ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :วิธีทำเค้ก:

    ลำดับตอนที่ #19 : วิธีทำStrawberry Swirl Cheesecake

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.61K
      1
      31 ก.ค. 51

    Strawberry Swirl Cheesecake

     

    ส่วนผสม
    1. ชอร์ทเบรด คุกกี้ 10 ออนซ์ (ใช้แกรแฮม หรือเป็นคุกกี้ที่ใช้ทำ
    ชีสเค้กครัสต์อื่น ๆก็ได้ค่ะ)
    2. เนยจืด ¼ ถ้วย ประมาณ 55 กรัม
    3. สตรอเบอรี่สด 3 ถ้วย
    4. ครีมชีส 4 แพคๆละ 8 ออนซ์ (ตั้งไว้ให้นุ่มอุณหภูมิห้อง)
    5. น้ำตาล 1-1/3 ถ้วย
    6. แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
    7. ไข่(อุณหภูมิห้อง) 4 ฟอง
    8. วิปปิ้งครีม 2 ช้อนโต๊ะ
    9. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
    10. วานิลลา 2 ช้อนชา

    วิธีทำ
    เปิดเตาอบ 325 F
    เตรียมถาดอบแบบสปริงฟอร์ม ขนาด 9 นิ้ว ห่อถาดด้วยอลูมีเนียมฟลอยล์ ให้มิดชิดกันไม่ให้น้ำเข้า

    วิธีทำครัสต์
    1. ป่นคุกกี้ให้ละเอียด อาจจะใส่ถุงพลาสติกแล้วทุบเอา หรือใช้ไม้กลิ้งไปมาให้ละเอียด ให้ได้ 2-1/4 ถ้วย จากนั้นเอามาผสมกับเนยละลาย ผสมให้เข้ากันแล้วเอาไปใส่พิมพ์ กรุให้เรียบ และให้สูงจากขอบประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นเอาไปอบ 8 นาที ครบตามเวลาเอาออกจากเตามาวางไว้ให้เย็น
    2. นำสตรอเบอรี่ไปปั่น จากนั้นกรองเอากากออก ให้ได้น้ำสตรอเบอรี่ประมาณ 1 ถ้วย
    3.ตีครีมชีสและน้ำตาลโดยใช้ความเร็วต่ำ ตีจนผสมเข้ากันแล้วใส่แป้ง ใส่ไข่ 2 ฟองลงไปตีความเร็วต่ำจนเข้ากันดี จากนั้นใส่ไข่ 2 ฟองที่เหลือลงไป ตีต่อไป ใส่วิปปิ้งครีม น้ำมะนาว วานิลลา ตีผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อครีมเนียน
    4. ตักส่วนผสมที่ได้ แยกออกมา 2-1/2 ถ้วยค่ะ ใส่น้ำสตรอเบอรี่คั้น 3/4 ถ้วย ลงไป แล้วค่อย ๆ คนให้เข้ากัน แล้วเทลงในครัสต์ที่เตรียมไว้ค่ะเป็นการอบชั้นที่หนึ่ง
    5. วางพิมพ์อบชีสเค้ก ลงในถาดอีกใบนึง จากนั้นค่อย ๆ เติมน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น ลงไป ให้ความสูงของน้ำประมาณครึ่ง ของถาดอบชีสเค้กค่ะ อบไฟ 325 F ใช้เวลา 35 นาที
    6. เมื่ออบครบเวลา ค่อย ๆ ดึงถาดออกมาด้านหน้าเตาอบ จากนั้นเทส่วนผสมครีมชีสที่ตักเก็บไว้ลงไปค่ะ ตอนเทให้เทได้ระดับเดียวกัน หน้าขนมจะได้เรียบเสมอกัน
    7. ทำลวดลายโดยเริ่มจากการหยดน้ำสตรอเบอรี่คั้นที่เหลือ ¼ ถ้วย ลงไปเป็นจุดห่าง ๆ กันให้ทั่ว บนส่วนผสมครีมชีสชั้นที่สอง แล้วใช้มีดปลายแหลมหรือไม้จิ้มฟัน ลากต่อจุด (โดยระวังไม่ให้ปลายมีดจิ้มลึกถึงชั้นแรก) ก็จะได้ลวดลายตามใจชอบ
    8. จากนั้นอบต่ออีก 20 นาทีค่ะ จะสังเกตได้จาก ขอบขนมเริ่มฟองขึ้น หน้าขนมแห้ง อาจจะมีรอยแตกบ้าง ไม่ต้องตกใจ ยกออกจากเตาอบได้เลย ค่อย ๆ ยกถาดชีสเค้กออกมาถาดน้ำ ค่อย ๆ แกะฟลอยล์ที่ห่อถาดอบออก
    9. วางให้เย็นในอุณหภูมิห้อง ประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าอากาศแห้ง ให้ใช้เปเปอร์ทาว ปิดด้านบน หน้าขนมจะได้ไม่แห้ง ใช้เปเปอร์ทาวเพื่อ ความร้อนจากขนมจtถูกระบายผ่านได้ง่ายและ หน้าขนมก็จะไม่แฉะ ครบ 2 ชั่วโมงแล้ว เอาเข้าตู้เย็นอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนเสริฟ

    เคล็ดลับการทำชีสเค้กให้ประสบความสำเร็จ ( Tips for baking the perfect cheesecake)

    1.ไข่และครีมชีส ต้องอยู่ในอุณหภูมิห้อง ครีมชีสจะนิ่มและไข่จะไม่เย็น จะทำให้ได้ส่วนผสมที่เป็นเนื้อครีมนวลเรียบไม่เป็นก้อน
    2.ตอนใช้เครื่องตีส่วนผสม ให้ใช้ความเร็วต่ำในการผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน เพราะต้องการแค่ให้ส่วน ผสมเข้ากันอย่างดี แต่ไม่ต้องการเพิ่มอากาศเข้าไปตอนตีผสม
    3.ใช้ถาดใส่น้ำ รองตอนอบ ทำให้กระจายความร้อนได้สม่ำเสมอกว่า และควบคุมความร้อนไม่ให้สูงเกินไป ที่สำคัญคือตอนหุ้มถาดอบต้องหุ้มให้มิดชิด อย่าให้น้ำเข้าได้นะคะ
    4.ตอนเทส่วนผสมชั้นที่สอง ต้องแน่ใจว่าหมดเวลาอบชั้นแรกแล้ว และชั้นแรกสุกแล้ว จึงค่อย ๆ เทชั้นที่สองช้า ๆ ค่ะ
    5.ต้องไม่อบนานเกินไปค่ะ
    6.ต้องทิ้งชีสเค้กไว้ให้เย็นอย่างน้อย 2 ชม. ก่อนเอาเข้าตู้เย็น ปกติชีสเค้กจะรสชาดดีขึ้น หลังจากวันที่อบค่ะ ตอนเก็บเข้าตู้เย็น ห่อด้วยพลาสติกก่อนนะคะ

                                         

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×