หมวดตี้(ต่อ)

เนื้อเรื่อง

      หมวดตี้ได้เขียนไดอารี่ออนไลน์ในเวบhttp://pollize.daryis.com ได้เขียนมุมมองชีวิตมากมายหลายด้าน ในเรื่องข้อคิดการใช้ชีวิตคติตือนใจ มีผู้คนจำนวนมากเข้าไปอ่านไดอารี่ของหมวดตี้
    เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2551 ที่สาขาการจัดการ มทร.สุวรรณภูมิ ได้จัดการบรรยายพิเศษ ได้เชิญอ.พิมพลักษณ์ บุญลือ (แม่ของผู้หมวด) มาเป็นวิทยากร ทำให้พวกเราได้ฟังเรื่องของหมวดตี้มากมาย ทั้งที่เคยรู้มาบ้างแล้วในบางเรื่อง และมีอีกบางเรื่องที่ยังไม่รู้
     ท่านเล่าให้ฟังว่าตอนที่ท่านคลอดน้องเต้(น้องชายคนเดียวของหมวดตี้) ตอนนั้นหมวดอายุ 6 ขอบ ได้เงินไปโรงเรียนไม่กี่บาท แต่มีน้ำใจซื้อมันแก้วมาฝากน้อง เป็นการแสดงความรักที่มีต่อน้อง  และทุกๆวันแม่หมวดมักจะพาน้องมากราบแม่ทุกๆปี วันพ่อก็เช่นเดียวกัน หมวดชอบเครื่องบินมาก หมวดอยากเป็นนักบิน จึงเลือกที่จะเป็นตำรวจพลร่มแห่งค่ายนเรศวร หมวดเลือกที่จะมาปฎิบัติหน้าที่ใน  3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งที่มีโอกาสเลือกปฎิบัติงานในกรุงเทพโดยไม่ต้องเสี่ยงภัยเท่านี้ หมวดเขียนไว้ในไดอารี่ว่า
                " คิดไม่ผิดหรอกที่มาลงเป็นตำรวจตระเวนชายแดน และได้มาอยู่ที่ตำรวจพลร่ม การที่คนจะมาอยู่ที่นี่ได้ หลายร้อยเส้นทาง ต้องเป็นเพราะบุญวาสนา หรืออะไรก็ตาม ชาติก่อนอาจเป็นขุนศึกพระนเรศวร ชาตินี้ท่านจึงให้มารักษาประเทศชาติที่ท่านรักษาไว้ อุดมการณ์รักชาติ มันเริ่มซึมสู่กระแสเลือดแล้ว"
      ท่านเล่าให้ฟังอีกว่าหมวดไม่เคยบอกท่านเลยว่าไปปฎิบัติงานที่ภาคใต้เพราะกลัวท่านเป็นห่วง เวลาที่ท่านโทรไปถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง หมวดมีกจะตอบว่าสบายดี อยู่ที่นี่ไม่น่ากลัว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง กินอยู่สบายมีลูกน้องทำกับข้าวให้กิน ทั้งที่จริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ตอนนอนก็ต้องคอยระวังว่าจะถูกโจมตีตอนไหน ตอนกินก็ไม่ได้กินอาหารดีๆ หมวดเป็นผู้นำที่ดี คอยดูแลลูกน้องเป็นอย่างดี ไม่กลัว ไม่เคยหวั่น กับอัตรายใด ๆ ทั้งปวง
       หมวดมีแนวคิดหลายอย่างที่เราคิดไม่ถึง มีเรื่องตลกมากมายที่มาเขียนเล่าให้ได้อ่าน มีมุมเศร้า ๆ บางมุม ที่ให้พวกเราได้เรียนรู้และเอาเป็นตัวอย่าง ขอขอบคุณท่านอาจารย์พิมลักษณ์ บุญลือ ที่ให้ความรู้ ได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของนักศึกษาต่อไป