ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คนรักของฉัน

    ลำดับตอนที่ #1 : สุพรรณรัตน์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 86
      0
      1 ส.ค. 47

    “คนรักของฉัน”   3 ตอนจบ โดย ความสุข

    ตอนที่-1

        เครื่องบินโดยสารกำลังจะออกเดินทางสู่โตเกียว มหานครแห่งความบันเทิงที่เต็มไปด้วยความหนาแน่นของผู้คน ว่ากันว่า ที่โตเกียวแห่งนี้ ประชากรในตอนกลางวันกับตอนกลางคืนต่างกันเพียง 2-3 ล้านคนเท่านั้น สมแล้วที่เป็นเมืองแห่งความบันเทิง.....

       ทว่าฉันไม่ได้ไปโตเกียวเพื่อการณ์นั้น ความฉลาดในสมองของฉันทำให้ฉันได้ไปโตเกียว ใช่แล้ว โตเกียวคือสถานที่เรียนจากการสอบชิงทุนของฉัน เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศได้ และฉันก็เลือกที่จะไปโตเกียว เพราะเป็นเมืองที่ฉันชอบและอยากไป ไม่ใช่อะไรหรอกที่อยากไปนะ ก็เพราะว่าที่นั้นนะมีแต่สถานที่สวยๆทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นกินซ่า เมืองราตรี โตเกียวทาวเวอร์ที่ว่ากันว่า เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโตเกียวและสามารถมองเห็นโตเกียวได้ทั่วเมือง มันคงจะสวยงามเสียจริง ถ้าได้ขึ้นไปมองทิวทัศน์ยามราตรีบนนั้น ลองคิดดูสิความโรแมนติก ความสุขสบาย จะเป็นยังไง มันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้เลย  หรือแม้กระทั่งชินชูกุ ที่มีตึกระฟ้ามากมาย ไม่รู้ว่าที่นั้นจะเป็นยังไง แต่ฉันก็จะไปให้ได้.....

       กว่าเครื่องบินโดยสารจะออกได้ ก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว ฉันลาจากเพื่อนของฉันจำนวนไม่มาก คุณครู พ่อแม่ เข้าไปยังบริเวณประตู นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้นั่งเครื่องบิน มันตื่นเต้น หัวใจของฉันเต้นรัว และดัง ถ้าเอามือไปสัมผัสจะรู้ได้ทันทีเลยว่าฉันตื่นเต้น มากขนาดไหน เมื่อฉันเดินเข้าไปแล้ว ก็ไม่สามารถมองเห็นพวกเพื่อนๆของฉัน ฉันบอกกับทุกคนว่า ถ้าไปถึงที่นั้นจะส่งเมล์มาให้ เช่นเดียวกับคุณครูและพ่อแม่ มันเป็นความใฝ่ฝันของฉันเลยก็ว่าได้ที่ได้มาโตเกียวแห่งนี้ และมานั่งบนเครื่องบิน ถึงแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่ฉันก็.......

       บนเครื่องบินโดยสารสะอาด สะอ้านมากจนเรียกว่า อาจเป็นบ้านของฉันเลยก็ว่าได้ บางที ถ้าฉันเป็นคนซื่อ ฉันคงถอดรองเท้าขึ้นเครื่องไปแล้ว เผอิญฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ฉันเดินขึ้นเครื่องด้วยความตื่นเต้นสุดขั้วหัวใจอย่างพูดไม่ออก บอกไม่ถูก ว่ามันรู้สึกเช่นไร แอร์ฮอสเตสหน้าตาสวย ยืนยิ้มต้อนรับฉันอยู่หน้าประตู เธอเช็คตั๋วโดยสารของฉันอย่างละเอียดถี่ถ้วน และให้ฉันผ่านเข้าไปได้......

       บนเครื่องเต็มไปด้วยผู้คน อะไรกันนี่บนเครื่องบินโดยสารจะสวยงามดุจบ้านที่โฆษณาทางทีวีได้ขนาดนี้เลยเชียวหรือ ฉันมองหาตำแหน่งที่นั่งของฉัน ราวกับฉันกำลังอยู่ในโรงหนังเมื่อฉันหาได้แล้วก็ลองนั่งดู มันนุ่มน่านอนมาก มีทีวีจอเล็กอยู่ข้างหน้า มีปุ่มมากมายเรียงรายอยู่บนเก้าอี้ที่เป็นเบาะนั่งของฉัน ทว่าข้างๆฉันไม่มีใครมานั่ง ไม่มีใครจองที่ตรงนี่หรือ น่าเสียดายจัง เพราะเบาะที่ฉันนั่งเป็นเบาะที่สอง เบาะข้างๆที่ไร้คนเป็นเบาะริมสุด สามารถมองเห็นกลุ่มสายเมฆหมอกสีขาวและ ท้องฟ้าสีครามที่กว้างสุดสายตา ถึงแม้ฉันจะกลัวความสูงแต่ฉันก็อยากจะมองมันอยู่ดี ทว่าคืนนี้ฉันคงต้องนอนหลับไปเสียก่อน......

       ฉันนำหนังสือนวนิยายของ “เลเวน” นักเขียนที่ฉันชอบในดวงใจขึ้นมาอ่าน โดยมีแสงไฟมาจากด้านบนผนัง แอร์ฮอสเตสรูปร่างแสลนเดอร์ เดินมาพร้อมกับเข็นรถที่เต็มไปด้วยน้ำและของว่างให้ฉันและผู้โดยสารคนอื่นๆเลือกดื่มและทาน ฉันหยิบเบอร์เกอร์หมูชี้สมาสองชิ้น และน้ำไสปร์ทไอซ์ ที่ฉันชอบดื่มเป็นประจำมาแก้วหนึ่ง ฉันทานมันด้วยความหิวเล็กน้อย จนในที่สุดก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมานั่งเบาะข้างๆที่เมื่อกี้มันยังไร้คนอยู่เลย ชายหนุ่มหน้าตาดี ราวกับว่าเขาเป็นดาราดังเขาเป็นใครกันนะ แต่หน้าตาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ชายหนุ่มหน้าตาดีหันมายิ้มสบตาฉัน ก่อนที่เขาจะพูดว่า

    “สวัสดีครับ คุณชื่ออะไรหรือครับมาจากไทยหรือเปล่า” เขาทักทายฉันด้วยความสุภาพ และไม่ลังเลว่าฉันเป็นใครมาจากชาติตระกูลแบบไหน

    “เอ่อ คุณ.... อ๋อนึกออกแล้ว คุณคือ เลเวน นักเขียนนิยายใช่มั๊ยคะ” ใช่แล้ว เขาเป็นนักเขียนในดวงใจของฉันเลยก็ว่าได้ ผลงานของเขาออกมาหลากหลาย นำไปทำเป็นละคร ภาพยนตร์มาแล้วหลากหลายเรื่อง

    “คุณรู้จักผมด้วยหรือครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแฟนนิยายของผมใกล้ตัวขนาดนี้” เขายังคงยิ้มอย่างอบอุ่น

    “ชั้นติดตามผลงานของคุณทุกเรื่องเลยคะ ชั้นยังเอาหนังสือที่คุณเขียนมาอ่านเลยนี่” ฉันโชว์หนังสือที่เพิ่งซื้อมาจากห้างให้เขาดู เมื่อเลเวนเห็นก็ถึงกับอึ้ง

    “โหย ขนาดนี้เลยเหรอ ขอบคุณมากนะ” ฉันยิ้มด้วยความยินดี

    มันเป็นความรู้สึกตื้นตันอีกครั้ง ที่นักเขียนที่ฉันชื่นชอบมานั่งอยู่ใกล้ตัวขนาดนี่ เบอร์เกอร์ที่คามือฉันอยู่ ฉันรีบเอาเก็บและไม่แตะต้องมันเลย

    “คุณไปญี่ปุ่นหรือ” เลเวนถาม

    “คะ คือชั้นไปเรียนนะคะแค่ เดือนเท่านั้น แล้ว.... แล้วคุณเลเวนละคะไปญี่ปุ่นเหรอ” ฉันตะกุกตะกักในการถาม เพราะว่าความตื่นเต้นทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้

    “ครับ ผมลงที่โตเกียวแค่มาเที่ยวเท่านั้นก็เดือนสองเดือนก็กลับเมืองไทยแล้ว” เขาอธิบาย

    “เหรอคะ แล้วคุณเลเวนพักที่ไหนเหรอคะ” เขามองฉัน

    “อ๋อคือ แค่อยากรู้นะคะ กำลังคิดว่าถ้าอยู่ใกล้กับที่อยู่ของฉันก็คงจะดี” ฉันอายขายหน้าเขามาก ทว่าเขากลับไม่ว่าอะไรฉันเลย นอกจากยิ้มและหัวเราะเบาๆ

    “แล้วคุณละครับ พักอยู่ที่ไหน”

    “เอ่อ รู้สึกจะอยู่คอนโดของคุณ อาคากิ ขีด คาซุรางิมั้งคะ แถวๆสถานีโตเกียวนะคะ” ด้วยความอายจึงรีบบอกเขาไป

    “จริงเหรอครับ บังเอิญจังเลยนะครับ ผมก็อยู่แถวนั้นเหมือนกันเอชื่อคอนโดรู้สึกจะ..... อาคากิ ขีด คาซุรางิ” เขาเบิกตากว้างหลังจากที่เขาได้พูดที่อยู่ของเขา ฉันช็อคและรู้สึกได้เลยว่าร่างกายของฉันจะขยับไม่ได้เสียแล้ว เหมือนกับว่าร่างกายของฉันกำลังจะกลายเป็นหินก้อนใหญ่

    “เอ๋ จริงเหรอคะเนี่ย” ฉันตกใจเอามาก พลอยตะโกนเสียงดังไปด้วย

    “บังเอิญมากเลยนะครับ”

    “คะ ไม่ใช่มากหรอกคะ มากๆๆๆ เลยละคะ” ชั้นรู้สึกว่าตนเองกำลังหน้าแดงอยู่เหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่น

    ทว่าเขาก็ยิ้มให้ฉัน ฉันคิดว่านั่นมันเป็นความสุดยอดของความบังเอิญจริงๆ นักเขียนในดวงใจของฉันจะมาพักอยู่ใกล้ๆกับฉัน แต่ว่าฉันจะต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองตระกูลคาซุรางินี่นา แต่ก็ช่างเถอะ แค่ได้เจอตัวจริงก็เป็นบุญของฉันเลยละ......

       เครื่องบินโดยสารบินไปได้กี่ชั่วโมงแล้วก็ไม่ทราบ เพราะช่วงเวลาเหล่านั้นหมดไปกับการพูดคุยกับนักเขียนในดวงใจ จนแล้วจนรอดคืนนั้นฉันก็ไม่ได้อ่านหนังสือของเขาจนได้ และในที่สุดฉันก็ผล็อยหลับไป ไม่รู้เลยว่าหลังจากที่ดวงตาของฉันหลับลงไป เขาจะเป็นยังไงบ้างไม่รู้เลย........

       (จบตอนที่ 1)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×