คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บินครั้งแรก!!!
"เครื่องบิน" เป็นยานพาหนะที่หลายๆ คนใฝ่ฝันอยากจะนั่ง ให้เป็นบุญ "ก้น" สักครั้งนึงในชีวิต
"เครื่องบิน". ใช่ว่าก้นใคร ต่อ ใคร จะนั่งได้ง่ายๆ
"ก้น". ที่มีบุญจะต้องประกอบด้วยปัจจัยดังต่อไปนี้.....
1. เกิดบนกองเงินกองทอง.
2. เรียนเก่ง. เก่งขนาดที่ได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ
3. ดวงดีสุดๆ. ได้รางวัลไปทัวร์ต่างประเทศ....
อืมส์.....
ไอ้เรา ก็เกิดมาบนฟอยเงินฟอยทองขัดหม้อ....
แถม เรียนก็ได้ ครบทุกเกรด. ตั้งแต่ 1 ยัน 4. และตั้งแต่ D ยัน. A. อย่าหวังว่าจะได้ทุน ไปเรียนต่อต่างประเทศ.
ที่สำคัญ.... ไม่เคยถูกรางวัลกะเขาเลยยยยย
.......
แง๋ๆๆๆๆ. T^T.
ชาตินี้ จะมีโอกาสบินกะ เขาไหมนิ. ><
แต่เชื่อสิ......
ต่อให้นรกขังเราในห้องที่ปิดตาย. แต่สวรรค์ก็ยังแง้มหน้าต่างให้เราเสมอ*. อิอิ
......
แม้ว่าจะไม่มี 3 ปัจจัยดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น
แต่ นู๋ นิต-ศรี ก็สามารถ "บิน" ได้เหมือนกันคร้าาาา
แถมเป็นการ "บิน" แบบ. VIP สุดๆๆๆ. อิอิ. ^^
.....
เรื่องมันมีอยู่ว่า.....
เมื่อตอนที่เรียนปี 1 ยังเป็นเฟรชชี่^^. เป็นเด็กน้อยหน้าตาดี.
ช่วงที่ปิดเทอม ก็เลยได้มีโอกาสไปซ่อมอาคารเรียนบนดอยกับชมรม "หน่วยเพื่อนเคลื่อนที่"
เดินทางขึ้นดอยโดยรถบัส. คันกลางเก่ากลางใหม่ เก้าอี้ปรับไม่ได้ ดีหน่อยที่เบาะยังนุ่ม.
แต่ก็แปลกนะใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปถึงยอดดอย ก็ 1 คืน กับอีกค่อนวัน. ~~;
แต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่เหมื่อยเลยสักกะติ๊ดดดดด.
.......
พวกเราช่วยกันซ่อมแซมอาคารเรียนจนเสร็จ ใช้เวลา 1 สัปดาห์พอดี
และช่วงเวลาที่ชอบมากที่สุด ของการออกค่ายพัฒนา คือ.....
วันสุดท้ายก่อนกลับบ้าน. ผู้ใหญ่บ้านจะเหมารถสองแถวพาพวกเราไปเที่ยวในตัวเมือง.
ไปเดินช้อปปิ้งที่ถนนคนเดิน
ไปกินของอร่อยๆๆๆ กับเพื่อนๆ พี่ๆ.
กว่าจะกิน. กว่าจะช้อปเสร็จก็ปาไป. 3 ทุ่มกว่าๆ.
แต่ละคนหอบของพะรุง พะรัง เต็มสองมือ ทยอยกันขึ้นรถสองแถวของหมู่บ้าน
เนื่องจากพวกเรามีจำนวนเยอะจึง ได้รถ 2 คัน.
ฉันนั่งรถคันที่2 กับพี่ๆ วิศวะ ที่สนิทกัน
.....
ด้วยความล้าจากการซ่อมอาคาร บวกกับความเหนื่อยของการเดินช้อป. ดังนั้น พอรถเคลื่อนตัวออกปั๊บ... นิต-ศรี ก็หลับปุ๊บทันที. แฮ่ๆๆๆๆ. ^^
ไม่อยากบอกเลยว่า. หลับลึกขนาดฝันได้เลย....
ฝันว่า.....
รถสองแถวที่เรานั่งมันวิ่งเร็วมากๆๆๆๆๆๆ. แล้วอยู่ๆๆ ก็มีหลุมโผล่ขึ้นมา รถหลบไม่ทัน ตกหลุม
บู้ม!!!!
รถกระแทกตกหลุมอย่างจัง. คนบนรถกระเดนกระดอน
เราโชคร้ายกว่าใคร. กระเด่นตกลงมาจากรถ......
ใจหายวูบ......
รู้สึกราวกับว่า ตัวเราถูกแรงมหาศาลจากใต้พิภพ. เวียงให้ตกลงพื้นดิน.....
ในความฝันนั้น... จิตใต้สำนึกมันบอกว่า
. "เก็บคอ. งอเข่าสิ. คอจะได้ไม่หัก"
อีกใจก็พะวงว่า..... "เฮ้ย. เราตกลงมานี่. กระเป๋ามาด้วยหรือเปล่าว่ะ?"
"มาตัวเปล่า แล้วจะกลับบ้านยังไง?"
"แล้วพี่ๆ จะตามหาเราไหม?"
อีกเสียงหนึ่งก็ปลอบว่า..... "มันเป็นแค่ฝันนร่าาาา ไม่มีอะไรหรอก"
......
เอ่อว่ะ.
พอคิดได้ว่าเราหลับนี่หว่า..... ตื่นๆๆๆๆ
........
พยายามจะลืมตา.....
แต่แล้วก็รู้สึกว่า ตัวเรากำลังไถลกับพื้นถนน.
รู้สึกเหมือน ก้อนดิน. ก้อนหินมันทิ่มไปในเนื้อ
เอ้ย!!!!???!
นี่ตรู.....ตกรถจริงๆๆๆ. เหรอ????
....
หลังจากที่ กลิ้ง แข่งกับก้อนหินไปหลายตลบ.
ทุกอย่างก็หยุดนิ่ง......
ฉันพยายามลืมให้เต็มตาอีกครั้ง.....
อั้ยยะ!!!!
😰😰😰😰😱😱😱
ไม่มีอะไรเลย. นอกจาก ถนน. กับความมืดมิด
.....
ในขณะที่กำลังทำอะไรไม่ถูก
พี่แอ้นวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา.... พลางถามว่า
"เป็นไงบ้าง?"
"ไม่เป็นไรค่ะ". เราตอบ
"รถชน".
พี่แอ้นย้ำสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนว่า สมองของพวกเราจะไม่รับรู้อะไรอีกแล้วนอกจากความหวาดหวั่น
ก่อนที่จะมีใครพูดอะไรต่อ. พวกเราก็ได้ยินเสียงคราง. ของบางสิ่งบางอย่าง
พี่แอ้นตาไวกว่า. รีบวิ่งไปที่ท่อระบายน้ำข้างทาง.....
........
ภาพที่ปรากฏตรงน้าคือ.
พี่เอก และน้องนิว นอนคว่ำหน้า ร้องโอดโอย ข้างขอบท่อระบายน้ำ.
พี่แอ๊นกระโจนลงไปดึงทั้งคู่ขึ้นมา ในขณะที่เราละล้าละลัง. ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร.....
เสียงรถพยาบาล เปิดไซเรน วู๋ ว๋อๆ ๆ ดังใกล้เข้ามา. พร้อมกับเพื่อนๆ ที่เหลือวิ่งเข้ามาช่วย...
ทุกอย่างดูโกลาหนไปหมด. ไม่รู้ใครต่อใครวิ่งผ่านไปมา...
สักพัก.....
พี่ค่าย (หมายถึง พี่ๆๆ ที่ไปค่ายด้วยกัน). ก็บอกให้เราขึ้นรถพยาบาลไปกับคนเจ็บ....
.......
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล. คนเจ็บถูกลำเลียงส่งเข้าห้องฉุกเฉิน....
พี่แอ๊นมีแผลถลอกที่ข้อมือ
น้องนิวบาดเจ็บสาหัส ถูกแยกไปอีกห้อง
ส่วนเรายืนให้กำลังใจพี่เอกที่กำลังเย็บคิ้วที่แตก...... แถมยังมีแผลถลอกตามตัวอย่างสยดสยอง...
"หนู"
เสียงพยาบาลเรียกขึ้น. เราหันไปมองพลางคิดว่า เราเกะกะการทำงานเขาหรือเปล่านะ
"หนู. ไปขึ้นเตียง. พี่จะทำแผลให้". พี่พยาบาลบอกเป็นเชิงสั่ง
"แผล". เราย้ำ คล้ายกับจะบอกตัวเองให้สำรวจ ร่างกาย. นี่เรามีแผลด้วยเหรอ?
ก่อนที่จะทันตั้งตัว. พยาบาลก็ดุนหลังให้ขึ้นเตียงคนไข้
พอนอนบนเตียงสำรวจตัวเองดีๆ.
พบว่า. อ๋อ มีแผลถลอกที่ เท้า กับที่มือนิดหน่อยนะ. พอเห็นดังนั้นค่อยเบาใจหน่อย
พยาบาลคนเดิมมาถึงที่เตียง. ก็หยิบกรรไกรขึ้นมา
😖😖😖
เย๋ย???!!!!!
คุณพยาบาลจะทำอะไรนะค่ะ. เป็นความตกใจที่ตะโกนขึ้นในใจ. แต่สงสัยมันจะออกมาทางหน้าตา
คุณพยาบาลก็เลย คลายข้อสงสัยว่า
"จะดูว่า มีแผลไหม".
คุณพยาบาลปากว่ามือถึงมากค่ะ. พูดไม่ทันจบ. คุณพยาบาลก็ใช้กรรไกรแหกขากางเกงตั้งแต่ข้อเท้าจนถึงเกือบจะถึงต้นขา......
ไม่น่าเชื่อ.....
มีแผลถลอกตั้งแต่หัวเข่าจนถึง หลังเท้าเลยอ่ะ....
ที่สำคัญ.... มีแผลทั้ง 2 ข้าง. ส่วนผู้ช่วยพยาบาลอีกคนก็ทำแผลที่หลังมือ. ทำไปทำมา...
เจอแผลถลอกตั้งแต่หลังมือ ไปจนถึงข้อศอก....
โอ้... แม่เจ้า.....
ไม่คิดมาก่อนว่าตนเองจะมีแผลเยอะขนาดนี้...
พอทำแผลเสร็จ.....
จากที่เคยเดิน เคยยืนเฝ้าคนอื่น. ปรากฏว่า. ตอนนี้เราลุกจากเตียงแทบไม่ขึ้น
มันปวดแสบ ปวดแผลหมดทั้งตัว. มันตึงไปหมด. ลุกทีก็ทรมานที....
แล้วแผลที่เท้าก็ดูราวกับว่ามันจะบวมขึ้นๆ ใหญ่มากขึ้นทันตาเห็น....
ตอนนี้. นิต-ศรี เดินเองไม่ไหว. ต้องนั่งรถเข็ญ.
เหอๆๆๆๆ. ตอนแรกนึกว่าตัว ไม่เป็นอะไร. ที่ไหนได้ เดินเองก็ไม่ไหวซะแล้ว
O.0. !!!
😵😵😵😵
สรุปแล้ว พวกเราที่ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด. 5 คน
สาหัส 2 คน. ซึ่งต้องนอนที่ห้อง ไอซียู. รอส่งตัวโดยเข้า กรุงเทพฯ
อีก 3 มีแผลถลอก แผลเย็บ หนึ่งในนั้นมีเรา กับ พี่แอ้นด้วย
เรา 3 คนก็เลยได้นอนที่โรงพยาบาล แทนการนอนบนรถ....
โดยแถมมีคนนอนเฝ้าพิเศษข้างเตียงอีกต่างหาก......
โอย.... ชีวิตนี้ ของนิต-ศรี. มีคนนอนเฝ้าข้างเตียงด้วยเว้ย ><
และดึกๆๆ. มีเสียงร้องโอดโอย จากเตียงข้างๆ. กล่อมอีกต่างหากกกก. เหอๆๆๆ
ป.ล. แต่ขอแค่ คืนนี้ คืนเดียวพอค่ะ อย่ามีอีกเลย มัน "ทอ-ระ-มาน". ^^
........
พอถึงรุ่งเช้า. ปรากฏว่า
พ่อกับแม่พี่แอ้น. รู้ข่าวปุ๊บ!!!!!
บินขึ้นมาหาลูกชายที่เชียงใหม่ทันที. แล้วก็จะพาพี่แอ้นบินกลับด้วย....
และด้วยความสงสารลูกนกลูกกาตาดำๆๆ ที่กำลังบาดเจ็บ. พ่อกับแม่พี่แอ้นจึงอนุเคราะห์ให้เราบินกลับด้วย!!!!
........
โอ้. พระเจาจอร์ด. มันยอดมาก
นี่เป็นการนั่งเครื่องครั้งแรกของนิต-ศรี
ตื่นเต้นมาก.....
แต่คงเต้นไม่ได้ เพราะตอนนี้นั่งอยู่บนรถเข็ญ. โดยมีพี่แอ้น และพี่เอกคณะวิศวะ เป็นคนเข็ญ
(อิอิ. มีผู้ชายเข็ญรถให้ด้วยง่ะ. อะไรจะสุขปานนี้ ^__^)
เมื่อไปถึงสนามบิน.
ถ้าเป็นการขึ้นเครื่องครั้งแรก. ทุกๆ คนอาจจะกังวลว่า
"เฮ้ย. แล้วทำไงต่อว่ะ".
"เช็คอินที่ไหนง่ะ".
"แล้วจะหาที่นั่งเจอไหม?"
"ถ้าคาดเข็มขัดไม่เป็น. พูดไทยไม่ชัด เขาจะว่าเราบ้านนอกไหมง่ะ?"
ฯลฯ
แต่สำหรับนิต-ศรี เป็นอะไรที่ ชิวมากค่ะ. ^^
เพราะนั่งอยู่บนรถเข็ญอย่างเดียว นอกนั้น คนอื่นๆ จัดการให้หมดดดดดด เลยยยยย. *3*
ที่สำคัญ ตอนขึ้นเครื่อง. คนอื่น อาจจะเดินไป.
แต่ นิต-ศรี. มีนางฟ้า(แอร์โฮสเตรส)แสนสวย มาเข็ญรถพาไปส่งถึงที่นั่งเลยง่ะ. อิอิ
สุขใจ จริงเว้ย. เหอๆๆ. มัวแต่มองนั่น มองนี่เพลินจนลืมว่าตัวเอง พึ่งถูกรถชน. ><
...............
การบินครั้งแรก ที่มาพร้อมกับความโชคดี เนื่องด้วยพี่แอ้นเป็นลูกหลานการบินไทย. เราจึงได้นั่งชั้นเฟริดคราส... ><
เก้าอี้ กว้างมากกก. >0<. แถมนุ่มสุดๆๆ.
ยังกะยกโซฟาหลุย มาตั้งไว้บนเครื่อง
และช่วงวินาทีที่ระทึกใจสุดๆ ก็ตอนที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นบนท้องฟ้า....
เรากำลังห่างจากพื้นดินมากขึ้น. มากขึ้น. มากขึ้น. ....... และท้ายที่สุด นกยักษ์ก็ลอยเหนือก้อนเมฆ
โว้!!! O.O
เยี่ยมยอดมากกกกกกกก.
อาจจะเป็นเพราะว่า เครื่องของสายการบินไทยใหญ่ หรือเพราะนักบินฝีมือดีก็ไม่รู้นะ
. แต่ที่แน่ๆ คือ ตอนเครื่องกำลังขึ้น ขึ้นได้นิ่มมาก.
มากขนาดที่ว่า ไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์เลยง่ะ
ประทับใจมากกกกกกก ><
.........
พอเครื่องลอยทรงตัวได้สักพัก....
นางฟ้า 2 นาง ก็เอาบราวนี่ก้อนกำลังพอเหมาะมาวางให้ตรงหน้า....
"รับน้ำอะไรดีค่ะ". เสียงหวานๆนางฟ้าถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบาดใจ
"เอ่อ......" เรามองไปที่รถเข็ญ. มีเครื่องดื่มให้เลือกเพรียบ!!!!
น้ำผลไม้. น้ำเย็น. น้ำร้อน. น้ำชา. รวมถึง เหล้า!!!!
เหล้าอะไรไม่รู้ขวดสีสันต์สวยมาก. ล่อใจสุดๆๆ
น่ากินอ่ะ.....
"น้ำส้มค่ะ".
เหอๆ ~.~. ความจริงอยากสั่งน้ำจากขวดสีสวยนะ. แต่เกรงใจพี่แอ้นง่ะ. เดี๋ยวพี่เขาจะมองเราไม่ดี แฮ่ๆๆๆ
พอทุกอย่าง วางตรงหน้าเสร็จสัพ....
"อ้ากกกก!!!"
เจ็บ!!!!
ด้วยความที่มีแผลตั้งแต่หลังมือจนถึงข้อศอก.ทั้ง 2 ข้าง. จะหยิบจะจับอะไร ก็ไม่ถนัด.
สภาพไม่ต่างจากซอมบี้เท่าไหร่
จับช้อนได้แค่หลวมๆ แต่ไม่มีปัญญา ตัดบราวนี่
"เดี๋ยว ตัดให้ไหมค่ะ"
เสียงนางฟ้าดังขึ้น
"ขอบคุณคะ". นิต-ศรี รีบขอบคุณทันที ถ้าขืนชักช้า อด "หนม" แน่ๆๆเรา. อิอิ. ><
พอตัดขนมให้เสร็จ. นางฟ้าแสนสวยก็ยังใจดี ถามอีกว่า "เดี๋ยวป้อนให้ไหมค่ะ"
"ไม่เป็นไรคะ". เราตอบไปอย่างเกรงใจสุดๆๆ. ^^
.......
กินขนมยังหมดไม่ถึงครึ่ง. เสียงประกาศก็ดังขึ้น เตรียมตัวลงจอด.
ย้ากกกก. ถึงเร็วมากกก. น้ำส้มก็ยังไม่ได้กิน!!!
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เราจึงรีบ กระดกน้ำส้มหมดแก้วในคราวเดียว. ก่อนที่จะอดกิน!!!
.......
^_____^
เป็น การบินที่ วิเศษมากกกก.
พอลงจากเครื่อง.......
ก็มีรถตู้จากบ้านพี่แอ้น มารับ.....
โดย ไปส่งเราที่หอพักของมหาวิทยาลัยก่อน
............
พอถึงที่หน้าหอพัก.....
พี่แอ้น ก็อาสาเดินไปส่งที่ตึก....
พี่แอ้น เดินนำหน้าไปสักพัก ก็หันกลับมาพร้อมกับยื่นแขนขาวๆ ออกมา
"เกาะแขนสิ เดี๋ยวพี่ไปส่ง"
เราสบตาพี่แอ้นนิดนึง. เพื่อต้องการความมั่นใจ. ว่า เราไม่ได้ "หูฟาด" ไปใช่ไหม?
พี่แอ้นพยักหน้าให้อีกครั้ง. เราไม่รอช้าที่จะยืนมือไปเกาะแขนขาวๆ ข้างนั้น >\\\\<
นุ่ม.... เนียน......
ผู้ชายอะไร. ผิวดีโคตรๆๆ. ><
........
พี่แอ้นส่งเราได้แค่บันไดหอพักเท่านั้น. เพราะเป็นหอพักหญิง.....
เราสองคนยิ้ม ลา. กันและกัน
เฮ่อ..... รู้สึกว่าอยากให้ระยะทางมันยาวววววววว. กว่านี้อีกสักหน่อย. ก็ดีนะ. อิอิ
.......
บทสรุปเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า....
1). ชีวิตจริง ไม่ใช่ละคร. ต่อให้ประสบอุบัติเหตุด้วยกันดหมือนในละคร. ตอนจบ. เราก็ยังเป็นได้แค่ "พี่น้อง" กัน. เหอๆๆๆ.
2) ชีวิต ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป ต่อให้ มีเหตุการณ์ร้ายๆๆๆ. แค่ไหน. สิ่งดีๆๆๆ. ก็จะแทรกเข้ามาเสมอ
สู้ๆๆๆ. ค่ะ. เป็นกำลังให้กับทุกๆๆ คนค่ะ
..................................................
ตอนต่อไปลิงนี้จร้า...
http://my.dek-d.com/yaifun/writer/viewlongc.php?id=1057646&chapter=3
ความคิดเห็น