ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ YUNMIN HOUSE ♥ 윤민 ★

    ลำดับตอนที่ #326 : ☆ [Full Trans] บทสัมภาษณ์ Tohoshinki's MORE November Issue - 110928

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 54







    [Full Trans] บทสัมภาษณ์ Tohoshinki's MORE November Issue - 110928





    ถ้าจะให้ผมเปรียบเทียบเขากับตัวการ์ตูนใน
    “ONE PIECE” มันน่าจะเป็น โซโรเขาเท่ห์และเยือกเย็น แต่มีหัวใจที่กระตือรือร้น! (ยุนโฮ)

    ยุนโฮน่าจะเป็น ลูฟี่แน่นอน! เพราะว่าเขาเป็นลูกผู้ชายและเต็มไปด้วยพลัง (ชางมิน)

    Q: ผ่านไปแปดปีที่พวกคุณเป็นโทโฮชินกิ อะไรที่เปลี่ยนไปและอะไรที่ยังเหมือนเดิม?

    YH: ชางมินเป็นคนเข้มงวดกับตัวเองมาก และไม่แสดงความรู้สึกออกมา มันดูเหมือนบางทีมันจะทำให้เครียดมาก แต่เร็วๆ นี้เขาเริ่มเปิดใจกับทีมงานของเรา ผมคิดว่าเขาโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เท่ห์และมีเสน่ห์

    CM:.ยุนโฮเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ มันไม่เคยเปลี่ยน เขาไม่เคยยอมแพ้ที่จะเดินตามความฝันที่เขามีตั้งแต่ก่อนเดบิวต์ และพยายามทำทุกๆ อย่างเพื่อทำให้ความฝันของเขาเป็นจริง มันน่าทึ่งที่ยุนโฮยังคงเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจบริสุทธิ์เหมือนเด็ก

    Q: เร็วๆ นี้คุณได้แนะนำอะไรให้อีกคนหนึ่ง?

    YH: เขาแนะนำ “ONE PIECE” ให้ผม และผมก็อ่านมัน ตัวการ์ตูนที่ผมชอบ คือ โซโรเขาเป็นคนกระตือรือร้นและเป็นคนที่ตัดสินใจที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง เขาก็จะทำให้ได้ อีกอย่างเขาก็ยังมีด้านที่ชอบเยาะเย้ย เขาเหมือนชางมิน (หัวเราะ) ผมคงจะเป็นลูฟี่ โซโรควบคุมลูฟี่ได้ ความสัมพันธ์แบบนี้คล้ายกับพวกเรา

    CM: ผมเห็นด้วย เขาเหมือนลูฟี่!! เขาชอบที่จะล้อเล่นและทำให้ผมประหลาดใจตลอดเวลากับไอเดียทั้งหมดที่คิดไม่ถึง แต่เขาพูดบางอย่างที่ยอดเยี่ยมเมื่อถึงเวลา

    Q: คุณจำความประทับใจตอนที่ได้เจอกันครั้งแรกได้หรือเปล่า?

    CM: แน่นอน ผมเจอเขาให้ห้องซ้อมที่ออฟฟิศของพวกเรา ตอนนั้นผมเรียนอยู่เกรด 3 ที่ junior high school ความประทับใจแรกของผมต่อพี่ยุนโฮ คือเขาเป็นลูกผู้ชายและเต็มไปด้วยพลัง เขาพูดกับผมว่า ถ้านายไม่เต็มใจที่จะทำ นายก็น่าจะออกไปตั้งแต่ตอนนี้เลย (หัวเราะ)

    YH: ผมกำลังผิดหวังกับความจริงที่ว่าเด็กฝึกหัดลาออกไปเรื่อยๆ ผมเลยเข้มงวดกับคนที่เข้ามาใหม่ ความประทับใจครั้งแรกที่มีต่อชางมินคือเขาเป็นคุณหนู (หัวเราะ) เขาเงียบๆ แต่ฝึกซ้อมอย่างหนักจริงๆ

    Q: คุณวางแผงอัลบั้มหลังจากผ่านไปนาน เพลงไหนเป็นเพลงโปรดของคุณ?

    CM: ผมเลือก “Duet” เพราะเป็นดนตรีแบบใหม่ที่เราลองเป็นครั้งแรก พวกเราถามไดเรคเตอร์ครั้งแล้วครั้งเล่าว่าพวกเราทำได้โอเคหรือเปล่า แต่เมื่อผมฟังหลังจากอัดเสียงไปแล้ว ผมถึงเข้าใจว่าผมกังวลไปเอง มันเป็นดนตรีที่พวกเราสามารถสร้างขึ้นมาได้ในวันนี้

    YH: ผมเลือก “Weep” ผมชอบเนื้อเพลงและดนตรีที่ง่ายต่อการจดจำ ผมคิดว่าเราสามารถร้องเพลงนี้ด้วยกันกับผู้ชมคอนเสิร์ตได้ อีกอย่างเพลงนี้เป็นเหมือนกับแรงบันดาลใจ






    Delight becomes double and sadness becomes half when we are together.

    ความสุขจะกลายเป็นสองเท่าและความเศร้าจะเหลือเพียงครึ่งหนึ่งเมื่อพวกเราอยู่ด้วยกัน

    ก่อนที่พวกเขาจะยืนบนเวที พวกเขาจะทำสิ่งหนึ่งเสมอ พวกเขาจะล้อมเป็นวงกลมร่วมกับแดนเซอร์ และตะโกนเพื่อสร้างกำลังใจให้กับพวกเขา เมื่อพวกเขาอยู่คนละด้านของเวที พวกเขากำมือมาที่กันและกัน โดยไม่ต้องมีคำพูด พวกเขาให้กำลังใจกันและกัน

    CM: ผมร้องเพลงบนเวทีมาแปดปี แต่ผมก็ยังรู้สึกกังวล เมื่อพวกเรากำมือแตะกันเบาๆ ผมเหมือนได้ยินข้อความจากพี่ยุนโฮว่า ทำมันให้เต็มที่กันเถอะ!มันเป็นสิ่งเล็กๆ แต่มีความสำคัญมากสำหรับพวกเรา

    YH: ผมก็เหมือนกัน ผมได้ยินข้อความจากชางมินว่าพวกเราทำได้!

    CM: ถ้าเขาพูดว่า พวกเราทำได้!ออกมาดังๆ ผมจะรู้สึกเขินนิดหน่อย (หัวเราะ) พวกเราอยู่ด้วยกันมานานถึงแปดปี ดังนั้นพวกเราไม่จำเป็นจะต้องพูดอะไรมากมาย

    พวกเขาอาศัยอยู่ในหลังคาเดียวกัน แบ่งปันความสนุกและเสียใจด้วยกัน ตั้งแต่พวกเขาเดบิวต์ที่เกาหลีในปี 2004 ขณะให้สัมภาษณ์ พวกเขาพยักหน้าเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งพูด และชางมินมองอย่างภูมิใจในตัวของยุนโฮเมื่อเขาเห็นด้วยกับคำพูดของยุนโฮ และพูดว่า แน่นอน! ทัศนคติของพวกเขาบอกเราว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นอย่างไร ความผูกพันที่พวกเขาสร้างขึ้นมามากกว่าแปดปีแข็งแรงอย่างน่าทึ่ง การหยุดกิจกรรมไปประมาณหนึ่งปีครึ่งจนถึงการกลับมาในเดือนมกราคมดูเหมือนจะทำให้ความผูกพันของพวกเขาแข็งแกร่งมากขึ้นเช่นกัน

    YH: ผมคิดถึงกิจกรรมวงของพวกเราจริงๆ ในระหว่างระงับกิจกรรม ทั้งชางมินและผมต่างแยกกันไปถ่ายละครและพวกเราก็พอใจกับมัน แต่ผมรู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อผมต้องทำกิจกรรมต่างๆ คนเดียว ประสบการณ์ทำให้ผมรู้สึกว่าเข้มแข็งมากขึ้น ผมมีความสุขมากเมื่ออยู่ในวงผมรู้สึกมั่นคงเมื่ออยู่กับชางมินและสบายใจเพราะว่าเขารู้จักผมดีกว่าคนอื่นๆ เมื่อพวกเราอยู่ด้วยกัน ความสุขก็จะเพิ่มเป็นสองเท่าและความเศร้าจะเพิ่มเป็นสอง....

    CM: มันน่าจะเป็น ลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง (หัวเราะ)

    YH: ใช่ ความเศร้าลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง!

    CM: ผมไม่เคยคิดที่จะเป็นศิลปินเดี่ยวชางมินดังนั้นตอนที่ผมถ่ายละคร ผมมีส่วนร่วมในละครในฐานะชางมินแห่งโทโฮชินกิ แน่นอน ผมไม่เคยคิดที่จะเป็นศิลปินเดี่ยว

    YH: ผมก็เหมือนกัน ดังนั้น ถ้าเราแยกกันทำงาน เราก็จะเป็น....จากโทโฮชินกิเสมอ มันไม่เคยเปลี่ยนไป โทโฮชินกิคือบ้านของเรา พวกเราจะกลับมายังบ้านของเราไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น





    พวกเราอยู่ด้วยกันมาแปดปี ในตอนนี้ ความสัมพันธ์ของพวกเราพบกับความสมดุลอย่างเป็นธรรมชาติที่ดีที่สุด นี่คือความผูกพันของพวกเรา (ยุนโฮ)

    ไม่มีกฎเกณฑ์ระหว่างพวกเรา สบายๆ และเป็นตัวของเราเองคือรูปแบบของพวกเรา (ชางมิน)


    Relationship built on rules will eventually stop working.

    ความสัมพันธ์ที่สร้างอยู่บนกฎเกณฑ์ สุดท้ายก็จะต้องจบลง

    คำว่าบ้านเตือนให้ฉันคิดว่า พวกเขาจะทำอะไรที่บ้านเวลาที่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกัน?

    YH: พวกเราเล่นเกมส์ ฟุตบอล “Winning Eleven” กันอยู่บ่อยๆ

    CM: แต่มันไม่บ่อยที่พวกเราจะเล่นด้วยกัน

    YH: เพราะว่าพวกเราทั้งสองคนชอบเล่นเกมส์จริงๆ ถ้าพวกเราเล่นแข่งกัน พวกเราจะทะเลาะกัน (หัวเราะ) ดังนั้นพวกเราเลยต่างคนต่างเล่น ถึงแม้ว่าพวกเราจะอยู่ด้วยกัน

    CM: โอ้ พวกเขาจะออกเวอร์ชั่น 2012 (เกมส์ Winning Eleven) ในเดือนตุลาคมนี้ ผมรอคอยมันจริงๆ มันเป็นเกมส์ที่ยากขึ้น และทำให้ผมสนใจมาก

    เมื่อพูดถึงเกมส์ พวกเขาพูดถึงด้วยสายตาวิบวับเหมือนกับเด็กเล็กๆ เมื่อฉันถามพวกเขาเล่นๆ ว่าคุณจะทำอะไรถ้าคุณได้กลายเป็นอีกคนหนึ่งวัน?คำตอบของพวกเขาหลังจากที่เงียบไปสักพักหนึ่งเป็นสิ่งจริงจังอย่างคาดไม่ถึงและตรงไปตรงมา และคำพูดของพวกเขาได้อธิบายถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

    YH: ผมอยากจะอยู่บนเส้นทางที่ผมอยู่ในตอนนี้ เพราะว่าเป็นทางที่สมดุลที่ดีที่สุดอย่างที่พวกเราเป็น ความสมดุลที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติมามากกว่าแปดปี อย่างเช่น เมื่อผมรู้สึกไม่ดี ชางมินจะทำให้บรรยากาศดีขึ้น และเมื่อชางมินเหนื่อย ผมจะทำให้บรรยากาศสดใสขึ้น มันไม่ได้หมายความว่า พวกเรารู้สึกต้องการทำอะไรบางอย่าง พวกเราต่างช่วยเหลือกันและกันโดยไม่รู้ตัว ผมชอบความสัมพันธ์นี้มาก

    CM: ผมก็รู้สึกอย่างเดียวกับพี่ยุนโฮ ผมจินตนาการไม่ออกเลยถ้าพวกเราเปลี่ยนตัวกัน บางคนบอกว่าพวกเขาต้องมีกฎที่จะสร้างความสัมพันธ์หรือเพื่อทำงานด้วยกัน แต่พวกเราไม่ต้องการกฎแบบนั้นเพราะว่าพวกเราเข้าใจกันและกันได้เป็นอย่างดีผ่านทางบรรยากาศรอบตัวหรือสีหน้า

    YH: ใช่ครับ พวกเราไม่ต้องพูดออกมาว่าพวกเรารู้สึกยังไงเพราะว่าพวกเราเข้าใจว่าอีกคนคิดอะไรอยู่ผ่านทางสีหน้าของเรา

    CM: มันจะไม่มีทางจบถ้าพวกเราเริ่มตั้งกฎ เมื่อเทียบกับความสัมพันธ์ทีสร้างอยู่บนกฎเกณฑ์ สุดท้ายก็จะต้องจบลง มันเป็นการปรับส่วนประกอบไม่ใช่เหรอครับ? ส่วนประกอบที่แข็งมันจะง่ายต่อการถูกทำลายภายใต้ความกดดัน ส่วนประกอบที่ยืดหยุ่นได้จะไม่ถูกทำลายได้ง่าย ในทำนองเดียวกัน พวกเรารักษาความสัมพันธ์ของเราให้ยืดหยุ่นและสบายๆ มากพอที่จะไม่เกิดกฎเกณฑ์ขึ้นมา และปล่อยให้มันเป็นไป นี่เป็นรูปแบบของพวกเราที่สร้างขึ้นมามากกว่าแปดปี

    YH: ผมคิดว่าความสัมพันธ์ของเราส่งผลที่ดีต่อการแสดงบนเวทีของพวกเรา

    พวกเขาจะวางแผงอัลบั้มใหม่ในเดือนกันยายนและจะเริ่มออกทัวร์ทั่วประเทศ ที่คนละด้านของเวที พวกเขาจะเอามือแตะกันและกันเป็นอย่างแรก และความผูกพันของพวกเขาจะยืดหยุ่นและแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม



    Source: MORE November Issue

    Translated by: Lisalio @ContinueTVXQ.com

    Distributed by: Lisalio @ContinueTVXQ.com

    Thai trans by: theredgeneration.exteen.com

    Please keep the original credit intact, thank you.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×