คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : Are you mine ? - 5
ARE YOU MINE ? - 5
“สลบ?”
“เออ...”
“โห่ยไอ่เหี้ยบี มึงนี่เหี้ยจริงๆ มึงรุนแรงกับน้องเขาหรอวะ!”
“เปล่าเลยๆ กูยังจูบไม่ถึงสองนาทีเลยด้วยซ้ำ”
โซฟาตัวยาวยุบลงไปตามแรงกระแทกของเจ้าของห้อง มือหนาเสยผมแก้อาการปวดหัวลวกๆก่อนจะกุมขมับด้วยความกังวน ไม่คิดว่าการทำให้คนคนหนึ่งหลงรักมันจะยากขนาดนี้ ไม่สิ.. คนนี้ยากเป็นพิเศษ..
“ไงละ ไม่สบายแล้วเสือกซ่าจะทำให้น้องเขาหลงแล้วโบ้ยความผิดให้พิษไข้ แผนมึงเคยได้ดีบ้างไหมวะเนี่ย”
“เออน่ามันก็ต้องดีบ้างแหละน่า”
“คราวหลังกูไม่ช่วยมึงแล้ว ถ้าน้องมันไม่สบายขึ้นมาทำไง”
“ก็ดีไง กูจะได้ดูแล”
“ยัง.. ยังอีก ยังไม่สำนึก”
และตอนนี้เขาก็กำลังโดนเพื่อนอย่างแจ็คสันหวังสวดยกใหญ่ โทษฐานเล่นไม่เข้าเรื่อง มีอย่างที่ไหนหลอกล่อให้คนที่ชอบเข้าห้องแล้วแกล้งเพ้อเหมือนอิมแจบอมบ้าง.. ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็ไม่อยากจะช่วยเลยจริงๆ หรือถ้าไอ่หมาจิ้งจอกมันจะยอมบอกเขาก่อนบ้างว่าจะลวงเข้ามาทำแบบนี้
แจ็คสันละกลุ้ม..
“เอาน่า ยองแจไม่เป็นอะไรมากหรอก”
“มึงนี่จริงๆเลย แล้วจะยังไงต่อ?”
“ก็.. ตีเนียน..”
“ตีเนียน?”
.
.
.
.
“พี่.. เป็นอะไรไหมครับ”
ชเวยองแจถามเสียงเบาในขณะที่กำลังพยุงคนตัวโตให้ลุกขึ้นนั่งบนโซฟาช้าๆ
ยิ่งเห็นสภาพคนป่วยแบบนี้ก็รู้สึกผิดขึ้นมาดื้อๆ ถึงแม้ในใจจะโกรธไปแล้วก็ตาม แต่ลึกๆแล้วที่แจบอมไม่สบายก็เป็นเพราะเขาเองเลยไม่ได้หุนหันโวยวายออกไป หลังจากยองแจรู้สึกตัวขึ้นบนเตียงของเจ้าของห้อง ก็ได้แต่นอนนิ่งๆกรอกตาไปมาเพราะกำลังคิดว่าเขาควรจะปล่อยให้เรื่องเมื่อกี้มันผ่านไปเฉยๆรึเปล่า..
“ไม่เป็นไร นายละ เป็นอะไรไหม..”
“ก็.. ไม่ครับ”
ในเมื่อแจบอมบอกเองว่ารู้ตัวอีกทีก็เห็นยองแจนอนอยู่บนโซฟาแล้ว พร้อมกับคำขอโทษขอโพยยกใหญ่เพราะไม่รู้ว่าตัวเองได้ทำอะไรไปรึเปล่า
ยองแจพยายามคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าเขาจำได้ดีทุกตอน.. แจบอมไม่สบาย แล้วก็เพ้อเพราะพิษไข้..
ภาพเหตุการณ์ก่อนที่จะหมดสติไปวนลูปอยู่ในหัวซ้ำๆ เขาควรจะโกรธดีไหม..
พอมาเห็นแบบนี้ก็เลยปล่อยเลยตามเลย คงไม่รู้ตัวริงๆ
แล้วทำไมแจบอมต้องเพ้อออกมาเป็นชื่อเขาแบบนั้น..
“เป็นอะไรรึเปล่า”
เสียงทุ้มดังขัดขึ้นเพราะสีหน้าและท่าทางเหมือนนกำลังคิดอะไรบางอย่างของร่างเล็ก ยองแจส่ายหัวน้อยๆให้เป็นคำตอบพลางก้มหน้าหลบตาอีกคน ทำทีบิดน้ำออกจากผ้าขนหนูในกะละมังนิ่งๆ
แต่ในหัวกลับมีความคิดวิ่งวนไปเต็มไปหมด แจบอมไม่รู้ว่าทำอะไรไป แจบอมไม่รู้ว่ากอดเขาแน่นแค่ไหน แจบอมไม่รู้ว่าจูบเขานานเท่าไร..
ไอ่คนประหลาดนี่มัน.. แย่จริงๆ! ทำไมทำเขาคิดมากอยู่คนเดียวแล้วตัวเองกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย..
ไม่รู้สักนิดเดียว มันน่าโมโหนัก..
“แน่ใจนะ?”
ยองแจช้อนมองคนถามอีกครั้ง ริมฝีปากเรียวเม้มเข้าหากันช้าๆ พยายามไม่ตะโกนขึ้นเสียงแล้วจับเขย่าๆซักสองสามที อยากจะถามว่าทำไมถึงอยากทำแบบนั้น อยากถามว่าคิดอะไรกับเขารึเปล่า..
แจบอมเลิกคิ้วกลับเป็นเชิงสงสัยเพราะร่างเล็กเอาแต่จ้องหน้าด้วยท่าทางแปลกๆ เหมือนอยากพูดอะไรแต่ก็ไม่ยอมพูด
“ยองแจ? มีอะไรรึเปล่า?”
เสียงทุ้มถามซ้ำยิ่งทำให้ยองแจหมดความอดทน ยองแจไม่ใช่คนเงียบ เพราะงั้นเขาจะไม่ทนแล้ว..
“พี่ชอบผมหรอ?”
“ …..!! ”
แน่นอนว่าคนโดนถามแทบจะร่วงจากโซฟาทันทีได้ยิน ไม่คิดว่ายองแจจะถามตรงขนาดนี้และมันก็จี้ใจอิมแจบอมเอามากๆ คราวนี้เป็นแจบอมที่มีท่าทางอึกอึกแทน ร่างเล็กเอาแต่จ้องหน้าเค้นหาคำตอบ เรียกได้ว่าเกมส์พลิกเลยทีเดียว..
“ห..เห้ย เอาอะไรมาพูด ฮ่าๆๆ”
ถึงอย่างนั้น แจบอมก็ยังคนเล่นบทคนซื่อต่อไป ถ้ามันเนียนละนะ..
“… ไม่หรอ”
สายตาจับผิดจ้องลึกเข้าไป ใบหน้าหวานดูจริงจังจนแจบอมเกือบเผลอจับมาฟัดซักทีแรงๆ แต่ก็ต้องฝืนใจพลางยืนยันคำตอบเดิม
“อืม ไม่..”
“… โอเค ”
โอเค.. ในเมื่อได้คำตอบชัดเจนขนาดนี้แล้ว.. ยองแจหลุบตาต่ำก่อนจะยกกะละมังพร้อมกับยืดตัวขึ้นสาวเท้ายาวๆเข้าห้องครัวไป
ไม่ชอบ..
ไม่ชอบแล้วทำทำไมวะ..
หรือว่าตอนที่เพ้อไม่ได้คิดว่าเป็นเขา..
ก็ได้ยินอยู่เต็มสองหูว่าเรียกชื่อชเวยองแจ!
คนตัวเล็กหยุดยื่นอยู่หน้าซิงค์น้ำ อารมณ์คลุกกรุ่นมาจากไหนไม่รู้ มันทำให้ยองแจอยากจะจับข้าวของในห้องนี้เขวี้ยงออกหน้าต่างซะให้หมด..
ทำไมคำตอบแบบนั้นถึงทำอารมณ์เสียได้ขนาดนี้..
หรือจะเพราะไอ่คนประหลาดนั้นไม่ยอมรับผิดชอบที่บังอาจมาแตะต้องเนื้อตัว หรือเพราะท่าทางมึนๆไม่รู้ร้อนรู้หนาว
หรือจะเพราะอะไรก็แล้วแต่ รู้แค่ว่าตอนนี้ อิมแจบอมทำยองแจหงุดหงิดเอามากๆ! แต่ทำอะไรไม่ได้เลย โมโหก็ไม่ได้ จะลงไม้ลงมือกับแจบอมก็ไม่ได้ เพราะหมอนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำอะไรลงไปบ้าง!
ยองแจหงุดหงิด!!!
.
.
แจบอมมองตามแผ่นหลังเล็กด้วยสายตาละห้อย..
ทำไมง่ายขนาดนี้วะ.. อย่าบอกนะว่าเชื่อที่บอกว่าไม่ชอบน่ะ..
โอ้ยย อิมแจบอมอย่าทึ้งหัวตัวเองแล้วย้อนเวลาไปแก้ไขคำพูดตัวเอง!
เมื่อกี้เหมือนสถานะการณ์บีบคั้นให้เขารีบหาคำตอบ และเขาก็ตอบออกไปแบบโง่ๆ พอๆกับการบอกว่าสุนทรภู่เป่าปี่นั้นแหละ.. มันโง่เอามากๆ
ก็หน้าหวานๆกับสายตาจริงจังนั้นมันทำให้สมองแจบอมตื้อตันไปหมด ในใจอยากจะบอกไปตรงๆว่าเขาน่ะชอบยองแจเอามากๆ..
แต่..
ความชิคมันค้ำคอ..
————————-
เปิดเทอมวันแรก..
แจบอมกึ่งหลับกึ่งตื่นลากเท้าเนื่อยๆไปตามทาง เนื่องจากอาศัยอยู่ในหอพักกำกับเลยไม่ต้องรีบร้อนอะไรมากนัก ถึงแม้ว่าเวลาตอนนี้จะ 7.50 น.แล้วก็ตาม อารมณ์ตอนนี้ไม่มีความกระตือรือร้นอะไรทั้งนั้นเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวาน..
เขาปล่อยให้ยองแจเดินจากห้องไปง่ายๆโดยที่ไม่สามารถรั้งอีกคนไว้ได้ เขาไม่เคยเจอใครเมินได้เท่ายองแจเลย.. เรื่องนี้มันไม่ง่ายอย่างที่คิด และอาจจะต้องคิดหาวิธีใหม่ให้ยองแจหันมาสนใจบ้างแล้ว
มั่นใจว่าหน้าตาหล่อพออยู่นะ..
หรือว่ายังใกล้ชิดไม่พอวะ..
นิ้วเรียวลูบคางอย่างครุ่นคิด คิ้วหนาขมวดปมเข้าหากัน สายตาจดจ้องอยู่กับพื้นดินไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัว หรือนักเรียนคนอื่นอย่างที่ควรจะเป็นในการเปิดเทอมวันแรก ในสมองมีแต่คิดหาทางว่าจะให้ยองแจสนใจเขามากกว่านี้ยังไงดี ที่ผ่านมามันใช้เวลานานเกินไปแล้วสำหรับคนอย่างอิมแจบอม..
ปึก..!
แรงกระแทกจากด้านหลังปลุกร่างสูงออกจากภวังค์ สายตาคมหันตะหวัดไปมองต้นเหตุทันที ท่อนแขนหนักๆฟาดลงมารอบคอพร้อมกับรอยยิ้มกวนๆ
“ไอ่แจ็ค.. ตกใจหมด คนกำลังใช้ความคิด”
“ความคิดอะไรวะ ..น้องยองแจหรอ?”
“…อืม ดูเหมือนจะยากวะ”
เสียงถอนหายใจหนักๆทำเอาแจ็คสันถึงกับกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ ไม่บ่อยหนักที่จะเห็นเพื่อนคนนี้ทำหน้าทุกข์ใจเหมือนอึ้ไม่ออกมาหลายวัน ชักอยากจะเห็นหน้าตาชเวยองแจซะแล้วสิ.. แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังปลอบใจเพื่อนตัวดีด้วยการสะกิดให้ดูเด็กใหม่ที่เดินไปเดินมาเต็มไปหมด
“เอาน่า มึงดูเด็กใหม่ดิ มีเยอะแยะให้มึงเลือกโปรยสเน่ห์ใส่เลยเพื่อน”
“.. ไม่โดนซักคน”
แจบอมบอกปัดพลางเดินทำหน้าตายปล่อยให้แจ็คสันถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะ ปกติแล้วเวลาเปิดเทอมใหม่แจบอมจะพูดไม่หยุดพลางชี้เด็กคนนู้นคนนี้ก่อนจะออกปากชมว่าน่ารักขนาดไหนอยู่ตลอดเวลา ครั้งนี้มันเลยเป็นเรื่องแปลกมากๆที่เจ้าตัวเงียบเป็นเป่าสาก แถมยังทำหน้านิ่งเหมือนไม่ได้นอนอีกต่างหาก แต่ถึงยังไงมันก็ดูหล่ออยู่ดีละนะ..
แจ็คสันและแจบอมเดินเอื่อยสูดบรรยากาศวันแรกของการเรียนไปช้าๆ เด็กนักเรียนเดินขวักไขว่พร้อมกับเสียงพูดคุยอื้ออึง ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของการเป็นนักเรียนไฮสคูล เด็กฮ่องกงอย่างแจ็คสันเลยพยายามเก็บความทรงจำในช่วงเวลานี้ให้ได้มากที่สุด เขากวาดสายตาไปทั่วโรงเรียนเด็กส่วนใหญ่จะจับกลุ่มคุยกันกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอมานาน บ้างก็เล่นบาสแต่เช้า บ้างก็เดินด้วยท่าทางเก้งๆกังๆ เป็นประจำทุกปีที่จะเห็นภาพแบบนี้
แต่แล้วเขาก็ดันไปเห็นคนคนหนึ่งที่ไม่เคยเห็นในโรงเรียนมาก่อน ถ้าให้เดาก็คงจะเป็นเด็กใหม่ แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ หน้าตาน่ารัก ตาตี่ๆดูน่ามอง แก้มป่องกับปากแดงได้รูป ท่าทางนิ่งๆ.. ฟันธงได้เลย แบบนี้สเปคไอ่เจบี..
“ มึงๆๆ ดูนั้น..”
ว่าแล้วก็สะกิดเพื่อนข้างตัวยกใหญ่ อย่างน้อยคงทำให้แจบอมดี้ด้าขึ้นมาได้ไม่ทำตัวเป็นคนไร้วิญญาณอย่างตอนนี้
“อะไร..?”
“มึงเห็นข้างสนามบาสนั้นไหม คนนั้นอะ..”
คนตัวโตมองไปทางที่แจ็คสันชี้พลางหรี่ตมองว่ามีอะไรน่าสนใจ
แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักนิ่งเหมือนโดนเวทมนต์..
นั้นมัน..
“ยองแจ..”
“หือ..”
ยองแจในชุดนักเรียนซะด้วย..
ฮ่อก.. แจบอมจะบ้าตาย...
“นั้นนองแจหรอ?”
“อืออ.. เห้ยนั้นยองแจอยู่กับใครวะ!”
คนตัวเล็กกำลังยืนชิดกับนักเรียนคนหนึ่ง เหมือนว่ากำลังดูอะไรบางอย่่างอยู่สองคน.. นั้นทำเอาแจบอมละสายตาจากร่างเล็กหันไปจ้องอีกคนเขม็ง..
มาร์คต้วน..
เชี่ย.. มึงยืนใกล้กันจนเกือบจะรวมร่างได้อยู่แล้ว..
แทบจะทันทีที่แจบอมสาวเท้ายาวก้าวฉับๆไปหาทั้งคู่จนลืมเพื่อนสนิทอย่างแจ็คสันไว้จนกว่าเจ้าตัวจะรู้ตัวว่าโดนทิ้งก็ต้องรีบร้อนเดินตามอย่างช่วยไม่ได้
“อะแฮ่ม.. ไงไอ่ต้วน..”
และแน่นอนว่าทันทีที่ถึงเป้าหมายแจบอมก็ปรี่เข้าไปยืนแทรกกลางจนเพื่อนสัญชาติเมกาของเขาเซแถไปด้านหลัง ตามมาด้วยสีหน้างงๆและตาโตๆของยองแจที่เห็นว่าใครคือบุคคลที่สาม
“อ่าวไอ่บี มาดีๆไม่ได้ไงน้องเขาตกใจหมด”
มาร์คเบี่ยงตัวไปสำรวจความเรียบร้อยของนักเรียนใหม่ ยองแจเลยส่งยิ้มพร้อมกับส่ายหัวน้อยๆให้เป็นคำตอบว่าเขาไม่เป็นไร ยิ่งทำให้คนมาใหม่ยืนตาร้อนเป็นไฟ...
ไปสนินสนมกันตั้งแต่ตอนไหน..
“ไง.. ยองแจ”
ว่าแล้วก็ออกปากทักทายพลางยิ้มให้ แต่ปฏิกริยาตอบรับกลับไม่เป็นอย่างที่มีให้มาร์ค ยองแจทำหน้านิ่งราวกับไม่รู้จักเขา แถมยังไม่มองหน้าเขาอีกต่างหาก..
“หือ มึงรู้จักน้องเขาด้วยหรอ?”
“เออดิ/ไม่ครับ”
คำตอบสองเสียงออกมาพร้อมกัน แต่มันช่างไม่สัมพันธ์กันเหลือเกิน งานนี้ทำเอาแจบอมได้ยินเสียงเศษแก้วจากหน้าตัวเองดังเพล้งเพราะยองแจออกอาการเหมือนไม่รู้จักเขาจริงๆ
แจ็คสันที่ตามมาสมทบทีหลังถึงกับหลุดขำกับหน้าตาอึ้งๆของแจบอม
“เอางี้ๆ ยองแจนี่แจบอมเพื่อนพี่เอง แจบอมนี่ยองแจเด็กใหม่ปีนี้แล้วก็กำลังให้กูช่วยบอกทางไปห้องเรียน”
คนตัวเล็กพยักหน้ารับนิ่งๆต่างจากแจบอมที่ตีหน้าเข้มเพราะกำลังเซ็งไปแล้วเรียบร้อย
แจบอมไม่เข้าใจว่าทำอะไรผิดยองแจถึงเมินเขาขนาดนี้ เมินไม่พอยังบอกว่าไม่รู้จักกันอีก
คนชิคละเศร้า..
แต่อย่างน้อยเขาจะไม่เป็นฝ่ายง้อแน่นอน ทำกับคนหล่อแบบนี้ได้ยังไง..
งอนว้อยงอน!
“เอ่อ.. งั้นกูพาน้องไปส่งที่ห้องก่อนนะ”
หะ.. ไปส่ง?
“ไม่ต้อง.. เดี๋ยวกูพาไปเอง มึงไปกับไอ่แจ็คเลย”
ถึงจะงอนแต่ไม่ยอมให้อยู่กับไอ่มาร์คสองต่อเด็ดขาด!
“เดี๋... หวอ!!”
งอนได้ไม่ถึงห้าวิ แจบอมคว้าคอยองแจเข้ามาชิดพร้อมกับลากออกจากวงสนทนาโดยไม่ขอคำปรึกษาใครใดใดทั้งนั้น ร่างเล็กปลิวตัวมือไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ทิ้งให้สองเพื่อนซี้ยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ข้างหลัง..
.
.
.
.
ยองแจได้ชื่อว่าเป็นนักเรียนใหม่ที่มีรุ่นพี่หน้าหล่อตามติดแจ.. แถมยังหล่อเป็นอันดับต้นๆของโรงเรียนซะอีก..
ตามจริงแล้วคนตัวเล็กควรจะดีใจกับคุณสมบัตินี้ แต่ว่าไม่เลย.. เมื่อเช้าถูกแจบอมลากไปที่ห้องไม่พอ ยังทิ้งคำขู่ที่ยองแจไม่ค่อยจะเข้าใจเอาไว้สักเท่าไรอีกต่างหาก
‘ไอ่มาร์ค มันเจ้าชู้นะบอกไว้ก่อน อ้อแล้วมันก็ไม่ค่อยจริงจังกับใครด้วย ถ้าคิดจะส่งสเน่ห์มันละก็แย่แน่ ชีวิตพัง’
ยองแจรู้สึกว่าประโยคนั้นถ้าเปลี่ยนชื่อเป็นแจบอมแทนมาร์คยังจะดูเป็นไปได้มากกว่าอีก หน้าตาหล่อๆแบบมาร์ค กับหน้าตาเจ้าเล่ห์แบบแจบอมเนี่ยร้อยทั้งร้อยนิสัยแบบนั้นมันต้องเป็นของแจบอมมากกว่าสิ
ไม่ใช่แค่นั้นตอนนี้อิมแจบอมกำลังนั่งอยู่หน้าห้องเขาทั้งๆที่อีกยังไม่ปล่อยพัก.. เพราะดันลืมมือถือไว้ที่เขา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าลืมได้ยังไง รู้ตัวอีกทีก็มีเสียงโทรศัพท์ที่ไม่ใช่ของตัวเองดังมาจากกระเป๋ากางเกง?
ยองแจนั่งตัวลีบติดหน้าต่างเพราะสายตานับสิบจากทุกคนในห้องต่างจับจ้องมาที่เขาสลับกับแจบอมด้านนอก เขาละเกลียดการตกเป็นเป้าสายตาจริงๆ...
“ยองแจ เที่ยงนี้ไปกินข้าวด้วยกันไหม”
แรงสะกิดข้างตัวทำยองแจเลิกสนใจวิวนอกหน้าต่าง
คิมยูคยอมเพื่อนร่วมห้องคนใหม่ ตัวโตยังกับหมี..
“กินข้าวหรอ..”
“อือ ไปป่ะ?”
ดวงตาเรียวเสมองไปทางประตูเล็กน้อยพลางคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ไอ่คนข้างนอกนั้นคงแค่มารอเอามือถือเฉยๆสินะ..
“เอ่อ.. ต้องไปกับพี่แจบอมป่าว งั้นไม่เป็นไรก็ได้นะ”
“ม..ไม่ใช่ คือ..ได้สิ ไปกินข้าวกัน”
เพราะสายตาเกรงๆของยูคยอมมองสลับเขาและแจบอมด้วยท่าทีแปลกๆ ยองแจเลยส่ายหัวกลมรัวๆรีบแก้ตัวไป
แค่คิดว่าจะโดนดึงตัวไปเหมือนเมื่อเช้าอีกรึเปล่า
แต่ เดี๋ยวนะ..
จะมาคาดหวังอะไรจากอิมแจบอมคนประหลาดเนี่ยยองแจ..
เขาไม่ได้มารอกินข้าวด้วยซะหน่อย ไม่ได้ชอบด้วยนี่นะ..
ฮึ่ยย คิดแล้วก็เบื่อหน้าชะมัด!
“นี่.. คิดอะไรอยู่ ทำหน้ายุ่งหมดแล้ว ฮ่าๆ ”
เพื่อนตัวโตเอียงมองคนตัวเล็กพร้อมกับกลั้นขำเล็กๆ ยองแจทำแก้มป่องแถมคิ้วยังผูกกันเป็นโบว์จนอดหัวเราะไม่ได้ ถามแค่นี้ต้องทำเครียดขนาดนี้เชียว
หรือเพราะในคำถามมีแจบอมมาเอียว?
“เปล่าน่า..”
ร่างบางตอบกลับเสียงเรียบ ยูคยอมเองก็พยักหน้ารับส่งเดชไปแต่ก็อดคาใจไม่ได้ เขาไม่เคยเห็นแจบอมมารอใครหน้าห้องเรียนแบบนี้หรอก ทำไมนักเรียนใหม่คนนี้ถึงได้รับสิทธิ์นั้นละ..
มันน่าสงสัยออก..
เสียดายที่ตอนเช้าเขามาไม่ทันเห็นรุ่นพี่สุดฮอตมาส่งยองแจที่ห้องเรียน ไม่งั้นละก็ยูคยอมจะขอบันทึกไว้ในวีดีโอเทปซะหน่อย แหม่ มันมีโอกาสเห็นได้ยากนะ..
กริ้งงง...
เสียงออดดังขึ้นพร้อมกับคำอนุญาติให้ไปพักได้ นักเรียนมากกว่าครึ่งยืดตัวบิดขี้เกียจเก็บของลงใต้โต้ะ เดินไปมาเสียงคุยกันดังอื้ออึงขึ้นราวกับผึ้งแตกรัง
เช่นเดียวกับอิมแจบอมที่ลุกออกจากระเบียงหน้าห้องยืนกอดอกอิงเสาด้วยท่าทางเท่ๆมองเข้ามาในห้อง แต่มันน่าหมั่นไส้สำหรับยองแจทันทีที่เห็น..
หลังจากเสียงโทรศัพท์ปริศนาในตอนเช้า ยองแจล้วงเอามือถือออกจากกระเป๋า หน้าจอโชว์หราว่าเจ้าของสายที่โทรมาชื่อแจ็คสัน.. ชื่อคุ้นหูแบบนี้ยองแจเลยไม่ลังเลที่จะรับมัน แต่แล้วเจ้าของปลายสายกลับเป็นแจบอมแทน เสียงเข้มกำชับว่าตอนเที่ยงให้รออยู่ที่ห้องเพราะจะมาเอามือถือคืน นี่คือสาเหตุที่แจบอมมายืนเท่อยู่หน้าห้องเวลานี้
ยองแจลากเท้าช้าๆไปหาโดยมียูคยอมเดินตามหลังด้วยท่าทางชิวๆ จริงๆยูคยอมแอบเห็นยองแจทำหน้าเหมือนโกรธๆตอนมองแจบอมอยู่ตลอดเวลาด้วยแหละ..
“อะ.. ของพี่ เอาคืนไป”
คนตัวเล็กเปิดฉากยื่นมือถือคืนให้ แต่แจบอมก็ยังคงนิ่งไม่ขยับตัว ร่างสูงทำแค่ปลายตามองเก็กๆของที่เขาชอบทำก่อนจะยิ้มมุมปาก
“คราวหลัง อยากเจอพี่ก็บอกสิ”
ห้ะ..?
โดนสวนกลับซะเอ๋อเลย..
“บ้าดิ พี่ลืมไว้ที่ผมเองนะ”
“หืม.. พี่ก็ไม่ได้ให้เรายืมมือถือนี่ แล้วมันจะไปอยู่ที่นายได้ยังไง”
“จ..จะไปรู้หรอ!”
ยองแจอ้าปากค้าง แถมยังหน้าแดงขึ้นนิดๆเพราะนักเรียนที่เดินผ่านไปมาแถวนี้คงไม่มีใครไม่ได้ยิน พูดดังซะขนาดนี้ เขากำลังโดนอิมแจบอมใส่ความชัดๆ ส่วนยูคยอมก็ได้แต่ยื่นนิ่งๆ เพราะโคตรงง..
“เอาน่า ยังไงซะตอนนี้..พี่ก็เสียเวลาเดินมาตึกนี้แล้ว จะไปกินข้าวด้วยก็ได้”
“ด..เดี๋ยวนะ พี่คงเข้าใจอะไรผิด”
“อยากไปกินข้าวด้วยไม่ใช่หรอ?”
“ใครบอก! เลิกคิดเองเออเองซักทีได้ไหม..”
ประโยคหลังยองแจพูดให้ตัวเองได้ยินคนเดียว เพราะกลัวว่าจะโดนมองไม่ดี ถ้าเกิดพูดจาแบบนั้นกับรุ่นพี่ทั้งๆที่ตัวเองเป็นเด็กใหม่ แต่เขาก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ
“ก็ฉันต้องมาเอามือถือที่นาย ทำให้เพื่อนฉันไปกินข้าวกันหมดแล้ว นายต้องรับผิดชอบสิ”
“มันไม่ใช่ความผิดของผมซะหน่อยนะ!”
“ไม่รู้แหละ เอ่อ.. นาย ยูคยอมใช่ไหม วันนี้นายคงต้องไปกินข้าวกับคนอื่นไปก่อนนะ”
.
.
.
.
ถ้าจะให้พูดความรู้สึกตอนนี้เขาอยากจะฝากหมัดไว้ที่หน้าเก๊กๆหล่อๆซักทีโทษฐานที่ลากมาแบบไม่ให้ทันตั้งตัวอะไรเลย..
สนามหลังโรงเรียนกับลมเอื่อยๆพาให้หนังตาเริ่มหนักทั้งๆที่ยังเคี้ยวแซนวิชในปากตุ่ยๆ ยองแจนั่งห่างจากแจบอมเกือบหนึ่งช่วงแขนได้ เขารู้สึกว่ายิ่งอยู่ใกล้แจบอมมากเท่าไร ยิ่งจะซวยมากเท่านั้น..
ต่างจากแจบอม เจ้าตัวยัดแซนวิชคำสุดท้ายเข้าปากไปก่อนจะล้มตัวนอนหงายบนพื้นหญ้าเขียวๆแบบไม่ทุกข์ไม่ร้อน..
มีรางวัลคนกวนส้น-แม้ไม่ต้องทำอะไรมากไหม ยองแจอยากจะมอบให้แจบอมเหลือเกิน
ยองแจละสายตาจากคนข้างตัวมองทอดยาวไปด้านหน้าแทน อากาศเย็นๆทำให้อยากนอนมากจริงๆ นี่ไอ่คนประหลาดพาเขามานั่งกินข้าวในที่แบบนี้เพื่อมอมยานอนหลับจากธรรมชาติรึไงนะ แต่ถ้าคิดในอีกแง่ ที่นี่มันก็เงียบดีแถมสวยอีกต่างหาก
ว่าแต่.. เขากลับได้ยัง..
“อิ่มชะมัด..”
เสียงทุ้มพูดขึ้นมาลอยๆเรียกความสนใจจากคนตัวเล็กให้หันกลับไปมองอีกครั้ง แจบอมนอนหลับตาพริ้มรับกับจมูกโด่ง โคร่งหน้าคมชัดทำเอายองแจนึกอิจฉา
สายตาเรียวเล็กไล้มองจนมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากหยัก..
จนเกิดอาการหน้าร้อนขึ้นมาดื้อๆ
มือเรียวยังคงถือแซนวิชค้างไว้นิ่งๆในขณะที่สายตาไม่สามารถละไปไหนได้ ริมฝีปากสีเข้มกับความรู้สึกที่ถูกแจบอมจู่โจมทำให้ร่างเล็กเผลอเม้มปากเข้าหากันเพื่อหักห้ามความรู้สึกบางอย่าง..
มันทำให้ยองแจนึกถึงสัมผัสทุกอย่าง ที่แจบอมไม่เคยรู้ตัวว่าเคยได้ทำ..
นี่เขากำลังโดนปั่นหัวชัดๆ..
ตัดสินใจหันกลับมามองแซนวิชในมือ ไม่อยากฟุ้งซ่านไปกว่านี้ เป็นเขาคนเดียวที่เอาแต่คิดมากไปเอง คิดไปเรื่อยกับการกระทำประหลาดๆของอิมแจบอม
“ผมกลับได้ยัง..”
และต่อไปนี้ยองแจก็ไม่อยากอยู่กับแจบอมนานๆแล้วด้วย..
“หืม.. นั่งเล่นก่อนสิ กลับแล้วรู้หรอว่าไอ่ยูคยอมอะไรนั้นอยู่ไหน”
“…ผมยอมเดินตามหายูคยอมดีกว่านั่งอยู่ตรงนี้อีก”
แกล้งลอยหน้าลอยตาพูดพลางกัดอาหารเที่ยงเข้าปาก นั่งชั่นเขาก้มมองพื้นสีเขียวฆ่าเวลาโดยที่ไม่รู้ว่าคนตัวโตกำลังจ้องมองแก้มกลมที่ขยับขึ้นลงตามแรงด้วยท่าทียิ้มๆ
“อยู่ตรงนีี้มันแย่งั้นหรอ?”
“คิดว่านะ..”
“ฉันเป็นถึงหนุ่มฮอตของโรงเรียน นายควรจะดีใจนะ”
“หรอ ได้มานั่งข้างๆนี่ถึงกับควรดีใจเลยหรอ?”
“แน่สิ”
“ไม่เห็นน่าดีใจตรงไหน..”
แน่นอนว่ายองแจพูดเสียงแผ่ว ยังไงซะเขาก็ไม่อยากเสียมารยาทถึงจะเคยลงมือตบตีเวลาแจบอมแตะเนื้อต้องตัวเขาก็เถอะ ก็ตอนนั้นแจบอมไม่รู้ตัวนี่นะ...
“นายชอบพี่ึหรอไง”
“ห้ะ!?”
ยกมือปิดปากกลั้นแรงดันจากข้างในแทนไม่ทัน ถ้าช้ากว่านี้อีกนิดแซนวิชคงพ่นออกมาใส่หน้าคนตรงหน้าเป็นแน่ คำถามที่ยองแจเคยถามไปถูกเป็นฝ่ายถามเขาเอง
มันน่าตกใจ..
ทำไมกล้าถามแบบนั้น..
“ก็แค่ถามว่าชอบพี่หรอ”
“ฮึ.. คำตอบก็เหมือนกัับที่พี่ตอบผม”
“…..”
“..เงียบทำไม”
“เปล่า”
จู่ๆแจบอมก็เงียบไปจนได้ยินเสียงกลืนน้ำลายของตัวเองดังอึก..
“แล้วพี่ชอบผมหรอ.. ถามอีกครั้ง..”
ก็แค่อยากแน่ใจ..
หรือไม่ก็หาเหตุผลที่เหมาะสมกับการกระทำ
“…ไม่นิ”
“…..”
คนตัวเล็กพยักหน้ารับนิ่งๆ ก้มมองปลายเท้าตัวเองด้วยความรู้สึกแปลกๆ เหมือนครั้งที่ได้ยินคำตอบเดียวกันนี่ในห้องแจบอม เขาก็น่าจะรู้ ไม่น่าตีความไปเองเลย..
ที่มาเคาะห้องบ่อยๆก็แค่น้ำหมด
ที่มาหาเพราะไม่มีแชมพู
ที่เล่นกีต้าร์ให้ฟังเพราะเบื่อ
ที่ยอมตากฝนเพราะอายุมากกว่า
ที่พามาส่งที่ห้องเพราะป็นรุ่นพี่
ที่มาหาเพราะลืมของ
ที่พามากินข้าวเพราะต้องรับผิดชอบ
ที่กอดก็เพราะฝัน
ที่หอมเพราะไม่รู้ตัว
ที่จูบ.. เพราะพิษไข้..
นี่แหละคือเหตุผลที่ยองแจคิดได้..
แจบอมจะชอบยองแจได้ไง ยองแจนั้นแหละที่ประหลาดไปเอง..
“ผมไปก่อนนะ..”
- - - - - - - - - - -
งงๆเนอะตอนนี้ อะไรไม่รู้ คนเขียนช่วงนี้ชีวิตไม่โอเค 555
ติชมด่าได้เลยนะคะ 5555 ตอนหน้าคงจบแล้ว
#got2jae จะพยายามไม่ดองน้า งานเยอะมากเลย 555
เอ้อ เกือบลืม > ฝากสอบถามเรื่องรวมเล่ม หน่อยน้า 555
ความคิดเห็น