ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พลังจิตมีจริงหรือ

    ลำดับตอนที่ #2 : วิชาเกี่ยวกับความฝัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 526
      0
      29 เม.ย. 53

    จากคราวที่แล้ว เราเรียนรู้ความหมายของจิตใต้สำนึก เราเริ่มสังเกตว่ามันอาจมีสิ่งต่างๆทำงานอยู่ในระบบของมันโดยที่เราไม่เคย รู้เลยว่ามันทำอะไร เพื่ออะไร ในจิตใต้สำนึกนั้น และเราเริ่มหัดที่จะเข้าสู่จิตใต้สำนึกแบบง่ายๆแล้ว(หวังว่าทำได้แล้วใช่ ใหม?....เยี่ยมมากครับ) งั้น คราวนี้ เราจะไปกันต่อในส่วนของจิตใต้สำนึก ที่สำคัญและยากขึ้นอีกหน่อย.. ความฝัน

    น่าสงสัยมาก ว่า ทำไมมนุษย์ถึงเกิดมาพร้อมกับความสามารถที่จะเพลิดเพลินกับความฝันที่ไม่มี อยู่จริง จริงหรือ!ที่ฟังก์ชันนี้เป็นไปเพื่อสร้างความสำราญเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีสาระอะไรเลย?
    ข่าวดี! มันไม่ไร้สาระ เรื่องนี้เป็นอย่างที่คุณหวังไว้.. ความฝันเป็นกระบวนการทำงานที่สำคัญมากของวิญญานมนุษย์

    ก่อนอื่นที่จะ เข้าใจความฝัน เราต้องเข้าใจลักษณะที่สำคัญประการหนึ่งของมนุษย์ คือ ความสามารถในการปรุงแต่งความต้องการใหม่ๆได้ ซึ่งสัตว์ทุกชนิดทำได้เพียงต้องการและแสวงหาตามสัญชาติญาน ไม่มีการเป็นอย่างอื่นอีก วัวเกิดมาก็กินนม..แล้วก็หญ้า ไม่มีวัวตัวไหนสนใจอยากกินซึชิ หรือไก่งวงอบ แค่หญ้า.. แต่มนุษย์เท่านั้นนับวันจะคิดค้นของกินเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ และต้องการในสิ่งต่างๆใหม่ๆเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีสิ้นสุด

    แต่แย่จัง! ความต้องการของมนุษย์สุดจะประมาณได้ แต่ความสามารถในการทำความต้องการให้เกิดขึ้นจริงกลับไม่ได้ใกล้
    เคียงเลย! สิ่งที่หวังไว้เอาแต่ละคนเข้าจริงทำได้แค่จิ๊ดเดียวนอกนั้น เวลาผ่านๆไปความต้อ
    การมันก็หายไปเอง

    มันหายไปยังไง....นั่นแหละ ประเด็น! หายด้วยฝันนั่นแหละ!

    เวลาที่ความต้องการเกิดขึ้น ความต้องการก็คือพลังงานในมิติทิพย์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเวลาที่พลังงานเกิดขึ้นแล้ว มันไม่มีทางหายไปเฉยๆครับ(ดูเหมือนนักวิทยาศาสตร์พูดถูกบางอย่างนะ) แต่มันจะต้องถูกใช้แปรสภาพไปเป็นพลังงานอย่างอื่น เป็นการกระทำ เป็นความคิด เป็นการพูด พอใช้หมด พลังงานความต้องการก็จะหมดไป(เพราะกลายเป็นพลังงานอย่างอื่นต่อ..ไม่หายไปนะ )
    แต่โอ้อนิจจา บางทีคนเราเลือกที่จะไม่ทำตามความต้องการของตนเพราะเหตุผลมากมาย บาป กลัวล้มเหลว ขี้เกียจฯลฯ ทีนี้แหละครับ พลังงานความต้องการที่เราไม่ยอมเอาไปใช้เปลี่ยนเป็นพลังงานอย่างอื่น ก็ไม่สามารถไปไหนได้ แต่จะเก็บกดอยู่ข้างใน(ส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว)

    แต่ อะฮ้า ทีวีไดเร็คขอเสนอ! โปรแกรมใหม่ล่าสุดที่ให้มาพร้อมวิญญานมนุษย์เวอร์ชั่นปัจจุบันทุกคน....ฝัน ครับ!


    โดยพอเราล้มตัวลงนอน จิตใต้สำนึกเป็นอิสระจากส่งรบกวนในชีวิตประจำวัน มันจะทำการเผาผลาญพลังงานความต้องการที่มากเกินไป โดยการเอาพลังงานนั้นมาสร้างทำเป็นหนังครับ แล้วเรื่องที่ออกมา ก็เกี่ยวกับความต้องการที่ค้างอยู่นั่นแหละ ยิ่งหนังความฝันซับซ้อน ยาวและเหมือนจริงเท่าไหร่ ต้องใช้พลังงานสูงและหมายถึงกำจัดพลังงานส่วนเกินได้มากด้วย แต่ถ้าพลังงานความต้องการมากเกิน(หรือเราไปเพิ่มเข้าเรื่อยๆในเรื่องเดิมๆ) อาจต้องฉายหลายรอบครับ ถึงจะหมด

    นั่นแหละครับ การทำงานของความฝัน ...เพื่อเปลี่ยนแปลงถ่ายเทพลังงานตกค้าง

    แต่เดี๋ยวก่อน! นอกจากพลังงานความต้องการแล้ว บางทีโปรแกรมฝันยังเปลี่ยนสัญญานจากเบื้องบน หรือสัญญานจากจิตใต้สำนึกที่จะแนะนำเราในการใช้ชีวิต ให้กลายสัญญานรูปรสกลิ่นเสียง..เป็นฝัน ซึ่งดีมากเพราะเราจะได้ดูรู้เรื่อง(หรือเกือบรู้เรื่อง) เยี่ยมไหมล่ะครับความฝันเนี่ย แต่ขอย้ำนะครับ ว่าไม่ใช่ฝันทุกฝัน ที่เป็นคำแนะนำ ฟังก์ชั่นทั่วไปของฝันคือการเผาผลาญพลังงานตกค้างอยู่ดีครับ

    และ ไม่ว่ากรณีไหน หากเรารู้สึกและจดจำความฝันได้ ยิ่งมีประสิทธิภาพครับ ถ้าสมมุติฝันเผาผลาญพลังงาน มันจะเผาได้สนิทขึ้น ถ้าฝันบอกใบ้ยิ่งจำเป็น(ไม่งั้นบอกอะไรมา ลืมหมดก็จบกัน)

    ดังนั้น สรุป จริงๆแล้ววิชาdream recall มีประโยชน์กว่าวิชา dream control อีกครับ เอ้า หาสมุดวางไว้หัวนอนได้!

    สรุป
    1.ฝันเป็นโปรแกรมที่มหัศจรรย์ มากๆ
    2.ความต้องการที่ไม่ได้เอาใช้ทำจริง ไม่หายไปเองเลย แต่จะตกค้างอยู่จนกว่าจะใช้ไป
    3.การทำงานของฝัน คือการเปลี่ยนแปลงและถ่ายเทพลังงาน
    3. บางครั้งฝันคือการถ่ายทอดสัญญานแนะนำการใช้ชีวิต
    4.เราสามารถช่วยให้ฝัน ทำงานดีขึ้นได้มากจากการฝึกจำความฝัน(dream recall)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×