จากนี้ไป...ชั่วนิรันดร์ - จากนี้ไป...ชั่วนิรันดร์ นิยาย จากนี้ไป...ชั่วนิรันดร์ : Dek-D.com - Writer

    จากนี้ไป...ชั่วนิรันดร์

    คนที่เกิดมาแล้วรักเราจริง คนนั้นแหละคือสิ่งที่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งต้องการ....

    ผู้เข้าชมรวม

    453

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    453

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 เม.ย. 48 / 21:36 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      จากนี้ไป... ชั่วนิรันดร์
      แสงสุริยาค่อยๆเปล่งประกายเจิดจ้า ให้เห็นปุยเมฆสีขาวสะอาดตา วิหคตัวน้อยๆที่ทำรังอยู่บนต้นไม้ส่งเสียงร้องปลุกคู่รักที่กำลังนอนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ทั้งเรย์ สาวนักเขียนวัย 24 และโจ พนักงานบริษัทวัย 26 ปี ต่างก็นอนหลับฝันดีด้วยกันทั้งคู่
      เรย์ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น เบื้องหน้าพบรอยยิ้มอันเปล่งประกายของโจอยู่

      “อรุณสวัสดิ์” เรย์ยิ้มตอบว่า

      “อรุณสวัสดิ์คะ” ไม่นานทั้งคู่ก็ลุกขึ้นตื่น อาบน้ำ แปรงฟัน ทำภาระกิจส่วนตัว

      เป็นแบบนี้ทุกเช้าร่ำไป ไม่ว่าเช้าวันไหนทั้งคู่ต่างมีความสุขที่จะได้อยู่ร่วมกัน ทานอาหารเช้าด้วยกัน พูดคุยด้วยกัน คิดถึงกัน....

      “วันนี้ผมจะหาแม่บ้านมาอยู่เป็นเพื่อนคุณนะ” โจกล่าว

      “ดีค่ะ แต่ไม่ต้องรีบนะคะ ฉันไม่เหงาอะไรมากหรอก”

      “ผมไปก่อนนะที่รัก” ก่อนที่โจจะไปบริษัท เขาจูบบนหน้าผากของเรย์ด้วยความรัก ก่อนที่เรย์จะปิดประตูเบาๆ หล่อนเริ่มเก็บกวาดจานข้าวบนโต๊ะ และทำความสะอาดมัน

      ประมาณ 15 นาทีได้ที่เธอวุ่นอยู่กับการทำความสะอาดจานอาหาร ไม่นานเธอจึงเดินออกมาจากห้องครัวภายในอพาร์ทเม้นต์ที่ดูกว้างขวาง สะดวกสบาย ใจกลางเมืองกรุงเทพ ของตกแต่งเล็กๆน้อยๆ ที่ดูเหมือนไร้ค่าแต่ก็ทำให้ท้องฟ้าในหัวใจกลับสดใสขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

      และแล้วเรย์ก็รู้ทันทีว่ามีใครมา ภายหลังจากโน้ตดนตรี 2 ตัว “ติ้ง หน่อง” เสียงกริ่งประตูบ้านของเรย์ หล่อนเดินไปที่ประตูและคนที่มายืนอยู่เบื้องหน้าของเธอไม่ใช่ใคร

      “อ้าว สวัสดีค่ะบก.” เรย์ไหว้งามๆกับบก. ที่สำนักพิมพ์

      “สวัสดีครับ หวังว่างานเขียนคงจะเสร็จแล้วนะครับ”

      “ค่ะ แน่นอน เชิญเข้ามาด้านในก่อนสิคะ” เรย์ชักชวนเขาด้วยใบหน้าอันสดใสเช่นเดิม

      บก. นั่งบนโซฟาอันนุ่มสบาย ไม่นานเรย์ก็หยิบน้ำเย็นๆ พร้อมคุ้กกี้ทีเธอทำมากับมือให้บก. ลองลิ้มลอง

      “อร่อยดีนะครับ คุณทำเองหรือเปล่า”

      “อ๋อ คุ้กกี้นะหรือคะ, ใช่คะฉันทำเองขอบคุณนะคะ” ในขณะที่เธอกำลังกว้านหางานเขียนของเธอ บก.ก็ได้ลิ้มรสคุ้กกี้ของเรย์ด้วยความเอร็ดอร่อย

      “นี่คะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าฉันจะส่งตอนจบไปให้นะคะ คือฉันยังคิดไม่ออกเลยนะคะ ว่าจะจบยังไง” เรย์เขินเล็กน้อย

      “ไม่เป็นไรครับ เราต้องการแค่ตอนใหม่เท่านั้นเอง ส่วนตอนจบก็แล้วแต่คุณก็แล้วกัน เพราะยังไงคุณก็เป็นนักเขียนระดับแถวหน้าอยู่แล้ว ผมจะรออ่านนะครับ”

      “ค่ะ” เรย์ยิ้มให้

      “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวละครับ”

      “อ๋อ เดี๋ยวคะ” บก. หยุดเดินและหันหลังกลับมา

      “พอดี ฉันทำแซนวิชไว้หลายชิ้นนะคะ ก็เลยอยากให้บก. กินบ้าง, เอาไปฝากคนในสำนักพิมพ์ก็ได้นะคะ”
      แล้วหล่อนก็คว้าแซนวิชไส้ต่างๆให้บก. สีสันและหน้าตาของแซนวิชดูน่ากินไม่น้อย

      “ขอบคุณครับ” บ.ก. ขอบคุณเธอด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่เขาจะปิดประตูเบาๆ

      นี่คือชีวิตประจำของเรย์ ทุกๆวันอังคารบ.ก. ที่สำนักพิมพ์จะมาหาเธอเสมอเพื่อมารับต้นฉบับและเป็นปกติที่เรย์จะทำขนมฝากบ.ก. ซึ่งมันจะอร่อยทุกทีไป ไม่ว่าใครก็ติดใจ ชีวิตของเรย์ดูท่าจะราบรื่นไปเสียหมด ทั้งมีสามีเอ็นดู หน้าตาดี เขียนนิยายเก่ง ทำอาหารเก่ง ฐานะก็ปานกลางไม่รวยไม่จน คงเป็นอุดมคติที่คงจะปฏิเสธไม่ได้.....

      บ่ายโมง

      เรย์กำลังนั่งเขียนนิยายตอนจบอยู่ เธอเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง มองถนนที่รถติดบ้าง ไม่ติดบ้าง กรุงเทพนี้ช่างเป็นเมืองแห่งสีสันเสียจริง เธอยิ้มรับ ก่อนที่เธอจะเปิดวิทยุฟังเพลงโปรดของเธอ

      เรย์ค่อยๆนอนลงบนโซฟาเพื่อผ่อนคลายความเมื้อยล้าจากการนั่งเขียนนิยายกว่า 1 ชั่วโมง เธอฟังเพลงและเริ่มจะคล้อยหลับเป็นธรรมดาที่ใครๆต่างก็มักจะเป็นแบบนี้ เธอหลับตาลงด้วยความเพลียเล็กน้อย

      และแล้วเธอก็หลับลงไป แสงแดดเริ่มร้อนแรงมากขึ้น ไม่เหมือนกับตอนเช้าที่ยังเป็นแสงอ่อนๆ เรย์จึงเปิดเครื่องปรับอากาศเสีย เนื่องจากเธอเป็นคนขี้ร้อน ไม่ชอบอยู่ที่ที่อึดอัด....

      เวลาช่างผ่านไปเร็วเสียจริง.......
      เรย์ค่อยๆลืมตาขึ้นมา เธอมองนาฬิกา เวลาในขณะนี้คือ 4 โมงเย็นพอดิบพอดี เรย์นึกขึ้นได้ว่าเธอจะต้องทำอาหารเย็น เรย์เปิดตู้เย็นและนำของสดออกมาเพื่อประกอบอาหาร

      “วันนี้ทำไก่ราดซอสดีกว่า” เธอคิดจะทำมัน เนื่องจากมันเป็นอาหารโปรดของโจและเรย์

      1 ชั่วโมงผ่านไป อาหารจึงเสร็จพร้อมรับประทาน จากนั้นเรย์จึงเริ่มจัดการกับงานเขียนของเธอที่ยังทำค้าง เธอยังคิดตอนจบไม่ออก เธอจึงยังไม่ทำมัน และจัดการให้โต๊ะเขียนหนังสือของเธอดูเรียบร้อย

      เรย์อาบน้ำ วันนี้เธอสระผม ทั้งแชมพู เครื่องอาบน้ำ โฟม สบู่หอม สิ่งของเหล่านี้ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ทำให้ห้องน้ำนั้นดูสะอาด เรียบร้อย

      ไม่นาน โจ ก็กลับมาพร้อมกับ........

      “ยินดี....” ก่อนที่เรย์จะพูดคำว่า ยินดีต้อนรับค่ะ เรย์ก็ผงะ ตกตะลึง เมื่อข้างหลังโจกลับมีหญิงสาวผิวเข้ม หน้าตาซื่อๆแต่น่ารัก ยืนถือกระเป๋าด้วยอาการเกร็งและสั่น

      “นั่นใครค่ะ”

      “อ๋อ แม่บ้านไงที่เธอบอกว่าอยากได้แม่บ้านสักคนมาช่วยงานบ้านและแก้เหงาไปในตัว ผมก็เลยจ้างมา”

      “สวัสดีคุณผู้หญิงสิ เร็ว” โจบังคับแม่บ้านสาว แต่อย่าเรียกว่าแม่บ้านสาวเลย มันจะดูแปลกๆ จะเรียกผู้หญิงคนนี้ว่า สาวใช้ ก็แล้วกัน มันน่าจะดีกว่า

      “สะ... สวัสดีค่ะ คุณผู้หญิง” สำเนียงออกไปทางต่างจังหวัดเล็กๆ ดูท่าเธอจะเกร็ง และตื่นเต้นเอามากๆ

      “สวัสดีจ้ะ ไม่ต้องคุณผู้หญิงหรอกเรียกฉันว่า คุณเรย์ ก็พอเข้ามาสิ”

      “ค่ะ” สาวใช้ผู้ใสซื่อก็เดินตรงเข้ามาด้วยอาการเกร็ง หวั่นวิตก หล่อนมองรอบๆบ้านของเรย์ราวกับที่นี้คือ อพาร์ทเม้นท์ชั้นหนึ่งของปารีสเมืองหลวงของฝรั่งเศส ทั้งๆที่ ที่นี้คือ กรุงเทพมหานคร

      “เธอชื่ออะไรละ”

      “หนูชื่อ มิ้น คะ” สาวใช้ใสซื่อตอบ

      “ที่รัก ผมขอกินข้าวก่อนนะ” โจตะโกนมาจากในห้องครัว ในขณะที่เรย์กับมิ้น กำลังนั่งคุยกันอยู่

      “อ้อ ที่รักเธอจะให้เงินเดือนเท่าไหร่ แล้วแต่เธอละกันนะ” โจแถมท้าย

      “เอางี้นะ ฉันจะให้เงินเธอวันละ 200 บาทนะ ถ้ามีงานอะไรพิเศษฉันจะให้เพิ่มละกัน ส่วนข้าวกินกับฉันก็ได้”

      “ขอบพระคุณมากคะ”

      “ห้องนอนของเธอ ตามฉันมา ฉันจะพาไป”

      แล้วเรย์ก็พา “มิ้น” สาวใช้แสนจะบริสุทธิ์ไปห้องนอนแคบๆ

      “ที่นี้นะ เธอคงจะนอนได้” ห้องนี้เป็นห้องที่ไม่แคบนัก แต่ก็ไม่กว้างมากนัก รายล้อมไปด้วยสิ่งของต่างๆ โต๊ะซึ่งเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำภายในตัว โทรทัศน์ และเตียงนอน

      “แค่นี้ หนูก็สบายแล้วละคะ”

      “เอาละ วันนี้ฉันให้เงินเธอไปก่อน 200 บาท ไปซื้อข้าวกินนะข้างล่างเดินลงไปก็ได้ แค่ 4 ชั้นเอง”

      และแล้ว แม่สาวใช้ผู้เลอโฉมเล็กๆ ก็มีดวงตาที่เปี่ยมล้นราวกับได้เจอกับนางฟ้า และสวรรค์ของเธอ มิ้น ถึงแม้การศึกษาจะจบแค่ ม.3 แต่ก็รักทำงานเธอฝันว่าจะเป็นสาวใช้ไปตลอด ความฝันของเธอถึงแม้จะต่ำต้อยในสายตาของคนอื่นๆ แต่มันก็เป็น “ความฝันอันสูงสุด” ของมิ้น ต่อให้เจอกับมรสุมกระหน่ำก็ตาม “หัวใจ” ที่แข็งแกร่งก็จะไม่ย้อท้อต่อความฝันได้ มิ้นยิ้มราวกับเธอได้เจอเรื่องปาฏิหาริย์

      ................
      “นี่คะคุณผู้ชาย” มิ้นเสิรฟน้ำเย็นให้กับโจ เพราะเห็นว่าโจกำลังนั่งทำงานอยู่เหนื่อยๆ ภายในห้องนั่งเล่นคนเดียว โดยที่เรย์กำลังดูละครอยู่ในห้องนอน

      “ขอบใจนะ” โจ ยิ้มแบบมีเลศนัยเล็กน้อยกับมิ้น

      “เราอายุเท่าไหร่ละ” โจถาม

      “เอ่อ หนูอายุ 22 ปีค่ะ”

      “อืมกำลังดี” โจพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบา

      “อะไรนะคะ”

      “เปล่าหรอก ไปนอนเถอะไป” โจลูบหัวมิ้น ทำให้หล่อนรู้สึกดีใจมากที่ได้ถูกลูบหัวเป็นการตอบแทน

      โจ มองรูปร่างของมิ้นด้วยสายตาอันพิศมัย เอวบาง หุ่นเพรียวกระชับ ขาเรียวบาง ผิวเข้ม ผมยาวเป็นลอน ตาโตๆ หน้าตาซื่อๆ สูงราวๆ 165 เซนติเมตร นั่นแหละ ใช่เลย!

      เรย์ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
      .........
      วันต่อมา

      “อรุณสวัสดิ์ค่ะ ตื่นแล้วเหรอ”

      วันนี้แสงสุริยาก็เปล่งประกายเช่นเดิม วิหคตัวน้อยๆก็บินว่อนราวกับสนุกสนาน กรุงเทพมหานครจึงเริ่มเคลื่อนตัวด้วยยวดยานพาหนะต่างๆ เรย์ทักทายยามเช้ากับโจด้วยใบหน้าที่สดใสเช่นเดิม

      “อืม อรุณสวัสดิ์แล้ว มิ้นละ”

      “แหม พอลืมตาตื่นก็ถามถึงแม่สาวใช้เลยนะคะ ได้ใหม่แล้วลืมเก่านะ งอนแล้วด้วย” เรย์ทำหน้าโกรธเล็กๆ แต่มันเป็นเรื่องเล่นๆสนุกๆเท่านั้นเอง

      “โอ๋ๆ ขอโทษครับ” โจลูบไหล่เรย์เล็กน้อย และเห็นใบหน้าอันยิ้มแย้มของเรย์

      “ยกโทษให้ก็ได้” เรย์ยิ้มตอบ โจก็ยิ้มให้

      “กลับมาแล้วคะ” และแล้วความรักอันสั้นของทั้งคู่ ก็พังทลายลงด้วยเสียงของมิ้น

      “พอดี ฉันให้มิ้นไปซื้อโจ๊กนะคะ พอดีฉันขี้เกียจทำกับข้าว” โจยิ้มให้และเตรียมตัวอาบน้ำ.......
      ..........
      เรย์ส่งโจไปทำงานบริษัทเหมือนเดิมทุกเช้าโดยไม่มีเบื่อ เมื่อวานหลังจากที่เธอดูละครจบ เธอก็นึกตอนจบของนวนิยายของเธอได้พอดี วันนี้เรย์จะต้องเขียนต่อให้จบให้ได้

      “มิ้นจ้ะ วันนี้ช่วยล้างจานให้ด้วยนะ, แล้วก็ทำความสะอาดห้องครัวกับห้องนั่งเล่นด้วย แล้วก็กรอกน้ำให้ครบนะจ๊ะ แค่นั้นแหละ”

      “ค่ะ ได้แน่นอนค่ะ” มิ้นตอบรับ

      “ดีมาก” ว่าแล้ว เรย์ก็เดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ และบรรจงเขียนให้งามที่สุด เพื่อจะได้ถูกใจคนอ่าน

      ไม่นานงานทุกอย่างก็เสร็จไปด้วยดีด้วยฝีมืออันคล่องแคล่วของมิ้น สาวใช้หน้าใหม่แสนซื่อ เวลาก็ช่างผ่านไปเร็วเสียจริง วันนี้เรย์ก็ได้แต่นั่งฟังเพลงโปรด แต่วันนี้มันดูน่าเบื่อ น่าเบื่อยังไงก็ไม่รู้ ถึงจะมีมิ้นคอยอยู่ด้วย แต่ก็เหมือนมีเพียงตัวเรย์เท่านั้น ที่มีชีวิตและลมหายใจอยู่ภายในบ้าน

      “คุณเรย์ค่ะ ห้องของคุณเรย์จะให้หนูทำความสะอาดด้วยหรือเปล่าค่ะ”

      “ไม่ต้องหรอกจ้ะ เดี๋ยวฉันทำเอง เดี๋ยวแกไปซื้อของสดมาให้หน่อยสิ, มีซุปเปอร์มาร์เกตอยู่หน้าซอยนะแล้วรีบกลับมาก่อน 5 โมงนะ นี่เงิน” เรย์ยื่นใบสินค้าให้มิ้นพร้อมเงินจำนวนหนึ่ง

      แล้วมิ้นก็ลงไปเพื่อทำธุระ เรย์ก็เดินไป เดินมาตลอดราวกับกระวนกระวายเรื่องบางอย่างทั้งๆที่ไม่มีเรื่องที่จะต้องวุ่นวายใจ เธอตอบคำถามตัวเองว่า ทำไมรู้สึกไม่สบายใจเลย หรือว่าเป็นเพราะมิ้น ไม่ก็คงไม่ใช่.......
      ............
      “ช้าจริงๆ” เมื่อเข็มนาฬิกาบ่งบอกเวลา 5 โมงเย็นก็มีเสียงคนเคาะประตูและเปิดประตูมา

      “กลับมาช้าจริงนะ วันหลัง......” เรย์ตกตะลึงกับภายเบื้องหน้าเล็กน้อย เมื่อมิ้นมากับโจ

      “อ๋อ พอดีผมเจอมิ้นกลางทางตอนกลับ ก็เลยพานั่งรถมาด้วย”

      เรย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็เข้าใจว่าสงสัยจะ “บังเอิญ” จริงๆ

      “เธอทำต้มยำกุ้งเป็นไหม”

      “ไม่เป็นค่ะ” มิ้นตอบด้วยการตีหน้าซื่อ

      “มาๆ เดี๋ยวฉันสอนทำ จำไว้บ้างนะ ตามมา” เรย์เริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย
      ........... และในที่สุดต้มยำกุ้งก็เสร็จ

      “โจค่ะ กินข้าว” เรย์เรียกโจ

      “มิ้นส่วนของแกฉันแบ่งเอาไว้แล้วนะ ไปกินที่อื่นนะเข้าใจไหม” เรย์ออกคำสั่ง

      “เอาน่าเรย์ อย่าไปดุมิ้นให้มากเลย แกยังเด็กอยู่นะ, มาเถอะมานั่งกินด้วยกันก็ได้” โจส่งสายตาแก่มิ้น

      “คุณคะ มันจะดีเกินไปหรือเปล่าค่ะ” เรย์ก้าวขาออกไป พร้อมใส่กับโจ

      “ถ้างั้น ตามใจละกันนะ” โจไม่อยากขัดใจเรย์ เพราะถ้าขืนเรย์โกรธคงจะน่ากลัวน่าดู
      ........... และแล้วอาหารมื้อค่ำก็จบลง เรย์อาบน้ำและเข้าไปในห้องนอน ส่วนโจคงทำงานจนดึกเช่นเดิม

      “เรย์วันนี้ผมคงนอนดึกหน่อยนะ คุณหลับไปก่อนก็ได้นะไม่ต้องรอ” โจสั่ง

      “ค่า” นั่นเป็นเสียงของเรย์ที่พูดกับโจ......

      โจยิ้มด้วยความยินดีภายในใจ......... คืนนี้ เจอกันนะคะ ที่ห้องของฉัน จากมิ้น....... นั่นเป็นข้อความที่อยู่ในกระเป๋าของโจ เขายิ้มและมองหน้ามิ้นหลังจากอ่านข้อความนั้น แล้วเขาก็พยักหน้า ในขณะที่เรย์หลับ เรย์ไม่รู้สึกเลยสักนิด.....

      เช้านี้ไม่มีแม้แต่เสียงของวิหค แต่วันนี้กลับมีเสียงฝนตกอยู่ซ่าๆ ยามเช้าของเรย์กลับมีฝน ราวกับตกมาเพื่อลงโทษแก่ผู้ใช้รถ ใช้ถนนของกรุงเทพ มหานครอันยิ่งใหญ่ของไทย
      เรย์ลืมตามองฟ้าอันมืดหม่นภายในห้องนอน เรย์ลุกขึ้นแต่ก็ไม่เจอโจ

      “ตายละ สายป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย” นาฬิกาชี้เวลา 8 โมงครึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม 48 เรย์มองไปรอบห้องกลับไม่พบโจ เธอจึงเปิดประตูห้องออกไป เพื่อที่จะพบโจ

      ว่างเปล่า...... ของกว่าครึ่งที่เป็นของโจหายไปหมด......

      “มิ้น! มิ้น!” เรย์เรียกสาวใช้ด้วยอาการหวาดผวา โสตประสาทของเธอเริ่มตึงเครียด หัวใจของเธอหวั่นไหว เมื่อไม่พบใครสักคน เธอเปิดดูห้องของมิ้น กลับไม่มีของใช้ของมิ้นเหลืออยู่ แม้แต่ตู้เสื้อผ้าก็ไม่มีเสื้อผ้ากองอยู่ เรย์วิ่งออกมาด้วยอาการหวั่นไหว และเมื่อเธอเห็นบางอย่างหัวใจของเธอก็แทบจะสลายกลายเป็นธุลี

      “ลาก่อนเรย์ เราไม่น่าเกิดมาเพื่อพบกันเลย” เรย์ตกตะลึงอยู่ไม่นาน น้ำตาก็ไหลออกมา เธอล้มลงราวกับไร้ลมหายใจ
      เราไม่น่าเกิดมาเพื่อพบกันเลย.....
      เราไม่น่าเกิดมาเพื่อพบกันเลย.............
      เราไม่น่าเกิดมาเพื่อพบกันเลย.....................
      มีแต่คำๆนี้ที่ก้องอยู่ในหูของเรย์ มีแต่คำๆนี้เท่านั้น นี่หรือใจชายที่บอกว่ารัก นี่หรือใจชายที่ตื่นมาแล้วบอกว่า อรุณสวัสดิ์ด้วยรอยยิ้ม นี่หรือใจชายที่เราไว้ใจเรื่อยมา นี่หรือใจชายที่เราเคยบอกเขาว่า “รัก”

      ทำไมเขาทำกับเราแบบนี้........

      เรย์แทบเป็นบ้าภายในเวลาสั้นๆหลังจากอ่านข้อความ น้ำตาของเธอไหลไม่หยุด เมื่อก่อนเราเคยมีชีวิตอยู่เพื่อโจ แต่เดี๋ยวนี้เรามีชีวิตอยู่เพื่อใคร.......... เรย์ยิ้มและตอบคำถามนี้ว่า “ฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อใครบางคนที่รักฉันจริง” เธอตอบแบบนั้น......... (จบบริบูรณ์)    21: 15:53     27/3/48

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×