การออกเดทตอนแต่งงาน - การออกเดทตอนแต่งงาน นิยาย การออกเดทตอนแต่งงาน : Dek-D.com - Writer

    การออกเดทตอนแต่งงาน

    ผู้เข้าชมรวม

    502

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    502

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 พ.ค. 52 / 00:00 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      หลังจากที่แต่งงานมาได้ 21 ปี
      ผมก็ค้นพบวิธีใหม่ในการทำให้ความรักสดใสมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ
      เพราะวันหนึ่งภรรยาผมบอกว่า ผมต้องออกเดทกับผู้หญิงคนหนึ่ง
      มันเป็นไอเดียของเธอล้วนๆจริงๆนะ
      " ฉันรู้ว่าคุณรักเธอ " ภรรยาผมว่า
      " แต่ผมรักคุณนี่ " ผมเถียง
      " ฉันรู้ค่ะ แต่คุณก็รักเธอคนนี้ด้วยเหมือนกัน"

      ผู้หญิงคนนั้นที่ภรรยาอยากให้ผมไปหา คือ แม่ของผมเอง
      ซึ่งเป็นหม้ายมา 19 ปีแล้ว
      เนื่องจากงานที่รัดตัวและต้องดูแลลูกๆ
      ทำให้ผมไปเยี่ยมแม่เพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้น
      วันที่ผมโทรไปหาแม่เพื่อชวนท่านออกไปทานข้าวเย็นและดูหนัง
      แม่ถามว่า "มีอะไรหรือ? ลูกสบายดีรึเปล่า? "
      แม่ผมเป็นผู้หญิงประเภทที่คิดว่าการที่คนโทรมาหากลางดึก
      หรือเชิญอย่างกระทันหัน

      หมายความว่ามีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น
      ผมตอบแม่ว่า
      "ผมว่าดีออกถ้าเราได้ใช้เวลากันตามลำพังสองคนแม่ลูกบ้าง"
      แม่นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า " แม่ยินดีมากเลยจ้ะ "
      เย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน ผมขับรถไปรับแม่ที่บ้าน
      ผมรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อผมไปถึงบ้านแม่
      ผมก็สังเกตุได้ว่า
      แม่เองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน
      แม่สวมเสื้อโค้ทนั่งรอผมอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว

      แม่ม้วนผมแล้วสวมชุดที่แม่ใส่ในวันฉลองครบรอบการแต่งงานครั้งสุดท้าย
      พลางยิ้มรับผมด้วยใบหน้าที่แจ่มใสราวกับทูตสวรรค์
      "
      แม่บอกเพื่อนๆว่าแม่จะออกไปเที่ยวกับลูกชาย พวกเขาประทับใจกันใหญ่ "
      แม่พูดขณะที่กำลังก้าวขึ้นรถ " พวกเขารอฟังแทบไม่ไหวเลย "
      เราไปภัตตาคารที่ถึงแม้จะไม่หรูหรา
      แต่ก็ดีเยี่ยมและบรรยากาศก็อบอุ่นสบายๆมากๆ
      แม่ควงแขนผมเดินราวกับว่าเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง
      หลังจากที่เรานั่งลงเรียบร้อยแล้ว
      ผมต้องเป็นฝ่ายอ่าน เมนูอาหาร
      เพราะสายตาของแม่อ่านได้เพียงตัวหนังสือตัวใหญ่ๆเท่านั้น

      เมื่อผมอ่านเมนูอองเทรไปได้เพียงครึ่ง
      ผมเงยขึ้นมองเห็นแม่กำลังมองดูผมอยู่ด้วยรอยยิ้มระลึก
      ถึงความหลัง
      "ตอนที่ลูกยังเล็กนั้น แม่ต้องเป็นคนอ่านเมนูให้ลูกฟัง "
      แม่ว่า "
      งั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ผมจะผลัดเวรให้แม่นั่งฟังสบายๆบ้าง
      " ผมตอบ
      ในระหว่างมื้ออาหารนั้น
      เราคุยกันอย่างถูกคอ-ไม่ใช่เรื่องราวพิเศษอะไร-เพียงแต่สลับกัน
      ถามว่าชีวิตของเราเป็นยังไงทำอะไรที่ไหนมาบ้าง
      เราคุยกันสนุกมากจนไปดูหนังไม่ทัน
      เมื่อผมไปส่งแม่ที่บ้าน แม่พูดว่า
      "แล้วแม่จะออกไปเที่ยวกับลูกอีกนะ แต่คราวนี้ลูกต้องยอม
      ให้แม่เป็นเจ้าภาพนะจ๊ะ"
      ผมตอบตกลง
      "ดินเน่อร์เป็นยังไงบ้าง?" ภรรยาถามเมื่อผมกลับถึงบ้าน
      "ดีเยี่ยมกว่าที่ผมคิดไว้มากเลย" ผมตอบ
      ไม่กี่วันต่อมา แม่ผมเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
      มันเกิดขึ้นกระทันหันมากจนผมช่วยอะไรไม่ทันเลย
      หลายวันต่อมา
      ผมได้รับจดหมายพร้อมใบเสร็จจากภัตตาคารที่ผมกับแม่เคยไป
      มีโน๊ตเล็กๆแนบมาด้วยว่า
      " แม่จ่ายค่าอาหารชุดนี้เรียบร้อยแล้ว
      แม่รู้อยู่แล้วว่าแม่คงไปไม่ได้

      แต่อย่างไรก็ตาม แม่ก็จ่ายสำหรับสองคน คือลูกกับภรรยา
      ลูกคงเดาไม่ถูกหรอกว่า
      วันนั้นมีความหมายต่อแม่มากแค่ไหน , รักลูกจ้ะ "
      วินาทีนั้น ผมเข้าใจถึงความสำคัญของการกล่าวคำว่า " รัก "
      ต่อคนที่เรารักในช่วงเวลาที่
      เค้าต้องการมัน
      ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าครอบครัวของคุณ
      จงให้เวลากับพวกเค้าในเวลาที่พวกเค้าต้องการคุณ
      เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่อาจผลัดวันประกันพรุ่งได้
      บางคนบอกว่า หลังจากที่คุณคลอดบุตรแล้วต้องใช้เวลาราว
      6 สัปดาห์จึงจะคืนสู่สภาพเดิม
      คนนั้นไม่รู้ว่าหลังจากที่คุณได้เป็นแม่คนแล้ว
      ไม่มีคำว่าคนเดิมอีกต่อไป

      บางคนบอกว่า คนเราเรียนรู้การเป็นแม่ได้เองตามสัญชาติญาณ
      คนนั้นไม่เคยพาลูกสามขวบไปซูเปอร์มาร์เกต

      บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นน่าเบื่อ

      คนนั้นไม่เคยนั่งรถที่ลูกวัยรุ่นขับหลังจากที่ได้ใบขับขี่มาหมาดๆ

      บางคนบอกว่า ถ้าคุณเป็นคนดี ลูกออกมาก็จะดีเอง
      คนนั้นนึกว่าเด็กคลอดออกมาพร้อมกับคู่มือการใช้และใบรับประกัน

      บางคนบอกว่า แม่ที่ดีไม่ควรขึ้นเสียงกับลูก

      คนนั้นไม่เคยเปิดประตูหลังบ้านออกมาทันได้เห็นลูกหวดลูกกอล์ฟเข้าใส่หน้าต่าง
      ครัวของเพื่อนบ้านพอดิบพอดี

      บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นไม่ต้องมีการศึกษาก็ได้
      คนนั้นไม่เคยช่วยลูกประถมสี่ทำการบ้านเลข

      บางคนบอกว่า แม่รักลูกคนที่ห้าไม่เท่าลูกคนแรก

      คนนั้นไม่เคยมีลูกห้าคน

      บางคนบอกว่า
      ช่วงที่ยากที่สุดของการเป็นแม่คือตอนเลี้ยงและตอนคลอด
      คนนั้นไม่เคยยืนดูลูกขึ้นรถเมลไปโรงเรียนอนุบาลวันแรก
      หรือขึ้นเครื่องบินไปบู๊ทแคมป์ของทหาร

      บางคนบอกว่า งานของแม่นั้นหมูๆ ปิดตาสองข้าง
      หรือมัดมือไว้ข้างหนึ่งก็ยังไว้
      คนนั้นไม่เคยสอนการออกเดินขายคุ๊กกี้ให้กับเหล่ายุวนารี 7
      คนที่กระจุ๊กกระจิ๊กคิกคักกัน
      อยู่ตลอดเวลา

      บางคนบอกว่า แม่เลิกกังวลได้แล้ว
      หลังจากที่ลูกแต่งงานออกเรือนไป


      คนนั้นไม่รู้ว่าการแต่งงานคือการนำลูกชายหรือลูกสาวคนใหม่เข้ามาอยู่ในสายใยใจของแม่

      บางคนบอกว่างานของแม่สิ้นสุดลงเมื่อลูกคนสุดท้ายออกจากบ้านไป
      คนนั้นไม่เคยมีหลานยาย หรือหลานย่า

      บางคนบอกว่า แม่รู้ดีอยู่แล้วว่าคุณรักท่าน เพราะงั้น
      ไม่ต้องบอกท่านก็ได้
      คนนั้นไม่เคยเป็นแม่คน

      โปรดส่งต่อถึงทุกคนที่เป็น "แม่" และทุกคนที่มี "แม่"

      ที่มา : เจ้นวล
      เจ้าของบทความ : ไม่ทราบชื่

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×