The Maze 3 - The Maze 3 นิยาย The Maze 3 : Dek-D.com - Writer

    The Maze 3

    \'มันไม่นานนักหรอก มันไม่นานเท่าไหร่\'

    ผู้เข้าชมรวม

    560

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    560

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 เม.ย. 47 / 22:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      .....
      “ที่ไหนเนี่ย” เสียงของชายคนหนึ่งพูดเมื่อเขารู้สึกตัว แล้วเขาก็รีบลุกขึ้นด้วยอาการมึนงงเล็กน้อย ราวกับว่าเขานอนหลับไม่เพียงพอ
      “ฮัลโหล มีใครอยู่บ้างมั๊ย” เขาตะโกนออกไปถาม แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ เมื่อเขาออกเดินไป ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว มีแต่กำแพงเท่านั้นที่รายล้อมตัวของ ‘ลี’ไว้......
      ‘ลี’วิ่งไปด้วยคาวมรวดเร็ว สายตาของเขามองกำแพงเหล่านั้นด้วยความ หวั่นไหวและรู้สึกกลัว ที่นี้มันคือที่ไหน ที่นี้มันคืออะไร มีใครอยู่บ้างไหมนอกจากตัวเอง มีแต่คำถามเหล่านี้ที่ยังคงวกเวียนอยู่ในหัวสมองของลี ป้ายพนักงานที่ติดอยู่บนเสื้อของเขา แกว่งไปแกว่งมาเพราะการวิ่ง ลีวิ่งไปทางด้านซ้ายบ้างขวาบ้าง และแล้วเมื่อเขาเลี้ยวไปยังหัวมุมกำแพงสีขาวที่ทอดยาวไปผืนหนึ่งก็พบกับ.....
      หญิงสาวร่างเล็กนั่งอยู่ตรงปลายเท้าของเขา
      “อย่าทำร้ายฉันนะ” หญิงสาวตอบกลับมาหาเขา
      “โอ้ว ไม่หรอกนะ ตรงนี้มีแค่ฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ต้องห่วงหรอก” เขาเข้าไปจับมือของเธอ หญิงคนนั้นรีบจับมือของเขา
      “ฉันชื่อ ลี แล้วเธอละ” ลีแนะนำตัว
      “ดราว” ดราว หญิงสาวตอบกลับมา
      “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ ที่นี้ที่ไหนก็ไม่รู้นะเนี่ย” ดราวเงียบ
      “เธอเข้าใจหือเปล่า” ลี หันกลับไปถาม
      “ชั้นแค่ ‘ตาบอด’ ไม่ใช่ปัญญาอ่อน” ดราวตอบกลับมา
      “งั้นเหรอ โอ้ว แย่จังเลยนะอยู่ในนี้ต้องตาบอด” ลีลุกขึ้น
      “คุณรู้หรือเปล่าว่าที่นี้มันคือที่ไหน” เด็กสาวตาบอดถาม
      “ที่นี้นะเหรอ มันคือ.....” ลี พูดไม่ทันจบก็มีเสียงเกิดขึ้น “ตึงๆๆ” ลี ตกใจมองดูรอบๆ เช่นเดียวกับดราว เด็กสาวตาบอด
      “มันมาแล้ว พวกมันมาแล้ว” ดราวลุกขึ้นและจับแขนลีไว้
      “อะไรกันเนี่ย ผนังกำแพงมันขยับได้ พระเจ้ามันบีบเราตายแน่ วิ่งเร็ว” แล้วลีก็รีบพาดราววิ่ง ดราวเกาะแขนของเขาด้วยความกลัวและรีบวิ่งตาม แล้วทั้ง 2 ก็สามารถวิ่งหนีพ้นจนได้ ผนังกำแพง จาก 2 รวมกันเป็นหนึ่งเดียว พูดง่ายๆก็คือ กำแพงมันมีการย้ายที่สลับไปมาอย่างไม่น่าเชื่อ......
      ทั้งคู่ก็ยังคงวิ่งต่อไปด้วยฝีเท้าที่รวดเร็ว จนทั้ง 2 ไม่ทันระวัง “โอ๊ว” ลีชนใครเข้าให้
      “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” ลี เกือบตั้งตัวไม่ได้เพราะไปชนผู้หญิงคนหนึ่งเข้า
      “ไม่ เอ๊ะนั่น ลี นี่นา” ท่าทางหญิงสาวคนนั้นจะรู้จักเขา
      “อ้าว ชาร์ นี่นาโอ๊วพระเจ้า” แล้วทั้ง 2 ก็กอดกัน
      “คุณมาที่นี้ได้ยังไง” หญิงสาวผมสีบรอนซ์ นัยตาสีฟ้าถามเขา
      “ไม่รู้เหมือนกัน” ลี พูด
      “คุณเจอใครหรือยัง” ชาร์ถอยออกมา
      “นี้ดราวนะ เธอตาบอด” ลี แนะนำดราวให้เพื่อนของเขารู้จัก
      “โอ้ว ชื่อเพราะจัง เหมือนเคยได้ยินที่ไหน” ชาร์ยิ้มให้ดราวแต่ดราวไม่สามารถมองเห็นรอยยิ้มของเธอได้
      “พวกคุณเป็นใคร” ดราวถาม
      “พวกชั้น ทำงานอยู่ที่องค์กรวิศวกรรมและชีววิทยา หรือเรียกว่า ไบโอแม็ททริคเชี่ยล ก็ได้จ้ะ มันเป็นการทดลองลับสุดยอด ที่เกี่ยวกับการขนส่งผู้คนไปยังอีกมิติหนึ่งโดยใช้เครื่องมือทางวิศวกรรม ผสมกับชีววิทยา เรื่องนี้ชั้นขอเล่าให้เธอฟังก็แล้วกัน และอย่าไปบอกใครเชียวน่า” ชาร์ ไว้ใจดราวเป็นอย่างมากเธอจึงเล่าเรื่องลับสุดยอดนี้ให้ดราวฟัง
      “เฮ้ ลี” มีเสียงชายหนุ่มอีกคนตะโกนเรียกชื่อเขา
      “อ้าว พอลล์, เอล นี่นา” ทันใดนั้นก็มีเสียงของชายหนุ่มอีกคนหนึ่งเรียกชื่อ ลี นั่นก็คือ พอลล์และเอล นั้นเอง (เอ๊ะชื่อนี้คุ้นๆ)
      “หวัดดีเพื่อน มาได้ยังไงเนี่ย” ลี ถามเขาและเธอ
      “ไม่รู้เหมือนกันลี โอ้ว ชาร์ยินดีที่เธอปลอดภัย” เอลสวมกอดชาร์อย่างแนบแน่น
      “เช่นกัน อ๊ะ นี้ดราวจ้ะ เด็กสาวตาบอด” ชาร์ แนะนำดราวให้เอลรู้จัก
      “ตึงๆๆ” เสียงของกำแพงที่คอยบีบร่างกายนั่นมาอีกแล้ว
      “มันมาแล้ว มันมาอีกแล้ว” ดราวที่นั่งอยู่ก็พยายามถีบด้วยความกลัว
      “ผนังกำแพงมันขยับ” เอลมอง “วิ่งเร็ว” แล้วพอลล์ก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
      ชาร์ก็ฉุดตัวดราวออกไป “อย่าปล่อยมือชั้นนะ” ดราวบอกชาร์ด้วยอาการกลัว
      ทุกคนก็สามารถหลบหลีกอุปสรรคเหล่านี้มาจนได้ ดราวก็เช่นกัน ทั้ง 5 คนนั่งพักแรงเพราะต่างคนก็ต่างเหนื่อยกับการวิ่งมา
      “เฮ้อ รู้มั๊ยชั้นทำงานทั้งวันยังไม่เหนื่อยขนาดนี้เลย” ชาร์พูด
      “ผมว่าวงกตที่เราหาทางออกกันอยู่เนี่ย มันน่าจะอยู่ในการทดลองของผมนะ” ลี พูด
      “ว่าไงนะ” เอล สะกิดใจ
      “ผมอยู่แผนกวิศวกรรม ดูแลเครื่องยนต์ที่จะส่งสิ่งมีชีวิต ไปยังมิตที่ 4 นะสิ ซึ่งผมก็รู้มาว่าพวกเขาจะส่งสิ่งมีชีวิต มายังสถานที่แห่งหนึ่ง” ลี อธิบาย
      “ก่อนหน้านี้ ทำไมไม่บอกพวกเราละ”
      “ก็ผมเพิ่งนึกออกนะสิ แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน ซึ่งผมก็คิดว่ามันอาจจะเป็นที่นี้” ลีอธิบายแบบนั้น “พระเจ้า ถ้ากลับไปได้ชั้นจะไปตบคนที่มันทำเรื่องนี้” เอลทรุดตัวลง
      “เอ๊ะ” ดราวเหมือนรู้สึกอะไร
      “มีอะไรเหรอ” พอลล์ก้มตัวลง
      “พวกคุณเห็นอะไรมั๊ยตรงนี้” ดราวจับมันให้ทุกคนเห็น
      “มันคืออะไรนะ” ทุกคนเริ่มมองดูมัน
      “มันเป็นตัวเลข 93542”
      “หมายความว่าไง” พอลล์ถามเอลที่อ่านตัวเลขให้ฟัง
      93542 มันเกี่ยวข้องกับอะไรกับวงกตนี้ ดราวเริ่มส่ายหัวเล็กน้อย
      “วูบๆๆ” กำแพงเริ่มขยับอีกครั้งหนึ่ง
      “หนีเถอะ” แล้วเอลก็วิ่ง ชาร์ก็ฉุดมือดรีมไป
      “เร็วๆเข้า” กำแพงขยับเร็วขึ้น
      “อ๊า” ดราวสะดุดเท้าตัวเอง
      “ชาร์ ดราว” เอลหันไปมองและตะโกนเรียกชื่อหญิงสาวทั้ง 2
      “ลุกขึ้นเร็ว”
      “พวกคุณไปเถอะอย่ามาห่วงชั้นเลย ไป!!” ดราวตะหวาดใส่
      “ไม่ได้ ลุกขึ้น” แล้วชาร์ก็ลากตัวดราวไป
      “เร็วเข้า” ผนังกำแพงเริ่มรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวแล้ว
      ในที่สุดทุกคนก็รอดชีวิตมาอีกจนได้ ถ้าวิ่งแบบนี้นานๆคงตายแน่
      “เฮ้อ เหนื่อยจัง แล้วก็หิวด้วยมื้อเช้าชั้นยังไมได้ไปกินข้าวเลย” เอลนั่งลงเพราะความเหนื่อยล้าจากการวิ่งหนี “ผมก็เหมือนกัน สงสัยตอนนี้ 9 โมงกว่าแล้วมั้ง ท้องมันก็เลยเริ่มร้อง” ทุกคนก็นั่งลงเหมือนกันหมด
      “ตอนนี้ เก้าโมงครึ่งพอดี” ลี ดูนาฬิกาที่ข้อมือขวาของตัวเอง ดราวก็ลุกขึ้นเดินไป
      “ดราว เธอจะไปไหน” ชาร์ พูดด้วยแรงเหนื่อย
      “พวกคุณไปซะเถอะ ชั้นตาบอด ชั้นเป็นภาระ” เธอพูดด้วยความน้อยใจ
      “อย่านะ ดราว” ลี ลุกขึ้น
      “พวกเราต้องหาทางออกได้ เชื่อชั้นสิ” เอลก็พยายามปลอบใจเธอ
      “ทางออกเหรอ ฮึๆๆๆ” ดราวหัวเราะ
      “ถ้าชั้นหาไม่ได้ คุณก็ไม่มีวันหาได้หรอก” ดราวพูดอย่างทะเยอทะยาน
      “อะไรนะ” เอลตะลึงกับคำพูด ทุกคนยืนแล้วเริ่มสงสัยในตัวของดราว ว่าหล่อนเป็นใคร
      “ขอโทษ ทุกคนชั้นไมได้ตั้งใจ” ดราวก้มหน้าลงเล็กน้อย
      “ไม่ๆๆๆ เธอว่าไงนะเธอรู้ทางออกจากที่นี้หรือ” ชาร์วิ่งไปดักหน้าดราว
      “ไม่รู้แน่” ดราวส่ายหน้า ทำให้ทุกคนสิ้นหวัง
      “เธอเป็นใคร” ชาร์ถามคำถามที่ตรงประเด็น
      “ชั้นมีตัวตนนะ เหมือนพี่ของชั้นที่ตายไป” ดราวบอกเพียงแค่นี้
      “พระเจ้า” เอลทึ่งเพราะตัวตนที่แท้จริงของดราวก็คือ.....
      “จริงสินะ ดราว เป็นชื่อเล่นของ.....”
      “รานิโอ่ ควีน น้องสาวของรนนีโอ่ ควีน ผู้สร้างวงกตลึกลับแห่งนี้” ชาร์ช็อค
      “ตัวเลข 93542 นี้มันคอือะไรเธอรู้มั๊ย” ลี เดินไปถาม
      “ชั้นบอกไปแล้วไงว่าไม่รู้แน่นอน หมายความได้ตั้งหลายอย่าง” รานีโอ่ หรือ ดราวเด็กสาวตาบอดพูดออกมาด้วยคาวมไม่รู้
      “เอาละ เธอบอกทางออกจากที่นี้มาซิ” ลี ถาม
      “ลี นี่ไม่ใช่เกมส์นะ นี่เป็นการทดลอง พวกเราอาจตายก็ได้ อาจรอดก็ได้ พวกหัวหน้าของพวกคุณจับตัวชั้นมาก็เพราะชั้นเปลี่ยนแปลงทางออกของวงกตของพี่ชั้นให้ยากขึ้น พวกเขาก็เลยพยายามตามหาชั้น ชั้นพยายามหลบซ่อนตัว และหนีมาอยู่ในนี้ ถ้าออกไปชั้นก็โดนจับ กรรมตามสนองเนอะว่ามั๊ย” ดราวยิ้ม
      “บ้าน่า ตัวเลข 93542 นี้ไม่มีความหมายเลยอย่างนั้นเลยงั้นเหรอ มันต้องมีสิจารึกไว้เลย” ชาร์เริ่มหงุดหงิดและกลัวว่าตนเองจะต้องตายในที่สุด
      “เอานี้ไป นี้เป็นของที่หัวหน้าคนนั้นต้องการ คุณต้องเก็บมันไว้อย่าให้พวกเขาหาเจอ แล้วบอกไปว่า ไม่เจอชั้น หรือ ไม่รู้จักชั้นก็ได้” ดราวยื่นแผ่นดิสก์เก็จแผ่นเล็กๆให้
      “ไม่ เธอจะต้องออกมากับพวกเรา” “วูบ” และแล้วเสียงกำแพงก็เริ่มขยับ
      “อีกแล้วเหรอ” กำแพงขยับอย่างรวดเร็วมากขึ้น
      “หนีเร็ว” ชาร์วิ่งออกไป
      “ลี พา ดราวมาชั้นจะนำทางเอง” ชาณืบอกเช่นนั้น
      “ลี ไปเลย อย่ามาห่วงช้าน ออกไปไปให้พ้นนะ”
      “ไม่ได้เธอต้องไป” ลี ก็อุ้มดราววิ่งไป
      “วาบ” กำแพงค่อยๆหายไปกลายเป็นที่ที่มืดสนิท
      “อ๊า” ลีและดราวก็ตกลงไปแล้วลีเกาะไว้ได้
      “ลี!!!” ทุกคนหันมามอง ชาร์รีบวิ่งไปช่วย กำแพงเริ่มหายไป ชาร์ฉุดนาฬิกาข้อมือของลีไว้ได้ แล้วลีก็ตกลงไป “ลี!!!!!” แล้วทั้ง 2 ก็ตกลงไป
      “พี่ หนูจะไปอยู่กับพี่แล้ว” ดราวหลับตาและร่างของเธอกับลีก็หายไป
      “โอ๊วม่าย” ชารืพยายามวิ่ง
      “ชาร์เร็ว ทางนี้” ในหัวชาร์ปั่นป่วนไปหมด ชาร์หยุดวิ่งและพยายามนึกถึงตัวเลขนั่นไว้ และดูเหมือนหล่อนจะคิดออก
      “จริงด้วย” ชาร์มองไปที่นาฬิกา
      “93542 เป็นเวลา 9 โมง 35 นาที 42 วินาที เวลาที่จะปรากฏทางออก” และแล้วปริศนานี้ก็กระจ่าง “ชาร์ ชั้นเจอทางแล้วเร็ว” เอลตะโกนเรียกชาร์ หล่นอรีบวิ่งไป
      ทางออกอยู่ตรงหน้านี้แล้ว แล้วทั้ง 3 ก็วิ่งออกมาหาทางออกเจอจนได้ในที่สุด.........
      “เฮ้อ ที่ไหนอีกละ” ชาร์ค่อยๆลุกขึ้นมาด้วยอาการที่มึนงงและอ่อนเพลีย
      “ขอต้อนรับกับทั้ง 3”
      “หัวหน้า” พอลล์พูด
      “ใช่ นี่เป็นการทดลองนะ ไม่ต้องเป็นห่วงพาพวกเขาไปยังสถานพยาบาล อ๊อ เดียวก่อนคุณได้มามั๊ยของชิ้นนั้น” หัวหน้าที่พูดขอต้อนรับกลับคนนั้นถาม
      “ไม่คะ ชั้นไม่เห็นรูเรื่องเลย” ชาร์พูดตามที่ดราวสั่งไว้
      “งั้นเหรอไม่เป็นไร” ผิดคาด ชาร์และทั้ง 2 ถึงกับตะลึง เพราะที่จริงหัวหน้าคนนี้จะต้องเอาแผ่นดิสก์ของดราวไป แต่กลับไม่ หรือว่าเขาหาทางออกเจอแล้ว
      “พวกเราสามารถหาทางออกเจอได้ พวกเราจะปล่อยตัวคุณไปแต่ไปลบความทรงจำเสียก่อน ไปซะลาก่อน”แล้วนายทหารก็พาตัวทั้ง 3 ไป ชาร์ไม่พูดอะไรเพียงแต่เธอเสียใจเล็กน้อยเพราะดราวหวังไม่ให้พวกผู้คนเหล่านี้เจอทางออกจากวงกตที่เธอสร้างขึ้นมา การทดลองวงกตมหัศจรรย์นี้ ยังไม่สิ้นสุดอย่างแน่นอนใครที่จะเป็นเหยื่อรายต่อไปที่จะเข้ามาผจญภัยในวงกตมหัศจรรย์นี้ การทดลองจะเป็นยังไงต่อไป........
      (จบวงกตมหัศจรรย์ ภาค3)

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×