พานภพประสบรัก (Re up+ebook) - นิยาย พานภพประสบรัก (Re up+ebook) : Dek-D.com - Writer
×

พานภพประสบรัก (Re up+ebook)

"ใช้หนี้ให้อั๊วด้วย" นั่นเป็นคำสั่งเสียงครั้งสุดท้ายของเจ้าสัวหลง วาดดาวแซ่หลงผู้เป็นหลานสาวไม่รู้เลยว่าหนี้ที่เธอต้องชดใช้ในครั้งนี้ไม่ใช่เงินทองที่เธอมีอยู่ล้นฟ้า แต่เธอต้องข้ามห้วงเวลาเอาตัวไปใช้!

ผู้เข้าชมรวม

10,178

ผู้เข้าชมเดือนนี้

80

ผู้เข้าชมรวม


10.17K

ความคิดเห็น


67

คนติดตาม


119
จำนวนตอน : 19 ตอน
อัปเดตล่าสุด :  15 ส.ค. 63 / 20:40 น.

อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ











                              กาลเวลาไม่อาจขวางกั้น บรรดาศักดิ์อันสูงส่งไม่อาจฉุดรั้ง
                                            ...... เมื่อใจสองดวงผูกกันแม้แผ่นฟ้าจะขวางกั้นกาลเวาจะแปรผันก็จักหากันจนเจอ
               

             วาดดาว แซ่หลง เธอคือผู้บริหารสูงสุดของบริษัทในเครือคุณหลงกรุ๊บ เธอสวย เธอรวย และเธอเก่ง ถึงขนาดขึ้นนั่งตำแหน่งผู้บริหารในวัย23ปี อากงของเธอคือเจ้าสัวหลงผู้มีอายุยืนยาวมาห้าแผ่นดิน ทันทีที่ท่านจากไปมรดกของเจ้าสัวใหญ่มูลค่าพันล้านตกเป็นของเธอแต่เธอไม่รู้เลยว่าจุดเริ่มต้นของความร่ำรวยนี้เริ่มมากจากการที่อากงของเธอติดหนี้ใครบางคนเอาไว้ และสิ่งที่ต้องนำใช้คืนนั้นก็ไม่ใช่เงินที่เธอมีอยู่ล้นฟ้า แต่เธอต้องใช้หนี้นั้นด้วยตัว!ของเธอเอง

"ใช้หนี้ให้อั๊วด้วย" นั่นคือคำสั่งเสียครั้งสุดท้ายของเจ้าสัวหลงอากงของเธอ แต่วาดดาวไม่เคยรู้เลยว่าหนี้ที่เธอต้องใช้ให้ท่านนั้นเธอจะต้องเดินทางไปไกลแสนไกล ไม่ใช่ไกลด้วยระยะทางแต่กลับไกลด้วยกาลเวลาที่แตกต่าง...


รัตนโกสินทร์ศก126

เรือสำปั้นจากวังเทวาสถิตจอดเทียบท่าหน้าวัดระฆังพระวรกายสูงสง่าของพระองค์เจ้ากูลกวินเสด็จขึ้นไปประทับบนท่า พร้อมกับทรงทอดเนตรมองเข้าไปในวัด ทรงเหม่อไปชั่วขณะ ที่นี่ที่ที่ท่านสุบินถึงอยู่เป็นนิจหญิงผู้นั้นยืนอยู่ที่ที่ท่านกำลังประทับอยู่ในขณะนี้ พระองค์ชายเสด็จเข้าในวัด สายพระเนตรก็เหลียวซ้ายแลขวาราวกับทรงกำลังตามหาใครอยู่ ทรงเข้าไปสักการะพระพุทธรูปในอุโบสถ์ ซึ่งในเวลาสายๆเช่นนี้ที่วัดนี้มักจะเงียบเหงาเนื่องจากญาติโยมที่มาทำบุญตักรบาตรกันในช่วงเช้าลากลับกันหมดแล้วในอุโบถส์จึงมีพระองค์ชายประทับอยู่เพียงลลำพัง

เสียงประตูอุโบสถเปิดออกในตอนนั้นเองใครบางคนก้าวเข้ามาภายใน พระองค์ชายทรงหันกลับไปทอดเนตรด้วยทรงหวังลึกๆว่าจะได้เจอใครบางคนที่ปรากฎในสุบิน นายคนนั้นเมื่อแลเห็นพระพักตร์ก็ต้องรีบหมอบลงกราบแทบพสุธา

“ถวายบังคมฝ่าบาท”

พระองค์ชายทรงพินิจพิเคราะห์ใบหน้าของชายผู้นั้นด้วยทรงจำได้ว่าเคยพบมาก่อน...น่าจะเป็นช่วงก่อนที่จะเสด็จไปศึกษาที่ยุโรป “ขุนเทพยากรณ์รึ” ในครั้งนั้นท่านขุนผู้นี้เพิ่งจะเข้ารับราชการในกรมโหรกระทรวงวัง ติดตามท่านโหรผู้ใหญ่มาถวายคำทำนายดวงชะตาก่อนที่ท่านจะเสด็จไปยุโรป

“ปีนี้เลื่อนยศเป็นหลวงญาณเวทแล้วกระหม่อม”

“เป็นเช่นนั้นรึฉันยินดีด้วย”

“กระหม่อมไม่ทราบว่าฝ่าบาทประทับอยู่ในนี้ หากเป็นการรบกวนกระหม่อมทูลลา” หลวงญาณเวทเห็นว่าเสด็จประทับอยู่เพียงลำพังจึงคิดว่าท่านทรงต้องการความเงียบจึงจะลาไป แต่ทว่าท่านกลับทรงรั้งไว้

“อย่าเพิ่งไปเลยคุณหลวงอยู่เป็นเพื่อนคุยกับฉันสักประเดี๋ยวสิ...ฉันมีเรื่องจักถาม”

“เป็นเกียรติอันสูงยิ่งกระหม่อม ฝ่าบาททรงมีเรื่องอันใดจะรับสั่งถามหรือกระหม่อม”

“เมื่อไม่นานมานี้ฉันฝัน...ฝันเห็นวัดระฆังแต่ไม่เหมือนวัดระฆังในตอนนี้แลเห็นผู้หญิงรูปร่างสูงระหงมีสง่าแต่แลไม่เห็นหน้า”

“วัดระฆังแต่ไม่เหมือนวัดระฆังหรือกระหม่อม” หลวงญาณเวทฉุดคิด

“เหมือนมีงานบุญอันใดสักอย่างผู้คนเดินกันให้ขวักไขว่ส่วนมากจะเป็นพวกฝรั่งมังค่าการแต่งกายรึก็ชั่งพิลึก พิลั่น”

“เป็นสุบินที่แปลกประหลาดกระหม่อม แต่นับว่าไม่ใช่ลางร้ายยิ่งมีสตรีอยู่ในนั้นด้วยแล้วน่าจะค่อนไปทางมงคลกระหม่อม”

หลวงญาณเวทหยิบกระดานหินที่มักจะถือติดตัวไปทุกที่ตามนิสัยโหรหลวง ขึ้นมาเขียนอะไรหยุกหยิก เพียงครู่เดียวก็ต้องตกใจเมื่อพระชะตาของเจ้าชายผู้นี้กำลังจะได้พบกับคู่บารมีทว่าชั่งห่างไกลกันเหลือเกินมิใช่ห่างไกลด้วยระยะทางแต่แปลกนักห่างกันด้วยกาลเวลาแต่จักได้มาพานพบแปลก...แปลกจริงๆ...หลวงญาณเวทจึงทูลคำทำนายนั้นเป็นบทกลอน

“อันเนื้อคู่ผู้ประงสงค์อรนงค์อยู่ต่างภพ ไม่ช้าจักได้พบได้ประสบพบสุรางค์

พบแล้วไม่ลาร้างจะได้นางเคียงข้างองค์ ขออย่าได้กังวลจักได้ยลได้ชมนาง”

พระองค์เจ้ากูลกวินแม้จะทรงมีพระปัญญาเป็นเลิศแต่ก็ทรงไม่เข้าพระทัยในความหมายของบทกลอนที่ดูจะเป็นไปไม่ได้

“คุณหลวงแน่ใจหรือว่าไม่ผิด”

“แน่ใจกระหม่อม พระชะตาของฝ่าบาทชั่งแปลกประหลาดนักคล้ายๆอาภัพคู่แต่แท้จริงแล้วทรงมีคู่บารมีที่เท่าเทียมกันทั้งศีลแลปัญญาทว่าอยู่ห่างไกลเหลือเกิน มิใช่ไกลด้วยทางแต่ไกลด้วยทางแต่ไกลด้วยกาลที่แตกแตกต่างแลที่น่าพิสดารคือจะได้มาพบกันกระหม่อม”

“ฉันเพิ่งทราบว่าคุณหลวงญาณเวทเป็นผู้มีอารมณ์ขัน เอาเถอะฉันขอตัวก่อนจะต้องไปเข้าเฝ้าทูลกระหม่อมให้ทันเพลาสี่โมง”

พระองค์ชายรีบเสด็จจากมาโดยไม่อยู่ฟังคำอธิบายใดๆอีก อาจจะเป็นเพราะทรงรีบร้อนจึงทรงลืมสมุดบันทึกส่วนองค์ไว้ในอุโบสถ์ หลวงเวทหยิบขึ้นมาตั้งใจจะนำไปถวายคืน ด้วยความซุ่มซ่ามจึงทำสมุดตกและเมื่อหยิบขึ้นมาอีกหน้าที่กางอยู่นั้นเป็นภาพวาดลายเส้นสตรีรูปร่างสูงระหงดูสง่าดังที่พระองค์ชายตรัสไว้ไม่มีผิด หลวงเวทจึงปิดสมุดนั่นลงและถือโอกาสเก็บไว้กับตัว หลวงญาณเวทเพ่งดูกระดานหินของตนอีกครั้ง ใช่แล้วมิติแห่งกาลเวลากำลังเคลื่อนเข้าซ้อนทับกัน!

“ในเมื่อพระองค์มิทรงเชื่อกระหม่อมจะแสดงให้เห็นเป็นประจัก”


ในขณะที่ท่านเสด็จออกาถึงบริเวณหน้าอุโบสถก็ได้ยินเสียงเด็กวัดร้องตะโกนโวยวายดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ไอ้ลูกเจ๊กมันขโมยเงินวัด” ทันใดนั้นเด็กชายตัวเล็กไว้เปียยาวผิวขาวอย่างคนจีนก็วิ่งมาชนเข้ากับพระวรกายสูงอย่างจังจนเซถลาล้มลง พระองค์ชายทรงย่อพระวรกายลงไปนั่งเสมอกับเด็กเปียผู้นั้นแล้วฉวยเอาถุงแดงที่เต็มไปด้วยเหรียญกษาปณ์มาถือไว้ในพระหัตถ์ เด็กชายตัวเด็กลนลานทำท่าจะวิ่งหนีแต่ท่านก็ทรงคว้าแขนเอาไว้

“เดี๋ยวก่อนอาตี๋ ยังเป็นเด็กเป็นเล็กทำไมจึงริอาจมาขโมยเงินวัด”

“นายท่านอย่าเอาความอั๊วเลยนะขอรับอาม้าอั๊วป่วยอาป๊าก็ตายอั๊วไม่มีเงินซื้อข้าวซื้อยาให้อาม้า” เด็กน้อยพนมมือไหว้ร้องขอความเมตตาพลางน้ำตาก็เอ่อคลอเบ้า

“แม่ป่วยเป็นอะไร”

“เป็นไข้ป่าขอรับ ซินแสเขียนใบสั่งยาให้แล้วแต่อั๊วไม่มีเงินซื้อถ้าแม่อั๊วไม่ได้กินยาแม่อั๊วคงอยู่กับอั๊วได้อีกไม่นาน”

ทรงรับฟังเหตุผลของเด็กน้อยด้วยความเห็นใจ ทว่าทรงยื่นถุงอัฐกลับไปให้ผู้ติดตามส่งคืนให้เด็กวัด เด็กน้อยมองตามตาละห้อย

“ถึงไม่มีก็ไม่ควรจะมาขโมยเงินวัดมันบาป ต่อไปต้องรู้จักทำงานหาเงินอย่างสุจริตแต่เอาเถอะเรื่องค่ายาของแม่อาตี๋ฉันจะช่วย” ว่าแล้วก็ทรงถอดพระธรรมรงค์ วางลงในมือของเด็กชายผู้น่าสงสาร

“เอาไปขายถ้าได้น้อยกว่าห้าชั่งอย่าขาย แหวนี่ฉันทำมาจากเมืองฝรั่งมันเป็นของหายาก”

“ขอบพระคุณนายท่านที่เมตตาขอรับ” เด็กน้อยก้มลงกราบสามทีด้วยความไร้เดียงสาราวกับท่านเป็นพระประทานในโบสถ์ “อั๊วจะไม่ลืมพระคุณของนายท่านอั๊วนายหลง แซ่หลงพูดคำไหนคำนั้นบุญคุณต้องทดแทน ในวันข้างหน้าอั๊วจะตอบแทนพระคุณของนายท่าน”

พระองค์ชายเพียงสรวลน้อยๆเท่านั้น “อาตี๋น่ะหรือจะกลับมาตอบแทนฉัน”

“ขอรับหากนายท่านประสงค์สิ่งใดขอให้บอกอั๊วจะหามามอบให้”

พระองค์ชายจึงตอบกลับไปด้วยพระอารมณ์ขัน “งั้นหาเมียให้ฉันสักคนสิแม่ฉันอยากให้ฉันมีเมีย” รับสั่งเพียงเท่านั้นก็เสด็จจากไปปล่อยให้เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสาคิดเป็นจริงเป็นจังไปว่าจะต้องตอบแทนพระคุณท่านด้วยการหาเมียมาให้จริงๆ



 

............................

***เเจ้งเรื่องการเปลี่ยนชื่อเรื่อง***

     *เดิมเรื่องนี้ใช้ชื่อเรื่องว่าภพรักแต่เนื่องจากว่าไรท์ได้รับคำติเตือนจากเพื่อนๆนักเขียนว่าชื่อเรื่องนั้นซ้ำกันมาสามสี่เล่มเเล้วไรท์จึงขอแจ้ให้ทราบว่าไรท์ได้ทำการเปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่เป็น พานภพประสบรัก คำว่าพาน ตามความหมายจากพจนานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถานหากใช้ในรูปของคำกริยาให้ความหมายไว้สองอย่างคือ 1. พาน มันใช้คู่กับคำว่าพบ เป็นพานพบ หรือพบพาน
2.หมายถึงขวางหรือกั้น ในที่นี้ไรท์ชอบทั้งสองความหมายไรท์จึงให้ความหมายสำหรับชื่อนี้ไว้ว่า การได้มาพานพบกันด้วยการก้าวผ่านภพชาติที่ขวางกั้น หวังว่านักอย่างจะไม่สับสน ไรท์แจ้งมาเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจตรงกัน

***ชี้แจง***

นี่เป็นการรีอัพครั้งที่สอง จริงๆแล้วไรท์เขียนและลงจบไปตั้งแต่27 มกราคม62 แล้วนะคะ

แต่ว่าอยู่ดีๆเกิดอะไรขึ้นไม่ทราบมีคนถามเข้ามาเยอะเหลือเกินว่าจะลงอีกไหมจะอัพอีกไหมมี E-book ไหม 

ไรท์ก็เลยคิดว่าจะเอามาอัพให้อ่านกันอีกครั้ง ก็คิดๆอยู่ว่าทำ E-book รอบนี้กลับมารีไรท์จริงๆแล้วนะคะเพราะตอนนี้ไรท์ว่างมากๆ

ขอแจ้งล่วงหน้าเลยนะคะว่าในการรีอัพและรีไรท์รอบนี้ไรท์จะรีไรท์ไปด้วยแล้วก็ลงให้อ่านไปด้วยทำส่วนไหนเสร็จก็จะลงเรื่อยๆวันหนึ่งอาจจะมาอัพหลายครั้งแต่อาจจะไม่แจ้งเตือนนักอ่านที่น่ารักเช็คจากเวลาอัพเดทล่าสุดนะคะ


......................................

 


https://pantip.com/topic/30425354 การเฉลิมพระยศเจ้านายไทย (สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับบรรดาศักดิ์ของพระองค์ชาย)


          ***ตัวละครในเรื่องนี้ไม่มีตัวตนอยู่จริง (อาจจะอ้างอิงมาจากผู้ที่เคยมีอยู่จริง แต่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง) เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนขอให้ทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน***

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

คำนิยม Top

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

คำนิยมล่าสุด

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

ความคิดเห็น