ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Go Away,He's Mine : Before One
Go Away,He's Mine : Before One
ความกดดันและความตึงเครียดของบรรดาเหล่าเทรนนี่ได้แพร่ขยายไปทั่วบริเวณห้องซ้อมใหญ่ภายในตึก EXO-ME แห่งนี้ เมื่อพบเห็นการปรากฏตัวอย่างไม่คาดฝันของสองซีอีโอใหญ่ของค่ายทั้ง อู๋อี้ฟาน และ คิมจุนมยอง ที่รวบตำแหน่งประธานค่ายเดินเข้ามาภายในห้องอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน นั่นแปลว่าทีมวงใหม่ที่จะทำการฟอร์มในวันนี้นั้นจะเป็นโปรเจ็คใหญ่ของค่ายอย่างแน่นอน
และภายใต้สภาพอันตรึงเครียดนี้ทำให้ หวงจื้เทา และ โอ เซฮุน ที่แม้ยืนอยู่คนละกลุ่มได้หันหน้ามามองกันโดยไม่ได้นัดหมาย และมีเป้าหมายเดียวกันคือเพื่อบอกอีกฝ่ายว่าให้ทำใจให้สบาย เมื่อทั้งสองเห็นว่าพวกเขาห่วงอีกฝ่ายคิดเหมือนกันจึงเผลอที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
"เฮ้ เซฮุน เครียดจนเพี้ยนแล้วรึไง" ร่างสูงที่ผิวแทนจนเกือบดำหันมากัดเพื่อนตัวขาวของตัวเองที่จู่ๆ ไม่รู้นึกครึมอกครึมใจอะไรจนยิ้มออกมา
"พูดงี้อยากตายรึไง จงอิน"
"อะไรกันฉันอุตส่าห์เป็นห่วงว่านายจะบ้าก่อนได้ฟังประกาศ ฮ่าๆ"
"หุบปากไปเลยไป" เซฮุนพูดเปล่าไม่ว่ากลับเตะจงอินอย่างแรงจนคนโดนเตะร้องออกมาดังลั่น ซึ่งนั้นทำให้พวกเขาทั้งสองกลายเป็นเป้าสายตาของคนทั้งห้องไปเลยทีเดียว ความอายลามไปยังร่างสูงหูกางอีกคนที่อยู่กลุ่มเดียวกับสองคนที่เป็นเป้าสายตาทำให้เขาค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากเพื่อนทั้งสอง แต่ก็กลับถูกลากกลับมาโดยเซฮุนและจงอิน
"กลับมาเลย ปาร์ค ชานยอล อย่างมาเนียนทิ้งพวกฉันนะเฟ้ย"
อีกทางด้านหนึ่งที่เด็กหนุ่มตัวเล็กหน้าหวาน บยอน แบคฮยอน ก็เริ่มรำคาญกับปฏิกริยาที่ไม่รู้จักโตของเด็กสามคนตรงนั้นที่ยังคงไม่หยุดทะเลาะกันไม่หยุดในระหว่างที่คนอื่นในห้องกำลังเครียดกันอยู่ ก็ได้เปรยด้วยเสียงที่ไม่เบาเท่าไหร่นัก
"อายุเท่าไหร่กันแล้ว ยังมัวมาทะเลาะกันแบบเด็กๆ อีก ไม่อายคนอื่นบ้างรึไง"
สิ้นเสียงของคนตัวเล็กก็ทำเอาสามคนที่โดนพาดพิงอยู่หันควับมาทางตนเสียงก่อนที่ทั้งสามจะเดินตรงมายังจุดที่คนตัวเล็กยืนอยู่ พลางกับเริ่มสงครามน้ำลายขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางความสนใจของเหล่าเทรนนี่คนอื่นๆและเริ่มมีการลุ้นกันว่าการประชันกันของสองกลุ่มนี้รอบนี้ใครจะชนะไป โดยก่อนหน้าช่วงแรกๆ ทุกคนก็ค่อนข้างจะตกใจกับการทะเลาะกันของสองกลุ่มนี้แต่ตอนนี้พวกเขาพากันชินชาและหายตกใจกับเรื่องแบบนี้ไปกันซะแล้ว
"เงียบไปเลยไป๊ บีเกิ้ลฮยอง" คนแรกที่เริ่มสงครามในครั้งนี้คือชานยอล
"ว่าใครบีเกิ้ล ไอ้หูกาง" คนตัวเล็กที่ถูกเด็กกล่าวหาโวยวายกลับในทันที
"ก็ใครล่ะครับ ที่เอาแต่เห่าๆ เอ๊ย! ผิด พล่ามๆ" คราวนี้ถึงตาของจงอินที่รับหน้าที่ต่อจากชานยอล
"พล่ามๆๆ แต่ก็ไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากเห่า เอ๊ย! พล่ามเลย ฮ่าๆๆ" ต่อด้วยเซฮุนที่ที่ช่วยเสริมประโยคต่อในทันที ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มหัวเราะและแท็กมือกันด้วยความพอใจ หลังจากเห็นหน้าของแบคฮยอนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ
"ว่าแต่คนอื่นพล่าม แต่กลับไปรู้ตัวเองเลยว่าตัวเองก็บ้าน้ำลายพอกัน" เสียงตอบกลับดังมาจากเด็กหนุ่มหน้าหวานชาวจีนอีกคนที่อยู่กลุ่มเดียวกับแบคฮยอน ซึ่งนั่นทำเอากลุ่มคนที่โดนพาดพิงว่าบ้าน้ำลายหันกลับมาให้ขวับ
"บ้าน้ำลาย เลือกศัพท์ได้เพราะนี่ฮยอง" จงอินพูดด้วยเสียงล้อเลียน
"เป็นคนจีนก็อยู่ส่วนของตัวเองไปสิ ฮยอง มายุ่งกับการทะเลาะกันของคนเกาหลีทำไม" เช่นเคยเซฮุนมักจะมีหน้าที่ขยายความของประโยคจงอินเสมอๆ
"เป็นคนจีนแล้วมันทำไม อย่างน้อยพวกเราก็พูดเกาหลีได้เพราะกว่าพวกเด็กเกาหลีละกันล่ะ" หวงจื้อเทาเองที่เงียบมานานก็ก้าวเข้าสู่สงครามด้วยในทันใดที่มีการพาดพิงถึงเชื้อชาติ
"เป็นคนจีนแล้วมันทำไม อย่างน้อยพวกเราก็พูดเกาหลีได้เพราะกว่าพวกเด็กเกาหลีละกันล่ะ ...เพราะหรอ พูดมาได้ทั้งๆ ที่สำเนียงตัวเองยังไม่ชัดเลยแท้ๆ" ชานยอลพูดล้อเลียนประโยคของเทาก่อนที่จะเริ่มแซวเรื่องสำเนียงเกาหลีของเทาที่ยังไม่ชัดนัก
ทั้งห้องเงียบกริบทันทีที่หลังจากประโยคสุดท้ายของชานยอล ซึ่งเจ้าตัวหลุดปากออกไปจนลืมนึกไปว่านี้คือสิ่งต้องห้ามเพียงไม่กี่ข้อในการแซวหรือล้อเลียนเทรนนี่ต่างสัญชาติ และเหมือนชานยอลเองก็ยังคงยังไม่ทันนึกถึงเพราะจนตอนนี้เขาก็ยังคงหัวเราะอยู่ ผิดกลับคนอื่นภายในห้องที่หัวเราะไม่ออก หรือแม้กระทั่งจงอินและเซฮุนเพื่อนในกลุ่มของเขาเองก็ตาม โดยเฉพาะเซฮุนที่ดูจะกังวลมากที่สุดเมื่อเห็นคนรักของตนหวงจื่อเทาเงียบและไม่โต้ตอบคนเป็นเพื่อนของตน ซึ่งนั้นแปลว่าแพนด้าของเขากำลังโกรธจริงๆ
"ชานยอล หยุดได้แล้ว รีบขอโทษเขาสิ" เซฮุนพูดกับชานยอลหวังเพื่อให้เพื่อนของตนหยุดพูดลง
"ทำไมฉันต้องขอโทษล่ะ นี่เซฮุนนายแอบชอบหมอนั่นรึไง ถึงได้เป็นเดือดเป็นร้อนแทนแบบนั้นน่ะ" เหมือนจะไม่ได้ผลชานยอลยังยอมสังเกตุรอบข้าง แถมยังโยนระเบิดลูกใหญ่ลงมาทางเซฮุนอีกด้วย ทำเอาเซฮุนทีได้ฟังคำถามของคนเป็นเพื่อนถึงกลับชะงักไปครู่นึง
"จะบ้าหรอ ทำไมฉันต้องชอบหมอนั่นด้วยล่ะ" เซฮุนกลั้นใจตอบชานยอลโดยที่ไม่กล้าแม้จะหันไปสบตากับเทาที่อยู่อีกด้าน
"เฮ้ย แกรีบขอโทษตามที่เซฮุนบอกเถอะหน่า" จงอินเองก็รีบเข้ามาเสริม
"เร็วๆ เลยไอ้หูกาง ขนาดเพื่อนนายยังมีจิตสำนึกพอเลย นายเองก็ควรมีบางนะ" แบคฮยอนเอ่ยขึ้นมาบ้าง
"บีเกิ้ลฮยอง ไม่มีใครถามความเห็นเลยนะ เงียบบ้างเถอะหนะ"
"ว่าไงนะ"
ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายไปมากกว่านี้ คิม จุนมยอง หนึ่งในประธานของค่ายจึงรีบออกมาห้ามทัพระหว่างเทรนนี่ทั้งหกของค่าย
"พวกนายทั้งหมดคนหยุดได้แล้ว" สิ้นเสียงของจุนมยองถือเป็นคำสั่งเด็ดขาด ทั้งหมดที่ตอนแรกวุ่นวายชุลมุนกันอยู่ก็แยกออกจากกันโดยอัตโนมัติ
"ความจริงพวกนายควรที่จะญาติดีกันได้แล้วนะ ไหนๆ ก็ต้องเป็นวงเดียวกันอยู่แล้ว" อู๋อี้ฟ่านที่ยืนเงียบอยู่ก่อนแรกพูดขึ้นมาบ้างหลังจากปล่อยให้คู่หูของตนห้ามทัพพวกเด็กๆ ก่อนหน้า ก่อนที่เขาจะได้สังเกตุเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจของเทรนนี่ทั้งหก
"ว่าไงนะครับ"
"ตกใจอะไรกันหนักหนา ก็ฉันบอกว่าพวกนายจะต้องเดบิวต์ด้วยกันไง"
"เอ๋?! แล้วทำไมผมต้องเดบิวต์รวมกับพวกนี้ด้วยล่ะ" ทั้งหกพูดออกมาพร้อมกับพลางชี้ไปทางกลุ่มของอีกฝ่าย
"จะได้เดบิวต์อยู่แล้วยังจะเรื่องมากอีก ถ้าใครไม่พอใจก็ถอนตัวไปได้นะ" อู๋อี้ฟ่านเอ่ยออกมาด้วยความหัวเสียหลังจากเห็นท่าทีที่ขัดแย้งอย่างเห็นได้ชัดของเทรนนี่หัวกะทิทั้งสองกลุ่ม
"..." และสิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบ ไม่มีใครที่กล้าที่จะแย้งอะไรขึ้นมาอีก ไม่งั้นพวกเขาอาจจะไม่ได้เดบิวต์เห็นทีจะเป็นได้
"ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว งั้นรายละเอียดที่เหลือรอฟังจากมินซอกเอาล่ะกัน"
อู๋อี้ฟานพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับจุนมยอง และความตื่นเต้นทั้งหมดของเหล่าเทรนนี่ก็มลายหายไปหลังจากได้รับรู้ว่าบุคคลที่ได้รับเลือกให้ได้เข้าฟอร์มวงคือเด็กหนุ่มหกคนตรงหน้า ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันไปเพื่อไปซ้อมตามตารางต่างๆ ของตน ทำให้ภายในห้องนี้เหลือเพียงแค่เทรนนี่หนุ่มหกคน และอีกหนึ่งสต๊าฟแก้มป่อง หรือ คิม มินซอก
"เอาล่ะ ก่อนอื่นทุกคนมารวมกันก่อนนะ" มินซอกเรียกเด็กหนุ่มทั้งหกให้มารวมกันตรงหน้าของเขา ก่อนที่เขาจะได้แจ้งรายละเอียดการฟอร์มวงในครั้งนี้ และเมื่อเห็นว่าทั้งหมดมารวมอยู่ตรงหน้าเขาเรียบร้อยแล้วดังนั้นมินซอกจึงเริ่มที่จะชี้แจ้งต่อในทันที
"ในการฟอร์มวงครั้งนี้ คนที่ได้รับเลือกคือพวกนายหกคนซึ่งพวกนายก็รู้กันแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกนายจะได้อยู่วงเดียวกันหมดหรอกนะ เพราะว่าในโปรเจคครั้งนี้นั้นทางค่ายได้ว่าคอนเซปคือวงคู่ขนาน ซึ่งแปลว่าพวกนายทั้งหกคนจะถูกแบ่งออกเป็นสองวง"
มินซอกหยุดครู่นึงเพื่อดูปฏิกริยาของเหล่าเทรนนี่หนุ่มตรงหน้า ที่ตอนนี้ปรากฏชัดถึงรอยยิ้มที่รวมถึงความดีใจที่จะได้เดบิวต์และความดีใจที่ได้รู้ว่าอาจจะไม่ต้องทำงานรวมกับอีกกลุ่มคู่อริของตนเอง และนั่นเองทำให้มินซอกถึงกับยิ้มขำในท่าทางแบบนั้นของเหล่าเทรนนี่ตรงหน้า
"ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันเชียวนะ ระวังผิดหวังแล้วจะหุบยิ้มไม่ทันนะ"
"ทำไมล่ะ มินซอก" ลู่หาน เทรนนี่หนุ่มหน้าหวานชาวจีนถามมินซอกกลับด้วยประโยคที่เป็นกันเอง เนื่องจากเขาและมินซอกค่อนข้างที่จะสนิทกันในระดับนึงซึ่งทุกคนในบริษัทส่วนมากก็จะรู้กันดี
"ลู่หาน อยู่ในเวลาทำงานนายต้องพูดประโยคทางการสิ"
"อ๊ะ ขอโทษครับ"
"โอเค งั้นต่อก็อย่างที่บอกไปตะกี้ว่าทางค่ายจะแบ่งพวกนายออกเป็นสองกลุ่ม โดยกลุ่มแรก ได้แก่ ชานยอล เทา และแบคฮยอน ส่วน.."
"ทำไมผมโดนแยกไปอยู่กับสองคนนั่นล่ะ" ชานยอลโวยวายทันทีที่รู้ว่าตัวเองโดนแยกออกจากกลุ่มเพื่อน
"นั่นสิ งั้นแปลว่าฉันต้องอยู่กับสองคนนี่หรอ" ลู่หานเองก็โวยวายออกมาพลางชี้มือไปยังอีกสองคนที่เหลือ
"ใช่ มีอะไรไม่พอใจงั้นหรอ" มินซอกพูดด้วยเสียงที่ไม่พอใจ หลังจากที่โดนแทรกระหว่างที่ตัวเองกำลังพูด
"เปล่าครับ"
"ไม่มีงั้นก็ดี ส่วนวันนี้พวกนายไม่ต้องฝึกแล้ว ค่อยมาประชุมรวมพรุ่งนี้ทีเดียวเข้าใจไหม" มินซอกพูดห้วนๆ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องซ้อมไป ทิ้งให้เหล่าเทรนนี่ที่เหลือเริ่มโวยวายกันต่อ
สุดท้ายสงครามน้ำลายของพวกเขาทั้งหมดก็จบสิ้นลงโดยที่ยังไม่มีผลแพ้ชนะในวันนี้ เนื่องจากถูกไล่ออกจากห้องกันซะก่อน และทันทีที่ออกจากห้องทั้งสองกลุ่มก็แยกย้ายกันไปคนละทางในทันทีทันใด แต่ระหว่างที่พวกเขากำลังจะแยกย้ายกันไปเซฮุนก็เหลือบมองไปยังอีกกลุ่ม ไม่สิ ถ้าพูดให้ถูกคือสายตาของเขาเจาะจงอยู่แค่ หวงจื้อเทา หรือ แพนด้าแสนรักของเขา แต่แล้วเขาก็กลับพบว่าเทาไม่คิดแม้แต่จะเหลือบกลับมามองทางเขาเลย นั่นแสดงว่าแพนด้าของเขาคงยังเคืองเรื่องที่ชานยอลเพื่อนปากเปราะของเขาพูดไปเห็นจะได้
"เซฮุนเหม่ออะไรน่ะ ถ้าช้านักจะไม่รอแล้วนะเฮ้ย" จงอินพูดเร่งคนเป็นเพื่อนที่กำลังอยู่ในสภาพเหม่อลอย
"ไม่ได้เหม่อเฟ้ย"
"อ้าวหรอ งั้นช่างมัน"
"วันนี้ไปเดินแถวมหาลัยสตรีดีกว่าม่ะ" ชานยอลเสนอแผนเที่ยวหลังจากที่พวกเขาเดินออกมาจากค่ายกันแล้ว ซึ่งดูท่าจงอินก็จะเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างมาก
"โทษที วันนี้ฉันว่าฉันจะกลับบ้านก่อนดีกว่า" เซฮุนเอ่ยแทรกขึ้นมาระหว่างการพูดคุยอันแสนตื่นเต้นของเพื่อนสองคนตรงหน้า
"ไมว่ะ เซฮุน"
"ไม่เชิง แค่ขี้เกียจเฉยๆ ไปล่ะ พวกนายก็ไปเที่ยวกันดีๆ ล่ะ อย่าลืมล่ะว่าพวกเราจะได้เดบิวต์แล้วนะ จะทำอะไรก็ระวังด้วย" เซฮุนพูดทิ้งท้ายกับเพื่อนทั้งสองก่อนที่จะวิ่งขึ้นรถประจำทางที่มาจอดเทียบป้ายพอดี
ในทางด้านแบคฮยอน ลู่หานและเทา ที่เพิ่งออกจากค่ายกันมาก็กำลังเดินเรื่อยเปื่อยอยู่ตรงทางเท้า พร้อมกับพูดคุยเรื่องที่พวกเขาจะได้เดบิวต์กันอย่างออกรสออกชาติ แต่แล้วไม่นานนักลู่หานที่ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งก็ของแยกไปก่อน ทำให้เหลือแค่แบคฮยอนและเทา
"เทา นายคิดว่าโทรศัพท์สายนั้นเป็นของใคร" แบคฮยอนยกเรื่องสายโทรเข้าของลู่หานขึ้นมาเป็นประเด็น
"มินซอกฮยอง ชัวร์อยู่แล้วล่ะ"
"นั่นสินะ ว่าแต่นายจะไปไหนต่อป่ะ"
"ทำไมหรอครับ ฮยอง"
"พอดีฉันว่าฉันจะกลับบ้านไปบอกข่าวกับที่บ้านสักหน่อยนะ" แบคฮยอนพูดพร้อมกับยิ้มแฉ่งด้วยความภาคภูมิใจอย่างปิดไม่มิด
"อ่อ งั้นฮยองไปเถอะครับ ผมว่าเดี๊ยวผมก็จะกลับบ้านแล้วเหมือนกัน"
"โอเค งั้นแยกกันตรงนี้ กลับดีๆ ล่ะเทา" แบคฮยอนบอกลาเพื่อนที่อายุน้อยกว่าก่อนที่จะรีบเดินข้ามถนนในทันที
ไม่นานนักเทาก็กลับมาถึงคอนโดหรูใกล้ๆ กลับบริษัทซึ่งเป็นห้องที่เขากับ โอ เซฮุน ที่เป็นคนรักอยู่ด้วยกัน ทันทีที่ถึงหน้าประตูยังไม่ทันที่เข้าจะเปิดประตูแต่แล้วประตูนั้นก็กลับถูกเปิดออกมาก่อน พร้อมกับร่างบางที่พุ่งออกมากอดเขาในทันทีที่ประตูได้ถูกเปิด
"เทาย่าาา ดีจังที่นายกลับมาแล้ว" ร่างบางที่กอดเขาพูดด้วยเสียงอ้อนๆ ระหว่างที่ยังซุกหน้าอยู่ตรงไหล่ของเขา
"เป็นอะไรไปนะ เซฮุนนี่ใครแกล้งอะไร เซฮุนนี่ของผมมาหรอ" เทาที่เห็นท่าทีแปลกๆ ของคนรักรีบถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
"เปล่า ไม่มีใครแกล้งอะไรเค้าหรอก แต่เค้ากลัวว่าแพนด้าของเค้าจะโกรธเขาต่างหาก" เซฮุนพูดพลางกับช้อนตาขึ้นมามองเทา
"ทำไมผมต้องโกรธเซฮุนนี่ของผมล่ะครับ" เทาพูดด้วยเสียงอ่อนโยนพลางลูบหัวคนที่กำลังอ้อนไปพลาง
"ก็ที่เค้าตอบชานยอลไปแบบนั้นน่ะ เค้ากลัวแพนด้าจะโกรธที่เค้าตอบแบบนั้นออกไปอ่า"
"อ่อ เรื่องนั้นผมไม่คิดมากหรอก เซฮุนนี่ของผมทำถูกแล้ว ทำไมผมต้องโกรธล่ะ"
"ไม่โกรธเค้าแน่นะ"
"แน่สิครับ ป่ะเข้าห้องกันก่อนเถอะครับ มายืนคุยแบบนี้เดี๊ยวคนอื่นมาเห็นเอานะ"
"อืมมม โอเค" เซฮุนพยักหน้าตอบรับก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะพากันเดินเข้าห้องไปในที่สุด
' ใช่แล้วล่ะ เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธเซฮุนคนรักของเขาเลย การที่เซฮุนของเขาทำอย่างนั้นมันก็ถูกแล้วล่ะ เพราะว่าความรักของพวกเขานั้นมันเป็นความลับที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้นี่หน่า ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นกฏที่ห้ามไม่ให้เทรนนี่ออกเดทกันและยังด้วยเรื่องที่พวกเขาเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่อีกต่างหาก'
เทาคิดในใจขณะที่นั่งอยู่บนโซฟายาวพร้อมกับมองร่างบางนอนหลับไม่รู้เรื่องโดยใช้ตักของเขาเป็นหมอนแทนอยู่ เทาค่อยๆ เอานิ้วเขี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าของคนรักของตนออก ก่อนที่จะค่อยๆ โน้มตัวลงไปจูบเบาๆ ที่หน้าผากพร้อมกับกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของคนที่หลับอยู่
"เซฮุนนี่ ผมรักเซฮุนนี่ของผมนะครับ"
............................................................................
จบไปแล้วกับตอน Before One หรือเรียกง่ายๆ คือตอนที่เกริ่นเรื่องก่อนเข้าตอนหนึ่งนั้นเองคะ
เป็นยังไงบ้างคะกับคู่รักพระนางของเรื่อง คึคึ
ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ม๊วฟฟ ( >3<)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น