ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Reborn Thank for your love ขอแค่มีนายอยู่ข้างๆ

    ลำดับตอนที่ #5 : Special Fonm เพราะรัก

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 55


    Special Fon&mamon (2):

          -30 นาทีต่อมา-

              ฟงเดินกลับเข้ามาในงานด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่ได้ปรากฎรอยยิ้มเหมือนอย่างเคยดวงตาสีขนนกกากวาดมองมองหารีบอร์นก่อนจะไปสะดุดที่ร่างบางที่ยืนหันหลังให้ แม้จะไม่ใช่คนที่เขากำลังตามแต่ก็ร่างสูงก็มั่นใจว่าอย่างน้อยก็น่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย...

              “ขอโทษนะครับ...”

              “โว้ยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!

              /^_^\

              “มีอะไรอีกฟะ!!!

              ร่างบางเจ้าของเรือนผมสีเงินยาวสลวยตะโกนออกมาอย่างหงุดหงิด ข้างกายมีเด็กหนุ่มเรือนผมสีเขียวน้ำทะเลยืนอุดหูอยู่ด้วยใบหน้าเรียบเฉย แม้เขาจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับวองโกเล่แต่เขาก็ยังพอรู้สึกแปลกๆได้ว่า...

    ...ทำไมวาเรียถึงมาอยู่ที่นี่...

              “ทำไมพวกคุณถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ...”

              “ลากคอไอ้มาม่อนกลับไปสิโว้ย!!!ไอ้หัวปลาหมึกบอกว่าไอ้คนที่ชื่อฟงหรืออะไรสักอย่างแบกไป รู้สึกว่ามันจะถักเปีย...อืม...แล้วก็สวมชุดจีน...”

              ^_^;;;

              ร่างสูงตรงหน้าเริ่มเหงื่อตกแต่ก็ยังยิ้มไว้เหมือนเดิม คนในงานได้แต่มองความซื่อ(บื้อ)ของผู้พิทักษ์พิรุณแห่งหน่วยลอบสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดในวองโกเล่ด้วยสายตาหลากหลาย...

              “งี่เง่า เจ้าสัตว์กินพืชไร้สมอง -_-

           เสียงเย็นๆของผู้พิทักษ์เมฆาของวองโกเล่เอ่ยขึ้นมาก่อนลุกเดินออกจากงานไป

    ...เจ้าของงานก็ไม่อยู่แล้วแล้วผมจะอยู่ไปทำไมกัน มีแต่พวกชอบสุมหัว น่ารำคาญ...

              ร่างบางเดินออกไปจากงานพร้อมๆกับสัตว์เลี้ยง(?)ผู้ซื่อสัตย์ที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามไป

              “เคียวยะ~ รอฉันด้วยสิ~

              เมื่อทั้งสองคนเดินหายไปจนลับตาสายตาทุกคู่ก็กลับมาสนใจฉลามคลั่งอีกครั้ง ก็อย่างที่ฮิบาริบอกจริงๆนั่นแหละ รู้จักคิดหน่อยสิครับพ่อ(แม่)คุณ! อย่างดีแต่เอาสมองมาไว้คั่นหูสิเฮ้ย!

              “มบ.คร้าบ~ ช่วยสังเกตหน่อยสิครับว่าคนตรงหน้าหน้าตาเป็นยังไง”

              ร่างบางที่ยืนอยู่ข้างกายมานานก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเรียบเรียบเฉย ดวงตาสีมรกตเบนมามองว่าที่ภรรยาของบอสตนเล็กน้อย สังเกตบ้างอะไรบ้างสิครับไม่ใช่เอาแต่ให้บอสกด(?)อย่างเดียว

              เปีย...มันมี...ยาวเลยด้วย

              ชุดจีน...คนตรงหน้าก็ใส่

              เหลือแค่ชื่อ...

              “แกชื่ออะไร”

              “ฟงครับ^^

              ชัดเลย!!!

              “มาม่อนอยู่ไหน!!!!!!

              “ปกติคุณมาม่อนอยู่วาเรียจะทำอะไรเหรอครับ...”

              ร่างสูงหันไปถามผู้พิทักษ์สายหมอกของวาเรียคนใหม่แทนที่จะเป็นสควอโล่เพราะเขาได้ประเมิณไว้แล้ว...คิดว่าอีกชาติเศษก็ยังคุยไม่รู้เรื่อง...

              ปกติอัลโกบาเลขี้งกนั่นจะไปเล่นกับรุ่นพี่เบล หรือไม่ก็ไปนับเงินในคลัง อารมณ์ดีหน่อยก็ไปหาตังค์นอกปราสาทแต่ถ้าเวลาไม่สบายใจก็จะแอบบอสหนีไปเที่ยวคนเดียวสุดท้ายก็โดนบอสหักเงินเดือนไปตามระเบียบ...

              “อืม...”

          ร่างสูงขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะวิ่งออกไปดั่งสายลมที่พัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว

              ส่วนฉลามคลั่งน่ะเหรอ...

              ...อึ้งไปแล้ว...

    ...อย่าเมินกรูสิเฮ้ย!!!!!...

              “กลับไปรอที่ปราสาทเถอะครับ...”

              “รู้แล้วโว้ย!!!

              ...

              ..

              .

              ณ สถานที่แห่งความทรงจำ

           ร่างบางในชุดคลุมสีเข้มนั่งกอดเข่าอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมที่เคยนั่ง...เก้าอี้ตัวสุดท้ายที่เธอนั่งก่อนจะมาเป็นอัลโกบาเลโน่...

              บ้านใหญ่กลางป่าลึก...ที่ที่เธอได้พบกับพวกเขาเป็นครั้งแรก...พวกเขาที่มีชะตาเดียวกัน...ที่ที่เธอได้รู้จักถึงความอบอุ่นและอ่อนโยน...ที่ที่เธอได้รู้จักคำว่ารักเป็นครั้งแรก...

    ยังไงพวกบอสก็ยังไม่ตามหาเธอตอนนี้หรอก พวกเขารู้ว่าเมื่อไหร่ที่เธอไม่สบายใจเธอก็จะหายไปสักพักแล้วค่อยกลับไปทำงานใหม่ ที่นี่ไม่มีใครหาเธอเจอแน่...

           “มาม่อน...”

              เสีงนุ้มทุ้มดังขึ้นด้านหลังทำให้ร่างบางหันกลับไปมองอย่างตกใจก่อนจะพบร่างสูงที่ยิ้มอบอุ่นอย่างเคย มาม่อนลุกจากเก้าอี้เหมือนจะหนีแต่ร่างสูงก็มาดักหน้าได้ทัน ขาเพรียวถอยหลังไปทีละก้าวเหมือนกลัวร่างที่อยู่เบื้องหน้า

              “มาม่อน ผมอยากรู้เหตุผล”

              สมองร่างบางประมวลซ้ำไปซ้ำมา...เหตุผลงั้นเหรอ...

            นายอย่ามาพูดมากถึงฉันจะชอบเงินมากแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่คิดจะทำเรื่องต่ำๆแบบที่นายกำลังพูด!

            ทำไมต้องเป็นนายที่ว่าชั้น ชั้นทำไปเพราะมีเหตุผล...

            ใช่ เหตุผล แต่ทำไมนายต้องทำกับฉันแบบนี้ทั้งขโมยจูบแรก แถมยังมาดูถูกฉันขนาดนี้คิดว่าฉันเป็นคนยังไงกัน...

              “นายจะอยากรู้ไปทำไมในเมื่อนาย...”

              ร่างบางเงียบไปเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นในลำคอ หยาดน้ำตาไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสาย...ร่างสูงรู้สึกผิดในใจ...

    ...นี่ เขาทำเธอร้องไห้อีกแล้วเหรอเนี่ย...

              มือหนาของฟงข้างหนึ่งเลื่อนมาจับไหล่ที่กำลังสั่น อีกข้างปาดน้ำตาของมาม่อนอย่างอ่อนโยน ใบหน้าปรากฎยิ้มบางๆเหมือนจะทำให้ร่างตรงหน้ารู้ว่าไม่ต้องกลัว เขาจะทำอะไรเธอ

              “ผมแค่อยากรู้ ผมอยากขอโทษ ผมใจร้อนไปหน่อยเลยทำไม่ดีกับคุณอย่างนั้นผมขอโทษ...”

              เสียงทุ้มเอ่ยอย่างราบเรียบแต่แฝงความอ่อนโยนส่งผ่านมาหวังจะให้ร่างบางตรงหน้าอภัย มาม่อนเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะเอ่ยออกมา เหตุผลของเธอ...

              “นายมันแย่ ฟง นายไม่รู้รึไงว่านี่เป็นแผนของรีบอร์นน่ะ  หมอนั่นขอให้ฉันช่วยบอกว่าให้ฉันเป็นหนูทดลองให้เล่นก่อนเผื่อว่าโคโรเนโร่กับรัลอาจจะยอมทำอะไรบ้าๆนั่นตามก็ได้เพราะอย่างน้อยก็ยังมีคนยอมเล่นเกมบ้าๆนั่นน่ะ แล้วก็จะได้รักกันสักที”

              ร่างบางพูดพลางหลบสายตาของร่างสูงที่จ้องมายังเธอ อย่าจ้องนักสิเธอก็อายเป็นเหมือนกันนะ         

              “แล้วคุณรู้รึเปล่าว่าคู่กับใคร”

              “ไม่รู้ รีบอร์นไม่ยอมบอก”

              “แล้วคุณไปตกลงกับเค้าเนี่ยนะ”

              “อืม”

              “ทำไมคุณอยากช่วยพวกเขาขนาดนั้นล่ะ”

              “ก็...ตอนนั้นโคโรเนโร่ยังช่วยฉัน จนตัวเองต้องตายเลยนี่นาฉันเลยอยาก...”

    “จะช่วยเขาสินะครับ”

          ร่างบางพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ร่างสูงถอนหายใจใหญ่เมื่อรู้ถึงเหตุผลของร่างบางตรงหน้า ฟงพามาม่อนมานั่งที่เก้าอี้ก่อนจะถามสิ่งที่ค้างคาใจอีกอย่าง...

              “ทำไมรีบอร์นต้องให้เงินก่อนคุณถึงจะยอมครับ”

              “เพื่อความสมจริงไง ถ้าฉันยอมง่ายๆก็น่าสงสัยจะตายเดี๋ยวความก็แตก แผนก็พัง ดีไม่ดีฉันอาจจะซวย”

              “เหรอครับ...”

           “...”

              “งั้นผมก็ขอโทษด้วยละกัน ที่จูบแรกของคุณคือคนที่คุณเกลียดที่สุดอย่างผม...”

              ใครบอกว่าเกลียดกันล่ะ

              มาม่อนพึมพำออกมาเบาๆแต่ร่างสูงตรงหน้าก็ไม่วายจะได้ยิ้ม ยิ้มใจดีเปลี่ยนมาเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ใบหน้าคมยื่นเข้ามาใกล้ดวงหน้าหวานที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย

              “ไม่ได้เกลียดก็แปลว่ารักใช่ไหมครับ^^

              “จะบ้าหรือไง ฉันบอกว่าไม่ได้เกลียดนายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะรักนายซักหน่อย!

              “แต่ผมรักคุณนะ...”

              “...”

              “รักคุณมานานมากแล้วด้วย รักตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันผมก็รักคุณมาตลอดเลย ที่ผมโกรธเพราะผมไม่อยากให้คุณต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวกับคนที่คุณไม่ได้รัก...”

              ไม่ทันที่ร่างสูงจะพูดจบร่างบางดึงร่างสูงที่กำลังจากไปให้มาเผชิญหน้ามือเรียวเลิกผ้าที่คลุมใบหน้าออกไปเผยให้เห็นดวงหน้าหวานที่ส่งยิ้มมาให้

              “ชอบคิดไปเองอยู่เรื่อยเลยนะ~ใครบอว่าฉันไม่รักนายกัน~

              “คุณไง มาม่อน”

              ริมฝีปากหนาเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อีกครั้ง พลางรั้งเอวบางให้เข้ามาให้ใกล้ชิดกัน ใบหน้าแทบชิดติดกันจนรู้สึกถึงลมหายใจซึ่งกันและกันยิ่งทำให้ร่างบางตรงหน้ามีใบหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม มือหนาเชยคางขึ้นมาเพื่อไม่ให้ใบหน้าสวยหลบตาไป มาม่อนเชิดขึ้นเล็กน้อยทั้งๆที่ใบหน้ายังขึ้นสีระเรื่อ

              “นายไม่เข้าใจคำว่าอายรึไง ให้ฉันบอกว่ารักนายก่อนเนี่ยนะไม่มีทางซะหรอก-^-

              ฟงหัวเราะเบาๆกับท่าทีของคนตรงหน้าทำให้มาม่อนต้องฟาดฟงไปหนึ่งที(แก้เขินน่ะ)

              “งั้นผมคงจะต้อง...ลงโทษคนปากแข็งซะแล้วล่ะ~

          ว่าแล้วริมฝีปากหนาก็ประทับลงไปยังริมฝีปากบางอย่างไม่ลังเล ลิ้นหนาควานหาความหวานในโพรงปากของร่างบางไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จักพอ ลิ้นเล็กตอบกลับอย่างไร้เดียงสา มือเรียวเปลี่ยนเป็นโอบคอร่างสูงแทน จูบที่อ่อนหวานแต่เนิ่นนานทำให้มือเรียวต้องทุบอกร่างสูงเพราะเริ่มหายใจไม่ออก ทำให้ร่างสูงต้องผละริมฝีปากออกมาอย่างเชื่องช้า ใบหน้าหวานขึ้นสียิ่งกว่าเก่าทำให้ร่างสูงต้องคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะกระซิบเบาๆข้างหู

              “ก็คุณน่ารักขนาดนี้จะไม่ให้ผมหลงรักคุณได้ยังไงกัน”

    จบแล้วค่ะ

    V

    V

    V

    V

    V

    V

    V

    V

    V

    V

    V

    V

    V

    V

    V

    V

    ซะเมื่อไหร่(//โดนโบก)

    แถมนิดนึง

    ....

    ...

    ..

    .

              บุคคลที่ถูกลืม

    รีบวิ่งกันเหอะเหลืออีกตั้งสามรอบ

    หือ พึ่งวิ่งได้รอบเดียวเองเหรอครับเนี่ย

    ก็ใครกันที่มัวแต่...-///-

    อะไรกันพูดแบบจะเชิญชวนผมหรือไงครับ...

    ใครเค้าชวนนายกันล่ะ...อุ๊บ

    ไม่ทันไรริมฝีปากบางก็ถูกครอบครองโดยริมฝีปากหนาลิ้นของร่างสูงควานหาความหวานในโพรงปาก จูบที่อ่อนหวานแปรเปลี่ยนไปเป็นจูบที่ร้อนแรง มือหนาปลดกระดุมร่างบางออกเผยให้เห็นผิวขาวใสที่เต็มไปด้วยรอยกลีบกุกลาบ มุคุโร่ละริมฝีปากออกจากร่างบางก่อนจะกดสึนะให้นอนราบกับป่าแล้วไซร้ที่ซอกคอของร่างบาง

    อ๊ะ...มุคุ...โร่...หยุด...นะ...อ๊า!

    (อย่าไปขัดเขาเลย...เนอะ-w-//ไรท์เตอร์)

    จบจริงๆแล้วจ้า

    คือพึ่งเคยแต่งฉากจูบครั้งแรก เลยยังไม่ดีและไม่ได้อารมณ์เท่าที่ควรเพราะฉะนั้นไปอ่านฉากแบบนี้เพิ่มดีกว่า-w-

    ลาล่ะค่ะ(//กลิ้งออกไป)

             

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×