหล่อ?"


    เธอรีบหันไปสนใจคนที่อยู่ๆก็เรียกชื่อของตัวเอง เขามองสบตาของเธอ ลูกแก้วสองสีของเขาฉายแววประหลาด มันดูเหมือนมึนงง


    "อ่า...ฉันจำชื่อเธอถูกสินะ?"


    "ใช่ค้าบ เค้าริทเองค้าบ ริทคนน่ารัก"


    เธอพูดไปไม่จริงจังอะไร แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายขมวดคิ้ว เด็กสาวอัตลักษณ์ซากุระหัวเราะร่วน


    "ว่าไงคะ โชจัง มีอะไรจะพูดกับเค้าเหรอคะ?"


    "เธอพูดมากจัง…"


    คราวนี้เด็กสาวผมสีพิสุทธิ์อ้าปากค้างหลังได้ยินเด็กหนุ่มผมสองสีบอกว่าตนพูดมาก เธอกำมือเป็นกำปั้นน้อยๆ "แหะ เตงรำคาญเค้าเหรอ"


    โทโดโรกิ โชโตะไม่ได้ตอบในทันที อีกฝ่ายนิ่งไปก่อนจะค่อยๆตอบ "ก็ไม่ถึงขนาดนั้น"


    "งั้นเค้าเล่าต่อนะ คือเค้าน่---"


    "พอเถอะนะ"


    อีกฝ่ายรีบขัดประโยคที่กำลังหลุดออกมาจากปากของริทสึกะ พอถูกขัดสาวเจ้าที่ดูอารมณ์ดีก็ยังคงยิ้มร่า "ไหนบอกไม่ถึงขนาดนั้นไง?"


    "แต่นี่ก็มากไปหน่อย…"


    เธอส่ายหัวเอ็นดู


    "จริงๆ ถ้ารำคาญก็บอกได้เสมอเลยน้า เค้ารับฟังเสมอเลย"


    เธอบอกไป

    ทางนั้นมองสบตาของริทสึกะอีกครั้ง


    ตาสองสีของเขาจ้องมองที่หัวของเธอ - ริทสึกะคิดแบบนั้น เธอจึงค่อยๆจับผมของตัวเอง จับดูและสัมผัสได้ว่าริบบิ้นสีแดงที่ผูกเอาไว้มันยังคงอยู่


    "เหมือน…"


    เขาพึมพำ


    คราแรกริทสึกะสับสนเล็กน้อยว่าโชจังของเธอพูดอะไร - แต่พอจ้องมองเส้นผมของเขา มันก็เลยทำให้เผลอเล่นมุกไป


    "เขาบอกว่าเนื้อคู่มักจะมีอะไรเหมือนกันนะ"


    เธอบอก


    ขยับมือเอื้อมไปแตะเส้นผมนุ่มมือที่น่าขยุ้มให้ยุ่งเหยิงของเด็กหนุ่มผมสองสีขาวแดง กลิ่นของแชมพูที่ทำให้รู้สึกสะอาดลอยแตะจมูก ริทสึกะเผยรอยยิ้มขณะที่ค่อยๆพูดอย่างไม่ตื่นเต้น


    "ผมเธอเป็นสีขาวแดง - ผมของเค้าเป็นสีขาว พอมีสีแดงของริบบิ้น เราดูเข้ากันจังเลยเนอะ เหมือนเนื้อคู่เลย"


    "อ่า…"


    เขาพูดไม่ออกหลังจากโดนเธอแหย่เข้าไป - แต่ถึงกระนั้นริทสึกะก็สังเกตว่าใบหน้าข้างที่ไร้รอยแผลเป็นสีแดงระเรื่อขึ้นจางๆบนแก้มของเขานะ


    คุณพระคุณเจ้า สุดหล่อกำลังเขินเธอเหรอคะ?


    พอรถมาถึงป้ายที่หมาย ริทสึกะรอให้เขาเดินลงไปก่อน ตัวเธอถึงค่อยขยับเดินตามออกไป แต่เมื่อลงรถ เธอก็รีบก้าวเท้าไปหาอีกฝ่ายที่กำลังเดินนำลิ่วๆออกไป


    "โชจัง! เดี๋ยวก่อน โชจัง!"


    เธอส่งเสียงหวานเล็กแหลมพร้อมกระโดดโหยงเหยงตามเด็กหนุ่มคนนั้นที่กำลังดูตั้งใจเดินไป - เมื่อเห็นว่าเขาลับสายตาไปไกลและเธอไม่สามารถตามได้ทัน ริทสึกะก็ถอนหายใจคล้ายเซ็งๆแบบไม่จริงใจเท่าไรนัก


    ให้ตายสิ สุดหล่อคนนั้นหายไปแล้ว

    พระเจ้าคะ ถ้าให้เขาเกิดมาคู่กับหล่อนไม่ได้ ก็อย่าส่งเขามาทำหัวใจสาวน้อยของเธอสั่นแบบนี้สิ!


    คนเป็นแฟนไม่ได้มันเจ็บใจนะ!


    ริทสึกะขยับมือยกขึ้นเกาท้ายทอยของตัวเอง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ


    "รอบหน้าไม่เอาแล้วไลน์ เอาใบทะเบียนสมรสแต่งเข้าบ้านเธอเลยดีกว่า"


    เป็นคำพูดเล่นๆ

    ที่คิดขึ้นมาได้ในหัวระหว่างที่คิดเสียดายว่าตัวเองไม่ได้ขอไลน์หนุ่มหล่อผมสองสีคนนั้นอย่างโชจัง


    เธอพูดเล่นนะ

    พูดเล่นจริงๆ

    แต่แน่นอนว่า


    ถ้าได้ก็เอานะคะ - หนูรักเขา


    เธอเดินตรงเข้าไปในตึกตามที่อ่านมาว่าตัวเองจะต้องเข้าห้องเรียนของตัวเองที่ห้องประจำ ริทสึกะก้าวขึ้นบันได ขณะที่กำลังก้าวขาขึ้นตามขั้นบันได กลุ่มผมสีขาวแดงเด่นนั้นก็เข้ามาสู่สายตาของเธออีกครั้ง


    ริทสึกะไล่ตามเขา


    "โชจังงง!"


    เขาหันมา หยุดยืนรอบนขั้นบันได ริทฉีกยิ้มให้อีกฝ่าย


    "มีอะไรรึเปล่า?"


    "เค้าว่าจะพูดจะขออะไรซะหน่อย โชจังเดินหนีมาแบบนี้ก็เลยไม่ได้พูดเลยอ่า"


    ทางนั้นกระพริบตาอย่างงุนนงง

    ริทสึกะรู้สึกว่านอกจากเขาจะหล่อแล้ว

    เขายังน่ารักอีกด้วย


    "มีอะไรล่ะ?"


    พูดไปสิริท - เธอไล่ตามเขามาเพราะอยากจะขอช่องทางติดต่ออย่างไลน์ไม่ใช่รึไง


    แล้วทำไมตอนนี้ - กะอีแค่หัวใจที่เต้นสั่นรัวกว่าปกติแบบนี้ มันจะมาหยุดเธอ หยุดความต้องการของเธอได้ล่ะ พูดออกไปสิ ต้องการอะไรก็พูดออกไป เดี๋ยวนี้


    "ริท…?"


    เขาเรียกชื่อซ้ำอีกครั้ง


    "มีอะไร?"


    พูดไปสิว่าขอแลกไลน์


    พูดสิ ริท


    "ริท…?"


    เป็นอีกคนครั้งที่เขาเรียกเธอ คราวนี้เจ้าของตาสองสีหรี่ตาพร้อมเอียงคออย่างสงสัยผสมงุนงงเพราะไม่ใช่เข้าใจโคซากุระ ริทสึกะที่ยืนค้างอยู่ตรงหน้า


    พูดสิ


    "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะไปแล้วน---"


    เสียงราบเนียบโมโนโทนนั้นถูกตัดประโยคเมื่อเขาหันหลังเตรียมจะเดินจากไป ลูกสาวคนเล็กของบ้านโคซากุระคว้าแขนของโชโตะเอาไว้ ทางนั้นหันมามองแทบจะทันที ตาของเขาเบิกกว้างขึ้นยามได้ยินคำพูดดของเธอ


    และพูดในสิ่งที่ต้องการ



    "แต่งค่ะ"


    ไหนตอนแรกต้องการขอไลน์ติดต่อ - อ่า ไม่จริง สิ่งที่เธอต้องการจริงๆน่ะ ก็คือ...


    เธออยากแต่งงานกับเขาตั้งแต่วันแรกที่สบตากัน















    |||||

    Talk มาวว ♡

    สวัสดีค่ะ เป็นอีกครั้งที่มาหาในเรื่องของสาวริทน่ะเอง !

    ยัยคนนี้เปงเด็กน่าตีค่ะ ตีได้นะคะ ไม่ว่า

    ตีเสร็จเอาใจช่วยยัยด้วยนะคะ

    ทั้งนี้สามารถแนะนำติชมได้เสมอ (ด้วยความสุภาพ) นะคะ

    +งดการสปอยล์เนื้อหามังงะ(และอนิเมะที่มาวยังเขียนไม่ถึง (อนุโลมในสถานการณ์วิเคราะห์เนื้อหาฟิคกับเนื้อหาอนิเมะที่ดูเกี่ยวข้องกันเท่านั้น)) ทุกกรณีค่ะ เค้าตามมังงะ

    และเขียนถึงเนื้อหาในมังงะแน่นอน แต่ถ้ามาสปอยล์ บอกตรงๆนะคะ หมดอารมณ์เขียน 55555

    รักทุกคนเช่นเดิมค่ะ หวังว่าทุกคนจะรักและให้กำลังใจเราเหมือนกันนะคะ ❤



    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×