ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ YUNMIN HOUSE ♥ 윤민 ★

    ลำดับตอนที่ #312 : ☆ [Full Trans] บทสัมภาษณ์ Tohoshinki's MORE Nov. - 110928 ทฤษฎีชีวิตคู่

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ย. 54






    [Full Trans] สัมภาษณ์ โทโฮชินกิ ใน MORE (พฤศจิกายน 2011) – เราไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดใดๆ



    โทโฮชินกิ

    [ เราไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดใดๆ ]

    "ถ้าหากผมต้องเปรียบเทียบเขากับตัวละครใน ONE PIECE เขาก็คงเป็น Zoro เขาเท่ สงบนิ่ง แต่ก็มีหัวใจที่กระตือรือร้น!" (ยุนโฮ)

    "พี่ยุนโฮต้องเป็น Ruffy อย่างแน่นอน! เพราะเขาเข้มแข็งและทรงพลัง" (ชางมิน)

    Q: ผ่านมา 8 ปีแล้วตั้งแต่คุณรวมตัวเป็น โทโฮชินกิ มีอะไรเปลี่ยนไปและมีอะไรที่ไม่ได้เปลี่ยนไปบ้าง?

    ยุนโฮ: เมื่อก่อน ชางมินเข้มงวดกับตัวเองมากเกินไปและมักจะปิดบังความรู้สึกของตัวเอง บางครั้งก็ดูจะตึงเครียดมาก แต่เดี๋ยวนี้เขาเปิดใจต่อทีมงานของเรา ผมคิดว่าเขาได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เท่และมีเสน่ห์ครับ

    ชางมิน: พี่ยุนโฮเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ สิ่งนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เขาไม่เคยหยุดวิ่งตามความฝันที่มีตั้งแต่ก่อนเดบิวต์ และเขาก็ทุ่มเทความพยายามทุกอย่างเพื่อทำให้ฝันกลายเป็นจริง มันน่าทึ่งที่ผู้ใหญ่อย่างพี่ยุนโฮยังคงมีหัวใจที่บริสุทธิ์เหมือนกับเด็กชายตัวน้อย

    ~ ~ ~ ~ ~

    Q: คุณได้แนะนำอะไรให้แก่กันหรือเปล่าในช่วงนี้?

    ยุนโฮ: เขาแนะนำ ONE PIECE ให้ผม แล้วผมก็ติดครับ ตัวละครโปรดของผมคือ Zoro เขากระตือรือร้น และเมื่อตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่างก็จะทำให้สำเร็จ แล้วเขาก็มีด้านที่ช่างเหน็บแนมด้วย เขาเหมือนกับชางมิน (หัวเราะ) ผมคงเป็น Ruffy ครับ Zoro ควบคุม Ruffy ความสัมพันธ์ของพวกเขาคล้ายๆกับของเรา

    ชางมิน: ผมเห็นด้วยครับ เขาเหมือนกับ Ruffy! เขาชอบแกล้งคนอื่นและมักจะทำให้ผมประหลาดใจด้วยความคิดที่คาดไม่ถึงเลย แต่เขาก็พูดได้เยี่ยมเวลาที่มีเรื่องสำคัญ



    [ **คุณชิมชอบ One Piece เอามากๆๆ นิตยสาร JJ ก็พูดถึง [Full Trans] บทสัมภาษณ์ Tohoshinki's JJ November Issue - กวาง&เสือ Q: มีอะไรที่ทำให้คุณมีความสุขในช่วงนี้ไหม?

    ชางมิน: ...ฮ่ะๆๆ (หัวเราะคิกๆ) ตอนที่ลัฟฟี่ (ใน One Piece) ไปช่วยรอบบิ้น ผมดีใจมากครับ! แล้วประโยคที่รอบบิ้นพูด "ฉันอยากมีชีวิตอยู่!!" อ่า... ผมประทับใจมากจนขนลุกเลย!! ]

    ~ ~ ~ ~ ~




    Q: คุณจำความรู้สึกแรกตอนที่พบกันได้ไหม?

    ชางมิน: แน่นอนครับ ผมเจอเขาในห้องฝึกซ้อมที่ออฟฟิศของเราตอนที่ผมอยู่ชั้นมัธยมต้นปี 3 ความรู้สึกแรกตอนที่ได้พบพี่ยุนโฮก็คือเขาเป็นลูกผู้ชายและทรงพลัง เขาบอกกับผมว่า "เลิกไปเลยถ้านายคิดจะทำแบบครึ่งๆกลางๆ นายควรจะเอาจริงเอาจัง" (หัวเราะ)

    ยุนโฮ: ตอนนั้นผมเสียใจกับการที่เด็กฝึกหัดถอนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ผมก็เลยเข้มงวดกับคนที่มาใหม่ ความรู้สึกแรกตอนที่พบชางมินก็คือ เขาเหมือนนักเรียนประถมครับ (หัวเราะ) เขาเงียบ แต่ก็ตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก

    ~ ~ ~ ~ ~

    Q: คุณจะเปิดตัวอัลบั้มหลังจากที่ผ่านมานาน เพลงไหนเป็นเพลงโปรดของคุณ?

    ชางมิน: ผมเลือก Duet เพราะเป็นแนวเพลงใหม่ที่เราลองร้องกันเป็นครั้งแรกครับ เราถามผู้กำกับหลายครั้งว่าเราร้องได้โอเคไหม แต่พอผมได้ฟังเพลงที่อัดไว้ ผมก็พบว่าตัวเองกังวลไปเสียเปล่า มันเป็นเพลงที่พวกเราในวันนี้เท่านั้นที่จะสร้างขึ้นมาได้

    ยุนโฮ: ผมเลือก Weep ครับ ผมชอบเนื้อเพลงและดนตรีก็จำง่าย ผมว่าเราสามารถร้องไปพร้อมๆกับผู้ชมในคอนเสิร์ตได้ แล้วเพลงนี้ก็ให้กำลังดีด้วยครับ

    ~ ~ ~ ~ ~




    [ ความสุขใจเพิ่มขึ้นสองเท่าและความทุกข์ก็ลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อเราอยู่ด้วยกัน ]

    ก่อนที่พวกเขาจะขึ้นไปยืนบนเวที พวกเขาต้องทำอะไรบางอย่างก่อน พวกเขายืนล้อมวงกับแดนเซอร์เพื่อตะโกนปลุกใจกัน เมื่อทั้งสองอยู่ข้างเวที พวกเขาก็จะชนกำปั้นกันเบาๆโดยไม่พูดอะไร ทั้งสองบอกว่าเป็นการทำให้มีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้น

    ชางมิน: ผมร้องเพลงบนเวทีมาแล้ว 8 ปี แต่ก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ ตอนที่เราชนกำปั้นกัน ผมจะได้ยินคำพูดเบาๆของพี่ยุนโฮว่า "มาทำให้ดีที่สุดกันเถอะ!" มันเป็นสิ่งเล็กๆแต่สำคัญมากสำหรับเรา

    ยุนโฮ: ผมก็ได้ยินคำพูดของชางมินเหมือนกันครับ "พวกเราทำได้!"

    ชางมิน: ถ้าพูดว่า "พวกเราทำได้" ออกมาดังๆ ผมจะค่อนข้างอายครับ (หัวเราะ) เราอยู่ด้วยกันมา 8 ปีแล้ว เพราะฉะนั้น คำพูดก็ไม่จำเป็นสำหรับเราอีกแล้ว

    พวกเขาอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันตั้งแต่เดบิวต์ที่เกาหลีในปี 2004 ระหว่างการให้สัมภาษณ์ ทั้งสองพยักหน้าให้กับคำพูดของอีกฝ่าย และชางมินก็ดูจะภูมิใจกับคำพูดของยุนโฮตอนที่เขาเห็นด้วยกับคำพูดของยุนโฮและบอกว่า "ใช่เลย!" ทัศนคติของพวกเขาบอกเราว่ามิตรภาพของทั้งคู่เป็นอย่างไร ความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นในระยะเวลา 8 ปีนั้นแน่นเฟ้นมากอย่างน่าทึ่ง ดูเหมือนการหยุดทำกิจกรรมเป็นเวลาประมาณหนึ่งปีครึ่งจนถึงการคัมแบ็คเมื่อเดือนมกราคม จะมีส่วนทำให้ความผูกพันของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน

    ยุนโฮ: ผมคิดถึงกิจกรรมกลุ่มของเรามากตอนที่อยู่ในช่วงพักงาน ทั้งผมและชางมินต่างก็มีละครแยกกัน เราพอใจกับมันแต่ผมเหงาตอนที่ทำกิจกรรมเดี่ยว ประสบการณ์ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่า "ผมมีความสุขที่ได้อยู่ในวง" ผมรู้สึกมั่นคงเวลาที่มีชางมินอยู่ด้วย และก็รู้สึกสบายใจเพราะเขารู้จักผมดีกว่าใคร เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ความสุขใจเพิ่มขึ้นสองเท่าและความทุกข์ก็เพิ่มขึ้นสองเท่า...

    ชางมิน: ต้องเป็น "ลดลงครึ่งหนึ่ง" ต่างหาก (หัวเราะ)

    ยุนโฮ: ใช่ครับ ความทุกข์ลดลงครึ่งหนึ่ง!

    ชางมิน: ผมไม่เคยมองตัวเองในฐานะศิลปินเดี่ยว "ชางมิน" แม้แต่ตอนที่ถ่ายละคร ผมร่วมแสดงในละครในฐานะ ชางมิน จาก โทโฮชินกิ แน่นอนว่าผมไม่เคยคิดจะกลายเป็นศิลปินเดี่ยวครับ

    ยุนโฮ: ผมก็เหมือนกันครับ ถ้าหากเราทำงานเดี่ยว เราก็จะเป็น ~~~ จากโทโฮชินกิ สิ่งนี้จะไม่มีวันเปลี่ยน โทโฮชินกิคือบ้านของเรา เราจะกลับมาที่บ้านของเราไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น




    "เราอยู่ด้วยกันมา 8 ปีแล้ว ในช่วงเวลานั้น มิตรภาพของเราก็ไปถึงจุดที่สมดุลที่สุด นี่คือความผูกพันของเราครับ" (ยุนโฮ)

    "ไม่มีกฏเกณฑ์ระหว่างเรา การทำตัวสบายๆและเป็นตัวของตัวเองคือสไตล์ของเราครับ" (ชางมิน)

    ~ ~ ~ ~ ~



    [ ความสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นบนกฎเกณฑ์จะไม่ลงตัวในที่สุด ]

    Q: คำว่า "บ้าน" ทำให้ฉันนึกขึ้นได้ พวกเขาทำอะไรเวลาอยู่บ้านที่อาศัยด้วยกัน?

    ยุนโฮ: เราชอบเล่นเกมฟุตบอลที่ชื่อว่า "Winning Eleven" ครับ

    ชางมิน: แต่เราแทบจะไม่ได้เล่นด้วยกันเลย

    ยุนโฮ: เพราะเราทั้งคู่ต่างก็ชอบเกมนี้ ถ้าเล่นแข่งกัน เราก็อาจจะทะเลาะกัน (หัวเราะ) เพราะฉะนั้น เราเลยต่างคนต่างเล่นถึงแม้จะอยู่ด้วยกันครับ

    ชางมิน: โอ๊ะ จะมีเวอร์ชั่น 2012 ออกมาในเดือนตุลาคมนี้ ผมตั้งตาคอยมากๆเลยครับ ยิ่งเกมยากมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกมีแรงกระตุ้นมากเท่านั้น

    เมื่อพูดถึงเรื่องเกม พวกเขาก็คุยด้วยตาที่เป็นประกายวิบวับราวกับหนุ่มน้อย ฉันเลยถามพวกเขาอย่างสนุกสนานว่า "คุณจะทำอย่างไรถ้าหากกลายเป็นอีกฝ่ายหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งวัน?" คำตอบที่พวกเขาให้หลังจากเงียบไปพักหนึ่งนั้นตรงไปตรงมาและจริงจังอย่างคาดไม่ถึง และคำพูดก็อธิบายความสัมพันธ์ของพวกเขาได้อย่างดี

    ยุนโฮ: ผมอยากจะเป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ครับ เพราะเราสมดุลกันในแบบที่เป็นอยู่ ความสมดุลเกิดขึ้นเองในระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา อย่างเช่น เวลาที่ผมรู้สึกไม่ดี ชางมินก็จะทำให้บรรยากาศเบาสบาย และเวลาที่ชางมินเหนื่อย ผมก็จะทำให้บรรยากาศดีขึ้น มันไม่ได้หมายความว่าเรารู้สึกว่าจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ เราแค่ช่วยเหลือกันโดยไม่รู้ตัว ผมชอบมิตรภาพแบบนี้มากครับ

    ชางมิน: ผมก็รู้สึกเหมือนพี่ยุนโฮครับ ผมนึกไม่ออกถ้าหากเราต้องสลับร่างกัน บางคนบอกว่าต้องมีกฎเกณฑ์เพื่อสร้างความสัมพันธ์หรือร่วมงานกัน แต่เราไม่ต้องมีกฎเกณฑ์เพราะเราเข้าใจได้อย่างดีผ่านทางบรรยากาศและการแสดงสีหน้า

    ยุนโฮ: ใช่ครับ เราไม่จำเป็นต้องบอกความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดเพราะเราเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ผ่านทางการแสดงสีหน้า

    ชางมิน: มันจะไม่มีจุดจบถ้าหากเราเริ่มสร้างกฎเกณฑ์ต่างๆ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นบนกฎเกณฑ์จะไม่ลงตัวในที่สุด มันจริงสำหรับทุกอย่างไม่ใช่เหรอครับ? วัตถุที่แข็งแตกหักได้ง่ายภายใต้แรงกดดัน แต่วัตถุที่ยืดหยุ่นไม่แตกหักง่ายๆ ก็เช่นเดียวกันกับถ้าเราทำให้ความสัมพันธ์ยืดหยุ่นและผ่อนปรนอย่างเหมาะสมโดยไม่มีกฎเกณฑ์ ปล่อยให้มันเป็นไป นี่เป็นสไตล์ของเราที่ก่อตัวขึ้นในระยะเวลาแปดปีที่ผ่านมา

    ยุนโฮ: ผมคิดว่าความสัมพันธ์แบบนี้จะมีผลดีต่อการแสดงบนเวทีของเรา

    พวกเขาจะเปิดตัวอัลบั้มในเดือนกันยายนแล้วจึงเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศ ที่ข้างเวที พวกเขาจะชนกำปั้นกัน และความผูกพันของทั้งสองก็จะยืดหยุ่นมากขึ้นและแน่นเฟ้นมากขึ้น





    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ถ้าจะเอาออกไป กรุณาเอาเครดิตไปให้ครบค่ะ

    Source: MORE November Issue

    Translated by: Lisalio @ContinueTVXQ.com

    แปลไทย: @minnappe (http://twitter.com/minnappe)



    นึกว่ากำลังอ่านหัวข้อ
    : การใช้ชีวิตคู่อย่างไรให้ราบรื่น!! ซะอีก ๕๕๕

    แต่คู่รักก็สามารถนำไปปรับใช้กันได้นะ สองหนุ่มพูดมีเหตุผลมาก ๕๕๕ (อ่าน Mag. นี้แล้วอารมณ์ดีเวอร์)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×