คติความเชื่อนี้ก็ยังคงเกี่ยวข้องกับทางพระพุทธศาสนาอยู่นั่นเอง กล่าวคือ ในทางพระพุทธศาสนานั้นถือว่า บุคคลที่ปรารถนาพระโพธิญาณนั้นจะต้องเสวยพระชาติเพื่อสั่งสมบารมีเป็นเวลานาน อย่างน้อยที่สุดก็ ๔ อสงไขยกับแสนกัปป์ เมื่อไปเกิดในมนุสสภูมิไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดก็จะเป็นผู้ที่มีบุญญาภินิหารเหนือกว่าคนอื่นเสมอ และการมีบุญบารมีเหนือคนอื่นนี้เอง ก็มักกลายเป็นว่าพระโพธิสัตว์จะต้องเสวยพระชาติเป็นพระราชา (ส่วนจะมาจากการสืบสันตติวงศ์หรือการก่อกบฎนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)
หากเราศึกษาเอกสารทางประวัติศาสตร์ให้ละเอียดแล้ว เราจะพบว่าการทำบุญสร้างกุศลอุทิศไว้ในพระศาสนาของพระมหากษัตริย์ไทยนั้น เป็นการทำเพื่อ “พระโพธิญาณในเบื้องหน้า” แทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างวัด สร้างวิหาร การทรงศีล หรืออื่น ๆ ที่เรียกว่าเป็น “บุญกิริยาวัตถุ” ก็มักจะลงท้ายว่า “ให้ได้บรรลุพระโพธิญาณ” เสียส่วนใหญ่
คตินี้ไม่ใช่ว่าจะมีเฉพาะในไทยเท่านั้น แม้แต่พม่าเองก็มีความเชื่อเรื่องนี้ด้วย เราจะเห็นได้จากสงครามระหว่างไทยและพม่าในบางครั้ง ก็เป็นการชิงไหวชิงพริบ (เกทับ บลัฟกันแหลก) จากคำว่า “พระโพธิสัตว์” นี้เอง เช่น สงครามครั้งพระเจ้าอลองพญายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาในสมัยของพระเจ้าเอกทัศน์นั้น พระเจ้าอลองพญาเองก็ได้ยกเอาข้ออ้าง “การบำเพ็ญบารมีในการเสวยพระชาติเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล” มาอ้างเพื่อให้กรุงศรีอยุธยายอมอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารของพระโพธิ สัตว์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างพระเจ้าอลองพญาเสียโดยดี แต่ไฉนเลยข้างอยุธยาจะยอมง่าย ๆ จึงได้ตอบกลับไปในทำนองว่า
“พระโพธิสัตว์จะต้องทำให้สรรพสัตว์ทั้งหลายมีความสุขจึงจะควร การยกทัพมาเบียดเบียฬบีฑาอย่างนี้ไม่น่าจะถูกต้อง และการที่อ้างว่าจะเป็นพระพุทธเจ้านั้นก็ยิ่งไม่ถูกเข้าไปใหญ่ เพราะพระศาสนาของพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ยังประดิษฐานอยู่ ยังไม่ครบถ้วนห้าพันพระวัสสา ส่วนพระศรีอาริย์ก็ยังไม่ตรัส การจะอ้างว่าตัวเองเป็นพระโพธิสัตว์จวนเจียนจะเป็นพระพุทธเจ้าอยู่แล้วนั้น เห็นทีจะเป็นความคิดของเดียรถีย์เป็นแน่แท้”
เท่านั้นเอง พระเจ้าอลองพญาก็ถึงกับเต้นเป็นเจ้าเข้าเพราะข้างสยามนั้นบังอาจนัก ไม่ยอมเชื่อว่าพระองค์เป็นพระโพธิสัตว์ผู้กำลังบำเพ็ญบารมี โดยการแผ่บุญญานุภาพเพื่อปกพระบารมีเหนือบรรดากรุงทั้งหลายในนานาประเทศ (เท่าที่พระองค์จะตีได้สำเร็จ) ทั้ง ๆ ที่ชาวพม่าทั้งหลายเชื่อกันนักกันหนาว่าพระองค์มีบุญมากมายมหาศาล (จากนายบ้านธรรมดา ๆ นำทัพตีหงสาวดีจนแตกได้) ที่มาโปรดสัตว์ในเมืองมนุษย์
และแล้ว
ในที่สุดพระเจ้าอลองพญาก็สู้บุญญาธิการของปืนใหญ่ไม่ไหว เสด็จสวรรคตเสียก่อน และกรุงศรีอยุธยาก็แตกหลังจากนั้นไม่นาน
หลังจากนั้น สยามประเทศก็ได้พระโพธิสัตว์มาช่วยปราบยุคเข็ญแก่ชาวสยามจนปัจจุบัน
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น