ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    彡★Wizard Detective ★彡New legend (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #2 : 彡★Wizard Detective ★彡New legend ภาคสงครามเวหา ตอนสิ้นเสียงสกุณา ตอน 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 212
      0
      3 มี.ค. 58




    ตอน : 2



    โอนิกซ์เฝ้ามองเพื่อนหูยาวของเขาสนทนากับช่างซ่อมกระเป๋าอยู่ห่างๆ ดวงตาสีม่วงล้ำลึกของหมาป่าหนุ่มวามวาวแสงสดใส
    กระนั้นพลันหม่นเศร้าลงบ้าง เมื่อสมองเจ้ากรรมหวนฉุกคิดขึ้นได้ว่า กระต่ายตัวแสบแสนรักกำลังเผชิญภัยร้ายแรง


    หลังคดีสะเทือนขวัญที่พิพิธภัณฑ์ไวท์ครอสอันทำให้บัลลาธเกือบถึงฆาตเสร็จสิ้น...
    เมื่อบัลลาธหายจากอาการบาดเจ็บ สามารถกลับมาทำงานได้ดังเดิม เพื่อนๆ ในกรมนักสืบเวทย์มนต์หลายคนที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจทางไกลค่อยทยอยกลับมาประจำกรมกอง ต่างแวะเวียนมาร่วมแสดงความยินดีกับพวกเขากันถ้วนหน้า

     

    “ดีจังนะบัลลาธ สิ้นปีนี้ต้องได้โบนัสแน่เชียว คดีร้ายแรงสาหัสขนาดนั้น กลายเป็นคดีใหญ่ประจำปีบนหน้าหนังสือพิมพ์เลยล่ะ”
    คู่หูต่างสัญชาติฟังคำของเพื่อนนักล่าสัญชาติสิงโตจากแผนกพิสูจน์หลักฐานเวทย์แล้วต่างสบตากัน...หัวเราะแห้งแล้ง

    พวกเขาต่างทราบดีว่าทำงานแบบไม่เคยหวังค่าตอบแทนใดๆ จากท่านนายพลคิงสมิท
    เข้าข่ายโวหารโบราณ “ทำงานไม่หวังลาภยศ ขอเพียงปวงประชาเป็นสุข พวกข้าก็พอใจ” ของเหล่าขุนนางกลุ่มผู้ภักดี
    จากละครยาวแนวแฟนตาซีย้อนยุค เรื่อง นักสืบสายเลือดมังกร ฉายทางช่องโทรทัศน์เวทย์มนต์
    หลังจบข่าวช่วงดึก ที่หมาป่าหนุ่มนัยน์ตาสีม่วงเข้ม ติดตามชมเป็นแฟนคลับอย่างเหนียวแน่นอยู่เกือบทุกตอน

    การได้สืบสวนคดีใหญ่นั่นแหละคือโบนัสของชีวิตล่ะ...ถ้าเป็นท่านนายพลคงต้องพูดแบบนี้เป็นแน่

    โอนิกซ์ครุ่นคิดแล้วพลันนึกดวงหน้าอวบอูม อัดแน่นไปด้วยขนเส้นสั้นเกรียนของเจ้านายออกทีเดียว

    ขืนดิ้นรนถามมากความ...มีหวังจบลงที่ประโยคสุดเด็ดดวง จะทำหรือไม่ทำ

    พวกเขาปราชัยต่ออัตตา (แพ้ทาง) ของนายพลสัญชาติหมีกริซลี่ตลอดมา ไม่เคยปรากฏว่ากำชัยชนะเหนือการถกเถียงกันได้สักหน 
    เรื่องต่างๆ นาๆ มักสิ้นสุดสะดุดลง อีตรงที่สองนักสืบต่างสายเลือดกระไดพลอยโจนต้องทำคดี...อะไรสักคดีหนึ่งจนได้

    สมแล้วที่ท่านนายพลคิงสมิธกินตำแหน่งใหญ่โตมาตลอดช่วงชีวิตของการทำงาน พลังคุกคามสัตว์เล็กไร้ทางสู้...ล้นเอ่อ

    ลงเอยแบบนี้มาตั้งไม่รู้กี่ครั้งกี่คราว กระทั่งหมาป่าน้ำแข็ง ผู้มีความทรงจำแม่นมั่นอย่างโอนิกซ์เองยังถึงกับสับสน

    “ผม...กลับไม่ค่อยรู้สึกมีส่วนร่วมกับคดีนี้เท่าไหร่เลยครับ” กระต่ายสีเงินครวญเสียงอ่อย

    หูยาวของบัลลาธลู่ลงแนบผมสีเงินเส้นสั้น...แสดงชัดเจนว่าไม่ใคร่พอใจกับผลงานคราวนี้เท่าใดนัก
    ยามปกติ หากนักสืบเวทย์มนต์กระต่ายหูนิ่มไขคดีสำเร็จ
    ไม่ว่าคดีเล็กหรือใหญ่ อย่างไรเสียสองหูยาวนั้นคงตั้งตรงทำมุมฉากกับพื้นโลกบลูไกอา...อยู่หลายต่อหลายวัน ตามกำลังกระต่ายฮึกเหิม


    กระต่ายสีเงินสลบลึกในช่วงที่ถูก ริกกี้ ฮาวน์ ลักพาตัว ฟื้นคืนสติตื่นขึ้นมาก็เมื่อเรื่องราวเลวร้ายผ่านพ้นสักพักใหญ่แล้ว
    คาดคะเนจากสีหน้าแววตาหมกมุ่นครุ่นคิดของกระต่ายสีเงินแสนรัก บางทีบัลลาธอาจรู้สึกคั่งค้างใจไม่น้อย 
    ลางสังหรณ์พิสดารของมิตรหูยาวของเขาในเรื่องการสืบสวนขุดคุ้ยต้นตอนั้นเป็นเรื่องดูแคลนมิได้เด็ดขาด

    สำหรับหมาป่าน้ำแข็ง ราชาไร้บัลลังก์ คดีเลวร้ายที่ไวท์ครอสนั้นยังไม่สงบจบลง...

    กลับกันทุกสิ่ง มันคือการเริ่มต้นหนทางยาวไกลอันเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม
    ซึ่งจะทารุณโหดเหี้ยมแสนสาหัสเพียงใดนั้น...โอนิกซ์ ผู้มีชีวิตปกติสุขในยามนี้ ไม่อาจจินตนาการถึงได้เลย

    ไร้ร่องรอยซากร่างของคนที่คุณต้องการหา เขาไม่...แม้แต่จะทอดกายอยู่ในหลุมดินสุสานเหมือนอย่างที่ศพของนักโทษอุกฉกรรจ์ทุกศพสมควรต้องอยู่ตามกฏธรรมนูญแผ่นดิน คนตายแล้วกลับไม่อยู่ในแหล่งพำนักสุดท้ายของตน
    มันก็เท่ากับว่าเขาคงไม่จำเป็นต้องพึ่งวงปีกแห่งรูค เพื่อกลับสู่สุขาวดี ชาวเมืองฟ้าทุกคนรวมถึงผมถือคติเช่นนั้น

    วอลแกรม โฮเวริ์ด หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยสัญชาติเหยี่ยวพิริกรินประจำคฤหาสน์กระต่ายสีเงิน
    เอ่ยถึงความเชื่อโบราณของชาววิหคเพื่อเตือนสติหมาป่าหนุ่มอย่างแยบคาย


    เหล่าผู้ครองสัญชาตินกทั้งมวลต่างนับถือมหาเทพรูค วิหคสวรรค์ ผู้มีวงปีกแผ่ไพศาลขนาดโอบล้อมโลกสีฟ้าทั้งใบไว้ด้วยความเอื้ออารี
    ตามคัมภีร์หัวใจปักษา คำสอนว่าด้วยเรื่องกำเนิดประชากรสัญชาตินกซึ่งสืบทอดมาแต่ดึกดำบรรพกาล

    จากความเชื่อเฉพาะกลุ่มนั้น ทันทีที่หมู่ชนสัญชาตินกสิ้นลมหายใจ จิตวิญญาณละสังขารจากกายหยาบ
    ดวงจิตของพวกเขาจะถูกเทพเทวาในอาณัติของวิหคสวรรค์รูค ติดวงปีกโปร่งแสงแทนที่วงปีกเดิมเข้าตรงกลางหลัง
    ดวงจิตเหล่านั้นสามารถหลุดพ้นจากทุกข์ โบยบินโดยอิสระด้วยความสุขเหนืออื่นใดมุ่งสู่ประตูแดนทิพย์วิหคสถาน

    นายทหารนกนักล่าได้รับคำสั่งลับจากโอนิกซ์ ให้ไปขุดหลุมศพของริกกี้ ฮาวน์ นักโทษผู้วายชนม์...
    รูปการณ์เป็นไปตามหมาป่าหนุ่มคาดหมายไว้แต่ต้น ไม่พบศพริกกี้นอนแน่นิ่งอยู่ก้นหลุม
    ไม่หลงเหลือแม้กระทั่งกระดูกสักชิ้นให้ดูต่างหน้า

    เสือดาวสารพัดพิษยังไม่ตาย ยังมีลมหายใจ แถมมีกายเนื้อครบถ้วน...

    แน่นอนล่ะว่าไม่ต้องใช้วงปีกแห่งรูค โผผินบินกลับบ้านเก่า อย่างน้อยๆ ก็ตอนนี้...

    เพราะเป็นประเด็นร้อน หากประมาทเพียงน้อย อาจหมายถึงชีวิตกระต่ายสีเงินหลุดลอย โอนิกซ์จึงยอมเดิมพันด้วยทุกสิ่งที่มี
    เขาแอบนัดแนะจัดประชุมลับกับ มิสเตอร์มิชาเอล พ่อบ้านสัญชาติม้าลาย และวอลแกรม หัวหน้าหน่วยปักษารักษาความปลอดภัย

    หมอนั่นรอดตายมาได้ยังไง ฉันสรุปต้นสายปลายเหตุไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้น...ริกกี้รอดคมหอกคมดาบมาก่อเหตุฆาตกรรมต่อเนื่อง
    แถมอาจมีไพร่พลที่เราไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มไหนสังกัดใดคอยหนุนหลังด้วยอีกเป็นขบวน
    เจ้าพวกนั้นสุมหัวคิดทำอะไรกันแน่? แค่คิดก็ได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ติดจมูกแล้ว”

    หมาป่าน้ำแข็งนัยน์ตาสีองุ่นรำพันพลางระบายลมหายใจยาวเหยียดด้วยความกลัดกลุ้มสุมทรวง
    (สงวนสิทธิ์คำว่า สุมทรวง สามารถใช้เฉพาะกับหนุ่มรูปงาม...เท่านั้น)

    คุณอย่าสูญเสียความเยือกเย็น เผ่นตามจังหวะของเสือร้ายตัวนั้น พ่อบ้านสัญชาติม้าลายใช้ปลายนิ้วจัดระเบียบแว่นสายตา
    พร้อมพูดออกเสียงกังวานทุ้มน่าฟัง ขณะรินชาฝรั่งเย็นเฉียบจากเหยือกโลหะใส่แก้วใสทรงสูงส่งให้โอนิกซ์

    จริงอย่างคุณมิชาเอลบอก เราตั้งหลักในที่มั่นรอดูชั้นเชิงของเขาก่อนเถอะ
    พวกผมเปล่งวาจาสาบานเป็นหน่วยวิหคคุ้มภัยของคุณแล้ว จะไม่ปล่อยให้อันตรายใดๆ ข้ามผ่านวงปีก
    กร้ำกรายเข้ามาทำร้ายนายท่านกับกระต่ายสีเงินได้แน่

    เหยี่ยวหนุ่มวอลแกรมยืดอกรับประกันเสียงหนักแน่น
    “พวกผม” ดั่งคำอ้างเหมารวมถึงลูกพี่ลูกน้องนายทหารวิหคชั้นเลิศอีกสองนายด้วย

    ชายชาติทหารเวหาอย่างตัวเขา ใจเบื้องลึกอยากวัดรอยเท้าพวกสัญชาติเสือดาวมานานนักหนา
    ดวงเนตรสีน้ำตาลแก่คม
    กริบของวอลแกรมฉายประกายมุ่งมาด 

    ให้มันรู้ไปว่าเจ้าพวกลายพรางจุดด่างดำบนพื้นเหลืองทองที่เล่าขานเป็นตำนาน
    ปรัมปราว่าแข็งแกร่งปนเจ้าเล่ห์เหลือเชื่อ...จะวิเศษวิโสสักเท่าใดกัน
     

    หมาป่าหนุ่มคอตก รู้สึกผิดไม่น้อยที่ลอบทำเรื่องใหญ่ยิ่งโดยไม่บอกมิตรหูยาวของเขา
    กระทำการครานี้อุกอาจเข้าข่ายสมคบคิด ทำนองสามหัวดีกว่าหัวเดียว


    แม้...อ้างว่าเป็นการประชุมลับสุดยอด ทว่าการพูดคุยถกปัญหาของพวกเขาทั้งสามก็ใกล้เคียง (หรือเหมือน) งานเลี้ยงน้ำชายามบ่ายแก่ๆ ในหนังสือนิทานฉบับครอบครัวแสนสุข การสนทนาลับเกิดขึ้นระหว่างบัลลาธไม่อยู่บ้าน
    กระต่ายสีเงินได้รับเชิญไปงานเลี้ยงของสโมสรสมาคมนักนิยมบริโภคผลไม้สีแดง
    เหมือนเห็นเอกสารหัวข้อหลักของการสัมมนารอบนี้ น่าจะพูดถึง พริกยักษ์ ...ว่าสมควรเอาไปทำอาหารจานไหนถึงจะได้รสชาติดีที่สุด


    วิจัยพริกยักษ์จานอร่อย...เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่พ้นเรื่องกินเลยเชียว เจ้าพวกสัญชาติหนูขนฟูฟ่อง 

    ไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่ฉันจะแบกหนังหน้าหมาป่าเถื่อนไปยืนคุมเข้มข้างกายบัลลาธให้เพื่อนชาวสัญชาติเหยื่อรายอื่นของเขาสะดุ้งโหยงเล่นได้เสียด้วย...หมาป่าน้ำแข็งราชาไร้บัลลังก์หน้าม่อย เจ็บปวดรวดร้าวกับม่านประเพณีขวางกั้น (?)  หูตั้งขนฟูนุ่มสีดำหลุบต่ำลงเล็กน้อย ส่วนหางสีนิลยาวสวยที่วอลแกรมอยากลองเอามาพันคอเล่นสักครั้ง งดเว้นการสั่นไหวไปมาอยู่ครู่ใหญ่

    ด้วยเหตุนี้...ภารกิจติดตามป้องปรามโดยไม่ให้กระต่ายสีเงินรู้ตัว จึงตกเป็นของอินทรีทองน้องสุดท้อง บาร์โทโลมิว
    หนุ่มพูดน้อยผู้เก่งกาจเรื่องเวทย์มนต์การสะกดรอยตามข่าว นักรบอินทรีทองติดตามป้องภัยแก่บัลลาธได้แนบเนียนจนน่ากลัว...

    ถึงขนาดสามารถหยิบพริกหยวกที่ดูท่าว่าจะเผ็ดร้อนเกินกว่านักสืบกระต่ายสีเงินรับประทานได้ออกจากจานอาหาร
    โดยที่มิตรหูยาวผู้ถือจานอยู่ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย


    ยุทธเวทย์ของนักรบเวหาทั้งสามล้ำเลิศยิ่ง โอนิกซ์ รู้สึกขอบคุณจริงๆ ที่พวกเขาทั้งสามล้วนเป็นมิตรสนิท หาใช่ศัตรูไม่

    “จริงๆ บาธ (ชื่อเล่นของบาร์โทโลมิว) ทำตั้งขนาดนั้นแท้ๆ กระต่ายสีเงินอาจเฉลียวใจสักนิด...รู้ตัวบ้างสักหน่อยก็ได้ แต่นี่...

    เห็นสะดุดหยุดกินแป๊บนึง แล้วก็กลับไปมุ่งมั่นกินต่อเรื่อยๆ แบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น” วอลแกรมออกความเห็นเหมือนใจคิด

    ผู้ร่วมสมคบคิดทั้งสามคนมองเห็นบัลลาธสนุกกับการหม่ำพริกหยวกผ่านทางเวทย์กระจกสื่อสารถนัดตา
    ฝ่ายมิสเตอร์มิชาเอลกับโอนิกซ์ได้แต่ถอนหายใจเฮือกยาวเหยียด ไม่ทราบจะสรรหาคำใดมาบรรยายสถานการณ์นี้ดี

    “นายท่านเติมชาอีกสักหน่อยไหมครับ?”

    มิสเตอร์มิชาเอล พ่อบ้านม้าลายถือวิสาสะรินน้ำชาให้กับนักรบสัญชาติเหยี่ยวพีรีกรินโดยไม่ถามก่อน...

    หมาป่าน้ำแข็งนัยน์ตาสีองุ่นพยักหน้าเพียงหงึกเดียว...

    ห้วงคำนึงของหมาป่าหนุ่มหยุดลงในนาทีนั้น ทันทีที่โสตแว่วนักสืบเวทย์มนต์กระต่ายสีเงินชักชวนให้รีบกลับบ้านก่อน

    อาหารเย็น ระหว่างเส้นทางทอดยาวจากร้านบันนี่เรจิโอ...ถึงคฤหาสน์กระต่ายสีเงิน โอนิกซ์คงครุ่นคิดสับสนมิสร่างซา

    ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใครก็ตาม พวกมันเผยโฉมออกมาครั้งหนึ่งแล้ว...ย่อมต้องมีอีกเป็นครั้งที่สอง นายท่านคอยจับตาดูให้ดีเถอะ 
    ลางสังหรณ์ของวิหคสงครามเช่นผม...บอกชัดว่า อีกไม่นานพวกมันจะโผล่หางออกมาให้เราเห็นแน่นอน


    นักรบสายเลือดเหยี่ยวพีรีกรินพูดจาน่าหวาดหวั่น ขัดกับดวงหน้างดงามราวกับเด็กหนุ่มอายุเยาว์อย่างสิ้นเชิง

    ตอนนี้พวกเราก็คงทำได้แค่นี้...

    หมาป่าหนุ่มลอบส่งยิ้มบางแก่กระต่ายสีเงินแสนรัก
    ผู้กำลังสนอกสนใจเมฆก้อนกลมสีส้มทองท่าทางน่าอร่อยบนขอบฟ้า...

    หากได้ชิมจะมีรสชาติหวานล้ำ ละลายหมดเกลี้ยงบนลิ้นเหมือนกับขนมสายไหมหรือเปล่านะ 

    แค่มองดวงตาสีทับทิมใสแจ๋วของมิตรหูยาว โอนิกซ์ก็ทราบทันที...ว่ากำลังคิดถึงเรื่องสนุกสนานอย่างใดบ้าง

     
     

     
     

    “รอบๆ คฤหาสน์ไม่มีสิ่งผิดแปลก นายท่านโปรดวางใจ” เสียงวอลแกรมรายงานผ่านเวทย์สื่อสาร
    โอนิกซ์คงใช้บริการสามนักรบเวหาให้ช่วยเสาะหาข่าวสารทางลับทั้งหมดอันอาจเกี่ยวกับริกกี้ ฮาวน์
    แต่กระนั้นสถานการณ์ทุกอย่างคงอยู่ในความสงบสุข...ไม่มีคดีพิสดารใดๆ เกิดขึ้น
    ราวกับว่าเสือดาวร้ายกาจตนนั้นอันตรธานจางหายไปพร้อมกับอากาศธาตุแล้วจริงๆ

     

    ไม่...ฉันไม่เคยวางใจ ยิ่งสงบนิ่งเท่าใด ก็ยิ่งเพิ่มความอันตรายมากขึ้นเป็นเงาตามตัว 


    ภาพบัลลาธถูกเสือดาวลักพาตัวคงตรึงตราภายในมโนสำนึกของหมาป่าน้ำแข็ง
    เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องชวนสลดใจขึ้นอีกเป็นคำรบสอง
    โอนิกซ์หมายมาดไว้ว่า หากเจอกันคราวหน้า ต้องจับตัวริกกี้ให้ได้ ไม่ว่าเป็นหรือตายก็ตามแต่


    “คุณโอนิกซ์มานั่งหลบมุมอยู่นี่เอง ผมส่งรายงานเรียบร้อยแล้วนะ ทีนี้เราก็...”

    บัลลาธเดินลอยชายสบายอารมณ์เข้ามายังโถงทางเดินเล็กๆ ที่ซึ่งโอนิกซ์ หมาป่านัยน์ตาสีม่วงเข้มนั่งไขว่ห้างรอคอยมิตรหูยาวบนเก้าอี้นวมไม้ตัวเก่าสำหรับผู้มาติดต่อธุระกับทางกรมตำรวจนักสืบเวทย์มนต์

    วันนี้ท่านนายพลคิงสมิธ เจ้านายสายตรงของพวกเขาทั้งสองออกงานเปิดป้ายห้างสรพพสินค้าเวทย์มนต์ขนาดใหญ่ในเขตชานเมือง
    ไม่อยู่ประจำยังกรมกองเหมือนเช่นเคย หากเจ้านายไม่อยู่ พวกเขาก็...


    จังหวะกระต่ายสีเงินยอดนักสืบอ้าปาก อยากบอกคู่หูว่า...ว่างชะมัด เสียงคุ้นหูที่สุดเสียงหนึ่งดังขัดขึ้น

    ไง ไขคดีเมื่อวันก่อนสำเร็จแล้วสิ ไวว่องสมฝีเท้ากระต่ายสีเงินเลยนะ ฉันยังควานหาสูตรเวทย์มาประกอบสำนวนคดีของฉันไม่ได้สักที
    ถ้าพวกนายสองคนว่างก็มาช่วยระดมสมองหน่อยก็แล้วกัน จะเลี้ยงแซนวิชผักสักมื้อ

    ยูคอน เพื่อนนักสืบเวทย์มนต์สัญชาติหมาป่าสีเทาเอ่ยทักทายเป็นกันเอง ขณะเดินสวนผ่านคู่หูต่างสายเลือดโดยบังเอิญ

    เจ้าตัวหอบแฟ้มเอกสารสูตรเวทย์หลายต่อหลายอันไว้เต็มอ้อมแขน 
    ดวงตาสีทองเข้มซึ่งธรรมดาฉายแววสุกสกาวราวกับอำพันคู่งามหมองหม่นลงถนัด
    สองสหายนักสืบเวทย์มนต์นึกรู้ทันใดว่าเพื่อนหมาป่าคงวิ่งวุ่นทำคดีเหนื่อยสายตัวแทบขาด


    งกจังเลยนะครับ ขอความช่วยเหลือคนอื่น ลงทุนเลี้ยงแค่แซนวิชผักราคาไม่กี่อัฐ แซนวิชผัก เฉยๆ ไม่เอานะ
    ต้องเป็นผักรวม ใส่ผลกัลวา (รูปร่างและรสชาติแบบเดียวกับลิ้นจี่) ด้วย

    กระต่ายสีเงินยิ้มกริ่มพร้อมยื่นข้อเสนอร้ายกาจ ผลกัลวาเป็นผลไม้เมืองหนาว
    ต้องนำเข้าจากหมู่เกาะทางเหนือผ่านสายการบินด่วนของกลุ่มสหกรณ์การค้าสัญชาติปลาเท่านั้น
    จัดเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผลไม้
    * ที่พวกสัญชาติเหยื่อโปรดปราน ราคาต่อผล สูง...เหยียบหลักร้อยเลยทีเดียว

    ยูคอนอ้าปากกว้างร้องโอ้โหสุดเสียง เมื่อเจอน้ำใจมิตรแท้ของกระต่ายสีเงินยอดนักล่า (?)
    กระนั้นเจ้าตัวคงต่อรองเหลือเป็นแซนวิชผักรวมใส่มันหวานแทน
    ถึงมันหวานจะเป็นพืชผักตามฤดูกาล รสชาติและราคาต่อหน่วยต่างกันคนละพื้นพิภพกับผลกัลวา 

    แต่ในเมื่อเป็นของบรรณาการฟรี ไม่เสียเงินทอง...บัลลาธไม่มีเกี่ยงงอนอยู่แล้ว
    ส่วนโอนิกซ์ หมาป่าไม่เลือกรับประทาน ต่อให้เป็นมังสวิรัติก็กินได้สบายไปไหนไปกัน หมดปัญหาหายห่วง


    ว่าแต่ข่าวในกรมมันกระจายเร็วขนาดนั้นเลยเหรอครับ? คุณโอนิกซ์ เพื่อนๆ แผนกใกล้เคียงก็ทักทายผมแบบนั้นเหมือนกันนะ
    คงดูถูกการสอดส่องหาข่าวของคนอื่นๆ ในกรมตำรวจฯ ไม่ได้แล้วสิ ผมก็ต้องพยายามพัฒนาการหาข่าวบ้างล่ะ

    ยูคอนรีบยกแฟ้มเอกสารมาบังดวงหน้า...ปกปิดการลอบอมยิ้มไว้แทบไม่ทัน
    ฝ่ายโอนิกซ์แสร้งผงกหัวเออออกับมิตรหูยาวที่กระโดดโลดเต้น บังเกิดแรงฮึดสู้ชั่ววูบ


    ที่แท้เพื่อนสายเลือดนักล่าทุกคนร่วมสำนักงานต่างทราบความจริงเรื่องกระต่ายขี้เห่อ หูตั้งฉากกันทั้งนั้น...
    มีเพียงกระต่ายสีเงินตัวแสบตนเดียวนี่เองที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ กับเขาเลย

    ไม่ว่าใครคงอดหมั่นเขี้ยว บัลลาธ กระต่ายสีเงินเพียงหนึ่งเดียวในโลกมิได้ หากมีโอกาส...ก็ขอรังแกด้วยความเอ็นดูสักนิด 

    หมาป่าหนุ่มเข้าถึงสัญญาตญานดิบเหล่านั้นแบบถ่องแท้
    เขาจึงลดละโทสะ ปล่อยวาง ขนาด...ไม่ยอมบอกความลับเรื่องหูกับนักสืบเวทย์มนต์สายเลือดเหยื่อ
    แถมไม่ถือโทษโกรธแค้นเหล่าเพื่อนร่วมงานทั้งหลายในกรมตำรวจฯ อีกด้วย


    พอเห็นผมของยูคอน ก็รู้สึกเลยว่าหน้าร้อนมาถึงแล้วนะ

    โอนิกซ์ชวนคุยระหว่างแต่ละคนสาละวนค้นหาเอกสารอ้างอิงเวทย์มนต์ต้องสงสัยมา
    ประกอบการส่งฟ้องศาลจากลังกระดาษนับสิบลังวางเต็มโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ภายในห้องสมุดของกรมตำรวจฯ
    คู่หูต่างสายเลือดตกลงปลงใจใช้เวลาว่างที่เหลืออยู่ของวันมาช่วยเหลืองานเอกสารของมิตรร่วมอาชีพ

     

    นักสืบเวทย์มนต์มือฉมังสายเลือดหมาป่าสีเทา ยูคอน เซโบยา เพื่อนร่วมงานของโอนิกซ์และบัลลาธ
    มีเชื้อสายผสมหมาป่าโบราณเขตขั้วโลกเหนือ เมื่อเดือนตุลาคมเวียนมาบรรจบครบรอบทุกปี
    สีผมของยูคอนจากเดิมไล่สีเทาอ่อนเข้ม จะเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลนทั้งหมดราวกับถูกย้อมด้วยเกล็ดหิมะเหมันต์ฤดู


    กระต่ายสีเงินชื่นชอบยามหมาป่าหนุ่มยูคอนมีผมสีเทาเหลือบทองเช่นนี้มากกว่า
    มองดูเข้ากับดวงหน้าทะเล้นอ่อนเยาว์กว่าวัยของเพื่อนดีไม่หยอก
    ผมสีขาว...บางครั้งเห็นแล้วก็ชวนหนาวเหน็บ ขั้วหัวใจแห้งแล้งอย่างไรชอบกล 

    ยูคอนตอบรับคำพูดของเพื่อน ฝูง ด้วยการเอี้ยวศีรษะอันปกคลุมด้วยเส้นผมสีเทาไล่สีเข้มไปหาอ่อนสวยงามนั้น
    กระแทกแก้มของโอนิกซ์เบาๆ ทีหนึ่ง เป็นการทักทายฉันท์มิตรตามประสากายของนักสืบเวทย์มนต์สัญชาติหมาป่าหายาก
    ที่ทั้งกรมตำรวจนักสืบเวทย์มนต์ เมืองหลวงตะวันออกแห่งทวีปอาราบาดีน
    มีประจำการในปัจจุบันเพียงสองนาย (คือโอนิกซ์และยูคอน) เท่านั้น...

    หมาป่าหนุ่มทั้งสองวัยใกล้เคียงกัน เป็นสมาชิกหลักร่วมวงปาร์ตี้กินเนื้อย่างนอกรอบ
    นอกเหนือจาก ยูคอนกับโอนิกซ์แล้ว ก็มี นายช่างฮัน แมวเหมียวลายหินอ่อนจอมเพทุบาย และอีกคน...


    เวกัสไม่มาช่วยหรอกเหรอครับ? หรือว่าไม่สบายบัลลาธถามคำถามที่โอนิกซ์เองก็อยากทราบคำตอบอยู่พอดี

    หมอนั่นบอกว่าจะมาช่วยทำงานตอนกลางคืน มันได้ที่ไหนกันล่ะ หอสมุดของกรมฯ มันเปิดแค่ช่วงกลางวัน ชอบหาเรื่อง

    ให้ฉันถูกคิงสมิทฉีกอกอยู่เรื่อยเชียว เจ้านกปัญญาอ่อนนั่น ยูคอนเบ้ปากเบี้ยว อดบ่นว่าคู่หูกระปอดกระแปดมิได้

    เวกัส วาราน นักสืบเวทย์มนต์สายเลือดนกฮูกเหยี่ยว คู่หูคู่กัดของยูคอน 
    ทั้งสองคนทำงานด้วยกันมาตั้งแต่แรกเข้าประจำการในกรมตำรวจนักสืบเวทย์มนตร์ ร่วมหัวลงแรงไขคดียากง่ายมากมาย
    สหายต่างสัญชาติทั้งสองเป็นหนึ่งในคู่หูนายตำรวจนักสืบฯ ฝีมือดีซึ่งอายุยังน้อยนิด เมื่อเปรียบเทียบกับประสบการณ์ทำงานโชกโชน


    พอนึกถึงข้อนี้...คู่หูต่างสายเลือดพลันเข้าใจได้เองว่าทำไมที่ผ่านมาไม่ค่อยได้พบพานเพื่อนร่วมงานทั้งสองในเวลางานนัก

    ก็ ยูคอน และ เวกัส เล่นมาทำงานหลังจากชาวบ้านชาวเมืองเขากลับบ้านกันหมดแล้ว...ฉายา นักสืบภาคค่ำ มีที่มาที่ไปตามนั้น

    แท้จริงเพื่อนร่วมงาน ผู้มาทำงานหลังสำนักงานกรมตำรวจนักสืบเวทย์มนต์ปิดทำการ ยังมี จิอันลูก้า สเล นักสืบ
    สัญชาติปลาวาฬหลังค่อม รุ่นพี่ของพวกเขาอีกราย ขานั้นวันๆ หนึ่งต้องคอยประสานงานตรวจจับสิ่งผิดกฏหมายแถบชายฝั่งทะเล ระยะทางไกลโขจากอาคารกรมตำรวจนักสืบเวทย์มนต์หลังนี้ เลยมีเวลาพอแค่ช่วงหัวค่ำหลังเลิกงาน ว่ายน้ำโต้คลื่นลมแรงกลับเข้าฝั่งมาเขียนรายงานที่กรมตำรวจฯ
    นับว่าน่าเห็นใจ เหล่านักสืบเวทย์มนต์ทุกคนรู้สึกขอบคุณในความเหนื่อยยากของเพื่อนวาฬ จิอันลูก้าอย่างยิ่ง 

    ลูกพี่จิอันลูก้าของบัลลาธและโอนิกซ์เป็นนักสืบเวทย์มนต์ยอดเยี่ยมที่ได้รับการปรับเงินเดือนขึ้นสองขั้นทุกปีโดยไม่มีเสียงคัดค้านสักแอะ
     

    ช่วยไม่ได้นี่ครับ สัญชาตินกฮูกไม่หมดแสง ก็ไม่ตื่นเต็มตาหรอก ยูคอนล่ะได้นอนบ้างหรือยัง? คุณดูโทรมลงมากเลย”  

    บัลลาธออกปากถามด้วยความห่วงใย มิตรหมาป่าสีเทาของคู่หูต่างสายเลือด ร่าเริงเป็นนิจใกล้เคียง...บ้า

    นานๆ ครั้งจะเห็นเพื่อนหมดแรงเนื้อย่าง สิ้นสภาพเป็นหมาหงอยแบบนี้ นักสืบสายเลือดเหยื่อรู้สึกใจแป้วอยู่เหมือนกัน

    ก็นะ งานมันเร่งน่ะ จริงๆ พวกฉันมีคดีด่วนมากๆๆๆ มารอท่า จำเป็นต้องเดินทางไปต่างทวีปให้ได้ในอีกสามวันข้างหน้า
    แต่เรายังติดทำสำนวนคดีนี้ เก็บงานเอกสารไม่ได้หลับได้นอนมาสองวันติด จวนเจียนส่งฟ้องได้หมดแล้ว 
    เหลือแค่ยื่นเรื่องเวทย์มนต์ก่อกรรมนี่แหละ

    รูปคดีที่เพื่อนหมาป่าสีเทาของเขาทั้งคู่กำลังสืบสวนค้างอยู่นั้น เกี่ยวกับคดีต้มตุ๋นหลอกลวงอุกฉกรรจ์
    คนร้ายชายสัญชาตินกกาเหว่าใช้เวทย์มนต์ตบตาเปลี่ยนไข่ของตนเองให้กลายเป็นไข่ของพ่อแม่สัญชาตินกกา
    แล้วนำไปสลับสับเปลี่ยนกับไข่นกกาของจริง ฝากให้พวกสัญชาติกาเลี้ยงแทน คดีค่อนข้างละเอียดอ่อน
    นอกจากจะเกี่ยวพันกับเวทย์มนต์ดั้งเดิมของพวกสัญชาตินกกาเหว่าที่แสนซับซ้อนแล้ว
    ยังเกี่ยวโยงด้านความรู้สึก...ของคนเป็นบิดามารดา เชื่อมโยงถึงสังคมโลกภายนอกหลายต่อหลายทอด


    “แต่แรกพวกฉันไม่ได้ทำคดีนี้สักหน่อย เจ้านกฮูกจอมเพี้ยนเวกัสน่ะสิ บอกว่ายังไงก็ต้องรับมาทำเองให้จงได้
    ฉันล่ะกลัวหูหางตก นึกว่าจะต้องปีนเกลียวกับเพื่อนนักสืบฯ คนอื่นๆ เข้าให้ซะแล้ว ดีนะที่พวกนั้นยอมเข้าใจ...
    เฮ้อ สำหรับเวกัส ไข่ กับ เด็ก ก็มีค่าเท่ากันนั่นแหละ พวกเรามัน...ออกลูกเป็นตัว ตอนคลอดจากท้องแม่ 

    ไม่มีเปลือกแข็งๆ หุ้มห่อร่างมาด้วย ต่อให้ตายยังไง ก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของการสูญเสียไข่ของพวกสัญชาตินกหรอก”

    ยูคอนเป็นคนพูดตรงๆ ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ที่ยอมทำคดียากเย็นหนนี้คงเพราะเห็นแก่หน้าคู่หูคู่ฮา
    ฝ่ายเวกัส หากเป็นคดีของเหล่าสัญชาติวิหค มักได้รับมอบหมายจากเบื้องบนให้เป็นผู้รับผิดชอบ
    ส่งให้นักสืบเวทย์มนต์หมาป่ายูคอนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญปักษีคดีไปด้วยอีกคนโดยปริยาย

    “เรื่องราวมันเยอะเกินมือของฉันกับเวกัสตั้งนานนมแล้ว หลังจากส่งเอกสารนี่เสร็จสิ้น
    ผู้เสียหายจะได้เริ่มกระบวนการเยียวยากับพวกนักสังคมสงเคราะห์ จบงานทางเราได้แบบหล่อๆ สักที”

    หมาป่ายูคอนว่าพลางแนบหน้าลงกับพื้นโต๊ะไม้ ถอนใจเฮ้อ...เหนื่อยหน่าย

    “เวลาไหลผ่านทุกนาทีไม่คอยท่า มัวแต่รื้อเอกสารทีละกล่องเนี่ย มันเสียเวลามากเลย
    ฉันว่าพวกเราลองมาเริ่มกระบวนการตัดออกกันหน่อยดีไหมล่ะ”

    โอนิกซ์นำเสนอวิธีน่าสนใจไม่เลว เพื่อนๆ อีกสองคนพยักหน้าเห็นชอบริเริ่มกระบวนการ ตัดออก ด้วยทันที

    “ข้อมูลเกี่ยวกับเวทย์มนต์เฉพาะทางที่ยูคอนอยากแนบเอกสารสำหรับส่งฟ้องน่ะ มันคือคดีที่มีเนื้อหาคล้ายๆ กัน
    เกิดขึ้นในช่วงร้อยปีนี้ใช่ไหม? ถ้างั้นเราก็ใช้เวทย์มนต์คัดแยกเอากล่องที่อายุน้อยกว่าร้อยปีหรือมากกว่านั้นออกไปก่อนก็แล้วกัน”

    บัลลาธจัดการร่ายเวทย์วงแหวนสีแดงส่องสว่างคัดแยกอายุสสารลงบนกล่องไม้อาคมอย่างเชี่ยวชาญตามคำชี้แนะจากคู่หู

    ผลก็คือจากกล่องไม้อาคมทั้งหมด
    50 กล่อง เหลือเพียง 20 กล่องเท่านั้น 

    “อืม...ถ้างั้นนี่ก็เป็นคดีพวกสัญชาตินกกาเหว่าที่ไม่ค่อยมีเกิดขึ้นในโลกสักเท่าไหร่ ถ้าเป็นสัญชาตินกอื่นก็ตัดออกฉับๆ”

    เวทย์คัดแยกยังแสดงผลลัพท์น่าพอใจเหมือนเคย...

    คราวนี้เหลือแค่
    2 กล่องจากจำนวนเดิมทั้งหมด 

    นักสืบเวทย์มนต์ทั้งสามรีบกุรีกุจอ ช่วยกันค้นหาข้อมูลจากกล่องไม้อาคมทั้งสองกล่อง...
    ท้ายสุดก็มีแฟ้มไม้สีทึมอันหนึ่งเข้าตามหาชน ภายในแฟ้มเป็นข้อมูลคดีเก่าเก็บที่ยูคอนต้องการ
    สีหน้าของหมาป่าสีเทาแช่มชื่นขึ้นทันควันเมื่อได้ของต้องประสงค์

    “คิดถูกจริงๆ เลยน้าที่มาขอให้พวกนายช่วย ขอบใจมากมาย เพื่อนฝูง
    ฉันไปยื่นเอกสารประกอบสำนวนที่ศาลฝั่งตรงข้ามถนนก่อนนะ แล้วจะกลับมาเลี้ยงแซนวิชตอนมื้อเย็น”

    เพื่อนหมาป่าสีเทาบอกด้วยน้ำเสียงเริงร่า
    ขณะกำลังสาวเท้าก้าวขาจากไปพร้อมหางสีเทาเหลือบทองสั่นสะบัดพั่บ ยูคอนกลับนึกถึงเรื่องสำคัญเร่งด่วนขึ้นมาได้

    “โอนิกซ์ๆๆๆ ฉันมีเรื่องจะขอร้อง” หมาป่าสีเทาหน้าตาตื่น หันควับกลับมาหาเพื่อนร่วมฝูง

    “ลืมอะไรเหรอ? ยูคอน” โอนิกซ์ถามขึ้นเสียงสูงตอนท้ายด้วยความสงสัย


    นักสืบสัญชาติหมาป่าสีเทาเอ่ยเสียงเข้มด้วยสีหน้ามุ่งมั่น...กว่าครั้งไหนๆ
     

    “...ขอยืมเงินหน่อยได้ไหม?”


                                  

     *สี่สุดยอดผลไม้ 
    ผลกัลวาจากทางเหนือ รสชาติเหมือนลิ้นจี่ หน้าตาเหมือนแอปเปิ้ล ใช้ใส่สลัดและอาหารคาวหวาน
    ผลบาโบจากทางใต้ เปลือกแข็งสีดำด้านในเนื้อนุ่มสีขาว รสหวานแหลม ใช้ทำเหล้าชั้นเลิศ
    ผลกรีนฮาร์ทจากตะวันตก รูปทรงหัวใจสีเขียวผิวมัน มักถูกนำมาทำขนมปังแยม
    ผลวอนวอนจากตะวันออก ปลูกยากที่สุด เป็นส่วนผสมของเวทย์มนต์บำรุงกำลัง


     

    กลายเป็นเรื่องพิลึกไปจนได้นะคะ ไหงยูคอนมายืมเงินโอนิกซ์ได้ล่ะเนี่ย โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ 

    กลับมาแล้วกับตอนที่สอง เรื่องน้องต่ายขนนิ่ม ที่แต่งยากมากเรื่องนึงของฉันเลย...

    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×