คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : "IM JAE BEOM" - 5/5 [END]
"IM JAE BEOM"
- part 5 -
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนตัวเล็กนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ยอมไปไหน นั้นคือคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวของอิมแจบอมตั้งแต่เดินออกมา เวลาล่วงเลยมาเกือบสองชั่วโมง ร่างสูงนั่งจิบการแฟอยู่ในร้านตรงข้ามสวนสาธารณะเพื่อมองดูใครบางคน เขาไม่เข้าใจว่าการนั่งมองถนนเป็นเวลานานๆมันน่าสนุกตรงไหน ทำไมยองแจถึงทำแบบนั้น กาแฟหมดไปสองสามแก้วก็ยังไม่มีท่าทีว่าคนตัวเล็กจะลุกออกไปที่อื่น
เรื่องที่ทำให้ร่างบางซึมได้ขนาดนี้มันต้องแย่มากแน่ๆ..
‘ทำไมนายจำฉันไม่ได้’
‘เรารู้จักกันหรอ..’
‘แจบอม อย่าทำแบบนี้..’
‘คือว่าฉัน..ฉันชื่อแจบอมก็จริง แต่..’
‘ฮึก..แจบอม..’
พอนึกย้อนกลับไปเมื่อเย็นก็รู้สึกผิดเล็กๆที่ทำยองแจร้องไห้ถึงแม้ว่าเขากับยองแจจะไม่ได้รู้จักกันจริงๆก็ตาม แต่เพราะเรียวตาสวยคู่นั้นมันไม่เหมาะกับน้ำตาเท่าไร แจบอมเลยไม่อยากให้คนตัวเล็กเป็นแบบนี้
แล้วเขาควรจะทำยังไง.. จริงๆเขาควรจะกลับบ้านไปหาอะไรกินตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้วด้วยซ้ำ อีกอย่างวันนี้เป็นวันหยุดควรจะกลับไปดูหนังฟังเพลงก่อนที่จะเริ่มทำงานในวันพรุ่งนี้รีเปล่า..
ทำไมอิมแจบอมต้องมานั่งอยู่ตรงนี้ด้วยเนี่ย..
คิดได้แบบนั้นเลยลุกขึ้นไปจ่ายเงินค่าเสียเวลาก่อนจะเดินออกจากร้าน คอนโดของแจบอมอยู่ไม่ไกล เดินไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง แต่พอสาวเท้าออกมาได้ไม่เท่าไรเขาก็ต้องหันกลับไปมองสวนสาธารณะนั้นเอาดื้อๆ และเหมือนขาเจ้ากรรมจะเริ่มไม่เชื่อฟังสมองที่สั่งการว่าต้องเกินกลับคอนโด..
ขายาวๆเลี้ยวกลับไปยังถนนอีกฝากที่ที่มีร่างบางนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ทันที
“ไม่หนาวหรอ”
เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพลางส่งเสียงออกไป คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก ช้อนหน้าขึ้นมามองก่อนจะทำตาโตจนแจบอมหลุดหัวเราะเบาๆ
“นาย..ยังไม่กลับหรอ..”
“คอนโดฉันอยู่แถวนี้น่ะ”
ใบหน้าหวานพยักหน้าหงึกหงัก ดวงตาเรียวแดงก่ำเพราะผ่านการร้องไห้มาหลายชั่วโมง แน่นอนว่าอิมแจบอมไม่ได้รู้สึกดีกับภาพที่เห็นแม้แต่น้อย
“เป็นอะไร..”
ยองแจก้มหน้าส่ายหัวกลมรัวๆพร้อมๆกับน้ำตาที่ล่วงเผาะลงมาอีกครั้ง เหมือนว่ายิ่งมีคนสะกิดคนตัวเล็กก็พร้อมจะปล่อยโฮออกมาทุกเมื่อ
“บอกฉันได้นะ..”
“..ฮึก”
คนตัวโตทรุดตัวลงนั่งข้างๆแต่ก็ไม่ได้พูดถามอะไรออกไปอีก ทำแค่นั่งเฝ้าร่างบางร้องไห้เงียบๆเท่านั้น ใบหน้าคมลอบมองคนข้างตัวเป็นระยะๆก็ไม่มีท่าทีว่ายองแจจะหยุดได้ง่ายๆ
เป็นอะไรของเขานะ..
อยากจะหาผ้าเช็ดหน้ามายื่นให้แต่เขาก็ไม่ได้เป็นผู้ชายสำอางถึงขนาดที่ต้องพกอะไรแบบนั้น เลยตัดสินใจยื่นมือออกไปเช็ดข้างแก้มอีกคนเบาๆ
ยองแจตกใจถอยห่างอัตโนมัตพลางเงยหน้ามองแจบอมด้วยแววตาตื่นตระหนก
“ร้องไห้เยอะแบบนี้ ระวังพรุ่งนี้ตาบวมนะ”
มือบางยกขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองลวกๆก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
คงไม่อยากให้เซ้าซี้มากสินะ..
“งั้น.. ดูแลตัวเองนะ..”
“…..”
ไม่มีเสียงตอบรับ แจบอมโน้มตัวไปมองซีกหน้าหวานเล็กน้อยก็พบว่าดวงตาคู่สวยมีน้ำใสๆไหลออกมามากกว่าเดิม
“ไปนะ..”
“……”
และมากกว่าเดิม..
ดูเหมือนว่ายิ่งเขาพูดยองแจก็พร้อมจะร้องไห้ออกมาได้มากเท่านั้น ตัดสินใจยืดตัวขึ้นพร้อมกับสาวเท้าออกมาช้าๆ ลมหายใจหนักถูกพ่นออกมา เดินออกมาได้สามสี่ก้าวก็หันกลับไปมองร่างเล็กอีกครั้ง..
และคราวนี้ยองแจกำลังมองเขาอยู่.. ดวงตาเรียวเว้าวอนพร้อมน้ำตา สายตาทั้งคู่สอดประสานกันชั่วครู่ก่อนที่ยองแจจะเป็นคนหันกลับหนีไปก่อน
แจบอมเอี้ยวตัวกลับเป็นรอบที่สอง และเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าคนขี้แง
“ถ้าสมมติว่าฉัน..เป็นแจบอมที่นายรู้จัก..”
เสียงทุ้มทำให้ใบหน้าหวานช้อนมองขึ้นมาช้าๆ
“นายจะทำอะไรกับฉัน..”
แจบอมจ้องคนตรงหน้านิ่งรอดูว่ายองแจจะทำยังไง แต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม..
ยองแจเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้..
โอเค.. เขาควรจะกลับบ้าน ไม่ควรจะมายืนห่วงไอ่เด็กนี่อยู่แบบนี้
พรึ่บ!!
แต่อยู่ๆอ้อมกอดเล็กกับร่างกายนุ่มนิ่มก็ถลามากอดเขาไว้ทั้งตัวก่อนที่เขาจะได้เดินหนีไปไหน เสียงสะอื้นดังอู้อี้ดังออกมาเบาๆ.. และเขาก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสเปียกชื้นบริเวณไหล่
แจบอมกอดตอบคนตัวเล็กไว้หลวมๆ ถ้านี่จะทำให้ยองแจสบายใจได้เขาก็จะยอมยืนให้กอดอยู่แบบนี้..
.
.
.
“เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ”
แจบอมยื่นเมนูคืนให้เด็กเสิร์ฟของร้านก่อนจะหันกลับมามองคนตรงหน้า ยองแจนั่งหันหน้าออกไปทางถนน
“ขี้แงแบบนี้บ่อยไหมนายเนี่ย..”
“อะไร..เปล่าซะหน่อย”
หันควับมาตอบพลางชักสีหน้าใส่อีกคนเบาๆ
ไม่เคยร้องไห้หนักขนาดนี้เลยต่างหาก เพราะใครละ.. จะโทษไอ่คนหน้าเหมือนชื่อเหมือนตรงหน้าก็ไม่ได้ หลังจากร้องไห้จนพอใจแล้ว ร้านข้าวต้มเล็กๆข้างทางถูกเลือกโดยอิมแจบอมให้เป็นที่สำหรับสงบสติอารมณ์ของยองแจ
“แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ละ”
มั่นใจว่าเขาถามคำนี้ไปไม่ต่ำกว่าสามครั้งแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมาซักครั้ง หวังว่าครั้งนี้จะยอมตอบละนะ..
“นายไม่เข้าใจหรอก”
“ก็ลองเล่าให้ฟังสิ”
“…..”
“ว่าไง..”
“ฉันแค่.. เผลอทำคนสำคัญหายไป..”
“….”
ความเงียบเข้าปกคลุม สีหน้ายองแจแสดงความเสียใจออกมาอย่างชัดเจน
“คนที่ชื่อเหมือนฉัน หน้าเหมือนฉันน่ะหรอ..”
“..อืม แปลกใช่ไหมล่ะ”
ยองแจหัวเราะแห้งๆกลบเกลือน เพราะไม่อยากจะอธิบายอะไรไปมากกว่านี้
“ก็..แปลกอยู่..”
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ถึงเขาจะไม่อยากเชื่อสักเท่าไร แต่การที่เห็นคนตัวเล็กร้องไห้เอาเป็นเอาตายก็ไม่อยากเถียง
ไม่นานข้าวต้มร้อนๆและเครื่องเคียงอีกสองสามอย่างก็ถูกนำมาวางเรียงอยู่บนโต้ะ แจบอมจัดการคีบอาหารตรงหน้าส่งไปในถ้วยข้าวต้มของยองแจ
“กินเสร็จแล้วเดี๋ยวฉันไปส่งที่บ้าน”
“มะ..ไม่เป็นไร.. วันนี้นายเสียเวลากับฉันมามากแล้ว”
“เสียอีกหน่อยจะเป็นไรไป”
สาบานสิว่าแจบอมอยากจะไปส่งเขาจริงๆไม่ได้พูดประชดน่ะ..
“ไม่เป็นไร”
“ช่างเถอะ กินก่อนเดี๋ยวจะหายร้อนหมด”
ได้ยินแบบนั้นยองแจเลยเลือกที่จะก้มหน้าก้มตากิน วันนี้ทั้งวันยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยซะด้วย เลยกินเอาๆไม่พูดอะไรซักคำ คนตัวโตมองดูแก้มใสๆนั้นขยับขึ้นลงตามแรงเคี้ยวพลางคีบอาหารเข้าปากตัวเองไปเรื่อยๆ บรรยากาศยามค่ำคืนสำหรับแจบอมทุกอย่างจะดูช้าไปหมด ยิ่งเห็นยองแจแบบนี้แล้ว.. เขารู้สึกอยากจะให้เวลามันเดินช้าลงไปอีก
“นายยังเรียนอยู่รึเปล่า”
เขาคิดว่าอยากจะชวนคุยให้ยองแจลืมเรื่องที่ผ่านมา อยากเห็นคนตัวเล็กยิ้ม คงน่ารักน่ามองไม่น้อย..
“อือ.. มัธยมปลายปีสุดท้ายแล้ว”
“อ๋ออ..งั้นก็ห่างจากฉันสองปีสินะ”
ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมองแจบอมด้วยท่าทางอึ้งๆ ที่ผ่านมาไม่เคยรู้เลยว่าเขากับแจบอมอายุมากหรือน้อยกว่าเขาไปกี่ปี
เอาจริงๆแแล้วเขาไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับแจบอมเลยด้วยซ้ำ..
“อ่าา..งั้นก็ต้องเรียกแจบอมฮยองสินะ”
“ไม่ต้องหรอก นายคงไม่ชิน”
ยองแจหลุบสายตาลงต่ำ รู้สึกผิดนิดๆที่ใช้คำที่ไม่เป็นทางการเรียกคนที่อายุมากกว่า มันติดนิสัยจากแจบอมคนก่อนมานี่น่า..
เสียงหัวเราะเบาๆทำให้ยองแจเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
“หัวเราะอะไร”
“นายทำท่าเขินๆ น่ารักดี”
!!!
อะไรยังไม่ได้เขินอะไรซักหน่อย แค่ก้มหน้ารู้สึกผิดนี่มันเหมือนเขินอย่างงั้นหรอ
“ทำหน้าเหวอๆแบบนี้ก็น่ารัก”
ได้ยินแบบนั้นจึงรีบปิดปากตัวเองเพราะมัวแต่อ้าปากค้างกับประโยคก่อนหน้า และนั่นยิ่งทำให้แจบอมหัวเราะออกมายกใหญ่
“ฉันอยากเห็นนายยิ้มนะ เลิกเศร้าได้แล้ว”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มทำเอายองแจนิ่งเงียบไปชั่วขณะ มันน่าตลกดีชะมัด การที่ใครบางคนทำเสียใจแทบตายกลับมาบอกว่าให้เลิกเศร้าได้แล้ว ใครจะทำได้กับ
แต่แจบอมคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับคนที่ทำเสียใจนี่นะ..
“นายเป็นใครถึงมาบอกให้ฉันทำนู้นทำนี่กัน”
แกล้งพูดประชดเล็กๆให้ร่างสูงเลิกสนใจอารมณ์ของตัวเอง ก่อนจะยกมือขึ้นมาเขี่ยในแข็งในแก้วเล่น เริ่มจะอิ่มซะแล้วสิ..
“ฉันก็คือคนที่ยอมให้เพื่อนนายวิ่งชนจนเกือบล้มแหนะ..”
“…..”
มือบางชะงัก หันไปสนใจเสียงของคนตรงหน้า
“แล้วก็เป็นคนเลี้ยงไอติม.. เลี้ยงข้าวด้วย..”
“…..”
“อีกอย่างเป็นคนที่ให้นายยืมกอดเมื่อกี้..”
“…..”
ยองแจก้มหน้าหนีอีกครั้ง.. รู้สึก.. แปลกๆยังไงก็ไม่รู้..
“และ..ฉันคืออิมแจบอม..”
“แค่นี่พอจะทำให้นายยอมเชื่อฉันได้บ้างรึยัง..”
———————————
ซ่าาา...
เสียงพายุฝนตกลงมากระทบพื้นดินดังไปทั่วบริเวณ ลมหนาวพัดโชยโหมซ้ำคนที่สัญจรไปมาบนท้องถนน เช่นเดียวกับอิมแจบอมและชเวยองแจ พอตอบปากรับคำให้แจบอมไปส่งฝนก็ตกลงมาอย่างบ้าคลั่งทั้งๆที่มาได้ถึงแค่ครึ่งทาง มันจะดีกว่านี้ถ้าเขาสองคนไม่ได้มาด้วยรถจักรยานยนต์
“ยองแจจ! เอาไงจะวกกลับคอนโดฉันก่อนไหม ฝนตกหนักมากเลย!!”
เสียงทุ้มตะโกนถามแข่งกับเสียงฝน เขาแค่กลัวว่าาคนตัวเล็กจะไม่สบายซะก่อนถ้ายังคิดจะฝ่าฝนกลับบ้านแบบนี้
“แต่นี้ก็มาได้ครึ่งทางแล้วนะ!”
คำตอบนั้นทำให้ร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถ้าไม่สบายขึ้นมาเขาคงผิดเต็มๆโทษฐานนึกสนุกอยากขี่มอเตอร์ไซด์เล่นชมวิว แต่ฟ้าฝนกลับไม่เป็นใจให้เลยซักนิด ให้ตายเถอะ..
พยายามหรี่ตามองทางข้างหน้า ม่านน้ำเป็นอุปสรรคใหญ่ในตอนนี้ ตาเขาเองก็ใช่ว่าจะโตมากมายอะไร รูรับแสงยิ่งน้อยๆอยู่ด้วย
และตู้โทรศัพท์ข้างทางก็ดึงความสนใจจากแจบอมได้เป็นอย่างดี คนตัวโตเลือกที่จะชลอรถก่อนจะหยุดจอดตรงหน้าตู้โทรศัพท์
“จอดทำไมอะ?”
“เข้ามาก่อนๆ”
ฉุดร่างเล็กให้เข้ามายืนใต้ร่มส่วนตัวเองยืนอยู่ข้างนอกเพราะตู้โทรศัพท์มันเล็กเกินที่จะอัดคนสองคนเข้าไป
“ทำอะไร!?”
คนตัวโตถอดเสื้อตัวนอกของตัวเองโดยที่เขายังมีเสื้อยืดสีเข้มบนตัวอีกชั้น ยองแจมองตามการกระทำนั้นก่อนเบิกตากว้างเมื่อแจบอมขยับตัวเข้ามาใกล้แล้วเอามาใส่ให้เขา..
“เดี๋ยวไม่สบาย”
สิ่งที่แจบอมทำเอายองแจพูดอะไรไม่ออก และไม่ทันได้คิดอะไรต่อแจบอมก็วิ่งไปเปิดใต้เบาะรถหยิบหมวกแก็บธรรมดาๆออกมาพลางวิ่งกลับมาหา
“อะใส่นี่ด้วย”
“ละ..แล้ว นาย..?”
ยองแจถอยตัวหนีทันทีที่มือหนาทำท่าจะใส่หมวกให้เขา
“เถอะน่า ฉันแข็งแรงไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก”
แจยอมยื่นหมวกให้ตรงหน้า ยองแจมองนิ่งสลับกับคนที่ยื่นตากฝนอยู่นอกตู้โทรศัพท์อยู่ซักพักก่อนจะยอมรับหมวกมาถือไว้
“แต่นายขับรถนะ..”
สิ้นเสียงหวาน ยองแจขยับเข้าไปหาคนตรงหน้าพร้อมๆกับสวมหมวกให้ช้าๆ
เพราะพื้นของตู้โทรศัพท์ยกระดับขึ้นทำให้เขาไม่ต้องเงยหน้าก็เห็นแววตาของแจบอมได้ชัดเจน.. สายตาคมจ้องนิ่งและพยายามมองลึกเข้าไป แน่นอนว่ายองแจเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีก่อน คนตัวเล็กไม่ได้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปช้าๆ อยากรีบกลับ เพราะรู้สึกหน้าร้อนกับคนตรงหน้าขึ้นมาดื้อๆ
เขิน..
“เอ่อ..รีบกลับกันเถอะ”
ส่งเสียงเตือนเบาๆให้แจบอม ร่างสูงเลยยอมถอยออกห่าง
“อ่า..นั้นสิ..”
มือหนายกขึ้นเกาท้ายทอยเล็กน้อยก่อนจะเดินไปที่รถ
.
.
ทั้งคู่ฝ่าฝนจนมาถึงที่หมาย ยองแจรีบวิ่งลงจากรถเพื่อไขประตูบ้านให้แจบอมได้เข้าไป คงต้องให้รอฝนหยุดที่บ้านก่อน ขืนให้กลับเลยคงจะเป็นการใจร้ายเกินไป
มือบางส่งผ้าเช็ดตัวให้แจบอมที่ยืนหลบฝนอยู่ใต้ชายคา
“เข้ามาข้างในก่อนสิ”
“แต่ว่า ตัวฉันเปียก..”
“ฉันก็เปียกเหมือนกันแหละน่า..”
ตัดสินใจลากคนตัวโตเข้ามาพลางบังคับให้ยืนรออยู่กลางห้องรับแขกในขณะที่เขาขึ้นไปหาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน แจบอมนิ่งนิ่งไม่กล้านั่งบนโซฟา ตอนนี้เขาสภาพยิ่งกว่าหมาตกน้ำซะอีก
“เหมี้ยว~”
ลูกแมวตัวน้อยกระโดดออกจากกระบะแสนรักของตัวเองทันทีเมื่อได้เห็นคนที่เจ้าตัวเล็กไม่ได้เจอมาเเกือบสามอาทิตย์ แต่มันคงไม่รู้ว่าแจบอมที่เห็นไม่ใช่แจบอมคนที่เคยเจอ..
ขนนุ่มนิ่มตรงเข้ามาออดอ้อนเข้ากับฝ่ามือหนาเมื่อคนตัวโตยอมย่อตัวลงมาเล่นด้วย
“น่ารักจัง~ ชื่ออะไรน่ะเรา หื้มม~”
“เมี้ยว~”
“อ๋ออ ฉันต้องไปถามยองแจใช่ไหมๆ ฮ่าๆ”
ยกเจ้าตัวนิ่มขึ้นมาอุ้มเล่น ปากเล็กซนไล่งับนิ้วเรียวสนุกปาก และนั้นก็ทำให้แจบอมแกล้งจิ้มไปตามตัวของโนรา ยองแจเดินลงจากห้องมาก็เห็นว่าคนตัวโตนั่งเล่นกับแมวของเขาอยู่
มันเหมือนเดจาวูที่ซ้อนทับเข้ามา..
ภาพของอิมแจบอมและโนราเล่นกันสนุกสนานพึ่งผ่านไปไม่กี่อาทิตย์ แต่แล้วมันก็หายไป และวันนี้มันกลับวนลูปฉายซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง
สายตาคมหันขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่ามีคนบางคนมองอยู่ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างพลางชูลูกแมวในมือ
“เจ้าตัวนี้มันชื่ออะไรอะ น่ารักดี”
“อ..อ่อ โนรา มันชื่อโนรา..”
“โนรา~ แกน่ารักดีนะ”
พอได้คำตอบอิมแจบอมก็กลับไปสนใจลูกแมวอีกครั้ง
เหมือนเดิมไม่มีผิด..
ร่างเล็กสาวเท้าลงจากบันใด วางเสื้อผ้าที่เคยเป็นของแจบอม.. เอาไว้ให้บนโซฟา
“รอจนฝนหยุดตกค่อยออกไปนะ แล้วก็นี่เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ จะได้ไม่เป็นหวัด”
แจบอมหันไปมองชุดที่ดูเหมือนจะได้ขนาดตัวเขาพอดีก่อนจะหันไปหายองแจอีกครั้ง
“นายไปเอาเสื้อผ้าไซส์นี้มาจากไหน นายก็ไม่น่าใส่ดะ..”
ประโยคต่อไปหายเข้าไปในลำคอเพราะพึ่งนึกขึ้นได้ว่ายองแจไม่ได้อยู่คนเดียว ตามที่ร่างเล็กเล่า คนที่ชื่ออิมแจบอมหายไป..
จะว่าไปเรื่องนี้ก็แปลกอยู่พอตัว โลกนี้จะมีคนที่ชื่ออิมแจบอมและหน้าเหมือนกันอยู่กี่คน.. หรือยองแจจะเพ้อไปเอง.. ไม่น่าสิ.. ไม่งั้นคงไม่ร้องไห้ฟูมฟายอย่างที่เห็นหรอก ความคิดวุ่นวายตีกันอยู่ในหัว แจบอมเลือกที่จะสบัดหัวเบาๆสองสามที ทิ้งเรื่องที่เขาไม่เข้าใจไปพร้อมกับหยิบเสื้อผ้าเข้ามาถือไว้ในมือ
“ห้องน้ำอยู่ใต้บันใดนะ”
ใบหน้าคมพยักหน้าและเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ยองแจพาตัวเองไปนั่งบนพื้นบ้านริมสวนที่ยื่นออกไปเล็กน้อยเพื่อให้ใช้เป็นที่นั่งสูดอากาศด้านนอกได้ ด้านข้างเป็นสวนเล็กๆซึ่งปกติมันเป้นที่วิ่งเล่นของโนรา ลานกว้างสีเขียวตอนนี้เจิงนองไปด้วยน้ำฝน ชายคาที่เลยออกมาบังถึงแค่พื้นที่ยื่นออกทำให้ฝนเม็ดเล็กกระเด็นเข้ามา แต่ยองแจก็ไม่ได้สนใจที่จะขยับตัวหนี
อากาศเย็นๆโชยปะทะเข้ากับใบหน้าหวาน ยกเข่าขึ้นชันพลางกอดตัวเองไว้..
ช่วงชีวิตที่ผ่านมามันทำให้เขารู้สึกเหนื่อย.. ทั้งๆที่เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็ยิ่งใหญ่สำหรับยองแจ ดวงตาเรียวหันไปมองประตูห้องน้ำเล็กน้อย จ้องมองด้วยความไม่เข้าใจ คนในนั้น.. ไม่ใช่แจบอมที่เขาเคยเจอ เพราะแจบอมคนนี้ มีบ้าน มีรถ มีหน้าที่การงาน มีชีวิตเป็นของตัวเอง..
แล้ว.. แจบอมเมื่อสามอาทิตย์ก่อน.. ฟ้ากำลังเล่นตลกอะไรอยู่หรอ..
แล้วคนนี้.. จะไปอีกไหม..
แกร่ก..
ประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับร่างสูงในชุดใหม่ แจบอมเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเพราะเห็นยองแจมองอยู่ คนตัวเล็กหลุบตาลงต่ำก่อนจะหันออกไปมองสายฝนข้างนอกเหมือนเดิม
ทำไมเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วจัง..
แจบอมสาวเท้าเนื่อยๆเข้ามาทรุดตัวลงข้างๆ มือหนาออกแรงเช็ดผมเบาๆก่อนจะเอื้อมไปเช็ดให้อีกคนที่ผมยังเปียกอยู่เล็กน้อย และแน่นอนว่าการกระทำนี้ทำเอายองแจสะดุ้งจนแจบอมหัวเราะ
“ฮ่าๆ ทำไมมานั่งตรงนี้ละ อากาศมันเย็นนะ”
ร่างเล็กขยับถอยออกเล็กน้อยและแก้มเนียนก็แดงเรื่อขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
“ก..ก็เพราะมันเย็นนั้นแหละ เลยมานั่ง”
“อ๋ออ..”
“ฝนตกหนักมากเลยนายจะทำยังไง”
“อืมม..นั้นสินะ ทำไงดี..”
แจบอมทำท่าครุ่นคิดก่อนจะว่างผ้าขนหนูในมือลง เห็นแบบนี้คนตัวเล็กเลยคิดหนัก วันนี้เขาทำแจบอมเสียเวลามามากแล้ว พอจะแยกกันฝนก็ดันมาตกเข้าให้ซะอีก
“ขอโทษนะ ฉันนี่ตัวซวยแท้ๆ ทั้งวันนายไม่ได้ไปไหนเลย”
“ขอโทษทำไม นายไม่ได้ทำให้มันเป็นแบบนี้ซะหน่อย”
“แต่ถ้านายไม่มาส่ง นายก็คงไม่ติดฝนอยู่แบบนี้”
พูดเสียงแผ่วเพราะรู้สึกผิด จริงๆแจบอมไม่น่าจะต้องมายุ่งกับเด็กแบบเขาเลย เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่ที่คนข้างตัวต้องรับผิดชอบซักนิด
“ไม่นะ ฉันว่า..”
“..?”
ร่างเล็กช้อนมองเจ้าของเสียงทุ้ม รอยยิ้มจางๆปรากฏอยู่บนใบหน้าคมก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ยองแจเขินมากกว่าเดิม..
“ฟ้าคงไม่อยากให้เราแยกกันมากกว่า...”
“…..”
“ว่างั้นไหม..”
ยองแจเงียบ.. มองหน้าแจบอมอึ้งๆ ไม่คิดว่าจะพูดแบบนี้ออกมา
ตอนนี้หน้าต้องแดงไปถึงหูแล้วแน่ๆ..
“ฮ่าๆ ฉันก็พูดเสี่ยวๆไปงั้นแหละ นายเรียนอย่างเดียวหรอ ทำงานพิเศษอะไรบ้างไหม”
เลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยไม่งั้นยองแจคงนิ่งกลายเป็นหินไม่เลิกแน่
“ก็..มีบ้าง กำลังเขียนบทความส่งสำนักพิมพ์น่ะ”
“หือ..นักเขียน อยากเป็นหรอ”
“อื้ม ความจริงก็ได้เป็นแล้วนะ มีงานเขียนบางงานที่ผ่านแล้วได้ตีพิมพ์ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยดีเท่าไร”
บทสนทนาเรื่องความถนัดของเขาทำให้ยองแจลืมเรื่องเมื่อกี้ไปชั่วขณะ
“ทำไมละ?”
“เหมือนสมองไม่ค่อยแล่นน่ะ คิดงานช้าเลยห่างหายไปพักหนึ่ง”
“หรอ..งั้น..อยากหางานอื่นทำคั่นเวลาไหม เผื่อว่าไปทำอย่างอื่นแล้วจะคิดอะไรออก”
“หือ..ทำอะไร?”
“ฉันหุ้นร้านดอกไม้กับเพื่อนอยู่ ขาดคนเฝ้าร้าน นายสนใจไหม จะเอางานไปทำด้วยก็ได้”
“ร้านดอกไม้?”
แน่นอนว่ามันดูไม่ค่อยเหมาะกับรูปลักษณ์ของอิมแจบอมเท่าไร
“ทำไม แปลกหรอ ฮ่าาๆ ฉันไม่เหมาะสินะ”
“อาา..ก็ ประมานนั้น แหะๆ”
“เอาน่าแล้วนายจะอึ้งถ้าเห็นฉันอยู่ในร้าน ตกลงว่านายสนใจรึเปล่า”
“ก็..ได้.. แต่ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวสอนได้ สรุปว่านายโอเคแล้วนะฉันจะได้บอกเพื่อน”
แจบอมยิ้มกว้างพลางมัดมือชกให้คนตัวเล็กไปเป็นพนักงานประจำร้านดอกไม้ของเขาเอาดื้อๆ
“อ๋าๆๆ เดี๋ยวสิ ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นซะหน่อย”
“เถอะน่า.. นายน่ารัก เหมาะกับดอกไม้ออก..”
ไม่พูดเปล่า แจบอมจงใจมองหน้าตาหวานๆของคนตรงหน้าจนยองแจรู้สึกประม่าและก็ตามเคยที่ดวงตาเรียวจะเบือนหนีไปทางอื่น
คิดว่ามันเป็นประโยคธรรมดาๆที่คนฟังจะไม่คิดอะไรรึไงนะ..
“ขอคิดดูก่อนได้ไหม”
“งั้น.. นายลองไปนั่งเล่นดูก่อนก็ได้ จะได้ตัดสินใจถูก”
“ได้หรอ”
“ได้สิ พรุ่งนี้เลยก็ได้”
“อื้มม ขอบคุณนะ”
แจบอมยิ้มให้แทนคำตอบพลางเหลือบไปเห็นมือบางขึ้นลูบแขนตัวเองเบาๆ
“หนาวหรอ ง่วงรึยังเข้าไปนอนไหม”
“แล้ว..นายละ?”
“ฉันนอนที่นี่ได้ไหมละ? โซฟาก็ได้”
.
.
.
“นายนอนได้แน่นะ”
ยองแจขนผ้าห่มกับหมอนลงมาให้แจบอมที่ห้องรับแขก ร่างสูงพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มกว้าง
“สบายมาก นายขึ้นไปนอนเถอะ ดึกแล้ว”
“อื้มม มีอะไรก็เรียกได้เลยนะ”
“ได้เลยหรอ?”
รอยยิ้มแปลกๆผุดออกมาจากคนตรงหน้า มันดูเจ้าเล่ห์ๆยังไงก็ไม่รู้.. แต่ยองแจก็เลือกที่จะไม่สนใจ
“อ..อื้มม ได้ตลอด”
“โอเค”
แจบอมล้มตัวลงนอนพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมทั้งตัวจนมิด ริมฝีปากบางยิ้มออกมาเล็กๆเพราะคนตัวโต ยองแจจัดการปิดไฟจนหมดเหลือไว้เพียงดวงเดียวข้างห้องน้ำเผื่อว่าแจบอมอาจจะลุกขึ้นมากลางดึก
ได้เวลานอนแล้วยองแจ.. วันนี้เหนื่อยมามากพอแล้ว..
คิดได้แบบนั้นก็พาร่างตัวเองเดินขึ้นไปที่ห้อง
“ยองแจ..”
แต่พอก้าวขึ้นบันไดได้แค่สองขั้นเสียงเรียกทุ้มต่ำก็ทำให้เขาต้องหันกลับไปหาแจบอมอีกครั้ง
“มีอะไรหรอ?”
“มานี่หน่อยสิ..”
มือหนากวักมือเรียกยิกๆเขาเลยจำใจต้องเดินเข้าไปหาอย่างช่วยไม่ได้
ร่างสูงลุกขึ้นยืนพลางทำท่าเหมือนหาอะไรบางอย่าง นั้นทำให้ยองแจพยายามมองดูตามว่ากำลังหาอะไร
“หาอะไร ทำอะไรหายรึปะ..อื้ออ!”
และจังหวะที่ยองแจเงยหน้าขึ้นมาถามคนตรงหน้า อยู่ๆเขาก็โดนปิดปากด้วยสัมผัสร้อนๆจากปากหยักเข้าทันที แจบอมกดริมฝีปากเข้าไปแนบกับความหวานตรงหน้าเบาๆก่อนจะผละออก รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับถ้อยคำหวานๆก่อนนอน
“ไนท์คิสครับ..”
“ทะ..ทำอะไรของนายน่ะ!”
คนตัวเล็กหน้าแดงลามไปถึงหูพลางยกมือขึ้นแตะทับกับรอบจูบเมื้อกี้เบาๆ
“ขอโทษ เพราะว่า..ไม่รู้จะเริ่มยังไง..”
“เริ่มอะไร..”
“ฉันจีบนายได้ไหม..”
“…”
“อยู่ๆฉันก็ชอบนายแหะ..ไม่รู้ทำไม..”
———————————
จบ 55555555 มีเรื่องไหนที่นางได้เป็นแฟนกันบ้างเนี่ย ไม่มี 5555
จบกากมาก และแฟนซีแบบแปลกๆไม่มีที่มาที่ไป ขอโทษนะคะ 55555555
#ficJB
ขอบคุณทุกคนทุกคอมเม้นที่ติดตามมาตลอดค่า พูดเหมือนเขียนฟิคยาวจบเลย55
ติดตามเรื่องอื่นๆต่อไปด้วยน้าาา (จะมีไหม555)
ปล.ใครอยากอ่านไหนแนวกระซิบพล็อตมาได้นะ หรือจะทักมาทางทวิตก็ได้ @gotyj 555
ความคิดเห็น