ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *+LuZt+* ++ตัณหา ราคะ++

    ลำดับตอนที่ #2 : *+LuZt+* ++ตัณหา ราคะ++ [บทที่1---*สาเหตุ*---]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 314
      0
      18 ส.ค. 49

     *+LuZt+* ++ตัณหา ราคะ++  [บทที่1---*สาเหตุ*---]

     

                    "ราตรีสวัสดิ์นะเคตะ"     ฮิโรกิบอกเคตะมื่อเห็นว่ามันดึกพอสมควรแล้ว

                    "ฮะ ฮิโระ ราตรีสวัสดิ์เช่นกัน"     เคตะตอบกลับเสียงใส แล้วก้อเดินเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง เสียงปิดประตูดังขึ้นเมื่อเคตะเข้ามาในห้อง เขายืนพิงเอาหลังชนประตูด้านในแล้วก้มหน้านิ่ง

                    จากใบหน้าที่ยิ้มร่าเริงของเคตะตอนนี้ได้เปลี่ยนไป รอยยิ้มที่ดูไร้เดียงสาได้เลือนหายไปจากใบหน้าใสซื่อนั่นกลับมีแต่หน้าที่แสดงถึงความผิดหวังอยู่อย่างเปี่ยมล้นจนแทบจะทะลักออกมาเป็นน้ำตา

                    "อา ฮิโระมีคนที่ชอบแล้ว"     เคตะพึมพำกับตัวเอง แล้วน้ำตาใสๆก้อไหลรินออกมาเป็นทางอาบเต็มสองแก้ม

     

                    ใช่แล้วฮิโรกิคือรักแรกและรักเดียวของเคตะ ถึงแม้จะเป็นพี่ชายแท้ๆก้อตาม....................................

     

                    เคตะเดินเข้าห้องไปอย่างไร้ชีวิตราวกับวิญญาณจะออกจากร่าง เคตะจะทำเหมือนเช่นที่เคยทำถึงถึงแม้เขาจะห่างจากการกระทำแบบนี้มาแล้วก้อตาม เคตะหยุดเดินตรงที่ใต้ฝักบัวแล้วเปิดน้ำรดหัวตัวเองน้ำได้ไหลจากข้างบนลงสู่ร่างน้อยๆไหลลงมาตามร่างกายอย่างรวดเร็ว ผมเปียกลู่ตกลงมาปิดหน้าตาเคตะค่อยๆทรุดตัวลงนั่งอยู่ใต้ฝักบัวนั่น และในมือกำมีดโกนที่หยิบมาจากข้างๆอ่างล้างหน้าไว้แน่น

                    "ฮิโระจังไม่รักผมแล้ว"

                    "ฮิโระจังไม่รักผมแล้ว"

                    "ฮิโระจังไม่รักผมแล้ว"

                    เคตะพูดทั้งหมดนี้ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนคนเสียสติ ปากขาวซีดสั่นตามแรงกระตุกของร่างกายแล้วน้ำที่รินไหลตามทางก้อปรากฎเป็นสีแดงฉานเข้ม

                    โรคทางจิตชนิดหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นกับเคตะเพิ่งจะหายไปเมื่อสองปีที่แล้วกลับมากำเริบอีกครั้งนึงแต่ความรุนแรงมีแค่ไหนไม่อาจทราบได้ อาจจะร้ายแรงกว่าที่เคยก้อได้   ไม่มีใครรู้.................

     

    .....................................................................................................................................

    ...........................................................................................

    .................................................

    .....................

    ................

    ..........

    ....

                   

                    ปุ้งกู๋ ปุ้งกู๋                    นาฬิกาปลุกตอน6โมงเช้าในวันรุ่งขึ้น เคตะลืมตาตื่นขึ้นท่ามกลางกองเลือดที่เขาได้ละเลงกรีดบนร่างกายในห้องน้ำอย่างบ้าคลั่งเมื่อวาน ดีที่ไม่โดนเส้นเลือด แผลก้อไม่ลึก เลือดออกก้อไม่มาก(เท่าไหร่)เขายังคงมีแรงและมีสติที่จะลุกขึ้นมา แล้วเขาก้อบรรจงอาบน้ะเพื่อล้างเลือดและลบกลิ่นคาวออกจากตัว เมื่อคืนเขานอนหมดสติหน้าห้องน้ำดีนะที่มือบังเอิญไปปิดฝักบัวก่อน ไม่งั้นมีหวังเช้านนี้เขาได้เป็นปอดบวมแน่ๆ

                    เคตะลงจากห้องมาที่ห้องครัวของบ้าน ในเครื่องแบบนักเรียนขุดสูทสีขาว

                    "เคตะแขนไปโดนอะไรมาน่ะ"     แม่ถามเคตะด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นรอยกรีดนี้

                    "อ๋อ รอยหนังสือฮะ เมื่อวานผมนอนทับหนังสือ วันนี้มีสอบ"     เคตะพูดปดอย่างทันควัน แม่จะท้วงแต่พอเห็นรอยยิ้มของเคตะแล้วก้อเปลี่ยนใจ เพราะไม่คิดหรอกว่าโรคนั้นจะกลับมาอีก ก้อเคตะออกจะร่าเริงซะขนาดนั้นเมื่อก่อนนะเคตะเงียบกว่านี้ตั้งเยอะ

                    "ตั้งใจเรียนเชียวนะ"     เสียงของฮิโรกิดังขึ้น เคตะหันไปมองที่ฮิโรกิกลับต้องตกใจเมื่อพบว่า ฮิโรกิก้อใส่เครื่องแบบเดียวกันกับเขา

                    "ฮิ ฮิโระ นะนาย"     เคตะระรัวลิ้นด้วยความตกใจ

                    "ใช่แล้ว ตั้งแต่วันนี้ฉันจะมาอยู่ที่นี่ ฝากตัวด้วยนะ"     ฮิโรกิตอบให้เสร็จสรรพ ให้กับใบหน้าฉงนของเคตะ แล้วเคตะก้อเผยอยิ้มกว้างออกมา

                    วันนี้อาจเป็นวันที่มีความสุขอีกที่สุดอีกวันนึงของเคตะเลยก้อว่าได้ แต่....... เคตะไม่รู้เลยหรอว่า?อากิระคนที่ฮิโรกิคุยโทรศัพท์ด้วยเมื่อวานน่ะ เรียนอยู่ที่ๆเดียวกันกับเขา........................

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

                    เป็นอีกวันนึงที่ชินยะขี้เกียจเรียน ถึงเขาจะทำตัวเสเพลบวกกับไอ้พวกแยงกี้ยังไง แต่ความป๊อบที่มีต่อสาวๆก้อไม่เคยเปลี่ยน

                    วันนี้ชินยะก้อเข้ามาใน รร 10 โมงเช้า นับว่าเป็นเรื่องปกติ แทนที่รู้ว่าสาย(สายมากเลยล่ะ-*-) แต่ชินยะกลับไม่รีบเข้าห้องเรียนเลย เขากลับเดินตรงขึ้นมาทางบันไดเพื่อที่จะมานอนพักผ่อนสมองที่บนดาดฟ้าของตึกนี้ เขานอนพักอย่างที่ค่อนข้างจะสบายอารมณ์ ดาดฟ้าแห่งนี้เป็นที่ที่ทุกคนใน รร ต่างคิดว่ามันคือสถานที่ปิดตาย แล้วก้อทาง รรสั่งห้ามไม่ให้ใครขึ้นไป แต่สำหรับชินยะแล้ว ที่นั่นและคือสวรรค์ของเขา เพราะเขาจะได้มีโลกส่วนตัวที่อยากจะมี

                    แล้วชินยะก้อก้อหาหลบมุมที่ที่เขางีบหลับเป็นประจำ

    ..................................................................

    ......................................................

    ...........................................

    ...............................

    ...............

     

                    ตึ่ก! ตึ่ก! ตึ่ก!   ชินยะสะดุ้งสุดตัวเขาตื่นมาเพราะเสียงบ้านี่ แหละใครมาทำอะไรตรงนี้วะ? เขาคิด แล้วเขาก้อลุกไปเดินดูที่ต้นเสียง

                    นั่นคือเด็กชายคนนึงกำลังทำร้ายตัวเองโดยการใช้มือเปล่าๆชกไปที่กำแพงอิฐ ปูน ของดาดฟ้า อย่างบ้าคลั่งเท่าที่ดูใบหน้าแล้วเด็กคนนั้นท่าทางจะอาบแก้มไปด้วยน้ำตา พร้อมกับเสียงพึมพำที่ชินยะเองก้อฟังไม่ออก

                    "นายทำอะไรน่ะ!? พอได้แล้ว"     ชินยะรีบวิ่งไปคว้าตัวเพื่อที่จะหยุดเด็กคนนั้น

                    "ปล่อยฉันนะ! ไอ้บ้า!!"     เด็ดคนนั้นร้องเสียงดังทำเอาชินยะสะดุ้ง ถ้าไอ้เด็กคนนี้แหกปากไปมากกว่านี้ มีหวังเขาต้องถูกจับได้ว่าแอบขึ้นมาบนนี้แน่ๆ

                    "เงียบก่อนได้ไหม?"     ชินยะบอก แต่ดูท่าทางเด็กคนนั้นจะไม่ฟัง

                    "ปล่อยนะเว้ย! ปล่อย!!!"     เด็กคนนั้นยังคงตะโกนต่อไปไม่หยุด ชินยะเองก้อจนปัญญา-*- มันเหลือวิธีสุดท้ายเขาเองจำเป็นต้องทำ ว่าแล้วเขาจึงประกบริมฝีปากไปที่เด็กคนนั้นจังๆ

                    ได้ผล! เด็กคนนั้นหยุด แต่ด้วยสัญชาตญาณ(หรือสันดาน) ชินยะได้เอาลิ้นกวาดไปทั่วทั้งปากของเด็กคนนั้น

                   

                    พลั่ก!!!!  ชินยะโดนเด็กคนนั้นถีบออกมาเต็มๆ

                    "นายทำบ้าอะไรน่ะ"     เด็กชายรีบเอามือถูริมฝีปาก หน้าแดงไปจนถึงหู

                    "ก้อทำให้นายหยุดไง"     ชินยะตอบเหมือนไม่อะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่จุกตรงที่โดนลูกถึบไอ้เด็กนั่นมาจะแย่อยู่แล้ว-*-

                    "บอกดีดีก้อได้นี่หน่า"     เด็กคนนั้นเริ่งเสียงออ่นลง

                    "บอกดีดีหรอ? นายหยุดซะที่ไหนล่ะ โรคจิตหรือไง ชอบทำร้ายตัวเองน่ะ"     ชินยะต่อว่า

                    "อื้ม"     เด็กคนนั้นพยักหน้ารับ ชินยะถึงกับผงะนี่เขาถามเล่นๆนะ

                    "แล้วนายชื่ออะไรอ่ะ "    ชินยะลดเสียงถาม ฟังดูอ่อนโยนขึ้นมาก

                    "ฟุรุยะ เคตะ ปี1"     เด็กคนนั้นก้มหน้าตอบ

                    "หรอ งั้นก้ออ่อนกว่าฉันปีนึงสินะ ไม่ต้องเรียกพี่ก้อได้ฉันไม่ถือ"     ชินยะบอก (ที่จริงมันไม่อยากแก่ต่างหาก)

                    "ก้อแล้วแต่นายแหละ"     เคตะเอ่ย

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

                    "กลับมาแล้วค้าบ^o^"      เคตะตะโกนลั่นบ้านเหมือนเคย วันนี้เขากลับช้ากว่าทุกวัน  แล้วเขาก้อได้เพื่อนใหม่แล้วถึงจะไม่ค่อยน่าคบก้อเหอะ

                    "วันนี้ทำไมกลับมาช้าจังล่ะเคต อ้าวแล้วมือไปโดนไรมาอ่ะ"     แม่ที่ออกมาต้อนรับอย่างอารมณ์ดี แต่มือที่เคตะชกกำแพงกลับมีคนเห็นจนได้

                    "วันนี้หกล้มนิดหน่อยอ่ะฮะ"     เคตะตอบพลางซ่อนมือข้างนั้นไว้อย่างมีพิรุธ

                    "งั้นหรอ? รีบไปอาบน้ำแล้วมาทานข้าวดีกว่านะ"     แม่บอกโดยไม่เอะใจสักนิด

                    เคตะรีบขึ้นไปห้องนอนตัวเองอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะไม่ให้ใครเห็นสภาพมือเขามากไปกว่านี้

                   

                    เคตะสำรวจดูแผลบนหลังมือ คราบเลือดยังติดอยู่เล็กน้อย เขายิ้มให้กับมันแล้วคิดว่า ชินยะช่างไม่มีความละเอียดเอาซะเลยแม้แต่ล้างแผลยังล้างไม่หมด เป็นครั้งแรกเองที่เขาคุยกับคนแปลกหน้าได้นานขนาดนี้ ทำให้เขารู้สึกกลับเป็นปรกติอีกครั้ง

                    "กลับมาแล้วจ้า"     เสียงฮิโรกิดังมาแว่วๆจากชั้นล่าง เคตะตื่นจากภวังค์ รีบลงไปหาฮิโรกิทั้งๆที่มือยังไม่ได้พันแผลไว้เหมือนเดิม

                    "กลับมาแล้วห้อฮิโระ"     เคตะถามฮิโรกิด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

                    "อื้ม เคตะมือนายไปโดนไรมาอ่ะ"     ฮิโรกิถามขึ้นอีกคน

                    "หกล้มนิดหน่อยน่ะ"     เคตะปดเอาดื้อๆเป็นครั้งที่สอง

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

                    "พ่อฮะ แม่ฮะผมกลับมาแล้วค้าบ"     ชินยะในวัย15ร้องทักเสียงใสแจ๋ว

                    "กลับมาแล้วหรอชินจัง? วันนี้เป็นเด็กดีรึเปล่าเราน่ะ"     พ่อชินยะลูบหัวถามด้วยความเอ็นดู

                    "ต้องดีอยู่แล้วนี่คับ ก้อผมลุกพ่อนี่ วันนี้ผมก้อสอบได้คะแนนเต็มนะ"     ชินยะบอกกับพ่อด้วยความภาคภูมิใจที่มีอยู่ในน้ำเสียง

                    "เก่งมากเลยชิน!!!^o^ สงสัยวันนี้ต้องฉลองสักหน่อยแล้ว"     แม่ชินยะร้องดีใจโผล่ออกมาจากห้องครัว

                    "ไปซื้อของมาเตรียมกันดีกว่าเนอะสองแม่ลูก"     พ่อหันหน้าไปถามแม่ละชินยะ ทั้งสองก้มหน้ารับคำ แล้วรถเก๋งคันงามก้อออกจากบ้านตรงไปยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ๆ

                    "อ๊ะ เดี๋ยวแม่มานะ พอดีลืมกระเป๋าตังค์มาน่ะ"     พ่อและชินยะกำลังจะหันไปบอกกับแม่ว่าไม่ต้องแล้ว แต่พอหันไป.............................

     

                    เอี้ยด! โครม!

     

                    รถบรรทุกสินค้าที่ส่งมายังขายในห้างได้ชนแล้วเอาชีวิตของแม่ไปไม่ถึง10วินาที แม่ตายคาที่

                    "แม่!!!!!!!!!!"      ชินยะร้องเสียงหลงและนีบวิ่งถลาเข้าไปหาร่างที่ไร้วิญญาณของแม่ น้ำตาใสๆเริ่มไหลออกมาแล้วตัวเองก้อหมดสติไป

                    งานศพของแม่จัดขึ้นอย่างเงียบๆ มีแค่บรรดาญาติเท่านั้นที่มางาน แค่แม่เสียชินยะก้อแทบบ้าไหนจะเรื่องที่ไม่คาดฝันอีก

                    "ชินยะ....นี่คือแม่ใหม่ของลูก"      พ่อได้พาผู้หญิงแปลกหน้าคนนึงกับเด็กผู้ชายที่อายุน่าจะอ่อนกว่าเขาสักปีมาแนะนำในงานศพของแม่

                    "ห๊า ว่าอะไรนะคับ"     ชินยะถามเพื่อความแน่ใจ เขาไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม?

                    "นี่คือแม่ใหม่และนี่น้องชายของขินด้วย ชื่ออากิระนะ"     พ่อแนะนำทั้งหมดให้เสร็จสรรพ

                    เมื่อสิ้นประโยคชินยะแทบทรุดลงไปกองกับพื้นแต่ก้อยังพอที่จะรวบรวมสติไว้ได้

                    "แล้วแม่ล่ะฮะ? พ่อเอาแม่ไปไว้ไหน?"     ชินยะขึ้นเสียง

                    "แม่ก้อจะอยู่กับเราเสมอแหละ"     พ่อบอกเสียงเรียบ

                    "แล้วมันเกี่ยวไรกับผู้หญิงแล้วก้อเด็กคนนี้ด้วยล่ะ นี่งานศพแม่นะพ่อ พ่อยังเอาผู้หญิงคนใหม่มางานเพื่อเยาะเย้ยแม่หรอ?" 

                    "ใจเย็นก่อนชินยะ มันมีสาเหตุ"     พ่อพยายามที่จะหยุดชินยะ

                    "สาเหตุที่พ่อแอบมีชู้ใช่ไหมล่ะ?"

     

                    ผัวะ!!  ชินยะหยุดโวยวาย ตอนนี้หน้าเขาชาไปหมด เขาตาฝาดไปใช่ไหม เมื่อกี้พ่อตบหน้าเขาหรอ?เกิดมาพ่อไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ทำไม? เพราะสองคนนี้น่ะหรอ? ชินยะรู้สึกเกลียดสองแม่ลูกนี้จับใจ

                    "โอเค งั้นผมจะหยุดก้อได้"     ชินยะตะโกนลั่น แล้วก้อเดินจ้ำอ้าวออกไปร้อมกับความเกลียดชังที่มันพุ่งปะทุขึ้นมา

     

                    แล้วชินยะก้อมาอยู่ท่ามกลางความมืดมิดมองไปทางไหนก้อไม่เห็นอะไรเลย แม้แต่เขาที่ก้มมองดูตัวเองนี่เขาอยู่ที่ไหน? ทำไมไม่มีอะไรเลย? ใครอยู่ที่นี่บ้าง? แม่? แม่อยู่ที่ไหน?

                   

                    "แม่!!!!!!! "    ชินยะตะโกนเรียกแม่ดังลั่นบ้าน เหงื่อแตกพลั่กท่วมตัว เมื่อกี้เขาฝันถึงแม่ เขาคิดถึงแม่เหลือเกินจนเขาอยากไปอยู่กับแม่ด้วย แต่พอเขานึกถึงเคตะเขาจึงล้มเลิกความคิด เขายังคงต้องช่วยเด็กคนนี้ก่อน เด็กคนนี้เป็นมากว่าเขาเสียอีก..................................

     

                                                   

                                         

    To Be Continued             

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×