คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #348 : ☆ [Full Trans] บทสัมภาษณ์ Tohoshinki's Vogue JP Nov. Issue - DressToGo!
เป็นเรื่องที่เลือกไม่ได้ เมื่อมีโอกาสได้อ่านผลงานแปลของทั้งสองท่านมายังไง ก็อยากจะให้ทุกคนได้อ่านด้วยเช่นกัน เพื่อให้ได้รับความรู้สึกที่หลากหลายผ่านผลงานแปลนั้นๆ เพื่อให้รักสองหนุ่มมากขึ้น มากขึ้น และมากยิ่งขึ้นไป (แก้ตัวยืดยาว ก็แค่เค้าเลือกไม่ได้ เค้าโลเล หลายใจ อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน ก็เท่านั้นเอง ^^)
☆ [Full Trans] บทสัมภาษณ์ Tohoshinki's Vogue Japan November Issue - DRESS to GO!
DRESS to GO! ~ To the party at the next level with THSK
โทโฮชินกิที่เพิ่งปล่อยอัลบั้มภาษาญี่ปุ่นหลังคัมแบ๊ค VOGUE Japan ได้ดีไซน์แฟชั่นในคอนเซปต์ "เวทย์ที่ทำให้ตะลึงในอีกระดับ" เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงเสียงที่ทรงพลังขึ้นของโทโฮชินกิ โดยที่ยุนโฮและชางมินผู้ที่ได้เติบโตมาด้วยกันและได้กลายเป็นการกลมกลืนที่สวยงาม
ภาพ: ยาสุนาริ คิคุมะ
กว่า 9 เดือนแล้วตั้งแต่ที่ VOGUE Japan ได้ร่วมถ่ายรูปด้วยกันกับดูโอ้ เมื่อมองไปที่ฉบับก่อนๆ ยุนโฮแสดงความคิดเห็นว่า "เด็กจัง" และโทโฮชินกิได้ทำงานด้วยความเร็วราวกับว่าจะเอามาแทนที่ช่วงพักที่หายไปหนึ่งปีกับอีกครึ่ง
ซิงเกิ้ลใหม่ของพวกเขา "Why? (Keep Your Head Down)" ได้ขึ้นไปอยู่ในอันดับ #1 ของชาร์ต Oricon เริ่มจากบริษัท Seven & I Holdings พวกเขาได้ถูกรับเลือกโดยโครงการต่างๆเพื่อให้เป็นโมเดลโฆษณา ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังได้แสดงในงานเทศกาลในช่วงฤดูร้อนของ Avex "a-nation" และได้แสดงเป็นกลุ่มสุดท้ายที่โตเกียว คอนเสิร์ต "SM TOWN LIVE" ที่โตเกียวโดมที่จัดขึ้นกับศิลปินในบริษัท SM Entertainment ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากแฟนๆเป็นช่วงเวลา 3 วันติดต่อกัน ความดังของพวกเขายังแพร่กระจายไปต่างประเทศอีกด้วย เพราะตั๋วของ "SMTOWN LIVE" ที่ปารีสขายหมดภายใน 10 นาที ทำให้ต้องมีการจัดไลฟ์รอบที่สอง "SM TOWN LIVE" ยังจะจัดขึ้นอีกครั้งที่นิวยอร์คในเดือนตุลาคมนี้อีกด้วย นอกจากนั้น ไลฟ์ทัวร์ทั่วประเทศของโทโฮชินกิจะถูกจัดรอบๆญี่ปุ่นใน 9 สถานที่โดยมีทั้งหมด 14 คอนเสิร์ต เริ่มจากเดือนมกราคมปีหน้า
เมื่อ 9 ปีที่แล้ว เราเห็นความประหม่าเล็กน้อยบนใบหน้าของพวกเขา หลังและจากคัมแบ๊คที่ประสบความสำเร็จของพวกเขา พวกเรารู้สึกได้ว่าทั้งสองหนุ่มมีพลังและมีความมั่นใจที่กระจายออกมาข้างหน้ากล้อง ในอีกด้านหนึ่ง พวกเขาได้ทักทายแฟนๆอย่างจริงใจและถ่อมตัวเหมือน 9 เดือนที่แล้ว
ช่างถ่ายภาพ ยาสุนาริ คิคุมะ ได้ถ่ายรูปให้โฆษณาของ Tower Records ให้พวกเขาตั้งแต่ปี 2007 ปีที่แล้วเขายังได้รับหน้าที่ดูแลการถ่ายภาพโซโล่ของยุนโฮและชางมินสำหรับนิตยสารของพวกเรา เขากล่าวว่า "ตอนที่ถ่ายรูปโซโล่ ผมรู้สึกว่าคนๆหนึ่งจะพยายามหนักกว่าอีกคนที่ไม่อยู่ ทำให้ภาพถ่ายไปในทางที่ดี สิ่งที่ผมรู้สึกได้ในการถ่ายรูปครั้งนี้คือพวกเขากำลังค่อยๆพัฒนา ร่างกายของพวกเขามีความแข็งแรงขึ้น สิ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจในครั้งนี้คือลักษณะของพวกเขา เช่น ตอนที่ผมขอให้พวกเขาแต่งตัวให้กันและกันสำหรับธีมของฉบับนี้ ชางมินตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า 'อ่าา นั่นมันคงยากหน่อยนะครับ' หลังจากนั้นยุนโฮตอบกลับทันทีว่า 'เราจะลองดูนะครับ!' ผมคิดว่าบรรยากาศแบบนี้ทำให้พวกเขาดูมีเสน่ห์มากขึ้น โดยเฉพาะเวลาศิลปินอื่นๆจะไม่แสดงหน้าตาที่แท้จริงพวกเขาในการถ่ายรูป"
ระหว่างการสัมภาษณ์ พวกเขาหัวเราะเยอะและเอื้อมมือไปหาขนมที่อยู่ข้างหน้าของพวกเขา และยังพูดมุขตลกๆเพื่อทำให้คนอื่นเพลิดเพลิน เราสามารถรู้สึกได้ว่าพวกเขาสนุกสนานไปกับทุกงานที่พวกเขาทำ ถึงแม้ว่าจะท่ามกลางตารางงานที่ยุ่งสุดๆของพวกเขา
ยังมีตอนที่น่าสนใจระหว่างการอัดเพลงใหม่ "Easy Mind" ในอัลบั้มใหม่ "TONE" ของพวกเขา "บางโอกาสผมจะผิวปากข้างหน้าชางมิน และชางมินให้คำเสนอแนะกับผู้กำกับ: 'ไม่ดีเหรอครับถ้าเราจะใส่เสียงผิวปากของยุนโฮเข้าไปในเพลง?' และตอนที่ผมลองทำ เสียงผิวปากของผมแย่มาก (ระเบิดหัวเราะ) ผมตั้งใจทำมันมากแต่มันรู้สึกตลกมากทำให้ผมหัวเราะออกมาเสียงดัง แต่ทั้งหมดถูกอัดเข้าไปในเพลง ผมคิดว่ามันน่าสนใจครับ" (ยุนโฮ)
▲ ความน่าดึงดูดของดูโอ้คู่นี้คือคุณสามารถค้นพบเสน่ห์ของพวกเขาได้เรื่อยๆ
ธีมของฉบับๆนี้คือดูโอ้ของพวกเขาเตรียมตัวสำหรับการเข้าร่วมปาร์ตี้ในปลายปีนี้ ชางมินคอมเม้นท์ว่า "ยุนโฮดูเป็นผู้ใหญ่เขาเลยใส่แจกแก็ตหนังได้ดี แต่เขาก็ดูดีด้วยในชุดสูท" และเลือกสูทของ Gucci ให้ยุนโฮ ถึงอย่างไรก็ตาม ยุนโฮใส่เน็คไทได้ไม่ดีทำให้ลำบากอยู่ช่วงหนึ่ง "ชางมินสูง เสื้อผ้าที่ดูมีสไตล์เลยเข้ากับเขา แต่ผมคิดว่าผู้ชายคงดูดีถึงแม้ว่าจะใส่แค่กางเกงยีนส์และเสื้อยืด"
"หลังการถ่ายละคร (Poseidon) ผมอยากให้ผมของผมยาวกว่านี้จนถึงจุดที่ผมสามารถสนุกไปกับการจัดทรงได้ อิมเมจของผมเปลี่ยนไปกับความขาวของผม และผมอยากออกไปข้างนอกด้วยการใส่เสื้อผ้ามีสไตล์ แต่ผมไม่มีเวลา..." ยุนโฮกล่าวอย่างน่าสงสาร ในอีกด้านหนึ่ง "ผมเกลียดเสื้อผ้าที่ทำให้คนสนใจมากเกินไป" ชางมินพูด
ถึงแม้ว่าบนเวทีดูโอ้จะแสดงให้เราเห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม สิ่งที่น่าสนใจคือตอนลงจากเวที นิสัยของพวกเขาตรงข้ามกันเลย พอสถานการณ์เปลี่ยน เสน่ห์ของพวกเขาจะกลายเป็นเหมือนคุณสมบัติทางเคมี
"มันทำให้คุณรู้สึกสงสัยว่าพวกเขาเป็นยังไงตอนที่พวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้เวลาไม่มีข้อบังคับ" คิคุมะ ชี้ให้เห็นจุดดึงดูดของโทโฮชินกิว่า คุณสามารถค้นพบคาริสม่าใหม่ๆของพวกเขาได้ในโอกาสต่างๆ
"คำทักทายของยุนโฮ 'ว่าไง!' และชางมินจะพูดว่า 'อรุณสวัสดิ์' ผมจำได้ว่าชางมินค่อยๆยืดเส้นยืดสายอย่างระมัดระวัง แต่ไม่รู้ทำไมว่าผมนึกย้อนไปตอนที่ยุนโฮทำไม่ได้ (หัวเราะ)" ริโนะ นาคาโซเนะ ผู้ออกแบบท่าเต้นของ "Why?" และ "MAXIMUM" ยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างทั้งสอง มีข้อคล้ายๆกัน "การทำให้ท่าเต้นสมบูรณ์เป็นงานที่ลำบากมาก ปกติแล้วมันต้องใช้อย่างน้อย 6 ชม. เป็นระยะเวลาสามสี่วัน แต่เมื่อมาถึงการทำงานให้เสร็จแบบจริงจัง ผมคิดว่าไม่มีความแตกต่างอะไรระหว่างพวกเขา" "การเต้นจะยากขึ้นถ้าเพลงยาก ผมคิดว่าสิ่งที่มีเสน่ห์ของพวกเขาคือ พวกเขาจะร้องเพลงระหว่างเต้นได้อย่างทรงพลัง ซึ่งแสดงให้เห็นเสน่ห์ของพวกเขา"
▲ การคงที่ของอัลบั้มใหม่ของพกเขาในฐานะศิลปิน
"การแสดงเพลงในหมวดหมู่ต่างๆในแบบของโทโฮชินกิเอง นั่นคือสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นโทโฮชินกิ" เหมือนกับที่ยุนโฮพูด อัลบั้มที่ได้ปล่อยตัวเมื่อ 9/28 "TONE" ได้บรรจุไปด้วยเพลงในสไตล์ต่างๆตั้งแต่เพลงเต้นจนถึงเพลงบัลลาด
อัลบั้มที่ได้ปล่อยตัวที่เกาหลีได้มีเพลงโซโล่อยู่ด้วย แต่เพลงทั้งหมดใน "TONE" เป็นเพลงที่ร้องประสานเสียงกันสองคน "ผมได้รับความรู้สึก (จากการฟังอัลบั้ม) ว่าอัลบั้มนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และความแตกต่างของยุนโฮและชางมินได้เป็นอย่างงดี มากกว่าอัลบั้มก่อนๆด้วยซ้ำ" เคอิ วากะบายาชิ นักแต่งเพลงกล่าว "ผมรู้สึกได้ว่าเป้าหมายคือการค้นพบขอบเขตที่แตกต่างจากอดีตของพวกเขา โดยที่ยังคงที่ด้วยเพลงเพราะๆสำหรับ Avex และ SM"
มีส่วนที่ยากในการผลิตเพลง "การร้องเพลงคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในศิลปิน ระหว่างการแลกเปลี่ยนความเห็นกับโปรดิวเซอร์ เราได้พยายามอย่างหนักที่จะสื่อความรู้สึกในฐานะผู้ใหญ่" ชางมินกล่าว ยุนโฮนึกขึ้นได้ว่า "หลังอัดเสร็จแล้ว เราฟังเพลง 'Shiawaseiro no hana (Flowers with the color of happiness)' แต่เรารู้สึกแปลกๆเกี่ยวกับการสื่อความหมายในเพลงนี้ อาจจะเป็นเพราะชางมินและผมอัดเพลงนี้แยกกันเพราะตารางงาน เราเลยขอการอัดใหม่อีกรอบ เราร้องอินโทรและส่วนประสานเสียงใหม่" เกี่ยวกับการอัดยุนโฮอธิบายว่า "ปกติผมจะสร้างเรื่องจากจินตนาการของผมก่อนอัดเสียง และผมจะอัดเพลงด้วยการใส่ความรู้สึกครั้งแรกของผมเข้าไป และเพราะผู้ฟังเท่านั้นที่จะตัดสินใจว่าชอบเพลงหรือไม่ในครั้งแรกที่ได้ฟัง ถ้าความเข้าใจของผมไม่ถูกต้อง ผมจะร้องใหม่จนกว่าผมจะพอใจ/ต้องการ"
เสื้อผ้าการแสดงของโทโฮชินกิยังได้รับความสนใจอย่างมาก "สตาฟจะเป็นคนเลือกให้พวกเราและถ้ามีอะไรที่ทำให้ลำบากในการเต้น เราจะให้ความเห็นกับพวกเขา เช่น ถ้าคริสตัลที่ติดตรงคอเสื้อของชุดสำหรับเพลง "Superstar" หนักเกินไปเวลาหมุน เราจะแนะนำว่า 'กรุณาทำให้มันเบาขึ้นด้วย' หรือ 'ทำไมไม่ลองเปลี่ยนเป็นสร้อยข้อมือ' อะไรแบบนั้นครับ" ยุนโฮกล่าว
"อุปกรณ์ในการทำชุดสำหรับเพลงเต้นสำคัญมาก มันสามารถขาดได้ง่ายๆถ้าอุปกรณ์ไม่ยืดหยุ่น" ชางมินอธิบาย และตอนที่ถามเกี่ยวกับระดับการเปิดเผย ชางมินบอกว่า "จริงๆแล้วผมไม่อยากเปิดเผยอะไร ไม่งั้นมันจะทำให้ผมรู้สึกว่าผมควรจะไปออกกำลังกายในฟิตเนสมากขึ้น" ยุนโฮเสิรมว่า "โดยเฉพาะในฤดูร้อน ชุดที่เปิดเผยส่วนใหญ่จะถูกเลือก แต่ผมคิดว่าความเซ็กซี่ของผู้ชายควรจะเปิดเผยตอน อย่างเช่น เวลาที่กระดุมข้างบนเปิด ผมอยากแสดงให้เห็นส่วนที่เซ็กซี่แบบส่องแสง"
ตอนที่ โนริยุคิ อาซะคุระ นักแต่งเพลงที่ได้แต่งเพลงประกอบสำหรับละครและหนังได้ฟังเพลง "B.U.T (BE-AU-TY)" ของอัลบั้ม "TONE" เขาคอมเม้นท์ว่า "พวกเขาท้าทายกับทำนองกระทืบที่ยังไม่ได้ถูกจำกัดหมวดหมู่ ได้เสริมเสียงป๊อปและเสริมเสียงเทคโนฯที่ทำให้นึกถึงความหลัง ผมชื่นชมการท้าทายอะไรใหม่ๆของพวกเขา!" และเวลาที่ถามดูโอ้เกี่ยวกับความคิดเห็น "ผมคิดว่าสิ่งที่เด่นที่สุดในเพลงนี้คือทำนองเพลงที่ซ้ำกันไปซ้ำกันมา และเนื้อเพลงที่คอยยั่วยวนผู้หญิงก็เจ๋งเหมือนกันใช่มั้ยครับ?" ชางมินพูด "มันเป็นเพลงที่ร้องตามได้ง่ายโดยมีอิมเมจของผู้ชายที่ยั่วยวน แต่จริงๆแล้วมันร้องยากมาก (หัวเราะ)" ยุนโฮคอมเม้นท์
มิวสิควิดีโอแสงดให้เห็นฉากที่รุนแรงนิดๆ ยุนโฮเตะในฉากสุดท้าย "จริงๆแล้วเตะอันนั้นไม่ได้ถูกตั้งใจให้สูงแบบนั้นครับ แต่ทุกคนพูดว่า 'อ่า? เขาก็เก่งนี่' ตอนที่ผมทำครั้งแรก ผมเลยลองเตะพร้อมกระโดด ผมรู้สึกอีกด้วยว่ามันรู้สึกแตกต่างเพราะเป็นครั้งแรกที่ผมใส่คอนแทคสี ผมชอบเพราะมันรู้สึกเหมือนได้ค้นพบเสน่ห์อันใหม่" ตอนที่ถามเขาว่าฉากต่อสู้จะดึงดูดแฟนๆผู้ชายรึเปล่า ยุนโฮตอบว่า "มันยากมากสำหรับผู้ชายที่จะชื่นชมผู้ชายอีกคน ฉะนั้นความสนับสนุนจากแฟนๆผู้ชายทำให้เรารู้สึกมีความสุขมาก"
▲ สิ่งที่สำคัญสำหรับโทโฮชินกิ: เวลา ความแข็งแรง และความหลงใหล
ในตอนสุดท้ายของสัมภาษณ์ เราถามเขาว่า "อะไรคือสิ่งที่สำคัญสำหรับโทโฮชินกิ?" และอาจจะเพราะตารางงานที่แน่นของพวกเขา ชางมินตอบทันทีว่า "เวลาและความแข็งแรง" ยุนโฮตอบว่า "ความหลงใหล" และสาเหตุ ยุนโฮอธิบายว่า "เพราะชางมินก็เป็นคนประเภทที่จะพยายามอย่างที่สุด ผมเลยจะไม่พอใจในสิ่งที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้ เราเลยหวังว่าจะพยายามอย่างมากที่สุดด้วยใจที่หลงใหลของพวกเรา ชางมินจะเป็นคนที่พูดว่า 'ผมมีความสุข' ตลอดในตอนจบของการแสดงที่ a-nation แต่จริงๆแล้วโอกาสที่ผมรู้สึกมีความสุขที่สุดของผมคือเวลาที่ผมอยู่บนเวที ผมรู้สึกได้ถึงพลังงานของทุกคนบนเวที และผมอยากจะส่งพลังงานของผมให้พวกเขา เปรียบเทียบกับอดีต ผมมีโอกาสมากขึ้นที่จะพบเจอทุกคน และบางครั้งผมก็อยากร้องไห้เพราะความสุข ผมอยากเป็นศิลปินที่ไม่ได้แค่ดูดี แต่ผมก็อยากเป็นคนที่ให้ความหวังและความกล้ากับเด็กๆได้ เพื่อที่จะเอาชนะเป้าหมายนี้ ความหลงใหลเป็นสิ่งที่สำคัญ"
อาจจะเป็นเพราะเสน่ห์ที่ไม่หยุดและความหลงใหลที่จะคอยเอาชนะเป้าหมายใหญ่ๆของพวกเขาเอง พวกเขาได้กระตุ้นแฟนๆและผู้สร้างโทโฮชินกิได้ไปในอีกระดับหนึ่งด้วยความดังที่เพิ่มขึ้น มันยากที่จะเลิกมองดูโอ้ทั้งสองที่จะคอยพัฒนาต่อไปเรื่อยๆตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
Source: VOGUE Japan November 2011 Issue, ContinueTVXQ.com
Translated by: CTVXQstaff_irene_kidman @ ContinueTVXQ.com
Distributed by: CTVXQstaff_irene_kidman @ ContinueTVXQ.com
Thai Trans/แปลไทย: @AD2055 at Twitter (http://www.twitter.com/AD2055)
TAKE OUT WITH FULL CREDITS.
☆ [Full Trans] บทสัมภาษณ์ Tohoshinki's VOGUE Japan (พฤศจิกายน 2011) - แต่งตัวเพื่อเตรียมตัว! ไปงานปาร์ตี้อีกระดับกับโทโฮชินกิ
แต่งตัวเพื่อเตรียมตัว! - ไปงานปาร์ตี้อีกระดับกับโทโฮชินกิ
โทโฮชินกิ ที่เพิ่งเปิดตัวอัลบั้มญี่ปุ่นอัลบั้มแรกหลังจากการกลับมา VOGUE Japan ได้ออกแบบแฟชั่นที่มีคอนเซ็ปว่า "อีกระดับของเวทีที่น่าตกตะลึง" เพื่อที่จะดึงเสียงที่มีพลังขึ้นของโทโฮชินกิออกมา ซึ่งยุนโฮกับชางมินได้เติบโตขึ้นด้วยกัน และกลายเป็นการประสานเสียงที่ไพเราะ เราห้ามละสายตาจากฉากแต่งตัวของพวกเขาสำหรับเวทีใหม่ และความกระตือรือร้นของศิลปินที่มีต่ออนาคต!
รูปถ่ายโดย: ยาซูนาริ คิคุมะ
ผ่านมาเก้าเดือนแล้วที่ VOGUE Japan ถ่ายรูปของหนุ่มๆทั้งสองครั้งล่าสุด เมื่อดูฉบับก่อนหน้านี้ ยุนโฮ กล่าวว่า "เด็กมากเลยครับ" ราวกับว่าพวกเขาจะชดเชยจากการพักงานหนึ่งปีครึ่ง โทโฮชินกิได้วิ่งเต็มกำลังในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมานี้
ซิงเกิ้ลที่พวกเขาเกิดใหม่ "Why (Keep Your Head Down)" ได้ขึ้นครองอันดับที่หนึ่งในชาร์ตของโอริกอน เริ่มตั้งแต่บริษัท Seven & I Holdings พวกเขาก็ได้รับเลือกจากบริษัทมากมายให้เป็นนายแบบโฆษณา นอกจากนี้ พวกเขายังได้แสดงในเทศกาลฤดูร้อนของ AVEX อย่าง a-nation อีกด้วย และเป็นผู้ปิดเวทีในโตเกียว คอนเสิร์ต SMTOWN LIVE ในโตเกียวโดมซึ่งจัดโดยศิลปินในต้นสังกัดของพวกเขา SM Entertainment ก็ท่วมท้นไปด้วยแฟนๆเป็นเวลาสามวันติดต่อกัน ความโด่งดังของพวกเขายังได้กระจายไปยังต่างประเทศอีกด้วย เนื่องจากตั๋วของ SMTOWN LIVE ในปารีสขายหมดภายใน 10 นาที จึงได้มีการจัดคอนเสิร์ตรอบที่สองขึ้นอย่างเร่งด่วน SMTOWN LIVE จะมีขึ้นที่นิวยอร์คในเดือนตุลาคมนี้อีกด้วย นอกจากนี้ ทัวร์คอนเสิร์ตในญี่ปุ่นของโทโฮชินกิก็จะจัดขึ้น 9 แห่งด้วยกัน โดยเล่นทั้งหมด 14 รอบ เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า
เมื่อเก้าเดือนที่แล้ว เราสัมผัสได้ถึงความประหม่าเล็กน้อยจากสีหน้าของพวกเขา หลังจากการกลับมาที่เปรี้ยงป้างของพวกเขา เราสัมผัสได้ว่าหนุ่มๆทั้งสองเต็มไปด้วยพลังอย่างมีชีวิตชีวา และเผยความมั่นใจต่อหน้ากล้องอย่างล้นหลาม ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ได้ทักทายทีมงานด้วยความเคารพและยังคงถ่อมตนเหมือนกับเก้าเดือนที่แล้ว
ช่างภาพ ยาซูนาริ คิคุมะ มีผลงานถ่ายรูปเช่น โฆษณาของ Tower Records ตั้งแต่ปี 2007 เมื่อปีที่แล้ว เขาก็เป็นผู้รับผิดชอบการถ่ายแบบเดี่ยวของยุนโฮและชางมินสำหรับนิตยสารของเราเช่นกัน เขากล่าวว่า "เวลาที่ถ่ายแบบเดี่ยว ผมรู้สึกว่าแต่ละคนจะตั้งใจมากขึ้นเวลาที่อีกคนไม่อยู่ ซึ่งทำให้การถ่ายแบบมุ่งไปในทิศทางที่ดี สิ่งที่ผมรู้สึกหลังจากได้พบพวกเขาอีกครั้งก็คือ การที่พวกเขากำลังพัฒนาขึ้น ร่างกายของพวกเขาก็กำยำขึ้นเช่นกัน สิ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจในครั้งนี้ก็คือบุคลิกของพวกเขา อย่างเช่น ตอนที่ผมขอให้พวกเขาช่วยกันแต่งตัวให้อีกฝ่ายเพื่อเป็นคอนเซ็ปของฉบับนี้ ชางมินก็ตอบสนองอย่างตรงไปตรงมา 'อ๋า นั่นคงเป็นเรื่องยากนะครับ' แล้วยุนโฮก็พูดต่อจากนั้นทันทีว่า 'เราจะพยายามครับ!' ผมคิดว่าความเป็นมนุษย์ในแบบธรรมชาติๆที่พวกเขามีนี้ ทำให้พวกเขามีเสน่ห์ยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่อศิลปินหลายๆคนไม่สามารถแสดงตัวตนที่แท้จริงได้เวลาถ่ายแบบ"
ในขณะที่ให้สัมภาษณ์ พวกเขาหัวเราะกันมากมายและได้เอื้อมมือไปคว้าขนมที่อยู่ข้างหน้า และยังได้ปล่อยมุขเพื่อทำให้คนอื่นสนุกด้วยเช่นกัน เรารู้สึกได้ว่าพวกเขาอยากจะสนุกไปกับงานทุกๆชิ้นที่ทำ แม้แต่ในระหว่างตารางงานที่แน่นสุดๆ
ยังมีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่น่าสนใจในระหว่างที่พวกเขาอัดเพลง Easy Mind ในอัลบั้มใหม่อย่าง TONE "เป็นครั้งคราวที่ผมจะผิวปากเวลาอยู่ต่อหน้าชางมิน แล้วชางมินก็ไปเสนอกับผู้กำกับว่า 'มันจะดีไหมครับถ้าเพิ่มเสียงผิวปากของพี่ยุนโฮลงในเพลงด้วย?' แต่พอผมผิวปาก เสียงของผมมันแย่มากเลยครับ (หัวเราะ) ผมตั้งใจทำอย่างจริงจัง แต่เสียงมันตลกเกินไปและผมหัวเราะตัวเองออกมาดังๆ แต่ทั้งหมดนั่นก็ถูกอัดลงในเพลง ผมคิดว่ามันออกมาน่าสนใจมาก" (ยุนโฮ)
☂ ความดึงดูดของดูโอ้หนุ่มที่คุณสามารถค้นพบเสน่ห์ใหม่ๆของพวกเขาได้ตลอดเวลา
คอนเซ็ปของการถ่ายแบบครั้งนี้คือคู่ดูโอ้หนุ่มที่กำลังเตรียมตัวไปงานปาร์ตี้ท้ายปี ชางมินกล่าวว่า "พี่ยุนโฮเป็นผู้ชายมาดเข้ม เพราะฉะนั้นเขาจะดูดีเวลาที่ใส่แจ๊คเก็ตหนัง แต่เขาก็ดูดีมากเวลาใส่สูท" แล้วเขาก็เลือกสูท Gucci ให้ยุนโฮ อย่างไรก็ตาม ยุนโฮผูกเนคไทไม่ค่อยเก่งและสู้กับมันอยู่พักหนึ่ง "ชางมินตัวสูง เพราะฉะนั้น แบบเสื้อผ้าที่มีนำสมัยจึงเหมาะกับเขา แต่ผมคิดว่าผู้ชายก็ดูดีแล้วถึงแม้จะใส่แค่กางเกงยีนและเสื้อยืด"
"หลังจากถ่ายละครเสร็จ (เรื่อง Poseidon โดยเขารับบทเป็นหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ) ผมอยากไว้ผมยาวจนถึงระดับที่สามารถจัดทรงได้ รูปลักษณ์ของผมเปลี่ยนไปตามความยาวของเส้นผม แล้วผมก็อยากใส่เสื้อผ้าเข้าสมัยเวลาที่ออกไปข้างนอกด้วย แต่ผมไม่มีเวลา..." ยุนโฮพูดอย่างเสียดาย ในขณะเดียวกัน "ผมมีเสื้อผ้าที่จะเรียกความสนใจมากเกินไป" ชางมินพูดอย่างหนักแน่น
ถึงแม้บนเวที ทั้งสองมักจะมอบการแสดงที่ยอดเยี่ยมด้วยการประสานงานที่สมบูรณ์แบบเสมอ สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เวลาที่พวกเขาลงจากเวที นิสัยของเขากลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป เสน่ห์ต่างๆที่พวกเขามีก็กลายเป็นเคมีที่น่าตกตะลึงของทั้งสอง และแผ่ออกมาเหนือจินตนาการของเรา "มันทำให้คุณสงสัยว่า พวกเขาจะดูเป็นยังไงเวลาที่ทำอะไรแบบไม่มีข้อจำกัด" คิคุมะ ชี้ว่าเสน่ห์ของโทโฮชินกิก็คือ คุณสามารถค้นพบเสน่ห์ใหม่ๆของพวกเขาในโอกาสต่างๆได้ตลอดเวลา
"การทักทายของยุนโฮคือ 'เป็นไง!' และชางมินก็จะบอกว่า 'อรุณสวัสดิ์ครับ' ฉันจำได้ตอนที่ชางมินค่อยๆยืดตัว(เป็นการวอร์มอัพ) แต่ฉันจำตอนที่ยุนโฮทำไม่ได้ (หัวเราะ)" ริโนะ นาคาโซเนะ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ออกแบบท่าเต้นของ WHY และ MAXIMUM ได้พูดถึงจุดเด่นของคู่ดูโอ้เช่นกัน และก็มีความคล้ายคลึงด้วย "การเต้นให้เสร็จสมบูรณ์เป็นงานหนัก ปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณหกชั่วโมงต่อวัน เป็นเวลาหลายวัน สำหรับการที่พวกเขาตั้งใจทำให้จบอย่างจริงจัง ฉันไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างพวกเขา", "ท่าเต้นจะยุ่งยากขึ้นถ้าหากเพลงซับซ้อน ฉันคิดว่าความดึงดูดของทั้งสองก็คือ พวกเขาสามารถร้องเพลงขณะที่เต้นอย่างทรงพลังได้ ซึ่งเป็นการแผ่เสน่ห์ที่แพรวพราว"
☂ ความมุมานะของพวกเขาสำหรับอัลบั้มใหม่ในฐานะศิลปิน
"การได้แสดงเพลงในแนวต่างๆในสไตล์ของโทโฮชินกิ ผมคิดว่านั่นคือโทโฮชินกิ" อย่างที่ยุนโฮบอก TONE ที่วางแผงเมื่อ 28 กันยายน ได้รวมเพลงทุกแนว ตั้งแต่เพลงแดนซ์ที่หนักแน่นไปจนถึงบัลลาด บอกเล่าเรื่องราวของ "TONE = เสียงร้อง + สีสัน"
อัลบั้มที่วางแผงในเกาหลีได้เพิ่มเพลงเดี่ยวของพวกเขาอีกคนละเพลง แต่เพลงทั้งหมดใน TONE เป็นเพลงร้องคู่ "(เมื่อได้ฟังแล้ว) ผมรู้สึกว่าอัลบั้มนี้เน้นจุดเด่นและเสน่ห์ของยุนโฮและชางมินได้เป็นอย่างดี ดีกว่าอัลบั้มที่ผ่านๆมาเสียอีก" นักแต่งเพลง เคอิ วากาบายาชิ กล่าว "ผมรู้สึกได้ว่าเป้าหมายของมันก็คือการค้นหาโลกใหม่ๆที่แตกต่างจากที่ผ่านมา ในขณะที่ยังคงเสียงดีๆที่เป็นเอกลักษณ์ของ AVEX และ SM เอาไว้"
มีบางส่วนที่ยากในการผลิตอัลบั้ม "การร้องเพลงเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับศิลปิน ในขณะที่แลกเปลี่ยนความเห็นกับโปรดิวเซอร์ เราก็พยายามจะสื่อความรู้สึกออกมาในแบบของผู้ใหญ่" ชางมินกล่าว ยุนโฮเล่าว่า "หลังจากที่อัดเพลงเสร็จหมดแล้ว เราก็ได้ฟัง 'ชิอาวาเซะ อิโระ โนะ ฮานะ' แต่ก็รู้สึกว่ามันแปลกๆในเรื่องของความรู้สึกของเพลงนี้ อาจจะเพราะชางมินกับผมอัดเพลงแยกกันเนื่องจากตารางงานของเรา เพราะฉะนั้น เราก็เลยขออัดเพลงใหม่ เราร้องช่วงอินโทรและคอรัสใหม่ โดยใช้ระดับโทนเสียงมากขึ้น" ยุนโฮอธิบายขั้นตอนการอัดเสียงว่า "ปกติแล้วผมจะแต่งเรื่องขึ้นโดยใช้จินตนาการก่อนอัดเสียง แล้วผมก็จะร้องเพลงโดยชื่นชมความรู้สึกเมื่อตอนที่ได้ฟังเพลงเป็นครั้งแรก มันเป็นเพราะผู้ชมจะตัดสินใจว่าชอบหรือไม่ชอบก็ตอนที่ได้ฟังเป็นครั้งแรก ถ้าหากผมไม่เข้าใจตัวเพลงอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ผมก็จะอัดซ้ำใหม่ตามที่จำเป็นครับ"
ชุดแสดงบนเวทีที่ไม่ธรรมดาของโทโฮชินกิก็เป็นที่สนใจมากเช่นกัน "ทีมงานจะเตรียมให้เราครับ และถ้าหากมีส่วนที่รู้สึกไม่สะดวกสบายเวลาแสดงอยู่ เราก็จะให้ความเห็นกับพวกเขา อย่างเช่น คริสตัลที่ติดอยู่ตรงคอเสื้อของชุด Superstar หนักมากตอนที่หมุนตัว เราเลยแนะนำว่า 'ช่วยทำให้มันเบาลงหน่อยนะครับครั้งหน้า' หรือไม่ก็ 'ถ้าเปลี่ยนเป็นสร้อยคอมือล่ะครับ' อะไรทำนองนั้นครับ" ยุนโฮเล่า "วัสดุที่ใช้ในชุดสำหรับเพลงแดนซ์สำคัญมาก มันจะขาดได้ง่ายๆถ้าหากไม่ยืดหยุ่น" ชางมินอธิบาย เมื่อถามพวกเขาเกี่ยวกับระดับร่องอก ชางมินก็บอกว่า "ผมไม่ขอเผยส่วนใดๆดีกว่าครับ ไม่งั้นผมจะรู้สึกกดดันว่าต้องเข้าฟิตเนสเพิ่ม" ยุนโฮเสริมขึ้นว่า "โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ชุดที่เผยส่วนต่างๆของร่างกายจะถูกเลือก แต่ผมคิดว่าความเซ็กซี่ของผู้ชายจะแผ่ออกมาตอนที่เปิดกระดุมเม็ดบน ทำนองนั้นครับ แล้วผมก็อยากจะเผยส่วนที่เซ็กซี่อย่างแพรวพราวอีกด้วย"
☂ สิ่งที่จำเป็นสำหรับโทโฮชินกิ: เวลา ความแข็งแรง และ ความกระตือรือร้น
ในตอนท้ายของการสัมภาษณ์ เราถามพวกเขาว่า "อะไรคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับโทโฮชินกิ?" อาจจะเพราะตารางที่แน่นเอี้ยดของพวกเขา ชางมินเลยตอบทันทีว่า "เวลาและความแข็งแรง" คำตอบของยุนโฮคือ "ความกระตือรือร้น" เมื่อถามถึงเหตุผล ยุนโฮก็อธิบายว่า "เพราะชางมินก็เป็นคนที่ต้องทำให้ดีที่สุด เราจึงจะยังไม่พึงพอใจกับที่เป็นอยู่ตอนนี้ ดังนั้น ผมหวังว่าเราจะสามารถทำให้ดีที่สุดต่อไปได้ด้วยใจที่กระตือรือร้น ชางมินมักจะเป็นคนที่บอกว่า 'ใจของผมเต็มไปด้วยความสุข' หลังจากจบการแสดง a-nation แต่ความจริงแล้วช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของผมก็คือตอนที่ยืนอยู่บนเวทีด้วย ผมสัมผัสได้ถึงพลังงานของทุกคนเวลาที่อยู่บนเวที และก็อยากจะถ่ายทอดพลังงานของผมให้กับพวกเขา เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ตอนนี้เรามีโอกาสได้พบทุกคนมากขึ้น และบางครั้งผมก็อยากจะร้องไห้ด้วยความตื้นตันจากความสุข ผมอยากจะเป็นศิลปินที่ไม่ดูเท่เท่านั้น แต่ยังสามารถมอบความหวังและความกล้าหาญให้กับเด็กๆได้อีกด้วย และเพื่อที่จะทำเป้าหมายนี้ให้สำเร็จ ความกระตือรือร้นเป็นสิ่งที่จำเป็น"
เมื่อ โนริยูกิ อาซาคูระ นักดนตรีที่แต่งเพลงแบ็คกราวน์สำหรับละครและภาพยนตร์มามากมาย ได้ฟัง B.U.T เขาก็ให้ความเห็นว่า "พวกเขาท้าทายจังหวะแจ๊สที่ยังไม่ถูกจัดเข้าหมวดหมูไหน เพิ่มเสียงร้องแบบป๊อป และแต่งเสียงด้วยเทคโนโลยีนิดหน่อย ผมชื่นชมแรงใจของพวกเขาที่ท้าทายสิ่งใหม่ๆมากขึ้นๆจริงๆ!" เมื่อเราถามสองหนุ่มเกี่ยวกับความรู้สึกของพวกเขา "ผมคิดว่าจุดเด่นของเพลงนี้ก็คือทำนองที่วนซ้ำ นอกจากนี้ เนื้อเพลงที่เย้ายวนผู้หญิงไปด้วยก็เท่ดีใช่ไหมล่ะครับ?" ชางมินอธิบาย "มันเป็นเพลงที่ร้องตามได้ง่าย โดยมีภาพลักษณ์ของชายหนุ่มที่ยั่วยวน แต่จริงๆแล้วมันเป็นเพลงที่ร้องยากมากเลยครับ (หัวเราะ)" ยุนโฮออกความเห็น
มิวสิควิดีโอให้ความรู้สึกของความรุนแรงเล็กน้อยในฉากที่ชายหนุ่มต่อสู้กัน ยุนโฮทำท่าไฮคิ๊กในฉากสุดท้าย "ในตอนแรกท่าเตะนั้นไม่ได้สูง แต่ทุกคนก็บอกว่า 'อ๊ะ? มันก็ดีทีเดียวนี่นา' ตอนที่ผมเตะทีแรก เพราะฉะนั้น ผมก็เลยเตะพร้อมกับกระโดดไปด้วยในที่สุด นอกจากนี้ ผมรู้สึกว่าตัวเองดูแปลกไปเพราะเป็นครั้งแรกที่ผมใส่คอนแท็คเลนส์สีครับ ผมพอใจกับมันเพราะมันเหมือนกับว่าผมได้ค้นพบเสน่ห์ใหม่ๆ" เมื่อถามเขาว่าฉากต่อสู้จะดึงดูดแฟนๆผู้ชายไหม ยุนโฮก็ตอบพร้อมกับตาที่เป็นประกายว่า "ผมคิดว่ามันยากมากที่ผู้ชายที่จะชื่นชมผู้ชายคนอื่นนะครับ เพราะฉะนั้น การสนับสนุนจากแฟนๆผู้ชายจะทำให้เราดีใจมาก"
อาจจะเพราะเสน่ห์ที่ไม่มีวันสิ้นสุดของพวกเขา บวกกับความกระตือรือร้นที่จะไปสู่เป้าหมายที่พวกเขาเป็นคนตั้งเองได้อย่างสำเร็จอยู่เสมอ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับทั้งผู้สร้างที่สนับสนุนพวกเขา รวมถึงแฟนๆด้วย ในขณะที่สะท้อนภาพของวงจรนั้น โทโฮชินกิก็ได้ทรงพลังขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ด้วยความโด่งดังและความสามารถที่พุ่งสูงขึ้น เป็นเรื่องที่ยากขึ้นกับการละสายตาไปจากดูโอ้หนุ่มทั้งสอง ซึ่งจะพัฒนาต่อไปนับจากนี้อีกแน่นอน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ถ้าจะเอาออกไป กรุณาเอาเครดิตไปให้ครบค่ะ
Source: VOGUE Japan November 2011 Issue, ContinueTVXQ.com
Translated and distributed by: CTVXQstaff_irene_kidman @ ContinueTVXQ.com
แปลไทย: @minnappe (http://twitter.com/minnappe)
ความคิดเห็น